...+

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ไข้เลือดออก-ฉี่หนูระบาดหนักอีสานใต้ พบผู้ป่วยกว่า 300 รายตายแล้ว 1

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -ไข้เลือดออก-ไข้ฉี่หนู ระบาดหนักอีสานใต้
พบผู้ป่วยรวมแล้วกว่า 300 ราย ตาย 1 ราย โคราชป่วยไข้เลือดออกมากสุด
ขณะที่สุรินทร์ป่วยไข้ฉี่หนูสูงสุด ด้าน สคร.5 โคราช เตือน
ปชช.ระวังเพราะป่วยได้ทุกเพศทุกวัย
แนะหมั่นกำจัดลูกน้ำยุงลายพาหะนำโรคโดยใช้หลัก 4 ป.
และก่อนย่ำโคลนให้สวมรองเท้าบู๊ท พบอาการผิดปกติให้พบแพทย์ด่วน

นายแพทย์สมชาย ตั้งสุภาชัย
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า
ขณะนี้ในพื้นที่สาธารณสุขเขต 14 ประกอบด้วย 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง คือ
นครราชสีมา, สุรินทร์,ชัยภูมิ และ บุรีรัมย์ พบการระบาดของโรค 2
ชนิดที่น่าเป็นห่วง คือ โรคไข้เลือดออกและโรคเลปโตสไปโรซีส หรือ
ไข้ฉี่หนู มีผู้ป่วยแล้วกว่า 300 ราย เสียชีวิต 1 ราย
โดยโรคไข้เลือดออกจากรายงานทางระบาดวิทยากรมควบคุมโรค พบว่า
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. จนถึงล่าสุด (9 พ.ค. 52)
มีรายงานผู้ป่วยด้วยไข้เลือดออกแล้วจำนวน 246 ราย
แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

สำหรับจังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ นครราชสีมา 86 ราย,
สุรินทร์ 59 ราย, ชัยภูมิ 56 ราย และบุรีรัมย์ 45 ราย
โรคไข้เลือดออกสามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย
หากป่วยแล้วอาจถึงตายได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
อาการสำคัญของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูงลอยอยู่ประมาณ 2- 7 วัน
ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีจุดแดงๆ ตามลำตัว แขน ขา
บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และเบื่ออาหาร
ในรายที่รุนแรงจะกระสับกระส่าย มือเท้าเย็นเนื่องจากภาวะช็อค
ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเสียชีวิตได้

โรคไข้เลือดออกสามารถป้องกันได้โดย อาศัยความร่วมมือของชุมชน
ในการกำจัดลูกยุงลาย ตามภาชนะต่างๆ ทั้งภายในบ้าน และ รอบบ้าน โดยใช้หลัก
4 ป. คือ 1.ปิดฝาโอ่งหรือภาชนะบรรจุน้ำให้มิดชิด ไม่ให้ยุงลายไปวางไข่ได้
2.เปลี่ยนน้ำ ในภาชนะใส่น้ำที่ไม่มีฝาปิดทุก 7 วัน เพื่อตัดวงจรของยุงลาย
3.ปล่อยปลากินลูกน้ำยุงลาย ในภาชนะที่ไม่มีฝาปิด และ
4.ปรับปรุงบริเวณรอบๆ บ้านให้สะอาดอยู่เสมอ และที่สำคัญลูกหลานนอนกลางวัน
ให้ก้างมุ้งทุกครั้ง ป้องกันยุงลายกัด

นพ.สมชาย กล่าวอีกว่า สำหรับโรคเลปโตสไปโรซีส หรือ "โรคไข้ฉี่หนู"
จากรายงานทางระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึงล่าสุด (9
พ.ค. 52) พบผู้ป่วย แล้วจำนวน 124 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1
ราย จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ สุรินทร์ 61 รายเสียชีวิต 1 ราย,
บุรีรัมย์ 45 ราย, ชัยภูมิ 10 ราย และนครราชสีมา 8 ราย

โรคไข้ฉี่หนูนี้เป็นโรคที่แพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนจนถึงต้นฤดูหนาว
มีหนูเป็นตัวแพร่เชื้อโรคที่สำคัญ
ติดต่อโดยการสัมผัสกับปัสสาวะสัตว์นำโรคโดยตรง หรือติดทางอ้อมจากแหล่งน้ำ
ทุ่งนา น้ำท่วมขังที่มีเชื้อโรคปนอยู่
เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลตามร่างกาย
ผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ และปวดกล้ามเนื้อมาก ปวดน่อง ตาแดง
ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้

สำหรับการป้องกันโรคทำได้โดยการสวมรองเท้าบูทกันน้ำทุกครั้ง
หากต้องลุยน้ำย่ำโคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีบาดแผล
หากจำเป็นต้องลงแช่น้ำในคูคลองไม่ควรแช่น้ำนาน
และเมื่อขึ้นจากน้ำแล้วต้องรีบอาบน้ำให้สะอาดโดยเร็ว
ปกปิดอาหารไม่ให้หนูปัสสาวะรด และล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสกับสัตว์
หากมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะเมื่อมีอาการภายหลังสัมผัสสัตว์ หรือลุยน้ำ ย่ำโคลน ภายใน 2-14
วัน ต้องรีบพบแพทย์ หรือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น