...+

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

Fwd: : เปิดโปงแก๊งหลอกโอนเงิน บอกต่อๆ กันด้วย

เพื่อนผมคนนี้ได้รับโทรศัพท์จากหมายเลข +8886226994822 เวลาประมาณ 13.45
น. โดยแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพฯ
พร้อมกับเหตุการณ์ตามลำดับดังนี้ครับ

1.) ระบุชื่อพร้อมนามสกุลได้อย่างถูกต้อง

2.) แล้วถามว่ามีบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพฯหรือเปล่า
เพราะมีคนอื่นนำไปใช้และเป็นหนี้อยู่ 59000 บาท

3.) ด้วยความว่าเพื่อนผมคนนี้ไม่มีบัตรเครดิตและตกใจ จึงแจ้งไปว่า"ไม่มี"

4.) คนร้ายจึงบอกว่าน่าจะมีคนนำข้อมูลส่วนตัวไปทำบัตรเครดิตหรือใช้ทำธุรกรรมการเงินอื่นๆ
จึงแนะนำมาว่าให้นำบัตร ATM ไปล็อคข้อมูล
โดยจะติดต่อธนาคารแห่งประเทศไทยให้ แล้วจากนั้นก็วางสายไป

5.) เวลาผ่านไปประมาณ 5-10 นาที มีการโทรเข้ามาใหม่ และ โอนสายให้ผู้อื่น
โดยที่แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางแห่งประเทศไทย
โดยที่ทำทีให้เสียงบรรยากาศรอบข้างนั้นเป็นส่วนสำนักงานธนาคาร

6.) แนะนำให้ lock ข้อมูลบัตร ATM ไว้ก่อน โดยที่ทางนั้นจะบอกวิธีการให้
ไปที่ตู้ ATM ที่ใกล้ที่สุด

7) โทรมาอีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึงตู้ ATM บอกให้ทำรายการที่ mode
ภาษาอังกฤษ โดยให้กดปุ่ม transfer
ทางเพื่อนผมก็สงสัยว่าจะเป็นการโอนเงินก็เลยถาม
พอถามทางนั้นก็บอกว่าจะต้องทำรายการผ่าน mode นี้

8) หลอกให้กด หมายเลขบัญชี กดตัวเลขที่ตำแหน่งยอดเงินโอน (Amount)
พอถามก็บอกว่า "ไม่ใช่ยอดเงินแต่เป็นรหัสพิเศษสำหรับ lock ATM"

9) พอดีเพื่อนผมเห็นเป็นตัวเลข 4 หลัก
ซึ่งไม่ใช่ยอดจำนวนเงินหรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับจำนวนเงินเลย
เหมือนเป็นรหัส จึงกดต่อไป
ปรากฎว่ามารู้ภายหลังเงินก็หายเกือบหมดบัญชีเลย (ก็ร่วมแสนล่ะครับ)
อันนี้จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า"ทำได้ด้วยหรือ" แค่กดรหัส 4
ตัวแล้วโอนหมดเลย (เหลือ 100กว่าบาท)
แถมไม่มีหน้าจอยืนยันข้อมูลอีกครั้งเหมือนภาษาไทย

10) ตอนนี้เพื่อนผมแจ้งความแล้ว โง่เสียเงินแล้ว อยากให้มัน (ทางคนร้าย)
โดนจับ จะได้ไม่ไปหลอกคนอื่นอีก ตรวจสอบบัญชีที่โอนไปอยู่จังหวัดน่าน
ก็เลยโทรถามเจ้าของบัญชี ครั้งแรกก็บอกว่าแม่หรือเพื่อนเอาไปใช้
โทรถามอีกครั้ง ก็บอกว่าหายไปแล้วทั้งบัตร ATM + สมุดบัญชี
(เลยไม่รู้ว่าพวกเดียวกันหรือเปล่า)

11) บัญชีนี้เปิดเมื่อ 9 ธค เพื่อนผมก็โดนหลอก 21 ธค
โทรถามข้อมูลจากทางธนาคาร 22 ธค โดยที่กด ATM แล้วที่ กทม.
หลังโอนไม่เกินครึ่ง ชม.

12) ตอนนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป ก็เลยมาเล่าให้ฟังเผื่อจะมีประโยชน์บ้าง....

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ที่มา : http://www.posttoday.com/finance.php?id=80666

กระบวนการหลอกลวงเอาเงินประชาชนหรือหลอกเหยื่อให้โอนเงินให้
พวกนี้จะทำงานเป็นแก๊ง 18 มงกุฎ มีการสร้างพล็อตเรื่องขึ้นมา
โดยโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (VOIP) ไปหาเหยื่อ
แล้วสร้างเรื่องขึ้นมามีสองเรื่องใหญ่ๆ คือ 1.เรื่องโลภ และ 2.เรื่องกลัว

เรื่องโลภ เช่น หลอกว่าเป็นผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่
ถ้าต้องการเงินคุณต้องไปทำรายการที่ตู้
เอทีเอ็มเพื่อให้เงินโอนเข้ามาที่บัญชี
จุดสำคัญที่สุดคือหลอกให้เหยื่อไปที่เครื่อง เอทีเอ็มให้ได้
โดยใช้ความโลภล่อให้ไปติดกับ
อีกอย่างคืออ้างว่าเป็นกรมสรรพากรว่าได้รับเงินคืนภาษี ก็หลอกให้ไปกด
เอทีเอ็ม หลอกล่อให้โอนเงินให้

ในเรื่องความกลัว จะ หลอกว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต โทร.มาจากศาล
โทร.มาจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
โทร.มาเพราะสงสัยว่าบัญชีเราจะมีการฟอกเงิน เป็นการสร้างเรื่องให้กลัว
เป็นการสร้างจิตวิทยาให้คนขาดสติ เมื่อเกิดความโลภ ความกลัว คนก็จะขาดสติ
แก๊งนี้จะใช้จิตวิทยาจูงเราเข้าไปทำอะไรที่เขาต้องการ เช่น โอนเงินให้
เพราะฉะนั้นคอลเซ็นเตอร์ที่เขาไปตั้งมีการแบ่งการทำงานเป็น 3 ทีม คือ
1.ทีมยิง 2.ทีมประสาน และ 3.ทีมเชือด เราไม่ได้ตั้งชื่อให้เขา
แต่คนที่เราจับมาเล่าให้ฟังว่าเขามีการตั้งชื่อทีมกันเอง

ทีมที่หนึ่ง เรียกว่า ทีมยิง คือ มีหน้าที่
โทร.เข้าไปหาลูกค้าแล้วแจ้งว่าคุณเป็นหนี้บัตรเครดิต
มีรายการใช้บัตรเครดิตไหม แจ้งข่าวสารให้เหยื่อเกิดความกลัว
พอปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้บัตรเครดิต ไม่ได้เป็นหนี้
เขาก็จะบอกว่าคุณอาจจะโดนกลุ่มมิจฉาชีพเอาบัตรไปใช้
ทางธนาคารได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทร.ไปหาเพื่อช่วยเหลือเรื่องนี้
ก็จะเป็นทีมที่สอง เรียกว่า ทีมประสาน

ทีมประสาน ก็จะโทร.เข้ามาและ หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
มียศร้อยตำรวจเอก พันตำรวจตรี
เป็นสารวัตรอยู่กองบังคับการตำรวจคดีเศรษฐกิจ (บก.สศก.)
หลอกว่าได้รับประสานกับธนาคารเรื่องการทุจริต
ขอให้คุณให้ข้อมูลกับทางราชการด้วยความถูกต้อง
การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อราชการ
มีโทษเป็น ความผิดทางกฎหมายด้วย ก็จะสอบถามชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด
เลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัตรเครดิต ฯลฯ จะถามคำถามหลอกไปเรื่อยๆ
เป้าหมายเขาต้องการทราบว่าคุณมีเงินเท่าไร อยู่แบงก์อะไรบ้าง
พอได้ข้อมูลส่วนตัวว่ามีเงินในแบงก์ไหนจำนวนเท่าไร
ไม่จำเป็นว่าจะต้องรู้หมายเลขบัญชี เขามีหมายเลขบัญชีปลายทาง
เหยื่อจะถูกหลอกให้เอาบัตรเอทีเอ็มไปใส่ในตู้เอทีเอ็ม เหยื่อก็จะกดรหัส
เอทีเอ็ม จะโอนเงินไปบัญชีปลายทาง จะกดบัญชีปลายทาง
เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องรู้เลขบัญชี
แต่เขามีบัญชีปลายทางที่จะบอกเหยื่อให้กดเงินโอนไปบัญชีปลายทาง
สิ่งที่เขาต้องการรู้คือว่าคุณมีเงินในบัญชีเท่าไร หลังจากนั้นก็ส่ง
ให้ทีมที่สาม เรียกว่า ทีมเชือด

ทีมเชือด จะ อ้างว่าเป็นผู้กำกับ เมื่อสักครู่รับรายงานจากสารวัตร
แจ้งมาให้คุณรีบไปทำการป้องกันเงินคุณในบัญชีก่อน โดยใช้รหัส 32
ซึ่งทางธนาคารกับตำรวจประสานงานกันอยู่
และให้เหยื่อไปที่ตู้เอทีเอ็มแล้วจะบอก ขั้นตอนให้ทำตาม
คือสุดท้ายวิธีการก็หลอกให้เหยื่อไปที่ตู้เอทีเอ็มให้ได้เพราะได้ข้อมูลมา
ถ้าเหยื่อไม่ไปที่ตู้เอทีเอ็มก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องหลอกให้เหยื่อไปที่ตู้
เอทีเอ็ม เหยื่อเอาบัตรเอทีเอ็มกดรหัสตัวเอง
ซึ่งแก๊งมิจฉาชีพไม่รู้รหัสเราหรอก หลอกให้เหยื่อใส่รหัสไป
แต่คนที่อยู่ทีมเชือดก็จะมีหน้าจอของตู้เอทีเอ็มทุกแบงก์
และบอกให้เหยื่อกดปุ่มโน้นปุ่มนี้ ตามที่บอก
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมนูภาษาอังกฤษ ให้กดทรานส์เฟอร์ (โอนเงิน)
ตามจำนวนเงินที่มี แล้วก็โอนเงินไปหมายเลขปลายทาง
แก๊งมิจฉาชีพโทร.มาหลอกลวงให้โอนเงินให้ไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กๆ
เป็นเรื่องเสียหายระดับประเทศ สิ่งที่ชมรมพยายามผลักดันให้นักการเมือง
ผู้บริหารประเทศ และ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบปัญหาที่จะได้สั่งการตั้งทีมงานขึ้นมาโดย
เฉพาะที่จะมีการปราบปรามอย่างจริงจัง


"บางทีความสมบูรณ์แบบของชีวิต ก็ไม่ได้อยู่ที่ความเร็วของการเดินทาง
แต่อยู่ที่เราสนุกกับการเก็บเกี่ยวความสุข ระหว่างการเดินทางต่างหาก..."

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น