จาก การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสกลนคร และจังหวัดศรีสะเกษ กกต.
ต้องพิสูจน์ถึงความถูกต้องยึดหลักของกฏหมายและคำตัดสินของศาล
เป็นหลักการณ์เพื่อทำให้บ้านเมืองมีขื่อแป
มิฉะนั้นแล้วบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่รอดปลอดภัยได้อย่างไร
การหาเสียง ที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดศรีสะเกษ
พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ชูธงนักโทษชายหนีคุก เพื่อหลอกลวงประชาชน
ดังเช่น ขุนพลเป็ดง่อยฝั่งธง
ใช้กลยุทธหาเสียงทำให้ประชาชนเข้าใจว่านักโทษชายหนีคุกเป็นหัวหน้าพรรค
ซึ่งเข้าข่ายการหาเสียงหลอกลวงประชาชน
ซึ่งประเด็นนี้คือการทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง
ส่วนประเด็นไม่คำรพคำสั่ง ศาลและทำให้คำสั่งศาลเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์
กรณีนักการเมือง 111 + 109
ถูกศาลตัดสินมิให้ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองภายใน 5
ปีนับแต่วันที่ศาลตัดสิน ซึ่งรวมถึงนักโทษชายหนีคุกด้วย
แต่ปรากฏว่านักโทษชายหนีคุก ทั้งอยู่เบื้องหลังพรรคการเมือง
และกระทำการช่วยพรรคการเมืองหาเสียง
ด้วยการโฟนอินเข้าหาฐานคะแนนเสียงในพื้นที่เขตเลือกตั้ง
ตลอดจนการกล่าวเท็จเรื่องอยากกลับประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองหนีคุก
แต่หาเสียงเรียกคะแนนสงสารหลอกชาวบ้าน
โดยให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่ตนอยู่เบื้องหลังเพื่อช่วยให้ตัวเองได้
กลับประเทศไทย จึงเป็นการพูดโกหกหลอกชาวบ้านเพื่อหวังผลคะแนนเสียงการลือกตั้ง
นอก จากกลเกมการหาเสียงดังกล่าวข้างต้น
เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งที่จังหวัดศรีสะเกษในวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน
2552 โดยลิ่วล้อทาสรับใช้นักโทษชายหนีคุกใช้เล่ห์เหลี่ยมการหาเสียงเอารัดเอา
เปรียบพรรคการเมืองอื่นที่ลงแข่งขันเลือกตั้ง
ด้วยการจัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน 2552
และให้นักโทษชายหนีคุกโฟนอินออดอ้อนหลอกให้รากหญ้ามวลชนคนเสื้อแดงช่วยสนับ
สนุนให้ตัวเองได้กลับประเทศไทย
ตลอดจนพูดทำนองหาเสียงว่าต้องการกลับประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ
ประเทศ ลักษณะการพูดโฟนอินไม่ต่างจากการหาเสียง ทั้ง ๆ
ที่อยู่ระหว่างการหนีคุก โดยมีวาระซ่อนเร้นกับการเลือกตั้ง ณ
จังหวัดศรีสะเกษ
ประเด็นการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน 2552
นั้นคือวิธีการหาเสียงนอกพื้นที่เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าวันรุ่งขึ้น
คือวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2552 จะต้องมีข่าวการชุมนุมของพวกเสื้อแดง
และการเผยแพร่คำพูดโฟนอินของนักโทษชายหนีคุก ผ่านสื่อต่าง ๆ
ทั่วประเทศไม่มากก็น้อย
โดยเฉพาะสื่อที่เป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองลิ่วล้อนักโทษชายหนีคุก
ซึ่งมีรายการข่าวภาคกลางวันทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์
โดยวันเสาร์ทำ ข่าวตีปีบประชาสัมพันธ์เร่งปลุกระดมมวลชน
เพื่อนัดหมายการชุมนุมของพวกเสื้อแดงผ่านสื่อโทรทัศน์ และวันอาทิตย์
รับลูกนำการเคลื่อนไหวของพวกเสื้อแดง ณ ท้องสนามหลวง
และคำพูดโฟนอินของนักโทษชายหนีคุก ถ่ายทอดออกอากาศทางโทรทัศน์อย่างเต็ม ๆ
เกือบจะไม่ได้ตัดตอนแต่อย่างใด ณ สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง
ซึ่งแน่นอนระหว่างการลงคะแนนเลือกตั้ง ณ จังหวัดศรีสะเกษ วันอาทิตย์ที่
28 มิถุนายน 2552
ประชาชนจังหวัดศรีสะเกษผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ออกไปลงคะแนน
เลือกตั้งช่วงเช้า
เมื่อได้ดูข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าวในช่วงบ่ายย่อมมีผลกระทบต่อการ
ลงคะแนนก่อนปิดลงการลงคะแนนเลือกตั้งตอนเย็น
และนี้คือวิธีการหาเสียงในระหว่างวันที่มีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งดี ๆ
นั้นเอง โดยยืมสื่อที่จะเป็นทาสหรือไม่เป็นทาสก็ตามเป็นเครื่องมือในการหาเสียงจน
นาทีสุดท้ายของการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ตลอดจนการปลุกระดมของพวก เสื้อแดงที่จะรวบรวมรายชื่อประชาชนถวายฏีกา
เพื่ออภัยโทษนักโทษชายหนีคุก เป็นการยิงนกนัดเดียวได้นกหลายตัว คือ
แผนหนึ่งใช้ประชาชนบีบบังคับพระมหากษัตริย์ ทั้ง ๆ
ที่รู้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เนื่องจากบ้านเมืองต้องเคารพกติกาและคำ
ตัดสินของศาล โดยเฉพาะนักโทษชายหนีคุกยังมีคดีติดตัวอีกไม่น้อยกว่า 17
คดีที่รอดำเนินการชั้นศาลและอัยการอยู่ในขณะนี้
เมื่อเป็นไปไม่ได้ก็จะใช้แผนสองปลุกระดมโจมตีทำลายสถาบันต่อไปฐานไม่ให้อภัย
นักโทษชายหนีคุก
ดังนั้น กกต. จะต้องดำเนินการประเด็นดังกล่าวให้เป็นไปตามกฏหมายโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้
ร้องเรียน เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. โดยตรง
และหวังว่าความยุติธรรมถูกต้องยังคงมีเหลืออยู่ในแผ่นดินไทย
เพื่อรักษาแผ่นดินนี้ให้ลูกหลานเหลนโหลนสืบไปในภายหน้าได้มีพสุธาอาศัย
และทำมาหากินกันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ถ้ายังปล่อยให้คนชั่วย่ำยีประเทศแน่ใจได้อย่างไรว่าแผ่นดินนี้จะมีชื่อ
ว่า "แผ่นดินไทย"
ประชาชน
28 มิถุนายน 2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น