...+

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

หมายเหตุ...ก่อนการเลือกตั้ง 2554 โดย สำราญ รอดเพชร

เขาจะเลือกตั้งกันแล้ว ทำไมพรรคการเมืองใหม่ยังเงียบเป็นเป่าสาก ตกลงเอายังไง

- ก็ไม่ได้เงียบซะทีเดียวนะ ทางเวทีชุมนุมก็พูดถึงออกบ่อย พรรค, คนของพรรคก็แถลงข่าวให้ความเห็นผ่านสื่ออยู่บ้าง แต่ยอมรับว่าพรรคยังไม่มีคำตอบสุดท้ายเรื่องการเลือกตั้ง เรื่องการส่งผู้สมัคร ทีนี้ถามว่าจะเอายังไง ก็ต้องบอกว่าคำตอบสุดท้ายอยู่ที่วันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย. นี้ ที่สมาคมจีนโผวเล้ง สาธุประดิษฐ์ ซึ่งจะเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีตามกฎหมายพรรคการเมือง หลังวาระปกติตามกฎหมายแล้วก็จะให้สมาชิกพรรคที่เข้าประชุมลงมติว่าพรรคควรจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วไปหนนี้หรือไม่

ที่ผ่านมาพรรคไม่เคยมีมติเรื่องส่งผู้สมัครเลยหรือ

- ยังไม่มี วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เคยมีการรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนสาขาพรรค ศูนย์ประสานงานพรรค 20 กว่าแห่งจากทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เห็นว่าควรจะส่งผู้สมัคร ต่อมาวันที่ 5 เม.ย.ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรคก็เปิดโอกาสให้คณะกรรมการบริหารพรรคแสดงความเห็นว่าใครคิดยังไง เป็นการเปิดความรู้สึกนึกคิดส่วนตัวไม่ใช่การลงมติ ซึ่งก็มีความเห็นเป็นสองทางสามทาง

บางท่านบอกว่าควรเดินหน้าส่งผู้สมัครแม้จะสวนทางกับมติหรือความเห็นของเวทีการชุมนุม บางท่านบอกว่าควรเว้นวรรคหรืองดส่งควรเดินแนวทางเดียวกับเวทีชุมนุมเพื่อรักษาขบวนใหญ่เอาไว้ บางท่านก็บอกว่าอะไรก็ได้แต่ต้องรักษามวลชนทุกส่วนเอาไว้ แต่จุดร่วมของแทบทุกคนก็คือเห็นว่าในฐานะที่เราเป็นพรรคแนวทางมวลชน เป็นแมส ปาร์ตี้ สมาชิกพรรคเป็นเจ้าของพรรคจริงๆ ก็ควรให้สมาชิกพรรคตัดสินใจในวันประชุมใหญ่ เพราะสมาชิกพรรคมีความเห็นต่างกันมากและจำนวนไม่น้อยที่เร่าร้อนอยากแสดงความเห็นหรือมีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งนี้

แล้วส่วนตัวคุณในฐานะรองหัวหน้าพรรค/โฆษกพรรค วันนั้นมีความเห็นอย่างไร

- ผมก็บอกกับที่ประชุมว่า แม้โดยส่วนลึกส่วนตัวอยากลงเลือกตั้ง อยากทำงานการเมือง แต่ถ้าลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วต้องทำให้พี่น้องประชาชนของเราในนามพันธมิตรฯ ต้องแตกแยกฟาดฟันต่อสู้กันผมไม่สบายใจ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เว้นวรรค เราต้องเอามวลชนเป็นตัวตั้งก่อน คือ ไม่ว่าเราจะส่งหรือไม่ส่งมันเจ็บปวดทั้งนั้น ผมก็พูดทำนองนั้น แต่ก็บอกว่าต้องให้สมาชิกพรรคตัดสินวันที่ 24 เม.ย.

คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค คุณสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคว่าไง

- คุณสมศักดิ์เป็นประธานที่ประชุมก็ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร คุณสุริยะใสก็แสดงความเห็นในทิศทางเดียวกับผม ก็บอกว่าไม่ว่าไปทางไหนเจ็บปวดทั้งนั้น แต่ทำยังไงไม่ให้พี่น้องแตกแยก และพรรคก็ต้องไม่บอบช้ำจนเกินไป ต้องรักษาขบวนใหญ่เอาไว้ด้วย เพราะไม่ว่าวันนี้จะเป็นยังไงก็ตาม แต่ประวัติศาสตร์ที่มาของพรรคก็คือพี่น้องพันธมิตรฯ วันนี้พี่น้องของเราจำนวนไม่น้อยก็เสียสละนั่งอยู่หน้าเวที

พอจะคาดหมายได้ไหมว่า วันที่ 24 เม.ย.สมาชิกพรรคจะโหวตไปทางไหน ส่ง-ไม่ส่ง

- ผมก็มีความคาดหมายของผมได้ แต่ไม่อยากจะพูดชี้นำอะไรไป ผมยังเชื่อว่าแม้สมาชิกพรรคจะมีความหลากหลาย มีความเห็นต่าง แต่สุดท้ายทุกคนก็มีวุฒิภาวะ ยึดเอาผลประโยชน์บ้านเมือง ผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

เคยมีคำกล่าวว่า “ไม่มีคำว่า ประนีประนอมในเรื่องของ..สงคราม ความรัก และการเมือง” วันนี้คุณสำราญน่าจะตาสว่าง...

- คำกล่าวที่ว่าจริงบ้างในบางครั้งเท่านั้นนะ ไม่ใช่สัจธรรมอะไรที่ไหน ยังไงๆ พี่น้องพันธมิตรฯ ก็น่ารักน่าเคารพ ยิ่งพันธมิตรฯ ที่เป็นสมาชิกพรรคถึงที่สุดก็ใจกว้างรับฟังความเห็นต่างกันได้

ถ้าวันนี้ไม่มีคำว่า “โหวต โน” น่าจะทำให้พรรคการเมืองใหม่ราบรื่นกว่านี้ไหม

- ก็ยอมรับว่าน่าจะราบรื่นกว่านี้นะ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรการเลือกตั้งภายใต้กติกา สภาพการณ์การเมืองในวันนี้พรรคเล็กๆ อย่างการเมืองใหม่ หรือพรรคอื่นๆ ที่เดินแนวทางมวลชน อย่างเช่นพรรคธรรมาภิบาลสังคม พรรคเพื่อฟ้าดิน ก็เหนื่อยรากเลือดทั้งนั้น

ทางพรรคคุยกันเรื่อง “โหวต โน” บ้างไหม

- ก็คุยกันบ้าง ความเห็นก็ยังต่างกัน มันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่นำไปสู่การตัดสินใจในวันที่ 24 เม.ย.

ในฐานะนักวิเคราะห์ข่าวเก่า คุณสำราญเชื่อว่าจะมีการยุบสภา มีการเลือกตั้งหรือเปล่า...ฟันธง..

- ก็ต้องฟันธงว่ามีเลือกตั้งนะ ถ้านายกฯ อภิสิทธิ์ไม่ยุบสภา หรือพยายามยืดเวลาเลือกตั้งก็มีแต่เสียคนเสียรังวัด ตอนนี้ก็เสียรังวัดไปหลายเรื่องแล้วคงไม่อยากเสียอีก แต่ลึกๆ คุณอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ยังเชื่อว่าหลังเลือกตั้งพวกเขาจะกลับมาเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลอีก แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นยังงั้นซะทีเดียว

มีการวิจารณ์กันมากการ “โหวต โน” จะเป็นแนวร่วมมุมกลับให้ระบอบทักษิณ เข้าทางพรรคเพื่อไทย คุณคิดยังไง

- คำว่าแนวร่วมมุมกลับใช้กันตอนโน้นนะ ตอนนโยบายต่อสู้เอาชนะคอมมิวนิสต์ตามคำสั่ง 66/2523 สมัยรัฐบาลป๋าเปรม หมายถึงข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร หรือนโยบายใดๆที่ไปผลักไสไล่ส่งให้ประชาชนต้องไปเลือกข้างหรืออยู่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ก็จะเรียกข้าราชการหรือนโยบายนั้นว่าเป็นแนวร่วมมุมกลับ (ของฝ่ายตรงข้าม)

ทีนี้ “โหวต โน” ที่เวทีการชุมนุมชูเป็นธงการต่อสู้นี่ก็เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง หรืออย่างน้อยก็เป็นการสำแดงพลังต่อต้านการเมืองแบบเก่า ไม่เอาการเมืองเก่า ถ้ามีพลังมากพอก็จะมีนัยสำคัญ ไม่มีใครที่จะคิดโหวต โนเพื่อให้เข้าทางแม้วเข้าทางทักษิณหรอก แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้มีขบวนการที่พยายามดิสเครดิตแกนนำพันธมิตรฯ ดิสเครดิตคำว่า โหวต โน เพราะคะแนนโหวต โนอาจทำให้พรรคของตัวเองได้รับผลกระทบ ทั้งๆ ที่คะแนนโหวต โน ถ้ามันจะกระทบมันก็กระทบกับทุกพรรคแหละไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมืองใหม่ ถ้าส่งผู้สมัครก็รับผลกระทบไปเต็มๆ มากกว่าทุกพรรคใช่ไหมครับ แต่บางพรรคอาจรู้สึกเดือดร้อนมาก โดยที่ลืมมองไปว่าตอนที่ตัวเองอยู่ในอำนาจ 2 ปีกว่าไม่เห็นทำอะไรกับระบอบทักษิณเลย ถอดยศทักษิณยังไม่ได้ บางคนถึงขนาดเห็นว่าพรรครัฐบาลปัจจุบันเลี้ยงไข้ระบอบทักษิณเอาไว้เพื่อเอามาหาเสียงให้ตัวเองชนะเลือกตั้งอีกรึเปล่า เพราะสุดท้ายก็จะบอกว่า “ไม่เลือกเราเขามาแน่”

คิดว่าพรรคไหนจะชนะเลือกตั้ง และใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป

- เรียนตรงๆ ไม่ค่อยมีอารมณ์วิเคราะห์เรื่องชาวบ้านเท่าไหร่นะ แต่เอาล่ะถามว่าพรรคไหนจะชนะก็พูดสั้นๆ ว่า ต้องบอกว่ารอให้หน้าไพ่มันนิ่งอีกหน่อย ต้องรอดูว่าพรรคเพื่อไทยจะแตกออกมากี่เสียงเดินตามหลังท่านพลเอกชวลิตมากี่ชีวิต คือ อันตรายของพรรคเพื่อไทยก็คือการถูกทำให้แตกจากภายใน ถ้าไม่แตกมากก็มีโอกาสที่จะชนะเลือกตั้งได้ ตอนนี้ต้องบอกว่าสูสีกับประชาธิปัตย์ พูดกว้างๆ ได้เท่านี้

แล้วนายกฯ คนใหม่ล่ะ

- ก็เช่นเดียวกันยังไม่เห็นหน้าไพ่ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยยังไม่รู้ใครเป็นหัว นาทีนี้ถ้าเขียนชื่อนายกฯ คนใหม่ต้องเขียนแปะไว้สัก 10 ชื่อมั้ง อภิสิทธิ์, ปุระชัย, มิ่งขวัญ, พล.ต.อ.เพรียวพันธ์, พล.อ.มงคล, ดร.อาทิตย์, คุณกรณ์, คุณยิ่งลักษณ์..โอ๊ย พอแล้ว อันนี้ต้องมีข้อแม้ว่าทุกท่านต้องผ่านเลือกตั้งนะ เพราะผมยังเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้ง และอาจจะเป็นการเลือกตั้งที่ซื้อขายกันสนั่นบ้านสนั่นเมืองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกมากๆ ก็อาจกลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนอกระบบได้เหมือนกัน อย่าทำเป็นเล่นไป

samr_rod@hotmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น