...+

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รัฐจัดโครงการ 6 วัน 63 ล้านความคิด ให้ชาวบ้านเสนอแนวปรองดอง 1-6 ก.ค.นี้

"สาทิตย์" ควง "อภิรักษ์" แถลงโครงการ 6 วัน 63 ล้านความคิด ปฏิรูปประเทศ
ยันปรองดองคืบ ส่งเจ้าหน้าที่ลงทุกจังหวัดคาด 2
สัปดาห์สรุปความคิดเห็นชาวบ้านเสร็จ จ่อเปิดโทรศัพท์ ตู้จดหมาย และอีเมล
ให้ประชาชนส่งความเห็น 1-6 ก.ค.นี้
พร้อมระดมอาสาสมัครรับโทรศัพท์บันทึกข้อมูล เล็งเชิญดารามาด้วย คาดนายกฯ
รับฮัลโหลเองวันแรก คาดนำความเห็นยำเป็นพิมพ์เขียวสำเร็จ

วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน
ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันแถลงโครงการ "6 วัน 63 ล้านความคิด"
เพื่อร่วมเดินหน้าปฎิรูปประเทศไทย นายสาทิตย์กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ได้พูดถึงโครงการนี้แล้วในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่
27 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า
จะมีการรับฟังความคิดเห็นในเรื่องของปัญหาและข้อเสนอแนะ
คล้ายกับแนวคิดที่ว่าการบริจาคความคิดเพื่อช่วยกันปฎิรูปประเทศไทย
ซึ่งเรื่องนี้มีที่มาจากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ได้ประกาศแผนปรองดองเดินหน้าในการปฎิรูปประเทศไทย
ด้วยการอ่านจดหมายเชิญชวนพี่น้องคนไทยทั้งประเทศร่วมกันปฏิรูปประเทศ
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.

นายสาทิตย์กล่าวว่า
รัฐบาลได้ดำเนินในการรับความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ในวันที่ 10
มิ.ย.ก็ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างองค์กรที่ช่วยขับเคลื่อน
ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจเอกชนซึ่งได้มีการประชุมเพิ่มเติมและได้กำหนดรายละเอียดไปแล้ว
มีเรื่องของเวทีปฏิรูปสื่อซึ่งก็เดินหน้าไปมากแล้ว
ส่วนเรื่องที่ทำงานร่วมกันกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย
และในส่วนขององค์กรปกครองท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
แต่เนื่องจากคณะทำงานที่จะร่วมกันขับเคลื่อนในการปฏิรูปประเทศไทยเห็นว่า
น่าจะมีการเปิดช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมอีก
ความจริงแล้วเราก็ไม่ได้มีการดำเนินการขอความร่วมมือจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ทำเนชั่นแนล เซอร์เวย์
แต่ในขณะนี้ก็ได้ลงพื้นที่ไปทั่วทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว คาดว่าไม่เกิน
2 สัปดาห์ก็จะสรุปเสร็จสิ้น

นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า
แต่เนื่องจากว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ต้องการแสดงความคิดเห็น
โดยเราจะดำเนินโครงการนี้ตั้งแต่วันที่ 1-6 ก.ค.นี้ โดยจะเปิดช่องทาง 3
ช่องทาง คือ 1.ทางโทรศัพท์
ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนโทรเข้ามาแสดงความคิดเห็นในการปฎิรูปประเทศฟรี
ที่เบอร์ 0-2304-9999 ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. โดยจะมีโทรศัพท์ทั้งหมด
300 คู่สาย สามารถโทร.มาได้ภายใน 6 วัน ในส่วนที่ 2
คือการส่งจดหมายทางตู้ ปณ.9999 ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งไม่จำกัดวันในการส่งประชาชนสามารถส่งมาได้ตลอด
และทางสุดท้ายคือทางอีเมล www.pm.go.th/forward
โดยไม่จำกัดวันเช่นกันสำหรับทางรัฐบาลก็หวังว่าโครงนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้คนไทยในฐานะเจ้าของประเทศมีส่วนร่วมในการปฎิรูปประเทศไทย

นายอภิรักษ์กล่าวต่อว่า
ในเรื่องของการเปิดช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ทางรัฐบาลก็อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด
ในส่วนของคนที่มารับโทรศัพท์ก็จะระดมคนที่จะมาเป็นอาสาสมัคร
โดยมีการรับสมัครผ่านเครือข่ายทั้งเครือข่ายที่เป็นอาสาสมัครจากกรุงเทพฯ
เครือข่ายอาสาสมัครที่เป็นเครือข่ายในช่วงที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
(ศอฉ.) เปิดรับคอลเซ็นเตอร์ และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากที่สมัครโดยตรง
ซึ่งสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ http:/www.pm.go.th/forward หรือที่
เครือข่ายเฟซบุ๊กของนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งเครือข่ายของนักเรียน นิสิต
นักศึกษาจากสถาบันหรือมหาวิทยาลัยต่างๆที่สามารถสมัครผ่านระบบ
หรือยื่นมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนผู้ที่จะมาเป็นอาสาสมัครจะมีการแบ่งช่วงเวลาในการทำงานเป็น 3
ช่วงด้วยกันคือ ช่วง 08.00-12.00 น., 12.00-16.00 น. และ 16.00-20.00 น.
สำหรับแบบฟอร์มการกรอกจะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ง่ายๆเพื่อที่จะได้บันทึกด้วยความเข้าใจ
ส่วนข้อเสนอแนะจะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ เช่น เรื่องของอาชีพ รายได้ หนี้สิน
สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวฯลฯ นอกจากนั้น สามารถบอกเรื่องอื่นๆ
ซึ่งคนที่รับโทรศัพท์จะเป็นผู้บันทึกข้อมูลไว้
หรือแม้แต่ข้อเสนอแนะที่อยากฝากไว้ในเรื่องอื่นๆ
สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมได้จะนำมาสร้างเป็นพิมพ์เขียว
หรือเส้นทางที่เราจะใช้ในการปฎิรูปประเทศไทย

นายอภิรักษ์กล่าวต่อว่า
สำหรับในบางเรื่องถ้าเป็นเรื่องที่เร่งด่วนก็สามารถนำมาดำเนินการได้เลย
เช่น เรื่องที่ดินทำกิน
ความคิดที่เร่งด่วนและประชาชนให้ข้อเสนอแนะเช่นนี้
ทางนายอภิสิทธิ์ก็จะเร่งดำเนินการทันที

"นอกจากการรับโทรศัพท์แล้ว
ยังมีการประสานงานไปยังสถานีโทรทัศน์ให้ดารา
นักร้องในสังกัดต่างมาร่วมรับโทรศัพท์ และในวันที่ 1 ก.ค.
นายอภิสิทธิ์จะมาร่วมงานในช่วงเช้าและจะมารับโทรศัพท์ด้วยตัวเอง"
นายสาทิตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าประชาชนจะมาด้วยตนเอง
และนำร่างปฎิรูปกฎหมายที่คิดขึ้นมาด้วย ได้หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า
ไม่ขัดข้องมาได้ที่ตึกสันติไมตรี ตั้งแต่วันที่ 1-6
ก.ค.หรือว่าอยู่ที่ไหนโทรศัพท์บ้านหรือมือถือก็โทร.ฟรีทั้งหมด
เมื่อถามว่าตัวข้อมูลจะนำไปทำอะไร นายสาทิตย์กล่าวว่า
ตัวข้อมูลก็จะนำไปรวบรวมพร้อมกับที่มาจากเวทีภาคประชาชนที่แต่ละองค์กรจัดขึ้น
และข้อมูลที่รวบรวมจะเสร็จภายในเดือนกันยายน และเดือนตุลาคม
ถึงพฤศจิกายนจะนำผังความคิดที่ได้จากทุกช่องทางมาจับแยกออกจากกัน
และในเดือนธันวาคมจะทำเป็นร่างที่เรียกว่าพิมพ์เขียว เพื่อให้นายกฯ
ได้ประกาศในวันที่ 1 ม.ค. เมื่อถามว่า ถ้ามีผู้ที่มีความเดือดร้อน
มีความทุกข์มาร้องเรียน ตรงนี้จะแบ่งแยกหรือไม่ นายอภิรักษ์กล่าวว่า
บางครั้งเราอาจจะไม่ทราบปัญหาลึกๆ ที่เขามีอยู่
ผู้ที่รับโทรศัพท์อาจจะกำหนดไม่ได้ว่าอยู่ในหมวดหมู่ไหน
เพราะฉะนั้นก็จะบันทึกเป็นปัญหาเฉพาะรายที่อยากจะบรรยายให้รัฐบาลได้รับทราบ
หรือบางคนอาจจะมีข้อแนะเพิ่มเติมเราก็เปิดกว้างรับได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น