ขออนุญาติโพสต์ ส่วนหนึ่งต่อด้วยความเคารพ
------------------------------------------
ดวงดาวกับคุณธรรม
ผมคงต้องพึ่งคอลัมน์ของคุณเปลว สีเงิน
อีกสักครั้งเพื่อแสดงถึงเหตุผลทางโหราศาสตร์ต่อดวงเมืองและดวงของนายกรัฐมนตรีที่มีโหรบางคนหรือหลายคนกลับคำพยากรณ์ของตัวเองไปตามสถานการณ์
อย่างเช่น คุณ.......ที่มีฉายาว่า.......ผมเองนั้นเบื่อหน่ายความสับปลับของคนในสังคมเป็นอย่างมาก
ความหวั่นไหวของคนไทยจึงเกิดขึ้นยิ่งกว่าคลื่นสึนามิ
ยิ่งมีคำทำนายทายทักออกมามาก
ความน่าเชื่อถือของโหราศาสตร์ก็ถูกทำลายไปด้วย
ประเด็นที่ขอนำเสนอต่อไปนี้
คือการพิจารณาการโคจรของดาวอาทิตย์ที่เป็นดาวประจำดวงเมือง และ
"ดาวประจำตัวผู้นำประเทศ" ได้เข้าสู่ราศีเมษมาหลายวันแล้ว
ดาวอาทิตย์เป็นตนุเศษของดวงเมือง มีดาวอังคารเป็นตนุลัคน์ ดาว 2
ดวงนี้คือดาวแห่งขุมพลังอำนาจ ซึ่งมีผลต่อประเทศเป็นอย่างมาก
ส่วนดาวเทพเทวาที่คุ้มครองบ้านเมืองอยู่คือดาวพฤหัสบดี
แต่ก็มีดาวราหูคือดาวกบฏรกแผ่นดินเข้ามาแทรกแซงตั้งแต่ปีก่อนจนถึงปัจจุบันนี้
ดวงดาวได้ชี้นำให้เห็นว่า
ถึงวันเวลาที่จะจัดการให้บ้านเมืองเป็นปกติสุขได้แล้ว
ในช่วงที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น
ดาวพฤหัสบดีในดวงเดิมเป็นราชาโชคที่ราศีเมษ
เล็งลัคนาที่มีดาวอาทิตย์เป็นมหาจักรกุมลัคน์
และยังส่งกระแสไปยังภพกัมมะที่หมายถึงการได้ตำแหน่ง
และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คือ วันที่ 26 เมษายนนี้
ดาวพฤหัสบดีจะย้ายเข้าสู่ราศีมีนเป็นเกษตรที่หมายถึงความมั่นคง
ทำมุมโยคหลังไปยังถึงลัคนาที่มีดาวอาทิตย์รออยู่แล้ว
เป็นการเกื้อหนุนให้ดวงชะตานายกฯ อภิสิทธิ์ดียิ่งขึ้นไปอีก
ทำให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ได้จนครบวาระ รวมถึงจะทำให้มีการใช้กฎหมาย
ความถูกต้อง ความเป็นธรรมได้อย่างชัดเจน
และได้รับความคุ้มครองจากความบริสุทธิ์ใจในการบริหารจัดการให้เกิดความสงบเรียบร้อย
ในส่วนของดวงเมืองนั้นได้ก้าวเข้าสู่ ร.ศ.229 (กรุงรัตนโกสินทร์อายุย่าง
229 ปี) ดาวพฤหัสบดีจรทับดาวราหูในภพวินาศ
แต่ดาวพฤหัสบดีได้มาตรฐานเป็นเกษตรเข้าเรือนของตนเอง
และยังเป็นศรีจรในทางทักษา
และดาวเสาร์จรที่อยู่ในภพอริจะเป็นเดชจรในทางทักษา
ตรงนี้แหละที่ทำให้ความเห็นของนักโหราศาสตร์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ฝ่ายหนึ่งว่าจะเกิดความวิบัติหายนะแก่ประเทศ เพราะดาวโคจรเข้ามุมอับ
ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะจากสถิติที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน
พ.ศ.2494 เกิดกบฏแมนฮัตตัน เนื่องจากทหารเรือกลุ่มหนึ่งจับตัวจอมพล ป.
พิบูลสงคราม ไปไว้ในเรือรบหลวงศรีอยุธยา
ในปีนั้นดาวเสาร์จรอยู่ในภพอริเล็งดาวพฤหัสบดีจรในภพวินาศเหมือนในปี 2553
นี้ จึงต้องมีการปราบกบฏทักษิณ (อย่างที่คุณเปลวเขียนไว้)
และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการเสียเลือดเนื้อ บาดเจ็บล้มตาย
ถ้าไม่ยอมยุติการชุมนุม รัฐบาลและทหาร
ตำรวจมีความชอบธรรมที่จะใช้กฎหมายและอำนาจเด็ดขาดจัดการเหมือนอย่างที่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด พูดว่า "อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด"
แต่ก็จะพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
ส่วนความเห็นของผมนั้นจะอยู่ตรงกันข้ามกับการนำดวงเมืองจรในอดีตมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน
เพราะในทางทักษาจรที่กล่าวมาแล้วมีอำนาจหักล้างกันได้
ดวงประเทศไม่มีทางล่มจม และดวงนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ขนาดดาวพฤหัสบดีจรก่อนวันที่ 26 เมษายน จะเข้าสู่ภพมรณะ
ก็มีผลเพียงให้ต้องปิดบังตัวเองให้อยู่ที่ลับและไม่อาจตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดเท่านั้น
ผลจากคำพยากรณ์ของโหรบางคนที่กลับลำกลางคันและเห็นแตกต่างกันนั้น
มีข่าวว่านายกฯ มีความอ่อนไหวอยู่บ้าง เพราะห่วงชาติบ้านเมือง
แม้ว่าท่านจะไม่ได้เชื่อโหราศาสตร์เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน
นอกเหนือจากเรื่องของดวง ผมยังเชื่อว่าประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์
และพระบารมีของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" คอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา
ส่วนที่สี่แยกราชประสงค์นั้น ทุกมุมมีเทพชั้นสูงประจำอยู่
ใครทำชั่วทำไม่ดี ทำความสกปรกในบริเวณนั้น
เท่ากับเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นและย่อมได้รับการลงโทษ
เสื้อแดงหลายคนเกิดอุบัติเหตุถึงตาย และบาดเจ็บเมื่อเดินทางกลับไป ไม้ไผ่
ไม้รวก ที่เหลาให้เป็นปลายแหลมนั้นจะทิ่มแทงเข้าตัวเอง
ตาข่ายหรือแสลนสีดำนั่นก็เป็นสื่อมรณะได้เหมือนกับเป็นลางร้ายบอกเหตุ
ในที่สุดก็คงเหมือนที่ผมเคยพยากรณ์ไว้ว่า "ต้นร้ายปลายดี"
จึงอยากให้ประเทศได้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปโดยเร็ว ทุกคนจะได้สบายใจ
และอย่าได้เศร้าสลดใจกับความสูญเสีย เพราะพวกเขาเลือกที่จะมากันเอง
"กรหริศ บัวสรวง"
ปอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น