...+

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

- - - - ค ว า ม ยุ ติ ธ ร ร ม - - - -

ถึงท่านผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความยุติธรรม

ความ ลำเอียง เป็นลักษณะนิสัยพื้นฐานที่มีอยู่ในตัวเราทุกๆคนที่เกิดขึ้นจากการรักตัวเอง
มากกว่า ตามหลักจิตวิทยา เรามักคิดว่า
เรานั้นดีแล้วพร้อมๆกับคิดว่าคนอื่นนั้นไม่ดี หรือ I'm OK, you aren't
OK. โดยการตัดสินผู้อื่นจากการกระทำของเขาส่วนเดียว หรือ ถ้าเป็นกลุ่มคน
เป็นสังคม ก็มักจะมีการเปรียบเทียงกับผู้ที่แตกต่างในทำนองนี้เสมอ

นิสัย เพื้นฐานของความลำเอียงเข้าข้างตนเองนี้ตรงกันข้ามกับคุณลักษณะนิสัยอีก
ประการหนึ่งคือ "ความยุติธรรม"
ลักษณะนิสัยทั้งสองส่งให้การดำเนินชีวิตของเราจะบรรลุความสำเร็จที่ตั้งไว้
หรือไม่ ถ้าเราเห็นว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น
หรือเห็นพวกพ้องคนใกล้ตัวดีกว่าผู้อื่น
ก็มีแนวโน้มว่าเราจะไม่สามารถไปถึงความสำเร็จที่แท้จริงได้
เพราะขาดคุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จนั่นคือ ความยุติธรรม

ความ ยุติธรรม นิสัยที่ต้องมีการสร้าง : เพราะเหตุแห่งความลำเอียงนี้เอง
ทำให้หลายๆครั้งเราดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดและล้มเหลว
เป็นเหตุให้เกิดการทำลายตนเองและผู้อื่นอย่างที่เราคาดไม่ถึง
ความลำเอียงนี้เกิดขึ้นได้ในแทนทุกระดับของสังคม เช่น
พ่อแม่ที่รักลูกไม่เท่ากัน
กลุ่มชนที่ลำเอียงเอื้อประโยชน์เแฑาะแก่ผู้ที่เป็นฝ่ายเดียวกับตน
แต่เอารัดเอาเปรียบคนที่แตกต่างจากตนเอง

ความยุติธรรม จึงไม่ได้เป็นลักษณะนิสัยที่คนทั่วไปมีแนวโน้มที่จะเป็น
แต่เป็นลักษณะนิสัยที่ต้องมีการสร้าง
มีการฝึกฝนและพัฒนาขึ้นในตัวเราแต่ละคน
เพราะความยุติธรรมนี้ก็คือความคิดที่มีเหตุผลนั่นเอง

ความคิดที่มี เหตุผลอันนำไปสู่ความยุติธรรมในชีวิตนั้นก็คือการที่เราสามารถสรุปหรือ
ตัดสินวินิจฉัยสิ่งต่างๆ โดยใช้สติปัญญา ใช้ความรอบคอบ
ใช้หลักการประเมินเรื่องราวที่เราได้รับมาอย่างครบถ้วนถูกต้อง
และไม่เห็นแก่ตัว นำไปสู่จุดหมายสุดท้ายคือ
การตัดสินเรื่องราวหรือบุคคลได้อย่างถูกต้องและยุติธรรม
การตัดสินใจที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ซึ่งเริ่มจากการที่เราประเมินสถานการณ์ถูกต้องและสรุปให้ถูกต้อง

สร้าง นิสัยยุติธรรมโดยการเรียนรู้ที่จะแยกแยะ "ข้อเท็จจริง" กับ
"การตีความ" ข้อมูลที่ได้รับ :
ก่อนที่เราจะตัดสินพิพากษาผู้ใดหรือเหตุการณ์ใดว่าผิดหรือถูก
เราไม่สามารถเชื่อในเรื่องราวที่เราเพียงแต่ได้ยินได้ฟังครั้งแรกเท่านั้น
แต่เราต้องแยกแยะระหว่างความจริงกับการตีความของข้อมูลที่เราได้รับเพราะหาก
เราไม่พิจารณาให้ดี เราจะเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน
และเป็นเหตุให้เราตัดสินผิดได้

ข้อเท็จจริง คือ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง สามารถตอบคำถามว่า ใคร ทำอะไร
ที่ไหน เมื่อไร สามารถตรวจสอบได้ทันที เช่น
ชายคนหนึ่งถูกรถชนที่นี่เมื่อเช้านี้
ส่วนการตีความนั้นจะเป็นการวิเคราะห์หรือติดต่อเกี่ยวกับเหตูการณ์ที่เกิด
ขึ้น เป็นการตั้งสมมุติฐานของผู้พูดว่าจะเป็นอย่างไรซึ่งอาจจะจริงหรือไม่จริงก็
ได้ เช่น ผู้ชายคนั้นเขาคิดสั้น
ซึ่งเป็นเพียงการสันนิษฐานอาจไม่เป็นจริงก็ได้
ทำให้เราต้องแยกให้ออกว่าอะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือการตีความ
การแยกแยะให้กระจ่างจะช่วยให้เราปลอดภัยในการตัดสินใจได้อย่างยุติธรรม

ดัง นั้น ก่อนที่เราจะสามารถสรุปความคิด
และตัดสินว่าเหตุการณ์นี้เป็นจริงหรือไม่
เราต้องมีข้อมูลให้ครบถ้วนทุกด้านก่อนอย่างสมดุล
เราจะต้องเป็นคนที่เก็บข้อมูล
ข้อเท็จจริงให้มากเพียงพอที่จะนำมาวิเคราะห์เก็บข้อมูลให้ครบถ้วนทุกด้าน
เพื่อให้ได้มุมมองต่างๆ
ที่รอบคอบมากพอที่จะตัดสินใจได้แบบชั่งน้ำหนักครบถ้วน
และต้องคิดให้รอบคอบรอบด้าน
ต้องมีความคิดความอ่านพอและมีหลักการก่อนตัดสินใจเชื่อข่าวสารข้อมูลใด
แม้เป็นการบอกกล่าวจากคนใกล้ชิด คนที่เราไว้างใจเชื่อถือ
เราก็ต้องมีข้อมูลทั้งสองด้านด้วยจึงจะตัดสินใจได้อย่างไม่ผิดพลาด

สร้าง นิสัยยุติธรรมโดยเชื่อในส่วนดีของผู้อื่นเสมอ :
ปัจจุบันเรามักตัดสินคนบนพื้นฐานของสิ่งที่เขาได้กระทำลงไปมากกว่าที่เราจะ
ค้นหา ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงกระทำเช่นนั้น เราต้องมีแนวความคิดว่า
เราต้องเชื่อในส่วนดีของผู้อื่นก่อนเสมอ
เชื่อว่าเขาเป็นคนดีไว้ก่อนจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดและเป็นคนร้าย
ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ดี เรื่องที่เป็นประโยชน์ เราสามารถเชื่อได้ง่ายกว่า
แต่ถ้าเรื่องที่เลวร้าย เมื่อได้ข่าวมาอย่าเพิ่งตัดสินใจเชื่อ

เรา ต้องสร้างนิสัยยุติธรรมบนรากฐานของความจริง
เราต้องใช้มาตรฐานที่ไม่ได้เกิดจากอารมณ์ความรู้สึก
แต่ต้องเกิดขึ้นจากการเปรียบเทียบด้วยมาตรฐานที่เชื่อถือได้
จากเหตุและผลที่เป็นจริงและเชื่อในความจริงที่ว่าทุกคนมีส่วนดีอยู่ในชีวิต
เสมอ เราควรยึดหลักการที่ว่า "เราปล่อยคนผิด ดีกว่าฆ่าคนบริสุทธิ์"

คน ที่ตัดสินผิดพลาดขาดความยุติธรรม
หลายครั้งเกิดจากการไม่รู้ว่าจุดอ่อนของตนเองคืออะไร
เช่นไม่รู้ว่าจุดอ่อนของตนคือ ความโลภ
ดังนั้นเมื่อต้องทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับเงินอยู่เสมอ
มีโอกาสเปิดให้สามารถโกงได้ เมื่อมีคนนำทรัพย์สินมาล่อ
ก็มีแนวโน้มที่จะผิดในเรื่องการทุจริตหรือตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย
ดังนั้นเราจึงควรรู้จุดอ่อนเพื่อให้สามารถหลีกเลี่ยงได้

การสร้าง นิสัยแห่งความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในชีวิตเรา
ตามหลักการสร้างความคิดที่มีเหตุผล
จะนำพาชีวิตเราก้าวไปสู่เป้าหมายความสำเร็จที่สมบูรณ์ได้
คุณลักษณะชีวิตที่วางอยู่บนรากฐานของความยุติธรรมเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความ
กล้าหาญ คือกล้าที่จะยืนหยัดอยู่บนความจริง กล้าที่จะปฏิเสธอารมณ์
ความรู้สึก ความพึงพอใจส่วนตัวหากสิ่งนั้นตรงข้ามกับความจริง

ความ ยุติธรรมจะนำเราไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของเราได้เพราะจะทำให้เรานั้นเป็นคน
ที่ไว้วางใจได้ บุคคลอื่นเกิดความศรัทธาเชื่อมั่นในตัวเรา
สามารถที่จะมอบหมายความรับผิดชอบในเรื่องต่างๆให้กับเราได้อย่างสบายใจ
และหากเราใช้หลักการนี้จนกลายเป็นลักษณะนิสัยปกติของเรา
เราจะเป็นคนที่ประพฤติแต่สิ่งที่ถูกต้องเสมอมีความคิดที่รอบคอบและตัดสินใจ
ทุกเรื่องได้อย่างถูกต้อง
อันเป็นวิถีนำชีวิตเราไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไม่พลาดพลั้ง

เพราะ ความยุติธรรมนั้นเป็นรากฐานของคุณธรรมที่ดีงามเราจึงควรจำไว้ว่า
ไม่มีความยุติธรรมใดเกิดขึ้นได้บนพื้นฐานความอคติภายในใจของเรา
ไม่มีความสำเร็จที่แท้จริงหากปราศจากซึ่งคุณธรรมแห่งความยุติธรรม ดังนั้น
เมื่อไรก็ตามที่ความคิดภายในใจเราหวังร้ายต่อผู้อื่นแล้ว
เราอย่าไปตัดสินผู้ใดเลย
แต่ควรมองย้อนกลับมาคิดอย่างมีเหตุผลด้วยความตระหนักว่า
"ความยุติธรรม"นั้น
เป็นลักษณะชีวิตที่ทำให้เราสามารถปฏิบัติหน้าที่ทุอย่างเป็นประโยชน์
แก่ส่วนรวมและเป็นประโยชน์แต่ตนเองได้สูงสุด .

+++++++++++++++++
..

1 ความคิดเห็น: