เมื่อเรานั่งลงอย่างสงบ หายใจและยิ้มอย่างมีสติ
เรากำลังเป็นตัวเองอย่างแท้จริง
เรากำลังมีอำนาจเหนือตนเอง
แต่เมื่อเปิดดูรายการโทรทัศน์
นั่นเท่ากับเราปล่อยให้รายการนั้นรุกรานเข้ามาในใจ
บางครั้งก็เป็นรายการที่ดี
แต่บ่อยครั้งเป็นเพียงเสียงหนวกหูเสียมากกว่า
เพราะเราต้องการอะไรสักอย่างจากภายนอกให้เข้ามาสู่ตัวเรานั่นเอง
เราจึงนั่งปล่อยให้เสียงโทรทัศน์อันโหวกเหวกรุกรานเรา
โจมตีเรา ทำลายเรา
แม้ระบบประสาทจะถูกกระหน่ำโบยจนบอบช้ำ
เราก็ยังไม่กล้าลุกขึ้นเปิดโทรทัศน์
เพราะถ้าทำเช่นนั้น เราจะต้องกลับมาสู่ตัวเอง
การภาวนานั้นกลับตรงกันข้าม
เพราะสิ่งนี่ช่วยให้เราหวนคืนสู่ตัวจริงของเรา
ทว่าการภาวนาในสภาพสังคมเช่นนี้ นับว่ายากมาก
ทุกอย่างดูเหมือนจะร่วมมือกัน พยายามพรากเราออกจากตัวตนที่แท้จริง
เรามีของนับไม่ถ้วนที่จะชักจูงให้หนีห่างจากตัวเอง
เช่น วิดิโอเทป และดนตรี เป็นต้น
การภาวนาคือการมีสติ ยิ้มและหายใจอย่างรู้ตัวทั่วพร้อม
ซึ่งเป็นทางตรงข้ามกับวิถีชีวิตข้างต้น
เราหวนคืนสู่ตัวเองก็เพื่อจะได้เห็นความเป็นไปของสิ่งทั้งหลาย
ความเป็นไปของสรรพสิ่งนับว่าสำคัญมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น