...+

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ส.ส. เป็นเทวดาหรือ จึงได้เอกสิทธิ์ทุกเรื่อง ???

การที่มีการให้เอกสิทธิ์ ส.ส. ในสมัยการประชุมสภา
เพราะเกรงว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพื่อทำให้เสียงของ ส.ส.
ไม่ขาดหายจนกระทั้งมีผลแพ้ชนะในการลงคะแนนโหวตญัตญัติต่าง ๆ ในสภา

ซึ่งการเกรงกลัวกลั่นแกล้งกันนั้น ควรจะเป็นเรื่องที่ความผิดของ ส.ส.
ไม่ชัดเจน จนไม่แน่ใจว่าเรื่องนั้นเป็นการกลั่นแกล้งกันเพื่อผลการลงคะแนนในสภาหรือไม่
จึงให้เอกสิทธิ์แก่ ส.ส. เอาไว้ก่อน

แต่กรณีของ ส.ส. เช่น นายจตุพร
ความผิดเห็นและปรากฏชัดเจนสำหรับคนไทยทั้งประเทศว่า ส.ส.
ผู้นี้เป็นแกนนำกบฏแดงยุยงยุแหย่ปลุกระดมให้มีการเผาบ้านเผาเมือง
จนถูกหมายจับข้อหาทำผิด พรก. ภาวะฉุกเฉิน และข้อหาผู้ก่อการร้าย
ซึ่งการออกหมายจับมิได้เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อหวังผลทางการเมือง
แต่เป็นไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงต่อหน้าต่อตาของผู้คนทั้งประเทศ

ดังนั้น การกระทำความผิดของ ส.ส.
เช่นที่ประชาชนได้เห็นได้ทราบกันทั่วประเทศเช่นนี้
ไม่ควรได้รับเอกสิทธิ์แต่อย่างใด
และถึงแม้ว่าจะได้รับเอกสิทธิ์การลงคะแนนในสภาก็ไม่มีผลต่อผลชนะหรือแพ้
เพราะพรรคการเมืองที่นายจตุพรสังกัด เป็นพรรคฝ่ายค้านมีจำนวนเสียง ส.ส.
น้อยกว่าฝ่ายรัฐบาล ถึงแม้จะมีนายจตุพร อีกหนึ่งคน หรือ ส.ส.
อีกกี่คนก็ตามที่ทำผิดกฏหมายเช่นเดียวกับนายจตุพร
ก็ไม่มีผลต่อการลงคะแนนในสภาแต่อย่างใด

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือ บรรดา ส.ส. ทุกคนในสภาเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย
ซึ่งเป็นผู้มีเกียรติและมีศักดิ์ศรีเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป
ย่อมรู้ผิดชอบชั่วดี ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น ส.ส
พรรคการเมืองใดก็ตามที่ทำผิดในข้อหาร้ายแรงกับบ้านเมืองต่อหน้าต่อตา
ถึงขนาดถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย ยุยงยุแหย่ปลุกปั่นเผาบ้านเผาเมือง
และพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าศาลอนุมัติให้ออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งมิได้มีเจตนากลั่นแกล้งแต่อย่างใด
จึงเป็นอีกบทหนึ่งที่จะพิสูจน์จริยธรรม คุณธรรมค และคุณภาพ ของบรรดา ส.ส.
ในสภาว่าจะยินยอมให้ ส.ส. ที่ทำผิดเช่นนี้ได้รับเอกสิทธิ์ในฐานะ ส.ส.
หรือไม่

ถ้าบรรดา ส.ส. คนใดก็ตาม พรรคใดก็ตามสนับสนุนให้ ส.ส.
ที่ทำผิดร้ายแรงเผาบ้านเผาเมืองได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง แสดงว่า ส.ส.
เหล่านั้นสมควรที่จะเป็นผู้ทรงเกียรติอีกหรือไม่ และควรถูกประณามหรือไม่
หรือจะให้ประชาชนคนไทยเข้าใจว่า บรรดา ส.ส.
ในสภาเล่นพรรคเล่นพวกช่วยคนผิด ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย
และสนับสนุนการเผาบ้านเผาเมือง เช่นนั้นหรือไม่

สภาผู้แทนราษฏร์อันทรงเกียรติจะมีค่าเช่นใดในความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ
ถ้า ส.ส. ผู้ทรงเกียรติในสภาไม่รู้จักแยกแยะความผิดชอบชั่วดี
ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และพรรคการเมืองใดก็ตาม
ที่สนับสนุนผู้ก่อการร้าย ปกป้องผู้ก่อการร้าย
และเป็นส่วนหนึ่งของการก่อการ สมควรที่จะเป็นพรรคการเมืองอีกต่อไปหรือไม่

จึงขอเรียกร้องให้ทบทวนเรื่อง เอกสิทธิ์ ของ ส.ส. ใหม่
เพราะกฏหมายเช่นนี้เป็นการออกโดย ส.ส. เพื่อปกป้อง ส.ส. ทำให้ ส.ส.
กลายเป็นชนชั้นเทวดาที่กฏหมายไม่สามารถแตะต้องได้ในสมัยประชุมสภา
ซึ่งเป็นกฏหมายที่ล้าสมัยแล้ว
ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับความเป็นจริง

ยกตัวอย่างเช่น รัฐสภาอันทรงเกียรติจะยอมให้ผู้ก่อการร้ายนั่งในสภาเป็นผู้บัญญัติกฏหมายของประเทศชาติเช่นนั้นหรือ
หรือจะยอมปล่อยให้ ส.ส.
ที่ฆ่าคนตายเป็นฆาตกรได้รับเอกสิทธิ์นั่งในสภาอันทรงเกียรติเพื่อบัญญัติตรากฏหมายของบ้านเมืองเช่นนั้นหรือ
หรือจะให้คนที่ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ก่อการร้ายนั่งในสภาอภิปรายกล่าวหา
พูดจาบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสี เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น โจมตี
รัฐบาลในสิ่งที่ตัวเองทำผิดขั้นร้ายแรงต่อหน้าต่อตาประชาชน
และสนับสนุนให้มีการเผาบ้านเผาเมืองมาสด ๆ ร้อน ๆ
ในขณะที่ควันไฟไม่ทันจาง เช่นนั้นหรือ

ถ้าเป็นเช่นนั้น
สภาผู้แทนราษฏร์อันทรงเกียรติก็ไม่ต่างไปจากสถานที่ที่มั่วสุมของโจรผู้ก่อการร้ายเท่านั้นเอง

ประชาชน
26 พฤษภาคม 2553
............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น