วันนี้ (11 มี.ค.) ที่สะพานมัฆวานฯ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่จะมีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณารับรองร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งคาดว่าจะกำหนดกันในวันที่ 22 มี.ค.นี้ว่า ครั้งนี้จะเป็นการเห็นชอบผลบันทึกการประชุมเจบีซีโดยรัฐสภาเป็นครั้งแรก ทั้งที่ในบันทึกการประชุมทั้ง 3 ฉบับมีเหตุที่เป็นอันตรายต่อประเทศ 3 ประการ คือ 1.คำปราศรัยของนายวาร์ คิมฮง ประธานเจบีซีฝ่ายกัมพูชา ที่กล่าวหาว่าไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา ตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ทั้งที่ปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ซึ่งล้วนแต่เป็นแผ่นดินไทยทั้งสิ้น แต่ไม่มีคำปราศรัยโต้แย้งจากฝ่ายไทย
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า ประการที่ 2 ข้อตกลงชั่วคราวให้ถอนกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ออกจากพื้นที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ทั้งที่เป็นแผ่นดินไทย ซึ่งล่อแหลมว่าหากไม่มีกำลังทหารประจำการอยู่ กัมพูชาสามารถนำปราสาทพระวิหารเข้ากระบวนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ต่อไป และ 3.ได้เปิดช่องให้มีการจัดทำหลักเขตแดนใหม่บริเวณปราสาทพระวิหาร ตามเอ็มโอยู 43 และทีโออาร์ 46 จากพื้นที่เดิมซึ่งมีการปักปันกันเรียบร้อยแล้วเมื่อ 100 กว่าปีก่อน โดยยึดขอบหน้าผาเป็นสันปันน้ำ ถือเป็นอันตรายอย่างมาก หากผ่านบันทึกในลักษณะนี้จะเป็นการยอมรับการสูญเสียดินแดนโดยมติรัฐสภาเป็นครั้งแรก หากเป็นเช่นนี้พันธมิตรฯ จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินการต่อสมาชิกรัฐสภาทันที ฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต จึงขอเตือนไปยังสมาชิกรัฐสภาว่า หากลงมติรับรองบันทึกการประชุมทั้ง 3 ฉบับจะเป็นอันตรายต่อแผ่นดินอย่างยิ่ง แม้จะมีการบิดเบือนโดยการตั้งข้อสังเกตในหลายจุดก็ตาม เพราะไม่มีผลกระทบต่อมติรัฐสภาซึ่งรับรองไปแล้ว
“หากสมาชิกรัฐสภาไทยท่านใดให้การรับรองบันทึกเจบีซี 3 ฉบับ จะต้องถูกดำเนินคดีทางอาญามีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต และถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่ามีส่วนทำใหประเทศสูญเสียดินแดนอย่างไม่มีกำหนด” นายปานเทพกล่าว
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พันธมิตรฯ เคยไปชุมนุมและเตือนแล้วว่าจะส่งผลเสียหายต่อประเทศ ยังมีความพยายามทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนอีก ดังนั้น ใครที่ร่วมลงนามถือเป็นคนขายชาติ และเราจะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป อย่างไรก็ตามตนขอเตือนไปก่อนว่าหากมีการรับรองเมื่อไร จะเจอการดำเนินการทางคดีอาญาอย่างหนัก
เมื่อถามว่า จะมีการเคลื่อนมวลชนไปกดดันที่รัฐสภาหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวตอบว่า ยังไม่มีการประชุมหารือกัน แต่เรื่องการดำเนินการฟ้องนั้นทำแน่นอน โดยอาจจะมีการทำหนังสือเพื่อเตือน ส.ส.และ ส.ว.ก่อนหน้าที่จะมีการพิจารณาในรัฐสภา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น