...+

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ติดเครื่องทำน้ำอุ่น

คอลัมน์ ครบเครื่องเรื่องรักษ์บ้าน

โดย ช่างอ้วน

คุณสมัคร (นนทบุรี) กำลังตัดสินใจจะสร้างบ้านด้วยโครงสร้างเหล็ก
แต่เห็นว่าช่วงนี้เหล็กปรับราคาสูงขึ้นมาก
จะทำให้บ้านที่สร้างมีราคาสูงกว่าบ้านที่สร้างด้วยคอนกรีตหรือไม่?

ตอบคุณสมัคร การก่อสร้างบ้านด้วยโครงสร้างเหล็ก(เสา คานและโครงหลังคา)
เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมานี้
โดยมีราคาค่าก่อสร้างประมาณ 7,500-15,000 บาท/ตารางเมตร
ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับบ้านที่ก่อสร้างโดยทั่วไป
ส่วนใหญ่แล้วราคาวัสดุของบ้านโครงสร้างเหล็กจะสูงกว่าคอนกรีตเล็กน้อย
แต่จะมีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถลดระยะเวลาในการก่อสร้างลงได้มาก
จึงทำให้การสร้างบ้านเสร็จเร็วขึ้น
และทำให้ประหยัดค่าแรงได้มากพอสมควรทีเดียว
ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่าราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น
อาจทำให้ราคาค่าก่อสร้างสูงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้นครับ

คุณขวัญหญิง (ขอนแก่น)
บอกว่าใกล้เข้าหน้าหนาวแล้วจึงอยากขอคำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น

ตอบคุณขวัญหญิง เครื่องทำน้ำอุ่นมีหลายประเภท
ซึ่งถ้าแยกตามการใช้พลังงานแล้ว จะแยกได้ประมาณ 3 ประเภท คือ
1.ประเภทที่ใช้ไฟฟ้า
ซึ่งเป็นประเภทที่นิยมมากในบ้านเราหรือทั่วโลกก็ว่าได้ 2.แบบใช้แก๊ส
ติดตั้งยาก ดูแลรักษาลำบากแต่ประหยัดดี ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก
3.แบบที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดค่อนข้างใหญ่ ราคาแพง ติดตั้งยุ่งยาก
แต่ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าเป็นการช่วยชาติทางอ้อม
ยังไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก ซึ่งจากทั้ง 3 ประเภทนี้
ผมขอแนะนำวิธีเลือกและใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้านะครับ

1) ประการแรกเลย
ควรเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีขนาดเหมาะสมกับมิเตอร์ไฟของบ้านครับ
เช่นถ้าเป็นมิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ก็ไม่ควรใช้เกิน 3,000 วัตต์
และไม่ควรเปิดเครื่องที่ความร้อนสูงสุดเพราะจะทำให้กระแสไฟเกิน
ไฟจะดับทั้งบ้านเลยครับ

2) ประการต่อมา ควรตรวจสอบแรงดันน้ำที่บ้านเสียก่อนว่าเพียงพอต่อการใช้กับเครื่องทำน้ำอุ่นหรือไม่
ถ้าไม่พอคงต้องติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่ม

3) ควรเลือกใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีตัวป้องกันไฟรั่ว ( ELB หรือ ELCB )

4) ควรเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีหม้อต้มในตัวแทนเครื่องที่ให้ความร้อนโดยตรง
ยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น
เพื่อจะได้ความร้อนที่สม่ำเสมอและช่วยประหยัดไฟ

5) ควรติดตั้งวาล์วน้ำก่อนเข้าเครื่องทำน้ำอุ่น
ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมเครื่อง

6) ควรติดตั้งหัวฝักบัวให้อยู่ในระดับเดียวกับตัวเครื่องหรือต่ำกว่าเล็กน้อย
จะทำให้ปริมาณน้ำอุ่นไหลออกจากเครื่องได้สะดวก

7) ควรหมั่นทำความสะอาดชุดกรองน้ำของเครื่อง และที่ฝักบัวอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อการไหลเวียนที่ดีของน้ำและการทำความร้อนได้ตามปกติ

8) ไม่ควรปรับปริมาณความร้อนของน้ำที่อาบเกินความจำเป็น
และควรปิดเครื่องทำน้ำอุ่นทุกครั้งหลังเสร็จสิ้นการใช้งาน

9) ประการสุดท้าย
ควรตรวจสอบการทำงานของสวิตช์ตัดตอนป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว ( ELB )
อยู่เสมออย่างน้อยเดือนละครั้งครับ', 2,

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น