...+

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สันติวิธี

สันติวิธี

ขยายความนิดนึงนะ ครับ

บ้านเมืองเราน่ะ มีสันติวิธีอยู่แล้ว ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกใหม่เลย
คือ หลักกม.ที่เที่ยงธรรม
คือทำให้สังคมเคารพและอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ละเมิดสิทธิ หรือ
ความเป็นอยู่ของผู้อื่น

ที่เราพร่ำเพ้อถึงสันติวิธีน่ะ คือ เราลืมไป หรือ ถูกทำให้ไขว้เขวไป
ถ้าอยู่ในกม.อยู่แล้ว จะไปถูกโทษถูกกรรมด้วยเรื่องอะไรล่ะ? ไม่มีหรอก?
ที่โดนน่ะมันละเมิด และ
หาทางปั่นป่วนให้สับสนจนเราหลงลืม"หลักการอยู่อย่างสันติวิธี หรือ
อยู่อย่างเคารพกม."

พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้ว คืออยู่ด้วยศีล ไม่เบียดเบียนผู้อื่น นั่นแหละครับสันติวิธี

ตามหลักกฏหมายก็เป็นตาม หลักศีลธรรมดีอยู่แล้ว คือการไม่เบียดเบียน

ผมล่ะอยากถามพวกนัก วิชาการสันติวิธีจริงๆ มีความรู้ความเห็นมากมาย
แต่เอาไปปฏิบัติไม่ได้
เวลา รัฐจะแก้ไขปัญหาเพื่อนำความสงบกลับมา ก็ค้านตะพรึ่ด
เวลาม๊อบ บุกยึดสถานที่ทำกิน รพ. เบียดเบียนสังคม
ทำให้สังคมไม่เป็นปรกติสุข กลับไม่ออกความเห็น พวกนี้
ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

ผมอยากเสนอ ว่า แทนที่เราจะเสนอแนวทางสันติวิธีน่ะ
ช่วยกระจายบอกต่อกันหน่อย ว่า หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติมีอะไรบ้าง
พูดง่ายๆ คือ วิธีอยู่ร่วมอย่างสันติ หรือ สันติวิธีในการอยู่ร่วมกัน

ช่วยไปสอน ไอ้นักวิชาการประเภท ท่องจำแต่ใช้ไม่เป็นหน่อย

หลักการอยู่ร่วมอย่าง สันติวิธี คือ ไม่ขัดต่อกม. เคารพกม.
เพราะกม.ให้สิทธิเสมอภาคกับทุกคน
คุณไปละเมิดความเป็นอยู่อันเป็นปรกติสุขของคน นั่นไม่ใช่สันติวิธี

แล้ว หลักกม.ก็หมุนตามหลักศีล คือ ศีลเสมอกัน อยู่ร่วมกันได้
นี่เป็นคำพระ และก็มาเป็นหลักของกม.โดยทั่วกัน ถ้าเคยได้ยินมาจะทราบได้

ถ้าศีลไม่ เสมอ คือมีการละเมิดกม.ที่ผดุงไว้ซึ่งการอยู่ร่วมในสังคมโดยปรกติสุข
ก็ต้องมีผลเกิดขึ้น
ทางพระ ปรับอาบัติ มากกว่านั้น ขับออก หรือ ปลดจากความเป็นพระ (กรณีต้องปาราชิก)

หลักกม.ทางโลกก็เช่นกัน มีบทปรับ จองจำ กักขัง หรือ ประหารชีวิต ตามแต่จะเป็นไป

นี่คือหลัก กม.ที่ผดุงไว้ซึ่งความสันติสุขของสังคม
ไปละเมิด แล้วดันมีวิธีการทำให้สับสน คลุมเคลือ จับต้นชนปลายไม่ได้
พวกนี้เดินตาม นายมันชัดๆ เดินตามแม้วนั่นแหละ
ละเมิดแล้วหนี ไม่ยอมรับผิด ทั้งที่ตัวเองก็กระทำ
อยากเสนอวิธีอยู่ร่วมอย่างสันติวิธี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น