...+

วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Fwd: ทำบุญบ้าน ให้เทวดา..(เทวดาทำบุญเองไม่ได้ ต้องรอจากมนุษย์อย่างเรา)

พี่ๆ เพื่อนๆ เราไปอ่านเจอมานะจ๊ะ

ทำบุญบ้านให้เทวดา

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2546
วันนั้นได้ไปบ้านโยมผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นประธานทอดกฐินที่วัด
ทมอโดน ( วัดที่ประเทศเขมร)

ซึ่งเป็นกฐินตกค้าง เจ้าของบ้านหลังนี้รับเป็นเจ้าภาพ
ผู้เขียนซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์วัดนี้ ต้องเดินทางไปรับ
เจ้าภาพเพื่อเดินทางไปประเทศเขมรด้วยกัน


วันนั้น ต้องออกจากวัดตั้งแต่เช้าเพื่อไปฉันเช้าที่บ้านโยมเจ้าภาพ
เมื่อรถแท็กซี่แล่นถึงหมู่บ้านจัด
สรร

ได้สังเกตเห็นสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านคนรวย
บ้านแต่ละหลังอยู่ห่างกันบนเนื้อที่ 1
ไร่

สงบร่มรื่น มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา มีต้นไม้ร่มครึ้มอยู่ทั่วไป


เมื่อถึงบ้านเจ้าภาพ
เจ้าของบ้านก็นิมนต์ให้ไปไหว้พระสวดมนต์เจริญภาวนาในห้องพระก่อนเพื่อความ
เป็นสิริมงคลแก่บ้าน

เสร็จแล้วจึงลงมาฉันเช้าที่ห้องด้านล่าง
ฉันเช้าเสร็จแล้วจึงออกเดินสำรวจดูรอบ ๆ บริเวณบ้านบน
เนื้อที่ขนาด 2 ไร่

ซึ่งมีต้นไม้ทั้งขนาดเล็กและปานกลางอยู่ทั่วไป
สังเกตเห็นว่า ต้นไม้แต่ละต้น ไม่ว่าจะเป็นต้นน้อยต้นใหญ่
มีรุกขเทวดาอาศัยอยู่เต็มไปหมด ไม่มีว่าง
เหลืออยู่เลย

ก็เลยสวดมนต์ให้พวกเขาฟังหนึ่งพระสูตร (กรณียเมตตสูตร) พร้อมกับแปลให้เขาฟังด้วย

สักพักได้ยินเสียงของเทวดาที่เป็นเจ้าที่องค์หนึ่งกล่าวว่า " ท่านครับ
ช่วยบอกเจ้าของบ้านให้นิมนต์
พระมาทำบุญที่บ้านด้วยครับ "
ผู้เขียน " ทำไมล่ะ ? เจ้าของบ้านเขาก็เป็นคนดีอยู่ออก
เขาไม่เคยทำบุญบ้านเลยหรือ ?"
รุกขเทวดา " ทำครับ แต่เจ้าของบ้านเขามักจะไปทำบุญนอกบ้าน
ไม่ค่อยได้ทำบุญภายในบ้านเลย
พวกผมซึ่งเป็นเทวดาเจ้าที่ จึงไม่ค่อยได้รับบุญกุศลสักเท่าไหร่
พวกผมอยากให้เจ้าของบ้านนิมนต์
พระมาทำบุญที่บ้านบ้าง เพราะที่หมู่บ้านแห่งนี้ ไม่มีพระมาบิณฑบาตถึง
ผมอยากจะฟังพระสวด
มนต์ อยากฟังพระสวด " ธัมมะจักรกัปปวัตตนะสูตร " บ้าง "
ผู้เขียน " แล้วจะให้อาตมาบอกเขาอย่างไรล่ะ ? บอกตรง ๆ คงไม่เหมาะ "
รุกขเทวดา " ท่านก็ใช้กุศโลบายซิครับ หรือจะเขียนลงในไตรรัตน์ก็ได้
เมื่อเจ้าของบ้านได้
อ่าน เขาคงจะเข้าใจ "
ผู้เขียน " เอ้า จะลองดู ถ้าไม่ได้ผล อย่าว่ากันนะ "


เวลา 08.00 น. เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็เตรียมตัวขึ้นรถออกเดินทาง
ก่อนที่เจ้าของบ้านจะ
ขึ้นรถนั้น ได้หันไปทางต้นไม้แล้วกล่าวด้วยเสียงแจ้ว ๆ น่ารักว่า " เทวดา
ดิฉันจะไปทำบุญทอด
กฐินที่ประเทศเขมร อนุโมทนาบุญด้วยนะ แล้วก็ช่วยดูแลบ้านให้ด้วย แล้วจะนำบุญมาฝาก "
ผู้เขียนซึ่งนั่งอยู่คู่กับคนขับ
ได้ยินดังนั้นก็อดที่จะอมยิ้มในความน่ารักและมีน้ำใจของเจ้าของบ้านไม่
ได้ เมื่อรถแล่นออกมาได้สักพัก

จึงได้ค่อย ๆ แอบถามเพื่อตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ
จากเจ้าของบ้านว่าจะตรงกับที่เทวดาให้มาหรือไม่
เจ้าของบ้านให้ข้อมูลมาดังนี้ :


ที่บ้านหลังนี้ ไม่เคยมีพระเข้ามา 10 กว่าปีแล้ว (
พระองค์สุดท้ายที่เข้ามาที่บ้านหลังนี้คือ หลวง
พ่อจรัญ จ.สิงห์บุรี)

เพราะเจ้าของบ้านจะออกไปทำบุญแต่ข้างนอก ผู้เขียนเป็นพระรูปแรกในรอบ 10 ปีที่เข้ามา

บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านนี้ไม่มีวัดอยู่แม้แต่แห่งเดียว
เพราะเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงไม่มี
พระมาบิณฑบาตถึง

หมู่บ้านแห่งนี้ถึงเป็นหมู่บ้านคนรวย
แต่เจ้าของหมู่บ้านไม่เคยทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่หมู่บ้าน
เลย เพราะต่างคนต่างอยู่ (ตัวใครตัวมัน)
หลังจากกลับจากประเทศเขมรแล้ว วันต่อมา
ได้มีโอกาสไปที่หมู่บ้านแห่งนี้อีก เทวดาเจ้าที่ก็มาให้
ข้อมูลอีกว่า
" หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านคนรวย ในมุมมองทางโลกนั้น
ถ้ามนุษย์คนไหนได้อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้
ถือว่าเป็นคนไฮ-โซ 1 ถือว่าเป็นคนมีบุญ เป็นคนมีระดับ

แต่ในมุมมองทางธรรมนั้น เทวดาองค์ไหนอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ถือว่าเป็นเทวดาโล-โซ
2 ถือว่ามีบุญน้อย เป็นเทวดาชั้นต่ำ

เพราะไม่ค่อยมีโอกาสอนุโมทนาบุญ
ไม่ค่อยได้ฟังเทศน์ฟังธรรมเหมือนเทวดาที่อาศัยอยู่ในวัด
เทวดาที่อาศัยอยู่ในวัดนั้น ไม่ว่าจะเป็นรุกขเทวดา ( เทวดาที่อยู่ตามต้นไม้) หรือ
ภุมมะเทวดา ( เทวดาเจ้าที่) โดยมากได้ฟังพระสวดมนต์เช้า - เย็น ทุกวัน
ได้อนุโมทนาบุญ
กับคนมาทำบุญบ่อย ๆ ได้ฟังพระเทศน์เป็นประจำ


ดังนั้น ผมจึงขอฝากบอกข่าวนี้ไปถึงเจ้าของบ้านผ่านพระคุณเจ้า
ให้ช่วยบอกเจ้าของบ้านด้วย

ให้นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ให้เทวดาอย่างพวกผมได้ฟังบ้าง
ถ้ามีการแสดงธรรมด้วยก็จะดี
มาก

และให้พระสวดมนต์ให้ยาว ๆ มาก ๆ หน่อย อย่างน้อยปีละครั้งก็ยังดี


ในการทำบุญนั้น ให้เจ้าของบ้านจุดธูปบอกทั้งภายในบ้าน และนอกบ้าน

เชิญเทวดาที่อยู่ภายในบ้านและภายในหมู่บ้านรวมทั้งพวกสัมภเวสี 3 ที่อด ๆ
อยาก ๆ ให้มารับส่วนกุศล
และทานอาหารโดยทั่วกัน

ถ้าเจ้าของบ้านทำอย่างนี้ ก็จะเป็นการเพิ่มพลังบุญกุศลให้แก่เทวดา
เมื่อเทวดามีบุญมาก

ก็จะรักษาหรือช่วยให้คนที่อยู่ในบ้านหรือหมู่บ้านแห่งนี้อยู่กันอย่างสงบสุข


ในการทำบุญภายในบ้านนั้น
เทวดาทุกองค์ที่อาศัยอยู่ในที่นี้สามารถเข้ามาร่วมพิธีและอนุโมทนาได้ทั้ง
หมด

แต่ถ้าเจ้าของบ้านไปทำบุญในวัด เทวดาที่มีบุญน้อยศักดิ์น้อยบางองค์
ไม่สามารถไปร่วมพิธีได้

ได้แต่อนุโมทนาบุญที่เจ้าของบ้านนำมาฝาก ถ้าเข้าใจไม่ชัด
ผมจะขอยกอุปมา-อุปมัยให้ฟัง
ถ้าเราทำบุญที่บ้าน ญาติพี่น้องของเราสามารถเข้าร่วมพิธีได้หมดทุกคน แต่ถ้าไปทำใน
วัด ทุกคนจะไปร่วมพิธีทั้งหมดไม่ได้

เพราะจะต้องมีบางคนอยู่เฝ้าบ้าน ดังนั้นการนิมนต์พระมาทำบุญที่บ้าน
จึงเป็นผลดีต่อเทวดาอย่าง
พวกผมมากกว่าทำบุญที่วัด

แม้ว่าเจ้าของบ้านจะลำบากหรือเหน็ดเหนื่อยอีกนิดหนึ่งก็ตาม "


ป.ล. อ่านแล้วอย่าเพิ่งเชื่อ พิจารณาไตร่ตรองก่อน


ข้อควรปฏิบัติ


๑. ควรทำบุญบ้านปีละครั้ง โดยนิมนต์พระให้ไปบ้าน อาจเป็นการถวายสังฆทานเฉย ๆ ก็ได้
เพื่อเป็นการเพิ่มบุญให้แก่เทวดาที่เป็นพระภูมิเจ้าที่และความเป็นมงคลแก่ที่ดินของเราเองด้วย
๒. ควรทำบุญหมู่บ้าน ชุมชน ซอย หรือคอนโดฯ ที่เราอยู่ปีละครั้ง
เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แด่ปู่ย่า
ตายายผู้ก่อตั้งหมู่บ้าน
เป็นการแสดงความกตัญญู-กตเวที และมีอานิสงส์ทำให้คนในหมู่บ้านสามัคคีกัน
วิญญาณพระภูมิเจ้าที่ที่รักษาหมู่บ้านก็จะมีพลังป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้มากขึ้น


1 High Society = คนชั้นสูง , สังคมชั้นสูง
2 Low Society = คนชั้นต่ำ , สังคมชั้นต่ำ
3 สัมภเวสี = ผู้แสวงหาที่เกิด คือผีที่ตายจากโลกมนุษย์แล้ว
แต่ยังไม่ได้เกิดในกำเนิดอื่น

1 ความคิดเห็น:

  1. เรื่องพลังงานมองไม่เห็นแต่สัมผััสได้ด้วยจิต..

    พญานาคจะช่วยผู้ที่บูชาศรัทธาในพญานาคให้ผ่านพ้นอันตราย จากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น' http://ainews1.com/article311.html หลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว 3 ปี ...

    ตอบลบ