...+

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เคาะข่าวริมโขง : จับวิศวกรไทยแค่ละครปาหี่ ดัน “นช.แม้ว” สวมบทฮีโร่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2552 22:03 น.
เคาะข่าวริมโขง : จวก “เสธ.แดง” อาศัยใบบุญ “จิ๋ว” คุ้มกะลาหัว หย่ามใจลากอาวุธสงครามก่อการกลางเมือง หลังแหล่งข่าวระดับสูง ยัน บึ้มพันธมิตรฯ ทุกครั้ง ฝีมือ เสธ.นอกรีต จี้ “มาร์ค” เตือน “ประวิตร-อนุพงษ์” เร่งจัดการ ก่อนถูกตราหน้า ว่า สมรู้ร่วมคิดพวกขายชาติ แฉ เขมรจับวิศวกรไทย ที่แท้แค่ละครปาหี่ ดัน “นช.แม้ว” สวมบทฮีโร่ กลบภาพพระเอก “มาร์ค” อัด “พ.อ.อภิวันท์” ปากพล่อย ปูดล้มล้างราชวงศ์โรมานอฟ มีนัยยะไม่ดีแฝง



รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน โดยมี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ นายประพันธ์ คูณมี ว่าที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และ นายเทิดภูมิ ใจดี อดีตผู้นำแรงงานและนักการเมืองอาวุโส มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีย้อนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการลอบยิงเวทีพันธมิตรฯ ที่ท้องสนามหลวง โดยพุ่งเป้าหมายจะสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แทบไม่ต้องสงสัยว่าเป็นฝีมือใคร เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากรูปแบบในการก่อการ รวมทั้งอาวุธที่ใช้ น่าจะเป็นฝีมือของนายทหารนอกรีตอย่าง เสธ.แดง

เริ่มต้นรายการ น.ส.วรรษมน เชิญศิลปินและดารา เลือดพันธมิตรฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 พ.ย.มาร่วมเล่าย้อนถึงตอนลอบยิงระเบิดใส่เวทีพันธมิตรฯ โดยทั้ง สุกัญญา มิเกล และแชมเปญ เอ็กซ์ ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ว่า เสียงระเบิดดังสนั่นไหวหวั่น และเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 11 ราย ดังนั้น จึงขอประฌามการกระทำของคนที่ยิง ว่ากล้ามากที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธสงครามกลางเมือง ซึ่งขอเรียกร้องให้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายทหาร รีบสืบสวนหาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษ เพราะเหตุร้ายได้เกิดกับการชุมนุมพันธมิตรฯ อยู่บ่อยครั้ง โดยไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้เลย

น.ส.วรรษมน กล่าวต่อถึงกรณีแหล่งข่าวระดับสูง ระบุว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบยิงอาวุธสงครามใส่เวทีพันธมิตรฯ ที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา คือ เสธ.แดง ที่เป็นผู้ก่อเหตุ โดยรายงานเชิงลึกแจ้งว่า ทุกครั้งที่พันธมิตรฯนัดชุมนุม หรือจะเป็นตอนที่มีการยิงระเบิดใส่เอเอสทีวี ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของนายทหารผู้นี้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ เสธ.แดง จะมีกระบวนการแจ้งเหตุล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ส่วนตัว จากนั้น จะมีตัวละครสำคัญที่เป็นหน่วยปฏิบัติการ ซึ่งมีชื่อว่า “เค ทอง” หรือฉายาหมวกขาว รวมทั้งฉายากำลังไม่ทราบฝ่าย ซึ่งจะมีทำหน้าที่เป็นคนคุมการยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ตอนลงมือปฏิบัติการทุกครั้ง

น.ส.วรรษมน กล่าวอีกว่า แหล่งข่าวระดับสูง ยังเปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ได้ข้อมูลชัดเจนว่า เสธ.แดง เข้าไปทำงานและไปอยู่ภายใต้การดูแลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งกำลังเตรียมแผนร่วมกับคนเสื้อแดงในการสร้างความปั่นป่วนให้แก่ประเทศ โดยอาจถึงขั้นทำให้บ้านเมืองแตกหัก ทั้งนี้ จะมีการใช้คนเสื้อแดงประมาณ 300,000 คน เพื่อมาร่วมชุมนุมใหญ่กดดันให้รัฐบาลประกาศยุบสภา ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค.นี้ หลังจากนั้น จะกลับมาทำสงครามระลอกที่สอง หลังวันที่ 5 ธ.ค. เพื่อหมายให้รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พังพินาศ

นายประพันธ์ กล่าวเสริมประเด็นนี้ ว่า การกระทำของ เสธ.แดง ทางการรู้ดีมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นทางรัฐบาล หรือฝ่ายกระทรวงกลาโหม ทำให้ตนอดแปลกใจปนสงสัยไม่ได้ว่า ในเมื่อรู้เหตุล่วงหน้า แต่ยังปล่อยให้มีการลงมือปฏิบัติการโดยที่ไม่ยอมทำอะไรเลย แบบนี้หมายความว่าอย่างไร ยิ่งตนเห็นภาพที่ เสธ.แดง เดินทางไปกัมพูชา เพื่อไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สิ่งเหล่านี้ทำให้คิดว่า ภาพของ เสธ.แดง เวลานี้ เหมือนนักรบหรือครูฝึก ในการสร้างกองกำลัง เพื่อปั่นป่วนและทำร้ายประเทศไทย ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นหัวหน้าปฏิบัติการ

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า การที่กระทรวงกลาโหม และกองทัพบก ไม่จัดการคนอย่าง เสธ.แดง ถือเป็นหยามเกียตินายทหารคนอื่นๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต แต่ เสธ.แดง ผู้ที่ทำตัวเป็นนายทหารนอกรีต และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กลับไม่โดนตำหนิ หรือจัดการใดๆ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้สังคมสงสัยว่า เหตุที่ไม่จัดการ มีอยู่ 2 กรณี คือ 1.ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของ เสธ.แดง จึงไม่จัดการใดๆ หรือ 2.เสธ.แดง กุมความลับบางอย่างของทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร เอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเรียกตัว เสธ.แดง มาลงโทษได้ ถึงแม้ว่าจะทำผิดก็ตาม แต่ไม่ว่าจะกรณีไหน ตนอยากให้ทั้งสองคน คำนึงถึงประเด็นที่ว่า เวลานี้ไม่ใช่แค่มีขบวนการทำร้ายประเทศไทยอย่างเดียว แต่กำลังมีขบวนการล้มสถาบันและล้างระบอบการปกครองด้วย

นายเทิดภูมิ กล่าวว่า ตอนนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องจี้ไปทาง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ ให้รีบจัดการลงโทษ เสธ.แดง เพราะมีพฤติกรรมร้ายแรงที่เป็นภัยต่อผู้อื่น โดยก่อนลงมือปฏิบัติการทุกครั้ง จะมีการแจ้งเหตุล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ และต่อมาก็เกิดเหตุเช่นนั้นจริงๆ ทั้งที่ บ้านเมืองมีกฎหมาย มีขือมีแป แต่กลับมีนายทหารคนหนึ่งหย่ามใจ คิดว่าตัวเองทำอะไรก็ได้ ไปรับงานมาแล้วลากอาวุธสงครามไปลอบยิงผู้อื่น

นายโสภณ กล่าวว่า เวลานี้ ทหารไทยไม่เพียงแต่ถูกหยามเกียรติ แค่การกระทำของ เสธ.แดง แต่ตอนนี้ กำลังมีความพยายามสร้างความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการปรามาส ว่า หากสู้รบกันจริง ทหารไทยสู้กัมพูชาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ ตนไม่เข้าใจว่ากองทัพทำอะไรอยู่ ปล่อยให้มีกลุ่มบุคคลพูดจาเช่นนี้ได้อย่างไร ทำไมไม่ออกไปตอบโต้ข้อเท็จจริง แต่กลับนิ่งเฉยให้อีกฝ่ายโจมตีอยู่ข้างเดียว

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ เสธ.แดง ยังคงทรนงตัว ว่า ไม่มีผู้ใดทำอะไรหรือเอาผิดตัวเองได้ อีกทั้งท้าทายให้มีการจับกุมคนลงมือยิงมาให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาพูดกัน การกระทำแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมทำหรือคิดอะไรอยู่

น.ส.วรรษมน กล่าวว่า เสธ.แดง ออกมาตอบโต้ว่า ข้อมูลที่แจ้งเหตุในเว็บไซต์ส่วนตัว เป็นเพียงแค่การคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า แต่เผอิญไปตรงกับความจริงพอดี แค่พูดไว้เพื่อเตือนพันธมิตรฯ เท่านั้น

นายประพันธ์ กล่าวเสริมประเด็นนี้ ว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีเหตุการณ์ยิงระเบิด แต่เพิ่งมาปรากฏเมื่อตอนที่ เสธ.แดง ออกมาประกาศว่าจะเข้าร่วมฝึกทหารเสื้อแดง เพื่อมาต่อกรกับพันธมิตรฯ ซึ่งหลังจากนั้น ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นกับพันธมิตรฯ เสมอ อีกทั้งพฤติกรรมที่ผ่านมา ก่อนลงมือก็มีการแจ้งเตือนในเว็บไซต์ ดังนั้น เมื่อดูจากรูปแบบปฏิบัติการแล้ว มันชัดเจนว่าเป็นฝีมือใคร ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคยเกรงกลัวในความผิดที่ได้กระทำ กลับไม่สำนึกก่อกวนมาเรื่อยๆ อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแม้แต่ทหาร ก็ยังรู้เห็นเป็นใจ ไม่ยอมตั้งข้อหาหรือดำเนินคดีใดๆ ปล่อยเรื่องให้เงียบไปในที่สุด

น.ส.วรรษมน กล่าวถึงกรณีกัมพูชามีการจับตัววิศวกรไทย และมีการตั้งข้อหาจารกรรมข้อมูล โดยอ้างว่าไทยส่งวิศวกรมาเป็นสายลับเพื่อล้วงข้อมูลราชการกัมพูชา ซึ่งทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กระตือรือร้น แสร้งออกตัวว่า พร้อมจะให้การช่วยเหลือโดยจะเจรจากับทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน เพื่อช่วยเหลือวิศวกรไทยคนดังกล่าว

นายโสภณ กล่าวว่า เท่าที่ตนสังเกตท่าทีของกัมพูชาเวลานี้ เป็นเพียงการกวนกระแสความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศให้คุกกรุ่น โดยมีคนไทยบางกลุ่มร่วมขบวนการก่อความไม่สงบให้แก่ประเทศไทยด้วย

นายประพันธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ทางฝ่ายกัมพูชากำลังพยายามนำประเด็นเรื่องวิศวกรไทย มาเบี่ยงเบนความสนใจ ที่ผู้คนรุมประฌามการกระทำสมรู้ร่วมคิดกันทำร้ายประเทศของทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และ สมเด็จฯ ฮุนเซน จึงต้องแกล้งแต่งเรื่องเล่นละครเท็จ โดยกล่าวหาว่า วิศวกรไทยไปทำการจารกรรมข้อมูลลับ ทั้งที่จริงๆ แล้วเป็นแค่ข้อมูลการบิน ที่สามารถเปิดเผยได้ ไม่มีอะไรเป็นความลับ แต่ตอนนี้กำลังมีความพยายาม จะเชิดชู พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เป็นฮีโร่ในการช่วยคนไทยให้ปลอดภัยและได้กลับประเทศ อีกทั้ง ยังต้องการแสดงให้เห็นว่าตัว นายอภิสิทธิ์ แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ ขนาดคนไทยโดนจับตัวยังไม่สามารถทำอะไรได้ แต่พอ พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวแค่เอ่ยปาก มารดาของวิศวกรคนดังกล่าว ก็สามารถเดินทางไปพบหน้าลูกชายที่กัมพูชาได้ทันที ซึ่งเรื่องนี้แท้จริงเป็นแค่ละครปาหี่ ที่มีการสมรู้ร่วมคิดไว้ล่วงหน้า เพื่อต้มคนไทย

นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า หนังเรื่องนี้ ตนดูอย่างไรก็ว่าไม่สนุก เพราะคนดูยังจดจำการกระทำของทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ กับ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ว่าเคยย่ำยีประเทศไทยอย่างไร ดังนั้น เชื่อว่า ต่อไปหนังเรื่องนี้จะหาทางลงยาก เพราะอย่างไรคนก็เชื่ออยู่ดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยคิดดีกับประเทศไทย

นายประพันธ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นพวกคนชอบแต่งนิยายหลอกคน หากยังจดจำหลายเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น จะรู้ว่า คนๆ นี้ได้สร้างเรื่องลวงโลกมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตีโพยตีพายว่าจะมีการลอบสังหารตัวเองถึงหลายครั้ง ซึ่งล่าสุด ได้ออกมาโวยวายว่าจะมีคนใช้เครื่องบินเอฟ 16 ประกบยิงกลางอากาศ เพื่อลอบสังหาร โดยสิ่งเหล่านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างภาพให้เห็นตลอดว่ามีคนจ้องจะทำร้ายตัวเองตลอดเวลา แต่ไม่คำนึงถึงเวลาที่ตัวเองทำร้ายผู้อื่นหรือประเทศไทย

น.ส.วรรษมน กล่าวถึงกรณี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ได้ยกตัวอย่างกรณี การปกครองประเทศด้วยความไม่เป็นธรรม จนทำให้ “ราชวงศ์โรมานอฟ” ของรัสเซีย ต้องล่มสลาย ซึ่ง กรณีดังกล่าว นายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้ออกมาท้วงติงเรื่องคำพูดดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม เพราะเหมือนเป็นการจาบจ้วงสถาบัน มีความพยายามเปรียบเปรยที่บิดเบือนความจริง

นายเทิดภูมิ กล่าวว่า การล่มราชวงศ์โรมานอฟ กับสถานการณ์บ้านเมืองไทยเวลานี้ ถือว่าต่างเงื่อนไขกันโดยสิ้นเชิง โดยคนพูดต้องการทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งไม่ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่าเหตุใด จึงมีการโค่นล้มราชวงศ์ ทั้งนี้ รัสเซียในสมัยราชวงศ์โรมานอฟปกครองประเทศ ได้มีการกดขี่ประชาชนอย่างหนัก ทำให้ต้องตกทุกข์ได้ยาก และอดยาก ทำให้วันหนึ่งประชาชน ต้องการไปขอร้องให้พระมหากษัตริย์ช่วย แต่กลับถูกทหารกราดกระสุนปืนยิงใส่ทั้งที่ไม่มีความผิด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ ประชาชนโกรธแค้น และไม่นานหลังจากนั้น แนวคิดคอมมิวนิสต์ก็มีบทบาทในรัสเซีย นำพามาสู่การปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศ

นายเทิดภูมิ กล่าวว่า การที่ พ.อ.อภิวันท์ ออกมาพูดถึงเรื่องการโค่นล้มราชวงศ์ของรัสเซียสมัยอดีต ต้องการจะบอกอะไรหรือไม่ ซึ่งตนขอยืนยันว่าเงื่อนไขมันต่างกันแน่นอน เพราะปัจจุบันกษัตริย์ของไทยดูแลพสกนิกรด้วยความรักและพระองค์ท่านทรงลำบาก ตรากตรำพระวรกายอย่างหนัก เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฏร ดังนั้น คนพูดหรือยกตัวอย่างเรื่องนี้ต้องรับผิดชอบว่า เหตุใดจึงออกมาจุดประเด็นเรื่องนี้

นายประพันธ์ กล่าวเสริมว่า พ.อ.อภิวันท์ ต้องการจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ดูว่าความจริงเป็นอย่างไร ทางที่ควรไปเรียกตัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมไทยเสียก่อน ไม่ใช่ไปสู้นอกเกมแล้วเต้นแร้งเต้นกา หาว่าถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้ความเป็นธรรมสารพัด คำพูดของ พ.อ.อภิวันท์ เรื่องนี้ ถือเป็นการข่มขู่สถาบัน และแสดงความคิดล้มพระมหากษัตริย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น