...+

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ประชุมสภาพันธมิตรฯ คึกคัก จับตาโหวตตั้งพรรคการเมือง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 09:17 น.
บรรยากาศงาน 193 วัน รำลึก 1
ปีแห่งการต่อสู้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินหน้าสู่การเมืองใหม่
การประชุมสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินหน้าสู่การเมืองใหม่
ขณะนี้มีประชาชนเดินทางสู่สถานที่จัดงานแล้ว
บางส่วนเดินทางมาถึงตั้งแต่เช้ามืด เช่น จาก จ.เชียงใหม่ กาฬสินธุ์
กระบี่ นครศรีธรรมราช เป็นต้น
ภายในงานมีการจัดเก้าอี้เพื่อรองรับพันธมิตรฯ กว่า 3,000 ที่นั่ง
โดยแบ่งที่นั่งเป็นพื้นที่ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก
ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้
และกลุ่มเครือข่ายองค์กรพันธมิตร
ส่วนการรักษาความปลอดภัย
มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังจากสถานีตำรวจภูธรต่างๆ เช่น สภ.คูคต
สภ.คลองสิบสอง ร่วมรักษาความปลอดภัยกว่า 2 กองร้อย
ในพื้นที่รอบนอกสถานที่จัดงาน
ส่วนพื้นที่ภายในเป็นการรักษาความปลอดภัยจากการ์ดพันธมิตรฯ
สำหรับประเด็นที่น่าจับตา คือ
จะมีการสอบถามถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ หรือไม่

"ศิริชัย" มั่นใจเกิดพรรคพันธมิตรฯ ผลักดันการเมืองใหม่ในระบบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 15:20 น.
นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่
2 กล่าวถึงการหยั่งเสียงประชาชนที่เดินทางมาร่วมประชุมสภาพันธมิตรในช่วงเช้า
โดยเห็นว่าเป็นไปได้สูงที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ
แต่ทั้งหมดเป็นการพูดเบื้องต้นต้องรอดูรายละเอียดจากแบบสอบถามว่าจะมีข้อ
สรุปอย่างไร ยืนยันแม้มีพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรฯ เกิดขึ้น
แต่ต้องมีพลังมวลชนคอยขับเคลื่อนในภาคประชาชนต่อไป
พรรคการเมืองแค่แสดงออกถึงเจตจำนงเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร
เพื่อการตรวจสอบและผลักดันการเมืองใหม่ในระบบเท่านั้น ทั้งนี้
เชื่อว่าจะมีแกนนำรุ่นที่ 1
เพียงบางคนร่วมในพรรคการเมืองพันธมิตรที่จะจัดตั้งขึ้น
ย้ำพรรคการเมืองพันธมิตรฯ
เดินหน้าตรวจสอบทุกคนที่อยู่ในอำนาจรัฐและภายในพรรคพันธมิตรฯ เอง
ขณะเดียวกันเห็นว่าพันธมิตรฯ
มีฐานเสียงดีที่อาจแย่งคะแนนจากพรรคการเมืองในเขตพื้นที่ได้


"จำลอง" ปัดผลประโยชน์ร่วมตั้งพรรคการเมือง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 09:53 น.
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
กล่าวว่า การตั้งพรรคของพันธมิตรฯ ไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเอง
หรือผลประโยชน์กับพรรคการเมืองใด
จากการประเมินรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่พันธมิตรฯ
คาดหวังไว้เท่าใดนัก
นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ปฏิเสธรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค
แต่ขอฟังมติการตั้งพรรคจากประชาชนก่อน
ส่วนตัวสนับสนุนการตั้งพรรคการเมืองอย่างเต็มที่


พันธมิตรฯ ย้ำตั้งพรรคต่อยอดประชาธิปไตย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 11:15 น.
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ยืนยันอุดมการณ์เดินหน้าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ในเวทีประชุมสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ในรูปแบบการจัดตั้งพรรคการเมือง
โดยเปรียบพรรคที่จะตั้งขึ้นเป็นพรรคกระยาจกที่มี 5 แกนนำเป็นผู้คุมกฎ
และเป็นพรรคที่จะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง
โดยกรรมการบริหารพรรคจะไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อผู้ใดลงเลือกตั้ง รวมทั้ง
ส.ส.ของพรรคจะไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด
เพื่อไม่ให้มีนายทุนใช้เงินแลกตำแหน่ง

"สุริยะใส" ซัดการเมืองน้ำเน่า "ชาติชาย" ต่อรองเก้าอี้ รมช.กษ.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2552 11:00 น.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
กล่าวถึงการที่ นายชาติชาย พุคยาภรณ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากพรรคภูมิใจไทย
ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งว่า
ส่วนตัวเห็นเป็นแค่เกมการเมืองที่มีการต่อรองผลประโยชน์ไม่ลงตัว
สะท้อนให้เห็นว่าเป็นเพียงการเมืองน้ำเน่า จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล
มุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้กับประชาชน จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม นายสุริยะใส ระบุในวันพรุ่งนี้ จะมีการจัดประชุม
เพื่อขอมติการจัดตั้งพรรคการเมืองและแสดงจุดยืนทางการเมือง
ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ของพันธมิตรฯ นั้นขอย้ำ
ยังคงต้องรอมติสมาชิกก่อนว่าจะจัดตั้งพรรคการเมือง หรือไม่ ขณะที่ กรณี
กกต. ไม่รับจดทะเบียนพรรคพันธมิตรฯ ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
เนื่องจากพันธมิตรฯ ไม่ได้ไปขอจดทะเบียน แต่เป็นกลุ่มบุคคลอื่น

"สาธิต" ยอมรับพันธมิตรฯ ตั้งพรรคอาจกระทบ ปชป.บ้าง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 14:26 น.
นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า
การที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะตั้งพรรคการเมืองนั้น
ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะพันธมิตรฯ
เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
ไม่ได้รวมตัวกันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
ถือว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550
ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชนเพื่อให้ได้คนที่ดีที่สุดมาบริหาร
ประเทศ
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า การตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ
อาจจะมีผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์บ้าง เนื่องจากมีแนวคิดที่คล้ายๆ กัน
คือ การต่อต้านการคอร์รัปชั่น และการใช้อำนาจในทางที่ผิด
ซึ่งอาจจะทำให้มีผู้สนับสนุนทับซ้อนกัน
แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมือง


"สุริยะใส" ชี้พันธมิตรฯ 90% หนุนตั้งพรรค คัดสรรชื่อสัปดาห์หน้า
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 14:42 น.


ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ เผยร้อยละ 90 หนุน พธม.ตั้งพรรค
เตรียมเลือกชื่อพรรคสัปดาห์หน้า
ชี้การตั้งพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนไหว

วันนี้ (24 พ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา
ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฯ เปิดเผยว่า
ขณะนี้มีผู้สนับสนุนให้พันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งหลังจากนี้พันธมิตรฯ
จะดำเนินการเลือกชื่อพรรคที่ได้ตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 3 ชื่อ คือ
พรรคเทียนแห่งธรรม พรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
และพรรคการเมืองใหม่
โดยจะมีการโหวตผ่านทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีผ่านดาวเทียม
และยึดหลักเสียงส่วนใหญ่ว่าจะเลือกพรรคใด
ทั้งนี้ตนเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า

ด้านแหล่งข่าวจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า
สำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น แกนนำส่วนใหญ่เห็นว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ
เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและมีคุณสมบัติที่เหมาะสม นอกจากนี้
หลังการจัดตั้งพรรคจะมีการวางโครงสร้างพรรคของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย
อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองที่ถูกตั้งขึ้นนั้นเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการเคลื่อน
ไหวตามเจตนารมณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ
เพื่อสานต่อแนวความคิดการเมืองใหม่เท่านั้น
ส่วนแนวทางจะยึดหลักพิทักษ์สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
คุณธรรมและจริยธรรมทางการเมือง




ความคิดเห็นที่ 9 +1
พวกเราเดินหน้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวอุปสรรค ไม่ต้องลังเล
ดูฝ่ายตรงข้ามสิทำในสิ่งอัปยศทั้งนั้นยังหน้าด้านเคลื่อนไหวอยู่เลย
สนับสนุนพรรคของพันธมิตรฯครับ

ความคิดเห็นที่ 8 -1
เอาด้วย 1 เสียง ให้ตั้งพรรคการเมือง
ถ้าในอนาคตพรรคจะล้มเหลว ก็หมายความว่า่อุดมการณ์พันธมิตรหมดสิ้นแล้ว
ก็ต้องแยกย้ายกันไป
แต่เชื่อว่าพันธมิตรคงไม่มีใครยอมให้ล้มเหลวแน่
สมาชิกนอกระบบ

ความคิดเห็นที่ 7
พรรคแสงเทียน
ขอเสนอ

ความคิดเห็นที่ 6 +2
สนับสนุน"พรรคเทียนแห่งธรรม" เป็นชื่อทางการเมืองมีความหมายดีด้วยค่ะ
ภาคประชาชนเราก็เรียกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
สู้สู้ค่ะ เป็นสมาชิคพรรค 100 บาทต่อเดือน
สมัครข่าว ASTV 200 บาทต่อเดือน
ก็ OK นะคะ
kaeo

ความคิดเห็นที่ 5
ผมชอบและสนับสนุนพันธมิตร แต่รับไม่ด้กับการตั้งพรรค
แสดงว่าที่ผ่านมาใช้การเดินชบวนเป็นการหาเสียง/สร้างชื่อให้กับตนเองใช่ไหม
ผมจะเลิกสนับสนุนทันทีที่ตั้งพรรค โดยเฉพาะยยิ่งแกนนำมาลงเลือกตั้ง
ยิ่งรับไม่ได้เลย
แดง

ความคิดเห็นที่ 4 -1
ประชาทิปัต มีสิทหลงอำนาจ มานานแล้ว

ควรไห้โอกาส คนอื่นเข้าไปดู คนที่มีแนวทางไม่เอาตัวรอดแบบ ปชป (ไม่รวมมาร์ค)

....
ตั้งพรรค

ความคิดเห็นที่ 3 +1
"เทียนแห่งธรรม" เอาไป 1 เสียง
แจกันทอง

ความคิดเห็นที่ 2 +4
ผมขอสน้บสนุนแกนนำพันธมิตรให้ตั้งพรรคครับ
ผมอยากให้ใช้ชื่อ เทียนแห่งธรรมครับ
ธัชชัย

ความคิดเห็นที่ 1 +5
สนับสนุนตั้งพรรคครับ
แต่ไม่อยากให้คุณสนธิเป็นหัวหน้าพรรคเลยครับอยากให้ท่านเป็นแกรนนำภาคประชาชนครับ
wat98


ตัวแทนทั่วประเทศเห็นเอกฉันท์ ค้านแก้ รธน.50-หนุนตั้งพรรค
พธม.ควบคู่การเมืองภาค ปชช.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 13:43 น

ตัวแทนพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ พร้อมองค์กรแนวร่วม เห็นเป็นเอกฉันท์ค้านแก้
รธน.50 ระบุข้อบัญญัติเดิมป้องกันนักการเมืองโกง-ทำเพื่อ
ปชช.ส่วนใหญ่อยู่แล้ว ส่วนประเด็นตั้งพรรค ตัวแทนส่วนใหญ่หนุนเต็มร้อย
เพื่อสร้างการเมืองใหม่ ควบคู่การเคลื่อนไหวภาค ปชช. ยุติการเมืองน้ำเน่า
ขณะที่ตัวแทนภาคใต้ตั้งเงื่อนไขตั้งพรรคต้องไม่ลืมภาคประชาชน
ด้านตัวแทนตะวันออก แนะปลดล็อกคำพูดแกนนำที่เคยลั่นวาจาไม่รับตำแหน่ง
หลังสถานการณ์เปลี่ยน และพรรคจำเป็นต้องได้ผู้นำคุณภาพ

การประชุสมสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อาคารนันทนาการ
มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 24 พ.ค. หลังจาก 5 แกนนำพันธมิตรฯ
ได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นแรก
ในฐานะประธานสภาพันธมิตรฯ ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนพันธมิตรฯ จาก 10
อนุภูมิภาค และองค์กรแนวร่วมได้แสดงความเห็นต่อ 2
ประเด็นหลักทางการเมืองในปัจจุบัน ว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร คือ
1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
2.การตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เริ่มจากนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ตัวแทนพันธมิตรฯ
จากภาคเหนือตอนบน ได้สรุปว่า มติของพันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนบน
ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยเด็ดขาด
ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้น พันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนบนพร้อมให้การสนับสนุน
เพราะถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีพรรคการเมืองที่เข้าไปทำหน้าที่รัฐสภาควบคู่กับ
การต่อสู้ของภาคประชาชน

เช่นเดียวกับ นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ตัวแทนพันธมิตรฯ อีสานตอนบน
ที่สรุปว่า พันธมิตรฯ ภาคอีสานตอนบนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550
ที่ผ่านการลงประชามติจากคนทั่วประเทศ ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้น
พันธมิตรฯ ภาคอีสานตอนบนเห็นด้วย 100% ให้ตั้งพรรค

ด้านนายสุนทร รักษ์รงค์ ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคใต้ กล่าวว่า
คนภาคใต้คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์
หากพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้
คนภาคใต้ไม่เอาด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน
สำหรับการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ นั้นจะตั้งหรือไม่
แกนนำต้องอธิบายและตอบคำถามให้ชัดเจน และให้การรับรับรองว่า
หลังตั้งพรรคแล้วภาคประชาชนจะไม่หมดความชอบธรรม หรือลดความอบธรรมลงไป
ถ้ารับรองได้ตรงนี้ และตอบสังคมได้กรณีที่แกนนำพันธมิตรฯ
เคยลั่นวาจาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง
เราก็ไม่มีปัญหาในการสนับสนุนการตั้งพรรค

ต่อมา ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคตะวันออก
ได้ให้ความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พันธมิตรฯ ตะวันออก
ยังยืนยันที่จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ตามมติเดิมเมื่อครั้งเข้าร่วมชุมนุมเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา
ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้นเราต้องสร้างเกราะป้องกันตัวขึ้นมาก
หลังจากเราขับไล่ระบบทักษิณออกไปแล้ว
การตั้งพรรคการเมืองจะเป็นการสร้างเกราะคุ้มกันโดยมีกฎหมายรองรับ

"แกนนำที่เคยประกาศว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น
บัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมามากแล้ว สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
จึงขอให้มีการปลดล็อกคำกล่าวของแกนนำที่เคยประกาศว่าไม่รับตำแหน่ง
หรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะถ้าเราตั้งพรรคการเมืองแล้ว
ไม่มีผู้นำพรรคที่ดีมันจะไปรอดหรือไม่
ซึ่งภาคตะวันออกเรามีมติว่าให้ปลดล็อกคำพูดของแกนนำ
เพื่อให้พรรคมีผู้นำที่เหมาะสมมาทำหน้าที่เพื่อสร้างการเมืองใหม่"
ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคตะวันออกกล่าว

ด้านตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคกลาง
กล่างแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550
เพราะประเด็นที่จะแก้นั้น
ล้วนแต่บัญญัติขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรา
190 มาตรา 237 ส่วนการตั้งพรรคฯ นั้น พันธมิตรฯ ภาคกลางเห็นด้วย
เพื่อให้มีพรรคการเมืองที่เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง

ขณะที่ตัวแทนจากเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติ (Young PAD)
แสดงความเห็นว่า
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมืองที่ซื้อเสียงแล้ว
พรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่งได้เข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
แม้ว่าจะได้ผู้นำที่มีความสง่างามแต่ก็อยู่ในระบบการเมืองที่หมองหม่น
น้ำเน่า เป็นการเมืองเก่า จึงสมควรที่พันธมิตรฯ จะตั้งพรรคการเมือง
แต่ควรจะทำด้วยความใจเย็น ต้องทำให้สังคมเห็นด้วยเสียก่อนว่าการเมืองใหม่
จะเป็นความหวังของสังคมไทยอย่างแท้จริง ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น Young
PAD เห็นว่า ไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะกฎต้องเป็นกฎ

ต่อมา ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคตะวันตก
ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญ 2550
เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
แม้จะถูกกล่าวหาว่ามาจากการรัฐประหาร แต่รัฐธรรมนูญทุกฉบับก่อนหน้านั้น
ก็มีจุดเริ่มต้นจากการรัฐประหารทั้งสิ้น
และเมื่อดูการเข้าถึงกระบวนการยกร่าง
มีฉบับไหนที่ให้ประชาชนเข้าถึงเท่ากับฉบับ 2550 หรือไม่ และถ้าจะแก้ไข
จะแก้เพื่ออะไร ถ้าจะแก้เพื่อให้ประชาขนอยู่ดีกินดีมากขึ้นเราก็ยอม
แต่ถ้าแก้แล้ว ส.ส. รัฐมนตรี นักการเมือง
เข้าไปโกงได้ง่ายขึ้นเราไม่ให้แก้

ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้น ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคกลางกล่าวว่า
เราจะกลัวอะไร เราจัดชุมนุมถูกระเบิดตาย เรายังไม่กลัว
นับประสาอะไรกับการตั้งพรรคเพื่อเข้าไปสร้างบ้านสร้างเมือง
สร้างการเมืองใหม่
ถึงเวลาที่จะทำการเมืองเพื่อประโยชน์ของลูกหลานเราในอนาคต
บนพื้นฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยที่ทุกไม่ว่าจะเป็นลูกตาสีลูกตามา มีโอกาสเข้าไปนั่งในสภา ดังนั้น
ถ้าเราจะมีพรรคการเมืองที่ให้อำนาจประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม
เราพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่

ด้านตัวแทนจากพันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า พันธมิตรฯ
ภาคเหนือตอนล่างจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างแน่นอน
ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้น จริงอยู่ 5 แกนนำเคยพูดไว้ว่าจะไม่ทำ
แต่เหตุการณ์ปัจจุบันที่บีบคั้น
เราไม่สามารถที่จะต่อสู่ข้างถนนอย่างเดียวอีกต่อไป
เราต้องเดินหน้าเข้าสู่สภา และใช้พลังของเราสร้างการเมืองใหม่
เข้าสู่สภาต่อไป
วันนี้ประเทศไทยเราไม่มีพรรคการเมืองใดที่จะเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน
ได้ นักการเมืองก็มีแต่หน้าเดิมๆ มีแต่ผลงานระยำ
ก่อแต่ความเสียหายให้กับประเทศ
ถ้าไม่ตั้งพรรคประชาชนประเทศชาติก็ไม่มีที่พึ่งที่หวัง
จะมีแต่การเมืองเก่า วงจรอุบาทว์ก็ยังอยู่ต่อไป
ทำความเสียหายให้ประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และเราต้องมาชุมนุมขับไล่ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ต่อมาตัวแทนจากพันธมิตรฯ ภาคอีสานตอนล่าง
กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ว่า มาตรา 309 นั้น เป็นบทเฉพาะ
ซึ่งมีสาระสำคัญคือการรับรองการตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาตรวจสอบการทำผิดของ
นักการเมือง ซึ่งมี 10 กว่าคดี ถ้ามีการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรานี้
ก็เท่ากับการนิรโทษกรรมความผิดเหล่านั้น ส่วนมาตรา 237
เป็นการกำกับการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม
ความเห็นของพันธมิตรฯ อีสานใต้จึงมีมติว่าไม่ให้แก้และไม่ให้เลิก
ส่วนมาตรา 190 เป็นการบังคับว่ารัฐบาลจะไปทำสนธิสัญญาที่อาจทำให้เสียดินแดน
หรือมีปัญหาทางเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างมีนัยสำคัญ
รัฐบาลต้องถามสภาก่อน เพราะเคยมีตัวอย่างในอดีต ที่นักการเมืองเลวๆ
เอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกกับประโยชน์ส่วนตัว ในการทำสัญญากับต่างประเทศ
เราจึงเห็นว่ามาตรานี้ต้องไม่เลิกและไม่แก้

ส่วนการตั้งพรรคนั้น ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคอีสานตอนล่าง กล่าวว่า
พรรคการเมืองปัจจุบันไม่ตอบสนองต่อผลประโยชน์ทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรม
และไม่ใช่ตัวแทนผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง พันธมิตรฯ เดินมาถึงทาง
2 แพร่ง เราเห็นว่าเรายังคงเดินแนวทางการเมืองภาคประชาชนต่อไป
ส่วนการตั้งพรรค เราต้องตั้งเมื่อพร้อม อย่างไรก็ตาม
พรรคการเมืองนั้นเป็นที่รวมของคนมีอุดมการณ์เดียวกัน พันธมิตรฯ
ทุกคนก็อุดมการณ์เดียวกัน ถ้าอย่างนั้นเราจะรอทำไม เราตั้งได้เลย
แต่ขอให้มีการเมืองภาคประชาขนคู่ขนานกันไป
คู่กับการตั้งพรรคเพื่อสร้างนักการเมืองที่มีคุณภาพ

ด้านนายอำนาจ พละมี รองเลขาธิการ
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ในฐานะตัวแทน สรส.กล่าวว่า
ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น
สรส.ขอยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่เข้าร่วมกับพันธมิตร
ว่าไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนการตั้งพรรคนั้น
สรส.เคยศึกษาและมีแนวคิดที่จะรวบรวมผู้คนทุกหมู่เหล่ามาร่วมกันดำเนิน
กิจกรรมทางการเมืองเพื่อพัฒนาไปสู่การตั้งพรรค เมื่อมวลชนพันธมิตรฯ
เห็นว่าถึงเวลาที่เราจะดำเนินการทางการเมืองทั้งในสภาและนอกสภา
เราจึงเห็นด้วยกับแนวทางการตั้งพรรคฯ ส่วนรายละเอียดในการดำเนินการ
วิถีการให้ได้มาซึ่งข้อบังคับพรรค ธรรมนูญพรรค กรรมการบริหาร
ตลอดจนสมาชิกพรรคนั้น
ให้เป็นไปตามมติของผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของพรรคที่จะจัดตั้งขึ้น
ใหม่ที่จะต้องรับเอาแนวทางของพันธมิตรฯ ที่เราจัดทำไว้แต่เดิมทั้งหมด

ต่อมา ในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.15 น. นายสมศักด์
ได้เปิดให้ตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรฯ ส่วนต่างๆ แสดงความคิดเห็นต่อ
เริ่มจากเครือข่ายเกษตรกร โดยนางกิมอัง พงษ์นารายณ์
ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรประชาชนแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า
เรามีกระทรวงเกษตรฯ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร
แต่นักการเมืองที่เข้าไปบริหารที่ผ่านมามีแต่คนเลว
ไม่สนใจแก้ปัญหาให้เกษตรกร จึงเห็นว่าควรจะตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ
ขึ้นมาเลย และไม่ต้องกังวลว่าเมื่อพรรคการเมืองแล้ว
ภาคประชาชนจะทำงานต่อไปไม่ได้ และไม่ต้องกังวลว่าพรรคของพันธมิตรฯ
จะเข้าไปทำแบบการเมืองเก่าเสียเอง เพราะวิสัยทัศน์ของพันธมิตรฯ
เราสามารถตรวจสอบได้ทุกพรรค แม้แต่พรรคของเราเอง
ถ้าไม่ดีเราสามารถตรวจสอบได้

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกร กล่าวว่า
ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพราะเป็นการแก้ไขเนื่องจากความเดือดร้อนของนักการเมืองเอง
แต่เกษตรกรเดือดร้อนกลับไม่สนใจ เป็นความห่วยแตกของนักการเมืองเอง
เพราะฉะนั้นเราไม่เอากับนักการเมืองพวกนี้แล้ว

ด้านนางสาวเปมิกา ฉัตรภิญญาคุปต์ ตัวแทนกลุ่มทีจีโอ(Thaksin Get
Out) กล่าวว่า จากการสำรวจความเห็นของสมาชิกภายในกลุ่ม มีทั้งเห็นด้วย
และไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ แต่ส่วนใหญ่จะออกมาใน
2 ลักษณะ คือ 1. เห็นด้วยกับการตั้งพรรคแต่มีเงื่อนไข และ
2.เห็นด้วยแต่ยังไม่ถึงเวลา รวมทั้งเห็นด้วย
แต่ไม่ควรที่จะมีแกนนำพันธมิตรฯ เข้าไปอยู่ในพรรค
อย่างไรก็ตามข้อมูลขณะนี้
ยังไม่สามารถได้ว่าควรจะตั้งพรรคการการเมืองหรือไม่
แต่อาจต้องย้อนไปทบทวนอีกครั้งว่า ถึงเวลาที่จะตั้งพรรคหรือไม่

ต่อมา นายสุทิน พลาทิน ตัวแทนเครือข่ายประชาธิปไตยยาตรา กล่าวว่า
เครือข่ายฯ คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างแน่นอน
ส่วนการตั้งพรรคนั้น เห็นว่า พันธมิตรฯ
ต้องพัฒนาการการต่อสู้จากที่เคยไล่ล่าระบอบทักษิณมาสู่การร่วมคิดร่วมทำ
เพื่อสร้างการเมืองใหม่ ในภาวะที่ประเทศเรากำลังเดินเข้าสู่วิกฤติ
ทำอย่างไรเราจะจัดตั้งมวลชนที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เราต้องจัดการแนวรบด้านสื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดังนั้นถ้าเราจะมีพรรคการเมือง ต้องเป็น 1.พรรคของมวลชนอย่างแท้จริง
2.ต้องนำสู่การเปลี่ยนแปลงสู่การเมืองใหม่ มีอิสระ
มีการกำกับดูแลโดยกระบวนการของประชาชนอย่างเข้มแข็ง
3.สมาชิกที่เข้าสู่การเมืองต้องมีจิตอาสา กล้าต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว
ทั้งนี้ การตัดสินใจต้องมีฉันทามติร่วมกัน และเคารพเสียงส่วนน้อย หลังจาก
2 วันนี้เราต้องผนึกเดินไปข้างหน้าร่วมกัน

ด้าน ตัวแทนจากกองทัพธรรม เห็นว่า ไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเวลานี้
เพราะผู้มีส่วนได้เสียเข้าไปอยู่ในกระบวนการแก้ไข
ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้น ถ้าจะตั้งจริง
เราต้องสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมของพรรคพันธมิตรฯ
ให้สูงกว่าพรรคการเมืองทั่วไป ทั้ง ส.ส. กรรมการบริหาร หัวหน้าพรรค
ต้องมีมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงกว่าพรรคอื่น ถ้าทำตรงนี้ไมได้
ก็จะมีแต่เสียกับเสีย

ส่วนประเด็นที่ว่าแกนนำควรจะมาเกี่ยวข้องกับพรรคหรือไม่นั้น
ตัวแทนกองทัพธรรมเห็นว่า 5 แกนนำได้ทำหน้าที่มาอย่างดีที่สุดแล้ว
ในการให้ความจริง ให้สัจจะธรรมแก่สังคม
ถ้าให้มาเกลือกกลั้วกับการเมืองที่มีลาภยศ อำนาจอยู่ในมือ
ความบริสุทธิ์เหล่านั้นก็จะด่างพร้อย สังคมเราไม่มีแค้พันธมิตรฯ
ยังมีกัลยาณชนจำนวนมากที่ยังไม้กล้าเปิดเผยตัวตนว่าอยู่กับเรา
เพราะยังไม่มั่นใจว่า การต่อสู้ของพวกเราบริสุทธิ์ใจหรือไม่
การบอกว่าต้องปลดล็อกคำพูดของแกนนำเพราะสถานการณ์เปลี่ยนนั้น
เป็นคำพูดแบบนักการเมืองเก่า
มีหรือว่าแกนนำจะไม่ทราบว่าการเมืองเป็นอนิจจัง และ 5
แกนนำเข้ามาทำงานโดยไม่หวังอำนาจหรือเพื่อเข้ามาแสวงหาประโยชน์ใดๆ

ตัวแทนกองทัพธรรม ได้ฝากข้อคิดว่า สมัยโบราณ
มีคนเชื่อว่าการเข้าป่าสามารถบรรลุธรรมได้
มีพราหมณ์ไปถามพระพุทธเจ้าเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า
ถ้าได้ผู้ยังไม่มีสมาธิเข้าไปในป่า ป่านั้นก็จะเอาท่านไปเสีย ดังนั้น
ถ้าเราไม่ได้คนที่มีจริยธรรมอย่างแท้จริงเข้าไปอยู่ในพรรคการเมือง
สิ่งที่พันธมิตรทำมาทั้งหมดอาจจะล้มเหลวและสุญเสีย

ต่อมาตัวแทนพันธมิตร คนจับแท็กซี่
แสดงความเห็นคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยเฉพาะ ม.190
ที่เรามีบทเรียนว่าเราเสียปราสาทพระวิหารเพราะนักการเมืองไม่เล่นตามกติกา
ม.237 เกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง
ถ้าปล่อยกรรมการบริหารพรรคที่ทุจริตเข้าไป
คนที่ทุจริตเหล่านี้ก็จะเข้าไปมีอำนาจบริหารประเทศ

ส่วนการตั้งพรรคพันธมิตรฯ ตัวแทนพันธมิตรฯ คนขับแท็กซี่ กล่าวว่า
เราต้องการพัฒนากลุ่มองค์กรของเราก่อน
เพื่อให้การบริการรถสาธารณะของเราโปร่งใส มีคุณธรรมจริยธรรมก่อน
เมื่อเราทำตรงนี้แล้ว จะเข้าไปเป็นองค์กรหนึ่งในพรรคพันธมิตรฯ
เพื่อให้พรรคมีความโปร่งใส เราจะไม่เป็นทาสพรรคใดพรรคหนึ่ง
แม้พรรคพันธมิตรก่อกำเนิดขึ้นแล้ว
ทุกคนจะมีหน้าที่ตรวจสอบพรรคนี้อย่างเข้มข้นกว่าพรรคอื่น
ถ้าเราไม่ตรวจสอบเข้มข้นเราจะถูกข้อหาว่าเล่นพรรคเล่นพวก นอกจากนี้
การที่แท็กซี่มีภาพลบเพราะมีสีแดงมาก
เราจะทำให้แท็กซี่สีแดงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองให้ได้

ด้านตัวแทนอาสาพยาบาล กลุ่มพยาบาลมัฆวาน
ได้แสดงความเห็นต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550
เพราะนักการเมืองรู้อยู่แล้วว่ากติกาเป็นอย่างไร พอแพ้แล้วจะมาแก้กติกา
จะนิรโทษกรรมให้ตัวเอง เราจึงไม่เห็นด้วย ส่วนการตั้งพรรคการเมือง
อยากให้รอภาคประชาชนเข้มแข็งกว่านี้ก่อน พันธมิตรฯ
มีจิตใจที่บริสุทธิ์จริง แต่ห่วงว่าจะมีคนมาฉวยโอกาส
และเข้าไปสู่การเมืองน้ำเน่าโดยใช้พวกเราเป็นบันไดเหยียบขึ้นไป
นอกจากนี้การใช้สื่อเอเอสทีวี
ถ้าชี้นำมากไปอาจเป็นผลเสียต่อแนวร่วมในระยะยาว
จึงอยากให้คำนึงถึงกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึง และไม่เข้าใจการทำงานของเรา
โดยไม่ให้ภาพออกมาว่าพันธมิตรฯ คือเอเอสทีวี
แม้ว่าเราเป็นพวกเดียวกันก็ตาม
อย่างไรก็ตามเสียงส่วนมากในกลุ่มของเราเห็นด้วยที่จะตั้งพรรคการเมือง

ต่อมาตัวแทนศิลปิน โดยนายสมศักดิ์ อิสมันยี จากวงคีตาญชลี
ให้ความเห็นว่า ความคิดเรื่องการตั้งพรรคการเมือฝนกลุ่มศิลปินยังไม่เอกฉันท์
บางคนว่าควร บางคนว่าไม่ควรตั้ง
แต่การต่อสู้ของภาคประชาชนนั้นจุดสุดท้ายแล้วต้องมีพรรคการเมืองของประชาชน
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่ามันจะช้าหรือไวนั้นไม่เป็นปัญหา
แต่คิดว่าตั้งแล้วจะเป็นอย่างไร ต่างหาก
เมื่อมีพรรคของตัวเองแล้วจะเป็นอย่างไร บางคนห่วงว่าจะมีคนมาฉวยโอกาส
ซึ่งประเด็นนี้ขึ้นกับว่าเราได้ตั้งวินัยให้เข้มแข็งหรือไม่
ถ้าเราตั้งวินัยว่าทำผิดต้องรับโทษจริงจัง คนก็ฉวยโอกาสไมได้
นี่เป็นรูปแบบการเมืองใหม่

ศิลปินคีตาญชลี กล่าวต่อว่า โดยทั่วไปเราเห็นควรตั้งพรรคการเมือง
ส่วนเรื่องที่วิตกว่า ตั้งแล้วจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าไม่ได้
เราจะอายไหม ไม่เป็นปัญหา
แต่ถ้าถามประชาชนที่ไปลงคะแนนแม้แต่คนที่รับเงินไป
เขาอยากเห็นพรรคการเมืองที่ดีกว่าทั้งสิ้น
ดังนั้นพรรคการเมืองที่เราตั้งขึ้นจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ ไม่สำคัญ
แต่บรรทัดฐานที่เราเป็นตัวอย่างให้สังคมต่างหากที่สำคัญ เราอาจต้องรอ
10-20 ปีไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล แต่บรรทัดฐานใหม่
และกฎวินัยที่เราจะเอาจริงเอาจังกับคนของเราต่างหาก ที่เราต้องกังวล

ด้านนักวิชาการอิสระ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้แสดงความเห็นว่า
รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อจับผู้ร้าย
จากบริบทที่นักการเมืองฉ้อฉล ซื้อเสียง
เราจึงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจับโจร
และในโลกนี้ไม่มีที่ไหนที่แก้ไขกฎหมายย้อนหลัง
เพื่อให้ผู้ที่ทำผิดแล้วไม่มีความผิดเพื่อให้นักโทษการเมืองกลับมาใหม่

ส่วนการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ นั้น
นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นด้วน 80-90 % ให้มีพรรคการเมืองใหม่
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพรรคกรีนในยุโรป
ที่มาจากคนหนุ่มสาวที่ไม่พอใจการเมืองแบบเดิมๆ
และขอให้พี่น้องภาคใต้สบายใจได้ว่า เมื่อมีพรรคของพันธมิตรฯ แล้ว
พรรคประชาธิปัตย์จะยังอยู่ เพียงแต่มีเสียงน้อยลงเท่านั้น ขออย่าได้กลัว
ถ้าพรรคการเมืองดีจริง มันต้องยู่วันยังค่ำ
ถ้าไม่อยู่ก็แสดงว่าประชาธิปัตย์ไม่ใช่ตัวแทนพวกเราอย่างแท้จริง
ที่กลัวว่า เราจะตกเข้าไปอยู่ในวังวนการเมืองน้ำเน่านั้น ขอเรียนว่า
ถ้าพันธมิตร มีความเข้มแข็งในการตรวจสอบตลอดเวลา
สิ่งเหล่านี้จะไม่มีวันเกิด เหมือนรัฐมนตรีหญิงคนหนึ่งของพรรคกรีน
ที่ไปพูดสนับสนุนอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ ต้องลาออกจากตำแหน่งทันที
เพียงแค่พูดเท่านั้น เพราฉะนั้นพวกเราอย่ากลัว ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ


"ประสงค์" หนุนตั้งพรรคพันธมิตรฯ นับหนึ่งการเมืองใหม่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 11:34 น.

"ประสงค์" ส่งเสียงเชียร์พันธมิตรการเมืองภาคประชาชน
ส่งแนวหน้าเข้าไปต่อสู้ตามระบอบรัฐสภา เพื่อก่อให้เกิดการเมืองใหม่
หมดหวังการเมืองระบอบเก่า ผู้นำขาดความเด็ดขาดประวิงเวลาไปวันๆ

"พิภพ" เปิดกว้างทุกสีร่วมตั้งพรรคการเมืองของ ปชช. ขจัดนักการเมืองเลว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 11:33 น.

"พิภพ" ลั่นการต่อสู้ของปชช.ที่เสียเลือดเนื้อจะไม่สูญเปล่า
หากมีมติจัดตั้งพรรการเมืองของมวลชนที่ปชช.เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
พร้อมเปิดกว้างทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสร้างการเมืองใหม่
ขจัดนักการเมืองเลว ด้าน "จำลอง" ย้ำพันธมิตรฯ
ไม่มีเจตนาตั้งพรรคการเมือง แต่ยอมรับทนการเมืองเก่าไม่ไหว
เหตุนักการเมืองต่างรวมหัวแก้ไข รธน.เพื่อประโยชน์ตนเอง

วันนี้ (24 พ.ค.) พิภพ ธงไชย แกนนำประชาธิปไตยเพื่อประชาชน
กล่าวต่อที่ประชุมสภาพันธมิตรฯ ว่าประวัติศาสตร์จะต้องบันทึกไว้
ในการต่อสู้มายาวยาวนานของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บาด
เจ็บและเสียชีวิตรวม 827 ราย
รวมถึงการเสียเลือดเนื้อของพี่น้องในอดีตจะไม่สูญเปล่า
การต่อสู้ของเราเพื่อต้องการขจัดนักการเมืองเลว
ไม่และให้คนมีอำนาจที่ไม่ดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง
ซึ่งประวัติศาสตร์การเมืองจะต้องบันทึกว่าพรรคการเมืองของพันธมิตรฯมาจากมวล
ชนอย่างแท้จริงและจะเป็นของประชาชน

"พวกเราต่อสู้ด้วยการเสียเลือดเนื้อเสียชีวิต ด้วยความอดทนมาตลอด
ถ้ามีฉันทามติตั้งพรรคการเมืองพ่อแม่พี่น้อง ต้องสัญญาว่า
จะต้องร่วมสู้อยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ 5 แกนนำพันธมิตรฯ
ได้ปรึกษาและสัญญากันแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่ทิ้งประชาชนอย่างเด็ดขาด
จะสร้างความเป็นธรรม ในทุกภาคส่วน ร่วมกันสร้างการเมืองใหม่
เพราะประเทศทนความฉิบหายต่อไปไม่ได้แล้ว เราไม่ได้"

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า หากพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ
มีมติจะตั้งพรรคการเมือง
เราจะไม่ปิดตัวเองเฉพาะคนที่ร่วมชุมนุมในวันนี้เท่านั้น
แต่เราพร้อมที่จะเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนของสังคมเข้ามาร่วม
เข้ามามีส่วนร่วม แต่มีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1.ต้องมีอุดมการณ์ตรงกันในชาติ
ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 2.ไม่สนับสนุนนักการเมืองให้มีการทุจริต
คอร์รัปชัน 3.พร้อมต่อสู้เพื่อ

ความเป็นธรรมต่อสังคมไม่ใช่บุคคลใดบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ดังนั้น
เราควรมาร่วมใจกันทุกภาคส่วน ทุกสี ทุกกลุ่ม เราจะละลายสี
ถ้าเห็นตรงกันเชิญมาร่วมได้เลย เราจะทำสิ่งที่ดีที่สุดสู่การเมืองใหม่
ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศนี้
ที่มีการเชื่อมอุดมการณ์ทางกาเมืองที่ปฎิบัติได้
โดยมีมวลชนให้การสนับสนุน

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะจัดพรรคการ
เมือง แม้ว่าจะมีเสียงสนับสนุนให้เราตั้งพรรคการเมือง
โดยเฉพาะเสียงส่วนใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ต้องการให้เราตั้งพรรคการเมือง
เพราะเราประสบความสำเร็จในการชุมนุนม
เราจึงคิดว่าต้องถามประชามติของประชาชนก่อน
จึงตกลงกันว่าเมื่อครบหนึ่งปีการชุนุมนุม เราจะประชุมพบปะกันกับพันธมิตรฯ
พี่น้องทั่วประเทศ แต่กลับมีเรื่องเกิดขึ้น
เนื่องจากนักการเมืองต่างรวมหัวกันแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237, 190 และ 309
เพื่อประโยชน์ตัวเอง ทำให้เราทนการเมืองเก่าไม่ไหว ดังนั้น
เราจะถามพี่น้องพันธมิตรฯว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่
ขอยืนยันว่าแกนนำฯ ไม่ได้มีการชี้นำในการตั้งพรรคการเมือง
แต่เราจะถามเสียงส่วนใหญ่ พี่น้องพันธมิตรฯ
ซึ่งพรุ่งนี้จะได้รู้กันว่าจะมีการจัดตั้งพรรคการเมืองหรือไม่


"สนธิ" ขอฉันทานุมัติตั้งพรรค-ชี้เป็นแค่เครื่องมือหนึ่ง
ซัดการเมืองเก่าอยากให้อยู่แค่ข้างถนน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 12:04 น.


เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วันนี้ (24 พ.ค.)
ในการประชุมสภาพันธมิตรเพื่ประชาธิปไตย เดินหน้าสู่การเมืองใหม่
ที่อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต
ซึ่งมีตัวแทนจากภาคทุกส่วนทั่วประเทศประมาณ 2,000
คนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนประกอบด้วย
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ
ธงไชย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ก่อนที่จะมีการจัดงานรำลึกถึง 193
วันในวันพรุ่งนี้

นายสมศักดิ์ ในฐานะประธานสภาพันธมิตรฯ กล่าวก่อนการเปิดประชุมว่า
ขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ
ที่เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ได้ลุกขึ้นเพื่อเคารพจิตวิญาณญาณของผู้เสีย
ชีวิตจากเหตุการณ์ 7 ต.ค. พร้อมยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที
เพราะถือว่าวันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์การของเปลี่ยนแปลงการปกครองนับ
ตั้งแต่ปี 2475 ที่พี่น้องพันธมิตรฯ เป็นผู้ร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์
สิ่งที่น่าภาคภูมิใจในวันนี้ คือ ผู้ที่เข้ามาในวันนี้ไม่มีใครจ้างวานมา
แต่มาด้วยจิตสำนึก
ดังนั้นจึงขอความกรุณาให้การอภิปรายในวันนี้ต่างจากสภาเน่าเฟะ
เพราะมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก จึงขอให้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่
แต่ขอให้กระชับ เพื่อตอกเสาเข็มนำไปสู่การเมืองใหม่

หลังจากนั้น นายสนธิกล่าวประเมินสถานการณ์ทางการเมืองว่า
จากเหตุการณ์ 17 เม.ย.ที่ตนถูกลอบยิง
เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่าการต่อสู้ของพันธมิตรฯ เดินมาถูกทางแล้ว
ส่วนคำถามที่ตามมาเกี่ยวกับเรื่องการตั้งพรรคการเมืองว่าใครจะเป็นหัวหน้า
พรรคการเมือง วันนี้ต้องขอฉันทานุมัติจากพี่น้องพันธมิตรฯ

นายสนธิกล่าวว่า พันธมิตรฯ เป็นของศักดิ์สิทธิ์
พรรคการเมืองนั้นถ้าจะมีการตั้งก็จะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการต่อสู้ของ
พันธมิตรฯ ซึ่งพันธมิตรฯ มีเครื่องมือหลายอย่าง
นอกจากพรรคการเมืองแล้วอาจมีมูลนิธิที่ออกไปให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งนี้
5 แกนนำพันธมิตรฯ จะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหรือไม่
ขึ้นอยู่กับพี่น้องพันธมิตรฯ เป็นคนเลือก ไม่ใช่ตั้งกันเองเด็ดขาด

นายสนธิยังเปรียบเทียบอีกว่า พรรคพันธมิตรฯ
หากตั้งขึ้นมาก็เปรียบเสมือนพรรคกระยาจกที่มีผู้คุมกฎของพรรค
ซึ่งถ้ามีพรรคพันธมิตรฯ 5 แกนนำก็อาจจะทำหน้าที่เพียงผู้คุมกฎเท่านั้น

นายสนธิกล่าวต่อว่า หากตนเองเสียชีวิตไปในวันนั้น
ทุกอย่างก็เป็นเรื่องสมมติ เอเอสทีวีก็อาจต้องปิด
แต่ที่เราต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ทุกวันนี้ก็เพื่อลูกหลาน ขอให้เข้าใจ
กระสุนปืนหนึ่งร้อยกว่านัดที่ยิงใส่ตน
เป็นเครื่องสะท้อนว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ
เป็นอันตรายต่อการเมืองระบอบเก่า
โดยที่พรรคการเมืองระบอบเก่าอยากเห็นพันธมิตรฯ
ใช้วิถีทางการต่อสู้บนท้องถนนเท่านั้น แต่อีกสักกี่ปีกี่ชาติถึงจะสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การที่เราจะตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ฉันทานุมัติ

"เป็นตายแล้วแต่ฟ้าลิขิต ถ้าจะตายนั่งเฉยๆ ก็ตายได้
คนเรามีทั้งคนรักคนเกลียด
ถ้าไม่ต้องการให้ต่อสู้ระบบก็สุดแล้วแต่ฉันทานุมัติของพี่น้องพันธมิตรฯ
แต่ขอย้ำว่าการต่อสู้ของพวกเราไม่เคยหลอกพี่น้อง
และในวันนี้จำเป็นต้องถ่ายทอดสด
เพื่อเป็นตัวอย่างให้พรรคการเมืองน้ำเน่าในปัจจุบันได้เห็นประชาธิปไตยทาง
ตรงที่กำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกนี้อีกแล้ว" นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวว่า พี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ต้องเกรงว่า 5
แกนนำจะแปดเปื้อน เพราะ 193 วันที่ผ่านมา
เราไม่มีอะไรที่จะให้แปดเปื้นอีกแล้ว
และอีกไม่กี่วันเราก็จะตายกันหมดแล้ว
แต่ที่ยังคงอยู่คือต้องสนับสนุนคนดีให้การปกครองบ้านเมือง
และสกัดไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาบริหารบ้านเมือง
ขณะที่พันธมิตรบางส่วนก็เป็นห่วงและต้องการให้มีการตรวจสอบจากภาคประชาชน
แต่หลังจากที่ตรวจสอบกันมาตั้งแต่ปี 2548 แล้วมีรัฐบาลไหนฟังบ้าง
แล้วเราจะต่อสู้ในรูปแบบการเมืองข้างถนน ไปอีกนานเท่าไหร่
วันนี้เรายังยืนยันที่ใช้ธรรมนำหน้าในการต่อสู้
แต่ต้องเพิ่มพุทโธนำหน้าอีกด้วย

นายสนธิกล่าวต่อว่า หากมีพรรคพันธมิตรต้องมีที่มาที่ไป
มีประวัติศาสตร์ แต่การชุมนุม 193 วันก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์แล้ว
ขณะที่พรรคการเมืองในวันนี้ส่วนใหญ่ถือเป็นการรวมตัวกันของพวกนักลงทุน
ซึ่งไม่มีประวัติศาสตร์ แต่ขอให้เชื่อมั่นและศรัทธา
ในเรื่องอุดมการณ์ของแกนนำทั้ง 5 คน
การต่อสู้ทางการเมืองเป็นเรื่องยาวนาน และต้องอดทนอย่างสูง
จึงขอให้พี่น้องให้พันธมิตรฯ ที่สนับสนุนการตั้งพรรค อย่าคาดหวังว่า
ภายใน 2-3 ปีจะต้องประสบสำเร็จ อย่าเอาจำนวน ส.ส.มาตัดสินใจ
แต่ขอให้นึกถึงญาติวีรชนหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นที่ตั้ง
และถ้าตั้งพรรคจริงๆ เราจะระดมทุนจากการให้สมาชิกบริจาคเงินเข้าพรรค
อาจจะเป็นคนละ 100 บาทต่อเดือน โดยเราจะไม่ใช้เงินเหล่านั้นมาซื้อเสียง
แต่จะเอาไปสร้างเครื่องมือในการให้ความรู้และให้ปัญญาแก่ประชาชน

นายสนธิกล่าวต่อว่า สำหรับพี่น้องที่ไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรค
หากมีฉันทานุมัติจากพี่น้องส่วนใหญ่ให้ตั้งพรรค ก็ต้องต้องยอมรับ
เพราะนี่คือประชาธิปไตยทางตรง พรรคการเมืองมี 2 ประเภท
คือพรรคที่มีรากเหง้าคือพันธมิตรฯ
และพรรคที่ไม่มีพรรครากเหง้าเหมือนพรรคการเมืองทั่วไปในปัจจุบัน
และขอระบายความคับแค้นใจในรอบ 1 เดือนกว่า จึงขอพูดนานกว่าแกนนำคนอื่น

"คาดว่าพี่น้องคงอยากทราบว่าใครเป็นลอบยิงผม
แต่ขอยืนยันว่าเป็นฝีมือคนมีสี ส่วนจะจับใครได้หรือไม่นั้นไม่สำคัญ
เพราะได้อโหสิกรรมไปหมดสิ้นแล้ว" นายสนธิกล่าว

ความเห็นของหมู่บ้านดิฉัน เปนเอกฉันท์ค่ะให้อาจารย์สมเกียรติ
พงษ์ไพบูย์เปนหัวหน้าพรรคค่ะ เพราะ
1.ท่านมีประสบการณ์จากการเปน สส. อยู่ในรัฐสภา
2.ท่านมีอารมณ์ขัน และไหวพริบที่เยี่ยมยอด ซึ่งเปนปัจจัยสำคัญของผู้นำ
3.ท่านเปนบุคคลที่ชาวรากหญ้ารู้จักและเชื่อถือได้อย่างสนิทใจ
4.ท่านมีความจริงใจแก้ปัญหาที่ท่านได้รับมอบหมายทุกครั้ง
ยังมีอีกหลายข้อค่ะ สรุปว่าท่านเหมาะสมที่สุดในสถานะการณ์การเมืองไทยขณะนี้
mamy


++
ถ้าคุณสนธิจะมาเป็นหัวหน้าพรรค หรือจะเป็นนายกฯต่อไปในอนาคต ก็ตาม

ไม่ถือว่าเสีย"สัจจะ"

การที่คุณสนธิให้สัจจะว่า "จะไม่รับตำแหน่งใดๆทางการเมือง" นั้น
หมาย ความว่า "ในขณะ"ที่พันธมิตรชุมนุมนั้น หากเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร
และคุณสนธิรับตำแหน่งทางการเมืองจากรัฐบาลปฏิวัติ
จะเป็นการแสดงว่าการที่คุณสนธิเป็นแกนนำชุมนุมพันธมิตรเพื่อหวังอำนาจวาสนา
หรือตำแหน่งทางการเมืองจากหัวหน้าปฏิวัติเป็นรางวัล
ซึ่งขณะนี้เหตุการดังกล่าวได้ผ่านพ้นไปแล้ว การชุมนุมมิได้มีการปฏิวัติ
และคุณสนธิก็มิได้รับตำแหน่งใดจากรัฐบาลอภิสิทธิ์
"สัจจะวาจาดังกล่าวจึงสิ้นสุดหมดความผูกพันลงแล้ว"

ดังนั้น หากพันธมิตรตั้งพรรค และเลือกคุณสนธิเป็นหัวหน้าพรรค
จึงเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคนที่จะเล่นการเมืองโดยสุจริต
และหากในอนาคตพรรคพันธมิตรเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
การที่คุณสนธิจะเป็นนายก หรือรัฐมนตรี
ก็ตามถือเป็นการได้ตำแหน่งตามครรลองครองธรรม
"จึงไม่ถือว่าเป็นการเสียสัจจะ" แต่อย่างใด
ซือกง หลกซือ

++
ต้องการให้ มีการตั้งพรรค และ อยากให้แกนนำทั้ง5 คนอยู่เป็นแกนนำต่อไป
สำหรับหัวหน้าพรรค ขอ อาจารญ์ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง คะ
เพราะ จากนี้ไป พรรคพันธมิตร ต้องไปเอาน้ำดีและ
ส่วนที่สวยงามทางความคิดจิตใจเข้าไปบำบัด จิต สสที่ตกต่ำน้ำเน่า
เก่าๆให้หมดไป
แต่ แกนนำ ไม่ควรมีตำแหน่งในพรรค เพื่อคงศัทธรา ของคน พันธมิตร ตลอดไป
ศัท ธราที่เกิดขึ้นอย่างสวยงามในวันนี้จะคงอยู่ตลอด
ถ้าไม่มีสิ่งยั่งยุหรืออำนาจมาต่อรอง
ยิ่งพรุ้งนี้คุณๆจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพี่น้องพันธมิตรว่ายิ่งใหญ่แค่ไหน
ของให้แกนนำ คงความเป็นแกนนำ และรักษาสิ่งนี้เอาไว้ดีกว่าคะ
เมื่อใดที่พรรค อ่อนแออ ยังคงมีแกนนำที่กล้าหญาและแข็งแกร่ง คงอยู่
ตลอดไป และเขาไป ช่วยเหลือได้
พันธมิตร กทม
++
ต้องการให้ มีการตั้งพรรค และ อยากให้แกนนำทั้ง5 คนอยู่เป็นแกนนำต่อไป
สำหรับหัวหน้าพรรค ขอ อาจารญ์ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง คะ
เพราะ จากนี้ไป พรรคพันธมิตร ต้องไปเอาน้ำดีและ
ส่วนที่สวยงามทางความคิดจิตใจเข้าไปบำบัด จิต สสที่ตกต่ำน้ำเน่า
เก่าๆให้หมดไป
แต่ แกนนำ ไม่ควรมีตำแหน่งในพรรค เพื่อคงศัทธรา ของคน พันธมิตร ตลอดไป
ศัท ธราที่เกิดขึ้นอย่างสวยงามในวันนี้จะคงอยู่ตลอด
ถ้าไม่มีสิ่งยั่งยุหรืออำนาจมาต่อรอง
ยิ่งพรุ้งนี้คุณๆจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพี่น้องพันธมิตรว่ายิ่งใหญ่แค่ไหน
ของให้แกนนำ คงความเป็นแกนนำ และรักษาสิ่งนี้เอาไว้ดีกว่าคะ
เมื่อใดที่พรรค อ่อนแออ ยังคงมีแกนนำที่กล้าหญาและแข็งแกร่ง คงอยู่
ตลอดไป และเขาไป ช่วยเหลือได้
พันธมิตร กทม
++

"สมเกียรติ" ลั่นขุดหลุมฝังการเมืองเก่า - ย้ำ 5 แกนนำพร้อมฟัง ปชช.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2552 10:45 น.


"สมเกียรติ" ลั่นถึงเวลาขุมหลุมฝังการเมืองเก่าที่โกงกินบ้านเมืองจนย่อยยับ
เข้าสู่ยุคที่ ปชช.จะตัดสินใจอนาคตประเทศชาติด้วยตัวเอง ชี้หากพันธมิตรฯ
ตั้งพรรคการเมืองต้องเก็บบทเรียนจากพรรคที่มีแนวทางเพื่อประชาชนในอดีต
ขณะที่ขนวนการภาคประชาชนต้องอยู่ต่อไป ยืนยัน 5 แกนนำไม่ทำอะไรโดยพลการ
ไปไหนไปด้วยกัน และจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวังเด็ดขาด

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
กล่าวต่อที่ประชุมสภาพันธมิตรฯ ที่อาคารนันนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ที่ผ่านมา ว่า วันนี้
มีตัวแทนเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ และตัวแทนพันธมิตรฯ
จากภาคพื้นอเมริกามาร่วมประชุมกับพี่น้องพันธมิตรฯ ด้วย
วันนี้พวกเรามาไว้อาลัยต่อความตายของการเมืองเก่า
การเมืองแห่งความฉิบหายของบ้านเมือง
ที่ประชุมแห่งนี้กำลังสาปส่งการเมืองเก่า
และเตรียมสถาปนาการเมืองใหม่ขึ้น

นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ผลของการต่อสู้ของพันธมิตรฯ 4-5
ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ 3 อย่าง คือ
1.ชนชั้นที่มีความรู้ขยายตัวอย่างกว้างขวางและตั้งตัวเองเป็นพันธมิตร
ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เป็นชนชั้นผู้รู้เท่ากันและประณามโค่นล้มระบบทักษิณ
ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และขุดหลุมฝังการเมืองเก่า
เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปรากฏการณ์ที่ 2
มีการเปิดโปงอย่างเข้มแข็งอย่างไม่เคยมีมาก่อนของสื่อเอเอสทีวี
ทำให้เกิดการขยายตัวขององค์ความรู้ ตั้งแต่เกิดปรากฏการณ์สนธิ
มาจนถึงวันนี้เป็นการโค่นล้มระบอบเก่าให้สูญไปจากแผ่นดินไทย
ปรากฏการณ์ที่ 3 การจัดตั้งไปสู่องค์กรการเมืองใหม่ ทั้ง 3
ปรากฏการณ์นี้คือปัจจุบันที่จะพลิกโฉมประเทศไทย
เป็นการขุดหลุมฝังการเมืองเก่าที่ตายไปแล้ว

นายสมเกียรติกล่าวว่า การประกาศการเมืองใหม่ เป็นสัญญาประชาคม
เป็นพันธสัญญาใหม่ของประชาชน
ที่ประกาศเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเดินหน้าสู่การเมืองใหม่
พันธสัญญาของเราที่ต้องลงมติภายใต้ความรับผิดชอบ
ไม่ใช่ลงมติแล้วกลับบ้านเฉย
เมื่อลงมติแล้วต้องเชื่อมั่นว่ามีแต่ประชาชนเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาของชาติ
บ้านเมืองได้ ไม่ใช่นักการเมือง ที่เอาแต่เงินมาทุ่มซื้อและโกงกิน

นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า
ในอดีตมีความพยายามตั้งพรรคการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนมาแล้ว 4
พรรค คือ พรรคพลังใหม่ ที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา โดยคนก่อตั้งคือ
นพ.กระแส ชนะวงศ์ และนายอาทิตย์ อุไรรัตน์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตในปัจจุบัน 2.พรรคสังคมนิยม ของ พ.อ.สมคิด
ศรีสังคม 3.พรรคแนวร่วมสังคมนิยมของนายแคล้ว นรปติ และดร.ปราโมทย์
นาครทรรพ ที่มาร่วมประชุมกับพันธมิตรฯ ในวันนี้ และ 4.พรรคพลังธรรมของ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อย่างไรก็ตาม พรรคเหล่านี้สลายตัวเองไปแล้ว
พันธมิตรฯ จะต้องรับบทเรียนจากพรรคเหล่านี้ ถ้าคิดจะมีพรรคการเมืองใหม่

อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า
การเมืองในสภาอย่างเดียวแก้ปัญหาไม่ได้
ต้องมีการเมืองภาคประชาชนควบคู่ไปด้วย การเมืองเก่า
คือการโกงกินของนักการเมือง ตัวเองอ้วนพี แต่ประชาชนประเทศชาติผอมเกร็ง
เราต้องขุดหลุมฝังการเมืองเก่าที่เน่าเฟะ ที่เกิดการสมยอมในอำนาจ
มีการซื้อเสียงของคนลงเลือกตั้ง เอาเงินมามากๆ ซื้อพรรคการเมือง
ซื้อนักการเมืองมารวมตัวกัน และซื้อประชาชน ระบอบนี้เรียกว่า
ระบบทุนสามานย์ของทักษิณ ชินวัตร

"วันนี้พันธมิตรฯ จะไม่ยอมให้การเมืองเกิดการฮั้วและสมยอมอีกต่อไป
เรามาลงเสาเอกปักหลักสร้างฐานการเมืองใหม่ เพื่อประชาชน ให้ก้าวรุดหน้าไป
ประเทศนี้ตั้งมา 800 ปี
ยังไม่มีครั้งใดที่ประชาชนได้ตัดสินใจอนาคตของประเทศอย่างแท้จริง
มีครั้งนี้เป็นครั้งแรก พรรคการเมืองอื่น เวลาเขาเรียกประชุม
เขาจะจัดโรงแรมอย่างดี สั่งอาหารอย่างดี ให้สมาชิกพรรคมากินนอน
แต่พันธมิตร มาสร้างองค์กรการเมืองใหม่ มานอนรออยู่ในรถ แล้วมาโหวตกัน
นี่แสดงว่า พวกเรามาด้วยจิตใจอันสูงส่งแน่วแน่
ที่จะกำหนดทิศทางของบ้านเมือง" นายสมเกียรติกล่าว

นายสมเกียรติ ย้ำว่า 5 แกนนำ จะไม่ไปไหนอีกแล้ว
ต้องไปด้วยกันกับพี่น้องประชาชน เราจะระมัดระวังไม่ให้ประชาชนเสียใจ
หรือจะผิดหวังแกนนำไม่ได้ เราไม่มีสิทธิทำการใดๆ โดยพลการ
ไม่มีสิทธิทำให้ประชาชนเสียใจเพราะ 5 แกนนำ
และองค์กรภาคประชาชนจะต้องเจริญก้าวหน้า และประสบชัยชนะอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น