...+

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เสริมข้อดี ขจัดข้อด้อย

จาก หนึ่งสมอง สองมือ
รวมบทสนทนา "ชีวิตธุรกิจ" พ.ศ. 2530
โดย ประสาร มฤคพิทักษ์


ดูจะเป็นที่ยอมรับกันนะครับว่า ทุกคนมีข้อดีและข้อด้อยด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าใคร

คนที่ทำงานเก่ง แต่เจ้าโทสะ
คนที่เข้ากับใครได้ดี แต่ทำงานเช้าชาม เย็นชาม
คนที่แต่งตัวดีมาก แต่ใจแคบเหลือเกิน
คนที่หยุดอยู่กับที่ ไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้
คือคนที่ปราศจากความมุ่งมั่นในการแก้ไขปรับปรุงตนเอง

ผมได้พบเพื่อนบางคนที่ทำงานไม่เก่งนัก แต่ได้ค้นคว้าอ่านหนังสือ
หาวิธีการทำงานที่เป็นระบบ วางแผนการทำงานให้กับตนเองอย่างเป็นขั้นตอน
จนเดี๋ยวนี้ผ่านมา 10 กว่าปี เขาก้าวหน้าขึ้นมากครับ เก่งขึ้น คล่องขึ้น
และคนยอมรับในฝีมือมากขึ้น

ผมได้พบคนขี้โมโหโทโสที่ยอมรับตนเองตามที่คนอื่นมองแล้วเขาก็ไปหาหนังสือของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการมาอ่านฝึกกำลังใจให้รู้จักอดทน
รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
กลายเป็นคนมีอารมณ์เยือกเย็นไปได้ครับในเวลาประมาณ 3
ปีที่เขาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง

พรรคพวกคนหนึ่ง แต่งตัวแสนจะไม่เข้าท่าเข้าทาง ด้วยความเป็นศิลปินอิสระ
พอมาทำธุรกิจ เพื่อนๆ ก็พากันขอร้องให้ตัดผมสั้นหน่อย เสื้อผ้าก็รีดเสีย
ผูกเน็คไทให้เป็น นี่เป็นบุคลิกภาพภายนอกที่จำเป็นในการติดต่อทางธุรกิจ
ก็ปรากฏว่าสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ครับในเวลาไม่ถึง 6 เดือน

นี่คือ การขจัดข้อด้อยของตนเอง รู้ว่าอ่อนตรงไหนก็แก้ตรงนั้น

ส่วนข้อดีนั้น ขอให้เสริมเข้าไป มันเป็นทุนที่ดีอยู่แล้ว
มันพร้อมจะเจริญงอกงามอยู่แล้ว เพราะเป็นดินดีและมีปุ๋ย
คนเป็นนักอ่านหนังสือ อ่านเข้าไปเถอะครับ อ่านแล้ว
นำออกมาใช้ประโยชน์ให้ได้ คนทำงานเก่ง หางานทำมากๆอย่างเข้าไว้
จะได้แสดงผลงานตัวเองออกมาให้ปรากฏ
คนเข้ากับใครได้ดีก็ขอให้เป็นอย่างนั้นตลอดไป ทำดีกว่านั้นได้ก็ควรทำ
เช่น พยายามช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่นด้วย

นี่คือ การเสริมข้อดีของคน ข้อคิดวันนี้ก็คือ เสริมข้อดี ขจัดข้อด้อยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น