...+

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Beauty Toxic สวยเสี่ยง ภัยเงียบจาก"เครื่องสำอาง"!

Beauty Toxic สวยเสี่ยง ภัยเงียบจาก"เครื่องสำอาง"!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2552 07:40 น.
"อยากสวย!!!" นี่คือปรารถนาสุดยอดในใจของสาวๆ เกือบทั้งโลก
ยุคนี้สาวๆ ใจกล้าบางคนพึ่งพามีดคมกริบของหมอศัลยแพทย์ ในขณะที่แทบทุกคน

อาศัย "เครื่องสำอาง" ในการตกแต่งใบหน้ารวมถึงผิวพรรณด้วยหลัก
"เสริมจุดเด่น ลบจุดด้อย"
ทำให้ตลาดคอสเมติกของโลกขยายขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อ

สนอง Supply ให้ทันต่อ Demand
ซึ่งนั่นส่งผลให้มีการผลิตเครื่องสำอางออกมานับหมื่นนับแสนชนิด
จากทั้งยี่ห้อระดับไฮเอนด์ ไปจนถึงระดับ "แบกะดิน"

แผ่นพับแสดงผลร้ายของการใช้เครื่องสำอางเถื่อนของอย.
ภญ.พรพรรณ สุนทรธรรม เภสัชกรชำนาญการพิเศษ คณะกรรมการอาหารและยา
(อย.) ให้ข้อมูลไว้ในเอกสารการบรรยาย "เครื่องสำอางอันตราย ตื่น

เถิดผู้บริโภคทั้งหลาย" ว่า อาการแพ้สารเคมีในเครื่องสำอางมีหลายระดับ
ตั้งแต่อาการผิดปกติเล็กน้อย เช่น ผื่นคันที่ผิวหนัง ไปจนถึงขั้นอักเสบ
และในกรณี

เครื่องสำอางผิดกฎหมายที่ผสมสารมีพิษลงไปอาจส่งผลต่ออวัยวะภายใน
ถึงขึ้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

"แม้แต่เครื่องสำอางที่มีการรับรองคุณภาพ
หากไม่ถูกกับผิวก็มีโอกาสแพ้ได้เหมือนกัน ยิ่งในกรณีเครื่องสำอางเถื่อน
ไม่ได้มาตรฐาน และมีการผสม

สารต้องห้ามผิดกฎหมายลงไปนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อันตรายมากจนชนิดคิดไม่ถึง"

***น้ำยาทำสีผม-น้ำยาดัดผม

เภสัชกรชำนาญการพิเศษรายนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องสำอางชนิดต่างๆ
ที่ใช้สำหรับแต่ละส่วนของร่างกาย
ที่มีโอกาสทำปฏิกิริยาต่อร่างกายทำให้แพ้

โดยเริ่มตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับส่วนบนสุดของร่างกายอย่าง "ผม"

"ผลิตภัณฑ์ ย้อมผมชนิดสีติดทนหรือย้อมถาวรและผลิตภัณฑ์ดัดผม
ประกอบด้วยสารเคมีที่แรง และ มีความเป็นด่าง
หากใช้ในขณะที่หนังศีรษะมีรอย

ถลอก เป็นแผล หรือโรคผิวหนัง จะเกิดการแพ้ จนถึงขั้นรุนแรงได้
เป็นเครื่องสำอางที่ต้องระวังมาก เพราะมีโอกาสแพ้สูง

แต่ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำสีผมเอง
มักจะไปใช้บริการร้านเสริมสวย
ซึ่งลูกค้าจะไม่ค่อยมีโอกาสได้อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ หรือแม้ช่างเสริม

สวยก็อาจมองข้ามคำเตือนเหล่านี้
เนื่องจากทั้งผลิตภัณฑ์ย้อมผมชนิดสีติดทนและผลิตภัณฑ์ดัดผมมีความเป็นด่าง
เมื่อใช้แล้วหนังศีรษะอาจมีความ

อ่อนแอช่วงขณะหนึ่ง ดังนั้นหากจะใช้ 2 ผลิตภัณฑ์นี้
ต้องทิ้งระยะเวลาให้ห่างกันประมาณ 15 วัน
เพื่อให้หนังศีรษะแข็งแรงพอที่จะรับสภาพได้ มิฉะนั้น อาจ

เกิดการแพ้ที่รุนแรงได้"

***ครีมหน้าขาว-หน้าเด้ง

ถัดมาที่บริเวณใบหน้ากันบ้าง ภญ.พรพรรณ ระบุว่า
เป็นสิ่งที่ห่วงที่สุด และทางอย.เองก็พยายามรณรงค์ให้ข้อมูลมาตลอด
เพราะถ้าพูดถึงใบหน้าแล้ว

คุณสาวๆ ทั้งหลายร้อยทั้งร้อยย่อมอยากจะมีใบหน้าที่ขาวนวลชวนมอง
เครื่องสำอางที่ผู้หญิงกลุ่มนี้เลือกใช้ก็คือกลุ่มที่เรียกว่า
"ครีมหน้าเด้ง"

"มี ครีมที่ผู้ผลิตโฆษณาว่าทาแล้วจะลดสิวฝ้าหน้าใสเด้งอยู่เป็นจำนวนมากในท้อง
ตลาด ที่มีส่วนผสมของสารที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางอย.ตรวจพบว่ามี

การลักลอบใช้สาร3ชนิดที่พิสูจน์ชัดแล้วว่าอันตราย คือ สารปรอท
อันตรายที่เกิดคือ ทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง
เกิดพิษสะสมของปรอท

ที่สำคัญที่น่ากลัวมากคือ ทำให้ทางเดินปัสสาวะและไตอักเสบ"

สำหรับสารพิษตัวที่2คือไฮโดรควิโนนทำให้เกิดการแพ้ระคายเคือง
เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ที่สำคัญคือ ทำให้ผิวหน้าดำ
เป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย ส่วน

ตัวสุดท้ายคือกรดวิตามิน มีชื่อพ้องคือ เรทติโนอิกแอสิด และ เตรทติโน
อันตราย ที่เกิด คือ ใช้แล้วหน้าแดง ระคายเคือง แสบร้อนรุนแรง
เกิดการอักเสบ ผิว

หน้าลอกรุนแรง แต่ภัยเงียบที่น่ากลัวที่สุดคือครีมเหล่านี้
อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ทำให้ทารกในครรภ์พิการได้

***ลิปสติก-Tint

ภญ.พรพรรณ ให้ภาพเครื่องสำอางยอดฮิต อย่าง "ลิปสติก" ว่า
หน้าที่หลักของลิปสติกคือทาปากให้เป็นสีต่างๆ
ส่วนประกอบสำคัญของลิปสติกก็คือสี

ซึ่งแม้ถูกจะเป็นเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานและมีการรับรองก็ยังพบว่ามีคน
จำนวนไม่น้อยแพ้สีรวมไปถึงสารประกอบในลิปสติก ทำให้ไม่สามารถจะทา

ลิปสติกได้

"ลิปสติก เป็นเครื่องสำอางที่ใช้กับริมฝีปาก
มีโอกาสกาลเข้าปากหรือกลืนกินเข้าไปได้ง่าย
ดังนั้นการเลือกซื้อต้องระมัดระวัง และในส่วนของลิปสติก

เถื่อนนั้น ข้อมูลจากการเฝ้าระวังและตรวจวิเคราะห์ลิปสติกที่ไม่มีฉลากภาษาไทยของอย.
พบสีหลายชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขห้ามใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534

เนื่องจากทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง"

เภสัชกรหญิงแห่งอย.รายนี้บอกเล่าถึงเครื่องสำอางที่ใช้กับปากอีก
ตัวอย่าง "เจลทาปาก" หรือ Tint
ที่เคยเป็นข่าวว่าวัยรุ่นนิยมใช้ทาริมฝีปากด้านใน ว่า

ใช้หลักการเดียวกัน คือ ถ้าดูแล้วว่าผิดกฎหมายในเบื้องต้นเรื่องฉลาก
เมื่อพบแล้วห้ามซื้อมาใช้ เพราะการทาริมฝีปากด้านใน มีโอกาสกลืนกินมาก
หากเป็น

ผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย นอกจากเรื่องสีที่ไม่อนุญาต อาจมีโลหะหนักเช่น
ตะกั่ว จะยิ่งอันตรายมากขึ้น

***ครีม โลชั่นทาผิว บำรุงผิว

เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีรายงานการแพ้ค่อนข้างสูง
ภญ.พรพรรณอธิบายถึงสาเหตุที่กลุ่มนี้ได้รับรายงานมาก
เนื่องจากเป็นกลุ่มเครื่องสำอางกลุ่มใหญ่

หลากหลายทั้งประเภท ทั้งใช้กับผิว ใบหน้า บอดี้ หรือใช้เฉพาะที่อย่างตา
ฝ่ามือ ฝ่าเท้า, ชนิด ที่มีทั้งแบบกลางวัน กลางคืน มีแดด ไม่มีแดด
และยี่ห้อที่มี

สารพัด ซึ่งจากรายงานที่ทางอย.ได้รับ พบว่าอาการแพ้ที่พบมีหลากหลาย
ตั้งแต่ มีผื่นคันเล็กน้อย จนถึงขั้นผิวอักเสบ สาเหตุการแพ้มีหลากหลาย
ทั้ง เป็น

การแพ้เฉพาะบุคคล เช่น แพ้น้ำหอม หรือ สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบ


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000083006

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น