นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
"มาร์ค" ยกพระราชเสาวนีย์ พูดถึงความสำเร็จของ "เยาวชนไทย"
ถือเป็นพรสูงสุด วอนรักษาความดีไว้ ขอบคุณที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ
ถือเป็น
กำลังใจให้ประชาชนในภาวะสังคมมีความเครียด
เตือนสติตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลง ไม่นานเด็กประถมจะแซงหน้า ฉุกให้คิด
"อย่าหลงตัวเอง" แนะสร้าง
สรรค์ผลงานต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (18 ส.ค.) ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี
ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ นำคณะผู้แทนประเทศไทย
ที่
เดินทางไปแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิก ระหว่างประเทศ ประจำปี
พ.ศ.2552 เข้าเยี่ยมคารวะ และรายงานผลการแข่งขัน ต่อนายอภิสิทธิ์ เวช
ชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายชัยวุฒิ ได้กล่าวรายงานผลการแข่งขัน ประจำปี 2552 ว่า
ผู้แทนประเทศไทยที่ไปเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิก
ระหว่าง
ประเทศ จำนวน 23 คน ได้รับรางวัลรวม 4 เหรียญทอง 18 เหรียญเงิน และ 1
เหรียญทองแดง ดังนี้
วิชาคณิตศาสตร์ คัดเลือกผู้แทนประเทศไทย 6 คน ไปแข่งขัน ณ
เมืองเบรเมน ประเทศเยอรมนี ผู้แทนประเทศไทยได้รับรางวัล 1 เหรียญทอง และ
5
เหรียญเงิน และได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 7 ของการแข่งขันในครั้งนี้
วิชาคอมพิวเตอร์ คัดเลือกผู้แทนประเทศไทย 4 คน ไปแข่งขัน ณ
เมืองปลอฟดิฟ ประเทศบัลแกเรีย ผู้แทนประเทศไทยได้รับรางวัล 1 เหรียญทอง 2
เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง
วิชาเคมี คัดเลือกผู้แทนประเทศไทย 4 คน ไปแข่งขัน ณ
เมืองเคมบริดจ์ และออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ผู้แทนประเทศไทยได้รับ 4
เหรียญเงิน
วิชาชีววิทยา คัดเลือกผู้แทนประเทศไทย 4 คน ไปแข่งขัน ณ
เมืองซึคูบา ประเทศญี่ปุ่น ผู้แทนประเทศไทยได้รับรางวัล 1 เหรียญทอง และ
3 เหรียญเงิน
วิชาฟิสิกส์ คัดเลือกผู้แทนประเทศไทย 5 คน ไปแข่งขัน ณ
เมืองเมอริดา ประเทศเม็กซิโก ผู้แทนประเทศไทยได้รับรางวัล 1 เหรียญทอง
และ 4 เหรียญ
เงิน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์
ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่คณะผู้แทนประเทศไทยและผู้เกี่ยวข้อง ว่า
ตนมีความปลาบปลื้มและยินดีกับทุกคนที่ได้สร้างชื่อเสียงให้
กับตัวเองและชาติ บ้านเมืองในทุกๆ สาขาวิชา
โดยสิ่งที่ทุกคนได้สร้างความสำเร็จและได้รับชัยชนะนั้น
นอกจากจะมีความหมายสำหรับครอบครัว คณาจารย์
และสถาบันของเราแล้วนั้น ยังเป็นกำลังใจให้กับประชาชนทั่วไปและสังคมไทย
เพราะในภาวะปัจจุบันต้องยอมรับว่าสังคมไทยมีความเครียด มีความวิตกกังวล
มีความทุกข์จากหลายๆ เรื่อง
แต่พอประชาชนได้เห็นเยาวชนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียง
และได้พิสูจน์ความสามารถของตนเองแสดงให้เห็นว่า เราไม่เป็นรองใคร
ในโลก ซึ่งเป็นกำลังใจให้กับประชาชนคนไทยและสังคมไทยโดยรวม
โดยกว่าจะถึงวันนี้เยาวชนไทยต้องทุ่มเท เสียสละ
ในเรื่องของเวลาและการใช้ความ
สามารถ ความขยันหมั่นเพียรในการที่จะฝึกฝนตนเอง
ซึ่งบางคนต้องเริ่มในการฝึกฝนหรือได้รับดูแลในเรื่องนี้ตั้งแต่ระดับประถม
ด้วยซ้ำ
ดังนั้น รัฐบาลและสถาบันการศึกษา ตั้งใจว่า
เราจะต้องพยายามที่จะฟูมฟักเด็กที่มีความสามารถเป็นพิเศษตั้งแต่เนิ่นๆ
เพื่อที่จะให้สามารถบรรลุสิ่งที่
เป็นศักยภาพความสามารถของเยาวชนทุกคน
รวมไปถึงการส่งเสริมสนับสนุนเป็นขวัญกำลังใจให้กับเยาวชนที่ได้ไปทำชื่อ
เสียงในครั้งนี้
การที่หลายๆ คน ขณะนี้ได้รับทุนการศึกษา
ก็ถือว่าเป็นการได้รับโอกาสที่ดีและยังหวังว่าเยาวชนทุกคน
จะได้รักษาความดี และมีการฝึกฝนตนเองอย่าง
ต่อเนื่อง และได้ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์สำหรับตนเองในอนาคต
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ในแง่ของหน้าที่การงาน และพร้อมๆ กันไป
คือ จะได้ตอบแทนสังคมไทยด้วยการประกอบอาชีพ ก็ยังหวังว่า จะเป็นเรื่องทาง
ด้านวิชาการ ทางด้านการวิจัย ซึ่งจะมีผลตอบแทนกลับมายังสังคม
โดยในบางสาขา เช่น คณิตศาสตร์ ตนเองก็เป็นคนที่สนใจเรื่องนี้
ต้องบอกว่านัก
คณิตศาสตร์นั้น เวลาเหลืออยู่ไม่มาก
ซึ่งมองดูจากคนที่ทำงานสร้างสรรค์ผลงานออกมา ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ
20-30 ปี หลังจากนั้นแล้วจะแข่งขันกับ
คนรุ่นต่อไปยาก
ดังนั้น จึงอยากเตือนไว้ว่า อย่าคิดว่า
เรายังมีเวลาอีกนานที่จะสร้างสรรค์อะไรต่างๆ
เพราะบางสาขานั้นเวลาจะผ่านไปเร็วมาก และการใช้ความสามารถ
อย่างเต็มที่ ที่เรียกว่า ถึงจุดสูงสุดบางทีมาเร็วกว่าที่คิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้โลกได้ก้าวอย่างรวดเร็วในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทาง
ด้านวิทยาการต่างๆ
สาขาอื่นก็เช่นเดียวกัน ถ้าคิดว่าจะประสบความสำเร็จแล้ว
แต่ถ้าไม่ตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
อีกไม่นานเด็กที่อยู่ประถมตอนนี้จะมาแซงหน้า
ไป หรือถ้าสังคมใดไม่ตื่นตัว หรือปรับปรุงตลอดเวลา ก็จะถูกแซงหน้าไป
และขอเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนทุกคน และขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมทั้ง
ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ และผู้จัดการ รวมทั้งองค์กร อย่างเช่น สสวท.และ
ทางกระทรวงศึกษาธิการ สมาคม หน่วยงานต่างๆ
ที่ได้ทำงานกันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
และหวังว่าความสำเร็จตรงนี้จะเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ
สำหรับเยาวชนไทย ต่อไป
"เมื่อ วันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา วันที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานวโรกาสให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพร
และได้มี
กระแสพระราชเสาวนีย์ ซึ่งได้พูดถึงการที่คนไทยจะได้รับโอกาส
แล้วได้พูดถึงความสำเร็จของพวกเรา และรวมทั้งเยาวชนไทยในโอกาสอื่นๆ ด้วย
ผมถือว่า
อันนี้เป็นพรสูงสุดที่พวกเราพึงจะได้รับ
ขอให้รักษาความดีตรงนี้เอาไว้เป็นพลเมือง
และเป็นกำลังสำคัญสำหรับสังคมของเราต่อไปในอนาคต" นายอภิสิทธิ์
กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น