“สร้างสุขสามสี” วิถีองค์รวม แบบ “นพ.ธงชัย เติมประสิทธิ์”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2552 08:10 น.

หนุ่มใหญ่เจ้า ของรูปร่างสูงเพรียว ที่กำลังก้มๆ เงยๆ เปิดน้ำเพื่อปรับระดับน้ำในบ่อน้ำตกจำลองภายในร้านกาแฟเล็กๆ ที่เขียวชะอุ่มไปด้วยแมกไม้ตระกูลเฟิร์นนานาสายพันธุ์รามือจากงานตรงหน้า ก่อนจะส่งยิ้มอย่างมีไมตรีจิตแก่แขกขาประจำ และขาจรที่มาเยือนเพื่อหลบร้อนดื่มกาแฟและเสพความสงบแกมสดชื่น

นพ.ธงชัย เติมประสิทธิ์ อดีตรองอธิบดีกรมควบคุมโรคและผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการอยู่กับครอบครัวแสนอบอุ่น ภายในบ้านที่ดัดแปลงเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ในซอยน้อยที่ปลีกตัวออกมาจากความจอแจ ณ มุมหนึ่งของ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

“ผมอายุหกสิบสองแล้ว” คุณหมอผู้กระฉับกระเฉงไขความลับอายุจริง ก่อนจะบอกเคล็ดลับที่ทำให้ดูแข็งแรงและหนุ่มอยู่เสมอว่า เกิดจากการหา “ความสุข” ให้แก่ชีวิตนั่นเอง

“คนเราหาความสุขต่างกัน มีคนบอกว่า อยากสุข 3 ชั่วโมงตั้งวงกับเพื่อน อยากสุข 3 วันให้ซื้อเสื้อใหม่ อยากสุข 3 เดือนให้หาแฟนใหม่ อยากสุข 3 ปีให้สร้างบ้านใหม่ แต่อยากสุขตลอดไปให้ปลูกต้นไม้ แต่แหม บางข้อมันก็ทำยาก เช่น อยากสุข 3 เดือนจะให้มีเมียใหม่นี่มันไม่ได้ใช่ไหม”

นพ.ธงชัย กล่าวปนหัวเราะก่อนจะเล่าต่อไปว่า จากแนวความคิดนี้ ก็เลยเอาบางข้อมาปรับใช้ จึงกลายเป็นความสุขสามสีแบบฉบับของตัวเอง

“คนเราจะสุขได้ต้องสุขทั้งกายและใจ การดูแลให้ร่างกายเกิดความสุขต้องสร้างทั้งภายในและภายนอก ความสุขของผมแบ่งเป็นสามสีคือสีขาว สีเขียว และสีเหลือง สีขาวเปรียบเสมือนสีของเสื้อกาวน์หมอ คือต้องตรวจสุขภาพบ้าง เช็คร่างกายตามกำหนดนัดที่เหมาะสมบ้าง สีเขียวคือต้นไม้ คือต้องพยายามใกล้ชิดธรรมชาติให้มากๆ ปลูกต้นไม้บ้าง และเหลืองคือศาสนา คือธรรมะ”

คุณหมอผู้หาความสุขในสไตล์สามสี กล่าวแต่ไปอีกว่า นอกจากเราจะดูแลร่างกายให้แข็งแรง เช็กร่างกายตลอด และเข้าสู่ความสุขสงบแบบธรรมชาติบำบัดแล้ว ธรรมคือการรักษาใจที่ดีที่สุด เพราะทำให้เราใจเย็น มีสติอยู่ตลอดเวลา มีสามสีนี้ได้ครบ รับรองมีความสุข และที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือการออกกำลังกาย ที่จำเป็นต้องให้สม่ำเสมออย่าได้ขาด เท่านี้ก็แข็งแรงทั้งกายและใจ และเมื่อทั้งภายนอกและภายในแข็งแรงแล้ว ชีวิตก็จะมีความสุข

“ผม เลือกออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ ว่ายเป็นประจำ และตอนนี้อายุมากแล้วก็หาทางดูแลสมองด้วย ก็ตัดสินใจเล่นดนตรี ตอนนี้กำลังเรียนซึงอยู่ครับ ดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ผู้สูงอายุลดความเสี่ยงในการเป็นโรค อัลไซเมอร์ลงได้”