...+

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ภัยเงียบ...ขี้หู/ผศ. นพ.ปารยะ อาศนะเสน

ภัยเงียบ...ขี้หู/ผศ. นพ.ปารยะ อาศนะเสน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


ใครๆ มักเข้าใจผิดว่า มีขี้หูไม่ดี ควรเอาออก และนี่คือ
ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง...หลายคนอาจไม่ทราบว่า ขี้หู
สร้างจากต่อมสร้างขี้หู ซึ่งอยู่ในช่องหูชั้นนอก
ขี้หูมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ มีสารต่อต้านเชื้อโรคและไม่ละลายน้ำ
มีหน้าที่ช่วยปกป้องผิวหนังของช่องหูชั้นนอก
และป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องหู บางคนมีขี้หูเปียก
บางคนก็ขี้หูแห้ง ขี้หูมาก ขี้หูน้อยก็มี

โดยปกติ ขี้หูจะมีการเคลื่อนที่จากเยื่อบุแก้วหูออกไปยังช่องหูชั้นนอกได้เอง
ไม่จำเป็นต้องไปแคะออก ปัญหาของขี้หูมักเกิดจาก "ขี้หูอุดตัน"
อยู่ภายในช่องหูชั้นนอก และเมื่ออุดตันนานวันเข้า
ขี้หูก็จะจับตัวเป็นก้อนแข็งจนทำให้เกิดปัญหาในการรับฟังเสียงพูด คือ
จะได้ยินไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ที่เรียกว่า เกิดอาการหูอื้อ หูตึง นั่นเอง

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ
การใช้ไม้พันสำลีทำความสะอาดช่องหูชั้นนอก โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ
แล้วมีน้ำเข้าหู จะทำให้รู้สึกรำคาญ
ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะยิ่งกระตุ้นให้ต่อมสร้างขี้หูทำงานมากขึ้น
มีปริมาณขี้หูที่ผลิตออกมามากขึ้น และถ้ายิ่งดันไม้เข้าไป
หรือปั่นรูหูแรงๆ จะทำให้ขี้หูในช่องหูอัดแน่นยิ่งขึ้น
และอาจทำให้ช่องหูชั้นนอกถลอก อักเสบ ติดเชื้อได้
เนื่องจากผิวหนังภายในช่องหูชั้นนอกนั้น เปราะบางมาก
เวลาแหย่ไม้เข้าไปลึกๆ แล้วไปกระแทกโดนเข้าจะเจ็บมาก
และอาจทำให้เยื่อแก้วหูบาดเจ็บหรือทะลุได้

ฉะนั้น เมื่อสงสัยว่ามีขี้หูอุดตัน ควรไปพบแพทย์
โดยแพทย์จะใช้เครื่องส่องหูตรวจช่องหูชั้นนอกว่าเป็นขี้หูอุดตันจริงหรือไม่

ถ้าเป็นขี้หูอุดตันจริง.....

1.แพทย์จะพยายามนำขี้หูออกให้
อาจโดยการล้างช่องหูชั้นนอกด้วยน้ำเกลือ การคีบหรือดูด
หรือใช้เครื่องดูดขี้หูออก

2.ถ้าไม่สามารถเอาขี้หูออกได้ เนื่องจากขี้หูอัดแน่นมาก
หรือเอาออกได้เพียงบางส่วน
แพทย์จะสั่งยาละลายขี้หูจำพวกโซเดียมคาร์บอเนตให้ไปหยอดที่บ้านประมาณ 1
สัปดาห์ วันละ 7-8 ครั้ง แล้วนัดมาดูอีกครั้ง
ซึ่งหลังจากหยอดยาละลายขี้หูแล้ว จะทำให้ขี้หูอ่อนตัวมากขึ้น
ทำให้แพทย์เอาขี้หูออกได้ง่าย
แต่อาจทำให้ขี้หูในช่องหูขยายตัวและอุดตันช่องหูชั้นนอกมากขึ้น
ทำให้หูอื้อมากขึ้นได้

ครั้งต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้ขี้หูอุดตันอีก ควรปฏิบัติดังนี้

1.อย่าใช้นิ้วแหย่ช่องหูเด็ดขาดเพราะขอบเล็บที่ปลายนิ้วจะทำให้ช่องหูชั้นนอกถลอก
ติดเชื้อและอักเสบได้ง่าย

2.อย่าใช้ไม้พันสำลีทำความสะอาดหู หรือปั่นหูเมื่อน้ำเข้าหูอีก
ควรป้องกันไม่ให้น้ำเข้าขณะอาบน้ำ
โดยหาสำลีชุบวาสลินหรือสวมหมวกอาบน้ำดึงลงมาคลุมถึงใบหู
ในรายที่เล่นกีฬาทางน้ำ
อาจใช้ที่อุดหูสำหรับนักดำน้ำซึ่งมีขายตามร้านกีฬามาช่วย

3.หลายคนมักคิดว่า การทำความสะอาดข้างในช่องหูหรือเช็ดรูหูนั้น
ก็เหมือนกับการทำความสะอาดร่างกายทั่วไป แต่จริงๆ แล้ว
การปล่อยให้มีขี้หูเคลือบช่องหูบ้าง จะดีกว่า เพราะยิ่งเช็ด หรือแคะหูมาก
ช่องหูจะยิ่งแห้ง คันและระคายเคืองได้มากกว่า แต่ถ้าน้ำเข้าหู
อาจใช้ไม้พันสำลี ชนิดเนื้อแน่น ขนาดเล็กซับน้ำที่ปากช่องหูเล็กน้อยก็พอ
แต่ถ้าน้ำเข้าหูเป็นชั่วโมงแล้ว ยังไม่ออกมา หูยังอื้ออยู่
ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีขี้หูซึ่งอยู่ในส่วนลึกของช่องหู อมน้ำไว้
ถ้ามีอาการเช่นนี้ควรให้แพทย์หู-คอ-จมูก ตรวจทำความสะอาดช่องหูจะดีที่สุด

4.ในรายที่ขี้หูแห้ง อาจใช้ยาละลายขี้หู หยอดรูหูเป็นประจำ
เพื่อทำการล้างขี้หู อาจใช้เพียงอาทิตย์ละครั้ง ถ้าไม่มีปัญหา
อาจห่างออกไปเป็น 2 หรือ 3 หรือ 4 อาทิตย์ หยอด 1 ครั้ง
ก็จะช่วยลดการอุดตันของขี้หูในช่องหูชั้นนอกได้

เพียงเท่านี้........ ท่านก็จะไม่พบกับปัญหาขี้หูอุดตันอีกต่อไป

บทความโดย: ผศ. นพ.ปารยะ อาศนะเสน แพทย์ด้านหู คอ จมูก

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000085921

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น