...+

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“Muse Mobile” พิพิธภัณฑ์ติดล้อ เดินทางบอกเล่าเรียงความประเทศไทย

ในอดีตการเรียนรู้เรื่อง ประวัติศาสตร์ อาจฟังดูแล้วเป็นชั่วโมงที่น่าเบื่อสำหรับหลายๆ คนโดยเฉพาะเด็กๆ วัยซุกซน เพราะเรื่องเก่าๆ มักถูกนำมาเล่าด้วยวิธีพื้นๆ ดูแล้วไม่มีอะไรตื่นเต้นน่าสนใจ ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีการ พัฒนาจัดตั้งพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่จะบ่มเพาะเด็กและเยาวชนไทย รุ่นใหม่ให้เป็นผู้ใฝ่รู้ อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ได้นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ผ่านการนำเสนอที่สร้างสรรค์และน่าสนใจผ่านการ เรียนรู้ที่สนุกสนานในรูปของ Discovery Museum ที่มุ่ง เน้นให้ผู้ชมได้เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยมีผู้ใหญ่ใจดีอย่า ง สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ สังกัด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์กรมหาชน) ทำหน้าที่ดูแล โดยนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทยผ่านการตีความและนำเสนอในรูปแบบใหม่ ในนิทรรศการถาวรที่มีชื่อว่า “เรียงความประเทศไทย” ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่ “มิวเซียมสยาม” ท่าเตียน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ ที่ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม

เพื่อไม่ให้ “ความรู้” กระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองหลวง สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ(สพร.) จึงได้จัดทำโครงการนิทรรศการและกิจกรรมการเรียนรู้เคลื่อนที่ “Muse Mobile พิพิธภัณฑ์ติดล้อ” ย่อส่วนนิทรรศการ “เรียงความประเทศไทย” จาก “มิวเซียมสยาม” เดินทางออกไปบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของประเทศไทยจากเหนือจรดใต้ เพื่อกระตุกต่อมคิดจุดประกายขยายพื้นการเรียนรู้รูปแบบใหม่สู่เยาวชนไทยทั่ว ประเทศ

ล่าสุดร่วมกับ สถาบันทักษิณคดีศึกษา, เทศบาลนครหาดใหญ่ และ ศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์ นำ “Muse Mobile พิพิธภัณฑ์ติดล้อ” มาร่วมเปิดพื้นที่สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้รูปแบบใหม่ให้กับเยาวชนใน จังหวัดสงขลา ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางครั้งที่ 5 หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากการสัญจรไปให้ความรู้กับเยาวชนมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2552 ยังจังหวัดลำปาง, จังหวัดน่าน, จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดตรัง

ดร.วิทูร กรุณา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้แก่เด็กและเยาวชนว่าเป็น การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนไทย ท่ามกลางการไหลบ่าของวัฒนธรรมสมัยใหม่ในโลกไร้พรมแดน

“ในปัจจุบันเราต้องสร้าง วัคซีนให้กับสังคม ให้เยาวชนรู้จักเลือกที่จะรับ โดยมีครอบครัว โรงเรียน และสังคมเป็นผู้กลั่นกรอง ว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี เพราะเราไม่สามารถปิดกั้นการไหลบ่าของวัฒนธรรมในโลกไร้พรมแดนได้ ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันฉีดวัคซีนให้กับสังคม ซึ่งการจัดกิจกรรมพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ Muse Mobile ที่เดินทางออกไปให้ความรู้กับเด็กและเยาวชนในต่างจังหวัด ก็เท่ากับว่าได้ไปกระตุ้น กระตุกให้เยาวชน ให้พบเห็นสิ่งใหม่ๆ ได้เรียนรู้ในเรื่องใหม่ๆ ได้มีกิจกรรมที่เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี ซึ่งเป็นการสร้างวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเด็กไทยอีกทางหนึ่ง”

นายราเมศ พรหมเย็น รักษาการ ผอ.สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติเปิดเผยว่า พันธกิจหลักขององค์กรคือมีหน้าที่ในการสนับสนุนการเรียนรู้อย่างเพลิดเพลิน โดยนำเสนอรูปแบบใหม่ในการเรียนรู้นอกห้องเรียน เพราะการเรียนไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำราเท่านั้น และ Muse Mobile ก็คือพิพิธภัณฑ์ติดล้อที่สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทุกแห่ง โดยมีการนำเสนอที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ ถอดแบบมาจากนิทรรศการ “เรียงความประเทศไทย” ของ มิวเซียมสยาม กรุงเทพฯ เพื่อบอกเล่าความเป็นมาของประเทศไทยในมุมมองใหม่ ผ่านการเรียนรู้ที่สนุกสนานภายใต้แนวคิด Discovery Museum

“Muse Mobile พิพิธภัณฑ์ติดล้อ นำเนื้อหาเรียงความประเทศไทยมาจัดแสดงแบบย่อส่วนอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ ทั้ง 4 ตู้ โดยแบ่งการนำเสนอออกเป็นหัวข้อต่างๆ คือ อะไรคือไทยแท้? สุวรรณภูมิอยู่ที่ไหน? กรุงเทพฯภายใต้ฉากของอยุธยา และ จุดเปลี่ยนประเทศไทย เพื่อที่จะทำให้ผู้เข้าชมมีความได้เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับสุวรรณภูมิและคน ไทยมากยิ่งขึ้น สำหรับการจัด Muse Mobile พิพิธภัณฑ์ติดล้อ ในครั้งนี้มีความพิเศษกว่าการสัญจรไปยังจังหวัดอื่นๆ ก็คือ ทาง สพร. ได้ร่วมกับ สถาบันทักษิณคดีศึกษา จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของจังหวัดสงขลา เพื่อให้เกิดความเข้าใจในท้องถิ่นของตนเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดนิทรรศการในครั้งนี้จะเป็นต้นแบบของการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ รูปแบบใหม่ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย อันจะนำมาซึ่งการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศต่อไป โดยหลังจากที่จบการแสดงที่หาดใหญ่ก็จะเดินทางออกไปให้ความรู้กับเยาวชนใน จังหวัดพัทลุงเป็นลำดับต่อไป”

ภายในงานนอกจากนิทรรศการเรียงความประเทศไทยในตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 4 ตู้ที่เปิดโอกาสเด็กๆ ทุกคนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านการดู เล่น หยิบ จับ และร่วมทดลองในทุกๆ เรื่องแล้ว พื้นที่โดยรอบยังจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ให้ได้เรียนรู้และร่วมสนุกอย่างเพลิดเพลิน ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับ “สุวรรณภูมิ” และ “คนไทย” มากยิ่งขึ้น

อาทิ ลานกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เข้ามาขีดเขียนแสดงความคิดเห็นบนพื้นและ ความสามารถด้านศิลปะอย่างเต็มที่ มีมุมวาดเขียนระบายสี พับและตัดกระดาษ สำหรับเด็กเล็กและผู้ปกครองที่สามารถเข้ามาร่วมสนุกได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลุมขุดค้นโบราณคดีที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เป็นนักสำรวจ ลงมือขุดค้นหาของโบราณด้วยตนเอง กิจกรรมที่สามารถสอดแทรกความรู้และเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ได้อย่างสนุกสนาน

“น้องเพื่อน” เด็กหญิงกสิณา ศรีละนันท์ และ “น้องส้ม”เด็กหญิงหทัยพร พาศมานุรักษ์ นัก เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียนเทศบาล 1 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสนุกมากที่ได้มาชมและร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในนิทรรศการครั้งนี้ โดยชอบกิจกรรมในตู้คอนเทนเนอร์จุดเปลี่ยนประเทศไทยมากที่สุด เพราะเปิดโอกาสให้ เลือกเสื้อผ้าแต่งกายย้อนยุคพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย

“ชอบกิจกรรมตรงนี้ก็เพราะว่า ได้เห็นบรรยากาศที่ย้อนยุคกลับไป ไปในสมัยที่พวกเรายังไม่เกิด ของทุกอย่างที่จัดแสดงเราสามารถหยิบมาเล่นได้ เอาเสื้อผ้า วิกผม แว่นตาเครื่องประดับมาใส่ แปลงโฉมถ่ายรูปกัน ทำให้เห็นเพื่อนๆ ในอีกแบบหนึ่ง”

แต่สำหรับ “น้องนัท”เด็กชายวรวุฒิ หายหา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเทศบาล 4 วัดคลองเรียน กลับชอบที่จะเป็นนักสำรวจ โดยร่วมกิจกรรมในการขุดค้นทางโบราณคดีเพื่อค้นหาของโบราณต่างๆ ที่ถูกฝังอยู่ใต้ผืนทราย “วันนี้มี เพื่อนมาร่วมกันขุดหลายคน สนุกมาก ชอบกิจกรรมแบบนี้ เพราะได้ขุดหาสมบัติ หาของโบราณที่มีค่าด้วยตัวเอง วันนี้ได้เจอลูกปัด และหอยด้วย ในวันหยุดก็จะชวนพ่อกับแม่ให้พามาเที่ยวอีก”

นิทรรศการเคลื่อนที่ “Muse Mobile พิพิธภัณฑ์ติดล้อ” เรียนรู้และเข้าใจประวัติศาสตร์ชาติไทยในมุมมองใหม่ที่สนุกสนาน มีกำหนดจัดแสดง ณ ลานจอดรถ ศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2554

สามารถชมฟรีในวัน จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. และในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-225-2777 ต่อ 416 หรือ www.museumsiam.com, www.facebook.com/museumsiamfan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น