...+

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไม่เคยทำชั่ว อย่ากลัวปีศาจ

โดย อัญชะลี ไพรีรัก 29 กรกฎาคม 2552 17:04 น.
เดี๋ยวนี้เป็นงานอาสาสมัครให้กับ "พรรคการเมืองใหม่" ออกเดินสาย
"ปราศรัย" กับพี่น้องพันธมิตรฯ ไปมาหลายจังหวัดแล้วพบว่า
มีทั้งพี่น้องที่เห็นดีเห็นงาม พอๆ กับพี่น้องที่ไม่สู้จะชอบใจนัก

แต่ก็มีผู้หวังดีเตือนว่า เหนื่อยเปล่า!!! เพราะ "ปราศรัย"
หรือจะสู้ "ปาเงิน" อย่างแรกอาจได้ใจ แต่อย่างหลังได้คะแนนเสียงเต็มๆ

ฟังเสร็จเลือดขึ้นหน้า เลยเดินหน้าปราศรัยมันลูกเดียว
งานการอย่างอื่นเก็บใส่ลิ้นชัก

ก็ให้มันรู้กันไปว่า อำนาจเงินที่คิดแต่จะกอบโกย
ทำลายล้างบ้านเมืองให้พินาศย่อยยับ
จะมีชัยเหนืออำนาจใจบริสุทธิ์ที่คิดจะเปลี่ยนแปลง
และพาบ้านเมืองไปสู่สิ่งที่ดีกว่า งานนี้สุดแสนจะท้าทาย
ต้องเอากันให้เห็นดำเห็นแดงไปข้างหนึ่ง

ล่าสุดเพิ่งกลับมาจากกาญจนบุรี, อุบลราชธานี
และกำลังจะต่อไปที่ตราด, อุดรธานี, หนองคาย, เพชรบุรี
และสุรินทร์...ตารางคร่าวๆ เป็นดังนี้ พื้นที่ใดต้องการรับฟังเรื่อง
"การเมืองใหม่" ติดต่อมาได้ที่ "บ้านพระอาทิตย์"
ยินดีไปทุกงานไม่เกี่ยงเวที ยกเว้น "เวทีเสื้อแดง"

เพราะเวลานี้เวทีเสื้อแดงแรงฤทธิ์ขึ้นทุกวัน ยิ่งหลังงานวันเกิด
60 ปี ในชื่อ "ล้านดวงใจสร้างบุญใหม่เพื่อไทยร่มเย็น"
หรือบางแห่งใช้คำว่า "เพลทั้งแผ่นดิน แด่ทักษิณผู้ปลดหนี้"
กับพิธีหงายบาตร
และจุดพลุยิงสลุตกันเอิกเกริกเกรียงไกรให้กับนักโทษหนีคดี
ยิ่งทำให้ขวัญกำลังใจคนเสื้อแดงยิ่งฮึกเหิม

ล่าสุดเห็นพันธมิตรฯ หัวหินเล่าว่า
เสื้อแดงตั้งเวทีปราศรัยพร้อมล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาฯ
ขอพระราชทานอภัยโทษให้นักโทษชายทักษิณที่บริเวณใกล้กับ "วังไกลกังวล"
ที่ประทับของล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้งสองพระองค์
ไม่รู้ว่าทหารและตำรวจไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันหมด
ปล่อยให้เกิดเรื่องลบหลู่แบบนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน

ยังไม่จบแค่นี้ เพราะมี "พี่ชาย"
คนหนึ่งในแวดวงการเงิน-การธนาคาร ยกหูมาเล่าให้ฟังว่า คนเสื้อแดง
"เคาะประตู" แทบทุกบ้านในหัวหิน เพื่อข่มขู่ขอให้ประชาชนร่วมลงชื่อใน
"ฎีกาแดง" อย่างไม่ยำเกรง...เล่นกันหนักขนาดนี้เลย

เรื่องนี้นับว่าร้ายแรงแล้ว
ยังมีเรื่องต่ำช้าแทรกเข้ามาอีกด้วยวิธีการโสมมของคนสามานย์
เพราะพี่น้องพันธมิตรฯ พัทยา-นาเกลือ เล่าให้ฟังว่า
คนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งอาศัยช่องว่างในความโกลาหล
ดอดเข้าตีประตูหลังบ้านคนทำมาค้าขาย โดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจ "สีเทา"
ในพัทยา

เวลานี้คนทำธุรกิจสถานบันเทิงขนาดกลางและใหญ่ในพัทยา
ถูกคนกลุ่มหนึ่ง "ข่มขู่" เรียกเงินใต้โต๊ะ ถ้าขัดขืนจะโดนดี
โดยจะมีกองโจรเสื้อแดงมาคอย "กรรโชก" ตลอดเวลา ผลคือ
คนทำธุรกิจที่ก้ำกึ่งระหว่างถูก-ผิด ถูกปล้นกลางแดดกันถ้วนหน้า

ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยถูก "รีดไถ" ตามปกติจาก "คนสีกากี"
มาวันนี้โดนสองเด้งจาก "คนเสื้อแดง"
ผสมโรงกันเป็นสังขยาจากคนท้าทายกฎหมายกบิลเมืองสองพวก-เสื้อสองสี
ที่กำลังลามปามไปทั่วทุกเมืองบาป
โดยเฉพาะกับคนค้าขายสินค้าที่ท้าทายพลังศีลธรรมและกฎหมาย

พูดถึงกฎหมายแล้วดีใจที่เห็นครูบาอาจารย์ด้านกฎหมายหลายคนจากสำนักใหญ่ๆ
ออกโรงมาปกป้องสถาบัน และไขข้อข้องใจให้กับประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
เกี่ยวกับ "ฎีกาสีแดง" โดยผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้อธิบายว่า
จะล่าสักกี่ล้านรายชื่อก็ไม่สามารถถวายฎีกาได้เพราะผิดขั้นตอนของกฎหมาย

เพราะกฎหมายกล่าวไว้ว่า
การถวายฎีกาโดยล่ารายชื่อประชาชนนั้นไม่เคยมีมาก่อน และทำไม่ได้
เพราะตามกฎหมาย...ผู้กระทำความผิดและศาลพิพากษาลงโทษทัณฑ์แล้ว
"ต้องรับโทษก่อน" เพื่อเข้ากระบวนการก่อนส่งขึ้นถวายกราบบังคมทูลฯ

ที่สำคัญขั้นตอนการถวายฎีกา หรือขอพระราชทานอภัยโทษ
ต้องเกิดจากตัวผู้กระทำผิดเอง ภริยา หรือบุตร

การเสนอโดยรายชื่อของประชาชน นอกจากจะไม่เหมาะสมแล้ว
ยังไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ดูความสำคัญนี้แล้ว
พอมองเห็นเค้าลางความวุ่นวายที่กำลังก่อตัวขึ้น เหมือนเมฆดำก่อนฝนตก

ถ้าแกะจากคำอธิบายข้อกฎหมายการถวายฎีกาของผู้เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้อง
พอจะเดาได้ว่า ฎีกาของคนเสื้อแดงไม่ว่าจะกี่ล้านรายชื่อก็จะถูกตีกลับ
และบรรทัดต่อไปล่ะอะไรจะเกิดขึ้น มีหรือคนอย่าง "ทักษิณ"
จะยอมแพ้ด้วยเรื่องแค่นี้ เพราะ "ใหญ่" กว่านี้เขายังไม่ยอมก้มหัวให้เลย

ดูอย่างโครงการสถานีโทรทัศน์ 100 ช่องนั่นสิ
แม้คนในรัฐบาลบางคนจะประสานเสียงเสียดสีวิธีคิดของทักษิณไปต่างๆ นานาว่า
เชยบ้างละ หรือไร้ประโยชน์สู้ทีวีของช่องรัฐบาลไม่ได้บ้างล่ะ

แต่อย่าลืมความจริงข้อหนึ่งที่โบราณท่านว่า
น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน

ดูทักษิณโกหกทุกวัน ฟังทักษิณออดอ้อนปลิ้นปล้อนแต่งเรื่องทุกวัน
โดยไม่มีข้อเท็จจริงอีกด้านของทักษิณโกงบ้านกินเมืองมาคานสร้างความสมดุลของ
เหรียญสองด้านให้พี่น้องประชาชนทั่วทั้งแผ่นดินได้ตัดสินใจกับ "คนคนนี้"

สักวันหนึ่งเถิด...คงได้เห็นทักษิณตัวเป็นๆ กลับมาอย่าง "ฮีโร่"
ถ้ายังขืนคิดว่า การพูดความจริงเรื่องทักษิณโกงชาติมักใหญ่ใฝ่สูง คือ
การจองล้างจองผลาญ ไม่สมานฉันท์ คอยดูต่อไปเถอะ
คงได้เห็นบ้านเมืองลุกเป็นไฟ และคนไทยลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันเอง
ด้วยแรงยุจากคนร้อยลิ้นกะลาวน โดยอาศัยฐานเชื้อเพลิงชั้นดีจากทีวี 100
ช่อง

ตัวอย่างเห็นกันชัดๆ
จากโทรทัศน์สีแดงที่แพร่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคยกเว้นภาคใต้
เพราะบัดนี้สามารถหาดูได้อย่างง่ายดายจากเคเบิลทีวีท้องถิ่น
ทั้งนี้ยังไม่นับวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ดหน้าฝน

คนพวกนี้ผลิตรายการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อช่วยทักษิณคืนเมือง
โดยไม่สนใจบรรทัดฐานของกฎหมายและหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น

ขณะที่คนของรัฐบาลบางคนยังทำปากกล้าหน้ามึน วันๆ
คิดแต่จะหามุกใหม่ๆ มาเถียงเขาฉอด ฉอด ฉอด
แล้วพอใจกับการพูดจาส่งเดชไปวันๆ โดยไม่ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน

ครั้นพอจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ก็ไร้รสนิยมเลอะเทอะ
จนแทบพาเอา "นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์" ตกคู-ตกเหวจากคำอวยพรวันเกิด 60
ปีทักษิณ ที่ทีมงานลอกมาจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยแล้วใส่ในทวิตเตอร์นั่นไง

"เนื่องในวันคล้ายวันเกิดที่ท่านคงเหมือนคนอื่น คงอยากมีความสุข
หากท่านจะดวงตาเห็นธรรม ท่านจะมีความสุขมากขึ้นครับ"

งามหน้าไหมล่ะ ถูกทักษิณตอกกลับนิ่มๆ ผ่านทวิตเตอร์ของเขา ว่า

"ขอขอบคุณท่านนายกฯ มาก ขอเป็นกำลังใจในการแก้ปัญหาบ้านเมือง
หากมีอะไรที่ผมช่วยได้ก็ยินดี"

เวลานี้สื่อเสื้อแดงเอาไปขยายความจนทุกวันนี้ก็ยังไม่เลิก

งานนี้ต้องโทษ "น้องตาลเมืองตรัง" ที่สะเพร่าเอาแต่คุย
แถมโม้และยโสจนคนเขาเอือมระอาด่ากันอึงมี่

ผลเป็นไง เอแบค โพลล์ สำรวจความนิยมประชาชน 17 จังหวัดทั่วประเทศ
ทักษิณมีคะแนนนิยมเหนืออภิสิทธิ์ร้อยละ 34 ต่อ 32.9
โดยคะแนนนิยมของอภิสิทธิ์ลดลงจากเดือนมีนาคมที่อยู่เคยอยู่ที่ระดับร้อยละ
50.6 ตอนนั้นทักษิณมีคะแนนนิยมร้อยละ 23.6 ทั้งนี้คะแนนนิยมในภาคเหนือ
ภาคกลาง และเขต กทม.ใกล้เคียงกัน แต่ที่อีสานทักษิณชนะขาดด้วยคะแนนร้อยละ
44 ต่อ 18 ส่วนภาคใต้อภิสิทธิ์ชนะระเบิดด้วยคะแนน 66 ต่อ 8

งานนี้ถ้าไม่ใช่เพราะอิทธิพลของสื่อทางเลือกที่ทักษิณเลือกทำ
และแผนการตลาดของทักษิณที่ป้อนให้สื่อทั่วๆ ไปงับเล่น
ขณะที่การบริหารงานสื่อมวลชนของรัฐบาลล้มเหลวไม่เป็นท่า
ถ้าไม่โทษพ่อตาลเดี่ยวยืนต้นคนนั้นแล้วจะให้โทษใคร

ขณะนี้คนไทยทั่วๆ ไปแทบลืมสิ้นแล้วว่าทักษิณเลวอย่างไร
และสื่อมวลชนทั่วๆ ไปแทบไม่กล้าแม้แต่จะนำ "ความจริง"
เรื่องทักษิณกินเมืองมาตีแผ่ให้ปรากฏอย่างจริงจัง
ของแบบนี้ถ้ารัฐไม่นำร่อง ใครอื่นหมื่นแสนหรือจะกล้าแหยม
พอดีพอร้ายจะแห้งตายอย่าง ASTV นั่นไง ที่วันนี้ต้องทำทั้ง "ข่าว" และขาย
"ข้าว" เลี้ยงตัวไปวันๆ

จะว่าไปคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงนี่ก็ช่างกระไร
ไม่แยแสกับความเป็นความตายของชาติบ้านเมืองที่กำลังจะพังพินาศด้วยน้ำมือ
ทักษิณกันเสียเลย

เป็นถึงคนคุมความมั่นคงภายในประเทศ แต่กลับปล่อยให้เสื้อแดง
และหัวหน้าของมันอาละวาดไปทั่วทั้งแผ่นดินอย่างไม่ยำเกรงตัวบทกฎหมาย
ทั้งปิดถนน ประท้วง เผาเมือง ล่ารายชื่อกดดันพระเจ้าอยู่หัว
ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ผลิตสื่อทางเลือกมอมเมาประชาชน
ชักจูงให้พสกนิกรเห็นผิดเป็นชอบ ใส่ร้ายป้ายสีสถาบันสูงสุด
ขาดสิ้นแล้วซึ่งความเคารพและจงรักภักดี

เดี๋ยวนี้มีภาพของนักโทษหนีคดีผุดขึ้นมาแทนที่ในรูปแบบเพลง
และมิวสิควิดีโอ ที่ดูไปก็คล้าย "สรรเสริญพระบารมี" ไม่ผิดเพี้ยน
ไปหาดูได้จากทีวีเสื้อแดง
และรับฟังคำสรรเสริญเยินยอเหล่านี้ได้จากวิทยุชุมชนที่เกลื่อนไปทั้งบ้าน
ทั้งเมือง สมกับที่คุณสุเทพพร่ำเพ้อว่า
"คนมีเงินกำลังทำลายสถาบัน"....พูดแล้วจะทำยังไงต่อละ

ยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมือง โลกล้อมไทย และน้ำหยดลงหิน
จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่เพราะมัวท่องแต่คำว่า "ไม่มีเขา
เราไม่ได้เป็นรัฐบาล"
และล่าสุดถึงกับเปรยให้ข้าราชการจัดการฉุดประชาชนขึ้นมาจากการเป็นทาสของ
กลุ่มเสื้อหลากสี

ไม่นึกไม่ฝันว่าวันนี้จะได้ยินกับหู เห็นกับตา
ว่าคุณสุเทพมองพันธมิตรฯ เป็นทาสของเสื้อสีเหลือง!!! แล้วปล่อยให้
ประชาชนผู้รู้ไม่เท่าทันก็ตกเป็นทาสข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนของทักษิณต่อไป

ดูตามแผงหนังสือวันนี้สิ
มีแต่เรื่องราวของทักษิณในด้านดีเต็มพรึ่ดไปหมด
คุณสุเทพปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร หน่วยงานต่างๆ
หายไปไหนกันหรือ จึงนอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น
ทำไมไม่มีใครออกมาพูดออกมาเตือนสติประชาชน หรือ
เงินบาปของทักษิณเป็นชนักปักหลังอยู่

ถ้าคุณสุเทพยังไม่รู้ว่า
รากเหง้าของปัญหาชาติบ้านเมืองอยู่ที่ไหน ถ้ายังเสแสร้งไม่รู้ว่า
ทักษิณคือปัญหา และยังไม่รู้ว่าจะหาทางแก้อย่างไร

ก็จงอย่าอยู่ขวางทางคนอื่นเขาต่อไปอีกเลย นี่พูดจริงไม่เล่น

เหมือนกับ พี่ป. สีเขียวคนนั้นไง ขึ้นชื่อว่าน้องใคร ใครก็รัก
แม้น้องจะนั่งตะบักตะบวยไม่ช่วยอะไรให้บ้านเมืองเลยนอกจากช่วยตัวเอง
ซึ่งก็แทบทำไม่ได้จนร้อนถึงพี่ชายต้องอุ้มเข้าเอว
ออกมาอาละวาดฟาดงวงฟาดงา ถามว่า น้องหนูผิดอะไร ทำไมต้องปลด

รู้ไว้ด้วยว่าตอนนี้เอวของชายคนนี้เริ่มเคล็ด
เพราะไหนจะอุ้มแม้วข้างหนึ่งตามสัญญาว่าจ้าง
แล้วยังต้องอุ้มน้องอีกข้างหนึ่งตามสัญญาใจที่ให้ไว้กับมารดา

เล่นบทหน้าซื่อตาใสเอาแต่ใจกันแบบนี้ คงต้องย้อนกลับไปถามว่า
แล้วถ้ามีคนในเครื่องแบบกลุ่มหนึ่งขนอาวุธสงครามอันประกอบด้วย กระสุน 200
นัด และระเบิด 2 ลูกมายิงคนในครอบครัวคุณละ
คนอย่างพวกคุณจะยอมให้เรื่องมันจบๆ
กันไปอย่างง่ายดายโดยไม่ทำอะไรไหม...พวกคุณก็ต้องไม่ยอม

แล้วถ้าคุณสาวต่อไป สู้ต่อไป จากนั้นก็พบว่า
มีตำรวจใหญ่นั่งเป็นจระเข้ขวางคอ
ขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนล่ะ
คุณจะเรียกร้องให้ปลดเขาออกไหม เชื่อว่าคนอย่างพวกคุณจะทำ.

ผิดแต่ว่าวันนี้คุณไม่ใช่เรา
และเราเป็นเพียงแค่นักสื่อสารมวลชนคนธรรมดาที่กล้าสู้ กล้าตาย และโดนยิง

ไม่ใช่คนบุญหนักศักดิ์ใหญ่อย่างพวกคุณ...ที่นั่งเสวยสุขบนกองเลือด
และคราบน้ำตาของประชาชน

บ้านนี้เมืองนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีขื่อมีแป ใครทำอะไรไว้
ต้องได้รับโทษทัณฑ์ตามนั้น ไม่เว้นแม้แต่ "คนอย่างคุณ"

สักวันหนึ่งความจริงซึ่งสถิตบนศาลยุติธรรม
จะกระชากหน้ากากคนขลาดผู้หิวโหยอำนาจและทะเยอทะยานอย่างพวกคุณออกมาให้สังคม
ได้รู้แจ้งว่า

ใครกัน คือผู้อยู่เบื้องหลังความหายนะทั้งปวงของชาติบ้านเมืองในวันนี้
และใครกันช่วยคนโฉดปกปิดความจริงด้วยอาวุธสงครามหลากชนิด คมกระสุนเกือบ
200 นัด และระเบิดอีก 2 ลูก และใครกันกำหนดท่าทีที่แข็งขืนกับการ
"ปลดตำรวจคนนั้น" ด้วยคำพูดที่ว่า

"ปล่อยให้พวกบ้านพระอาทิตย์มันด่าต่อไปเรื่อยๆ
มันจะกล้ามาทำอะไรเราได้ ไม่ต้องกลัวพวกมัน"...จำได้ไหมว่า
ใครพูด...พูดกับใคร...หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง

อีกไม่นานกาลเวลาจะพาความจริงมายืนยันบนชั้นศาลต่อหน้าประชาชน

ถึงวันนั้นประชาชนผู้รู้แจ้ง จะเป็นผู้ตัดสินตัวตนของพวกคุณ
ถึงนาทีนี้จงสาดวาทะที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉลกันต่อไปตามสบาย

แต่อย่าลืมสิ คนจีนเขาถือกันว่า "หากไม่เคยทำชั่วอันใด
เหตุใดต้องกังวลว่าปีศาจมาเคาะประตูบ้าน"

อุ้มกันได้ อุ้มกันต่อไป ระวังตัวไว้
เทวดาแห่งความจริงกำลังปรากฏในเร็ววันนี้
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000085890

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น