สธ.เตือนเด็กและ วัยรุ่นที่ชอบนอนดึก จากแช็ต ติดเกม ดูบอล
เที่ยวกลางคืนเป็นประจำ จะเติบโตช้า ความจำลดลง
ส่วนผู้ใหญ่มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะสมองสั่งการช้า
แนะประชาชนให้ความสำคัญกับการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดความเสี่ยงโรคติดต่อ เลี่ยงมะเร็ง
หัวใจ
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า
ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง
เกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากการคมนาคมที่สะดวก
ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคและเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น
ซึ่งโรคติดต่อบางโรคเป็นโรคใหม่ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน เช่น
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เป็นต้น การดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง
ไม่ติดเชื้อโรคได้ง่าย จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด ทั้งนี้
การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์
ออกกำลังกายสม่ำเสมอแล้ว สิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามไปก็คือ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน เนื่องจากช่วงที่เรานอนหลับ
ร่างกายจะมีการซ่อมแซมระบบต่างๆ ที่สึกหรอ
และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
โดยมีงานวิจัยพบว่าคนที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
จะมีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
น้อยกว่าคนที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ
เจ็บป่วยง่าย และมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง
โรคเบาหวาน เป็นต้น
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในระหว่างที่นอนหลับ
ร่างกายยังมีการผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นในการเจริญเติบโต
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่อยู่กำลังอยู่ในวัยเด็กและวัยรุ่น น่า
เป็นห่วงว่าปัจจุบันวัยรุ่นมีพฤติกรรมในการนอนดึกมากขึ้นจากหลายสาเหตุ
เช่น ติดเกม การสนทนากับเพื่อนทางอินเทอร์เน็ต
รอดูถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอล การคุยโทรศัพท์
รวมทั้งเที่ยวกลางคืนเป็นประจำ เป็นต้น ทำให้เกิดผลเสียตามมา
ที่เห็นได้ชัดคือ ร่างกายเจริญเติบโตช้า ไม่มีสมาธิในการเรียน
ง่วงเหงาหาวนอน เรียนไม่รู้เรื่อง ประสิทธิภาพในการเรียนและการจดจำลดลง
ส่วนผู้ใหญ่ หากนอนไม่พอจะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานเช่นกัน
และยิ่งหากเป็นการทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับเครื่องจักรเครื่องกล
หรือการขับรถยนต์ อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
เพราะระบบความคิดการตัดสินใจจะเชื่องช้าลง
"ประชาชนควรให้ความสำคัญกับเรื่องของการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เด็กวัยรุ่นควรนอนอย่างน้อยวันละ 9 ชั่วโมง ส่วนผู้ใหญ่วันละ 7-8 ชั่วโมง
และต้องนอนหลับให้สนิทจริงๆ โดยเข้านอนแต่หัวค่ำ
หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ก่อนเข้านอน 5 ชั่วโมง
ไม่ควรแก้ง่วงด้วยการดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม ก่อนเข้านอน
เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นความตื่นตัวของร่างกาย โดยเฉพาะกาแฟจะมีฤทธิ์นานถึง
6-8 ชั่วโมง ทำให้ร่างกายไม่ได้พักเต็มที่ และยิ่งอ่อนเพลียมากขึ้น"
นายแพทย์สุพรรณกล่าว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000069815
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น