...+

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

จงขจัดตัว "ว" ออกจากชีวิต

ถ้าคุณสังเกตจะแปลกใจว่า คำไทยแท้ที่ออกเสียง “ว” เกือบทั้งสิ้นล้วนแสดงลักษณะทางลบของคุณภาพ, บุคลิกภาพ, อุปนิสัย, ความรู้สึก ฯลฯ หาความ “ดี” หรือความ “งาม” ไม่พบ ซ้ำร้ายยังทำให้สุขภาพจิตของผู้เป็นเจ้าของคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ นั้นๆ เสื่อมอีกด้วย

ไม่มีใครมีความสุขและสุขภาพจิตก็ คงเสื่อมถ้าเขาผู้นั้น จมูกโหว่ ปากแหว่ง สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น เป็นหวัด หวุดหวิดจะถูกรถชน เป็นแผลเหวอะหวะ เกิดอาการวิงเวียนใจหวิว ถูกไฟไหม้วอดจนใจหายวาบ แทบจะหัวใจวาย

นอกจากคำที่ออกเสียง “ว” เหล่านั้นจะทำให้เจ้าของลักษณะหรืออาการนั้นสุขภาพจิตเสื่อมแล้ว ยังมีคำไทยแท้ออกเสียง “ว” หลายคำที่ทำให้ใครๆ ไม่รักและไม่อยากคบอีกด้วย

ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คน “มือไว”

ผู้ชายที่มีรสนิยมแห่งเพศตรงข้ามสูงย่อมรังเกียจผู้หญิง “ไวไฟ”

ลองวาดภาพผู้หญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะบุคลิกภาพล้วนบรรยายด้วยอักษร “ว” ทั้งสิ้น ดังนี้

เป็น คนโวยวาย โว้เว้ ส่งเสียงโหวกเหวก อ้าปากหวอ อารมณ์วู่วาม และหวั่นไหวง่าย ชอบคุยโว จิตใจว้าวุ่น มักวอแว หวาดหวั่น วอกแวก มีชีวิตอยู่อย่างว้าเหว่ ขาดเพื่อน และไวไฟกับผู้ชาย

คนสติดีที่ไหนเล่าจะรักผู้หญิงชนิดนี้ แม้เธอจะมีรูปโฉมระดับนางงามจักรวาล

คน โวยวาย เป็นคนประเภทขาดความอดทน เมื่อไม่ได้ดังใจ หรือเกิดความคับข้องใจแม้เพียงเล็กน้อยซึ่งคนอื่นส่วนมากทนได้ เขาจะทนไม่ได้และเก็บไว้ในใจไม่อยู่ ต้องแสดงความไม่พอใจ, บ่น, ด่า หรือคร่ำครวญให้ผู้อื่นฟังไม่เลือกหน้า จึงทำให้คนรอบข้างเบื่อหน่ายรำคาญไม่อยากเข้าใกล้

แต่คนที่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ ไม่ระบายออกเสียบ้างเลย คือ ไม่เคยโวยวายเลยไม่ว่าความทุกข์นั้นใหญ่หลวงสักปานใด ก็เป็นคนสุขภาพจิตเสื่อม จนอาจถึงกับเป็นโรคไซโคโซมาติคหรือโรคประสาทบางชนิดได้

โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า คนเงียบเก็บความรู้สึกทุกอย่าง เป็นคน “ดี” กับคนอื่นไม่เลือกหน้าและตลอดเวลา อย่างที่เราชอบพูดกันติดปากว่า “nice” เหลือเกิน (ไม่ใช่ “nice” เฉยๆ) นั้น เนื้อแท้จะเป็นคนน่ารัก และน่าคบทุกคนไป

คนเงียบเกินไปและเก็บความรู้สึกเกินไปไม่น่าเข้าใกล้เท่าใดนัก เพราะไม่สามารถหยั่งอารมณ์และความรู้สึกของเขาได้ ไม่มีใครชอบชายคนชาเย็นและลึกลับ เพราะไม่ทราบว่าเขาซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ที่ใดบ้าง คนอบอุ่นและเปิดเผยน่าคบกว่า เพราะสื่อนำความรู้สึกและอารมณ์ต่อกันได้ดีกว่า ถ้าต้องใช้ชีวิตผูกพันกับคนเงียบเกินไป คุณจะอึดอัดเมื่อมีความขัดแย้งหรือความขุ่นข้องเขาจะนิ่ง คุณจึงลำบากใจและหนักอก แล้วจะมีความสุขได้อย่างไร

ส่วนคนที่ดีเกินไป หรือ “nice” เกินไป นั้น ดูผิวเผินช่างมีเสน่ห์น่ารัก เพราะไม่เคยโกรธใคร, ไม่เคยขัดใจใคร, ไม่เคยโวยวายแม้เมื่อถูกเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ แท้จริงในจิตไร้สำนึก เขาอาจมีความก้าวร้าว และความไม่เป็นมิตรอยู่มากมาย จึงต้องใช้จิตกลไกลชนิดทำตรงกันข้าม หรือเขาอาจเป็นคนขาดความรักมาแต่วัยเด็ก จึงต้องใฝ่หาความรักจากผู้อื่นไม่รู้จักพอ ด้วยการเป็นคนดีเกินปกติ

เพราะฉะนั้น จงเป็นคน “ดี” แต่พอดี ถ้าดีเกินพอดีอาจจะกลายเป็นไม่ดี

คนไม่โวยวายเมื่อควรโวยวาย คือ เมื่อความทุกข์เกินขีดความอดทนต้องฆ่าตัวตายมาแล้วหลายราย แต่คนที่ทั้งโวยวาย และวู่วามไม่เลือกกาลเทศะก็ถูกฆ่าตายมาแล้วหลายรายเช่นกัน

ฉะนั้น เมื่อเผชิญปัญหาชีวิตหนักหน่วง มีความทุกข์หรือความเดือดร้อนมากเกินขีดความอดทน ก็จงโวยวายออกมาเสียบ้าง แต่ต้องรู้จักเลือกคนรับฟังและรับอารมณ์ของคุณได้ และอย่าโวยวายพร่ำเพรื่อ แล้วคุณจะทั้งสุขภาพจิตดีทั้งเป็นที่รักของใครๆ

คนวู่วาม คือ คนวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำ ขาดความยับยั้ง และขาดความสามารถควบคุมอารมณ์ จึงเหมือนทารก หรืออาจเป็นพวกบุคลิกภาพผิดปกติชนิดที่เรียกว่า “Explosive Personality” ซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิตเวชชนิดหนึ่งให้โทษทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ความวู่วามโกรธง่ายทำลายบุคลิกภาพที่ดีงาม ทำให้ผู้อื่นเสื่อมความนิยม ทำให้แก่เร็ว และทำให้ตนเองและผู้เข้าใกล้สุขภาพจิตเสื่อม ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนวู่วามต้องรีบแก้ไข แม้จะไม่ง่ายนัก แต่ถ้าตั้งใจก็ไม่ยากเกินไป ถ้าเกินกำลังจะแก้ไขเองต้องขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ เพราะถ้าทิ้งไว้ไม่แก้ วันใดวันหนึ่งคุณอาจจะเคราะห์ร้ายไปวู่วามผิดคน ผิดจังหวะเข้า ก็อาจถึงกับวางวายได้

คนโว คือ คนขี้โมโห, ขี้คุย, ขี้อวด, ขาดความถ่อมตัว ไปที่ใดจึงมีแต่คนรำคาญหรือหมั่นไส้ และไม่น่ารักในสายตาของใครสักคนเดียว เนื้อแท้ของคนประเภทนี้คือ เป็นคนมีปมด้อย เช่น บางคนฉลาดแต่ขี้เหร่, บางคนสวยแต่โง่, บางคนร่ำรวยแต่มีต้นตระกูลยากไร้และต่ำต้อย บางคนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ จึงต้องใช้จิตกลไกชนิดชดเชย เพื่อลบล้างปมด้อย

ปมด้อยของเราสามารถชดเชยได้ทาง อื่นที่ไม่ใช่การโว โดยใช้จิตกลไกอันเดียวกันนี้ แต่อย่าถูกทาง อับราฮัม ลินคอล์น ผู้ยากจนอาศัยแสงเทียนไข อ่านกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ ที่ใช้ห่อของ ได้กลายเป็นประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา และเป็นบุรุษแห่งประวัติศาสตร์คนหนึ่งของโลก

คนวอกแวก คือ คนขาดสมาธิ, จิตใจไม่สงบ โดยมากเกิดจากความวิตกกังวล ซึ่งถ้ามีมากเกินไปหรือหาทางออกไม่ได้ อาจกลายเป็นโรคประสาท ถ้ารู้ตัวว่าจิตใจวอกแวกมากจนรบกวนการทำงานหรือการเรียน ควรปรึกษาจิตแพทย์

คนหวาดหวั่น อาการหวาดหวั่นรุนแรง มีความกลัวหรือความพรั่นพรึงเป็นเจ้าเรือนตลอดเวลา มักพบในโรคประสาท หรือโรคจิตบางชนิด ถ้าหวาดหวั่นกระวนกระวายและซึมเศร้าอย่างมากร่วมด้วยในวัยต่อ คือวัยประมาณ 45-55 ปีในหญิง และ 50-60 ปีในชาย ก็น่าสงสัยว่าจะเป็นโรคจิตซึมเศร้าในวัยต่อ

คนหวั่นไหวง่าย อาจหมายถึง อารมณ์หวั่นไหวง่าย หรืออารมณ์ไม่คงเส้นคงวาเปลี่ยนตามสิ่งแวดล้อมได้ง่าย และยอมให้สิ่งเร้าต่างๆ เป็นนายของอารมณ์หรือาจหมายความว่าหวั่นไหวง่ายต่อคำติชมของผู้อื่น เพราะต้องการการค้ำจุนใจจากผู้อื่นมาก จึงเป็นคนไม่มีความสุข เหมือนเอาชีวิตของตนไปผูกแขวนไว้กับท่าทีและถ้อยคำของคนอื่นเป็นลักษณะของคนขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ขาดความมั่นคงทางใจ เป็นผลจากภูมิหลังของบุคลิกภาพแต่เยาว์วัย ถ้าเราเชื่อว่า เราได้ตัดสินใจทำสิ่งใดอย่างรอบคอบถูกต้อง และอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว จงพอใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และถือว่าคำวิจารณ์ที่ตามมานั้นหาใช่ธุระกงการอะไรของเราไม่

คนวอแว คำว่า “วอแว” พจนานุกรมแปลว่า รบกวน, เซ้าซี้ เพราะฉะนั้น คงไม่ต้องอธิบายว่าเหตุใดคนวอแวจึงทำให้สุขภาพจิตของคนอื่นเสื่อม และทำให้ไม่มีใครรัก

คนโว้เว้ คำว่า “โว้เว้” พจนานุกรม แปลว่า พูดหาเรื่อง, พูดเหลวไหล ทำเหลวไหล คนมีปัญญาที่ไหนเล่าจะรักคนโว้เว้ และแน่นอนเหลือเกินว่า คนโว้เว้เข้าใกล้ใครรังแต่จะบั่นทอนสุขภาพจิตของผู้นั้น

นอกจากนั้น ยังมีคำไทยแท้ออกเสียง “ว” อีกสองคำ ซึ่งเป็นประเภทดาบสองคมสุดแต่คุณจะเลือกใช้คือ ถ้าคุณเลือก เว้าวอน เฉพาะกับคนที่คุณมีสิทธิตามกฎหมายและศีลธรรมให้ เขาวาบหวาม จะด้วยสายตา, วาจา หรือ การสัมผัสของคุณก็ตาม ทั้งคุณและเขาจะมีสุขภาพจิตดีขึ้น แต่ถ้าคุณเผอิญไปเว้าวอนเอาคนที่คุณไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือศีลธรรมเข้าจนเขาวาบหวาม ผลที่ได้รับอาจกลับหน้ามือเป็นหลังมือ คือ สุขภาพจิตทั้งของคุณและของเขา จะเสื่อมอย่างร้ายกาจ เพราะชีวิตของคุณจะพบแต่ความวุ่นวาย จิตใจก็จะมีแต่ความหวาดหวั่น มิหนำซ้ำคุณยังได้ชื่อว่าทำลายสุขภาพจิตของบุคคลที่สามอย่างไร้ศีลธรรมอีกด้วย ซ้ำร้ายถ้าบุคคลที่สามคือคู่หมั้น หรือภรรยาของเขาวู่วามถึงขีด คุณก็อาจถึงกับเหวอะหวะจนหวุดหวิดจะวางวายได้

มีคำไทยแท้ออกเสียง “ว” เพียงสองคำเท่านั้นที่นอกจากจะไร้ “พิษ” และ ปลอด “ภัย” ต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว ยังช่วยสร้างเสริมสุขภาพจิตเป็นอย่างดียิ่ง สองคำนั้นคือ “ความหวัง” กับ “ความหวาน”

จงหว่านเพาะความหวังและความหวาน แล้วหมั่นรดน้ำพรวนดินด้วยน้ำใจ, ไมตรีจิตและความจริงใจ ให้มันงอกงาม ผลิดอกออกช่อบานสะพรั่งเต็มหัวใจของคุณ แล้วแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาสดชื่นร่มเย็นแก่ชีวิตของผู้อื่นด้วย

ถ้าคุณสามารถฝึกจิตใจให้บรรจุแต่ความหวังและความหวาน แล้วยังสามารถปลุกผู้อื่นให้เกิดความหวัง และเจือจานความหวานแห่งชีวิตให้แก่เขาด้วย คุณย่อมจะมีแต่ความสุข ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้ความสุขแก่ผู้อื่นอีกโสดหนึ่ง แถมได้รับผลพลอยได้ที่ปุถุชนจิตใจปกติทุกคนย่อมอยากได้คือ ได้เป็นที่รักของทุกคนที่เข้าใกล้คุณ


ที่มาของข้อมูล: จากบทความเพื่อสุขภาพจิต ของ แพทย์หญิงสุพัฒนา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต กระทรวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น