...+

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

เปิดความลับทำ “ข้าวกล้องงอก” อร่อย แถมได้ GABA สูงกับ มข.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


     แม้ ข้าวกล้องงอกจะอุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น สารGABA (gamma aminobutyric acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน ช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว และที่สำคัญช่วยบำรุงเซลล์ประสาท ทำให้สมองเกิดการผ่อนคลาย ป้องกันการทำลายสอง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสูญเสียความทรงจำ หรือ อัลไซเมอร์นั่นเอง รวมไปถึงสารดีอื่นๆ เช่น ใยอาหาร กรดไฟติก (Phytic acid) วิตามินซี วิตามินอี แต่ข้อจำกัดของข้าวกล้องงอกที่ทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยอยากรับประทาน ก็คือสีที่เข้มและรสชาติหลังหุงสุกไม่ค่อยถูกปากนัก

รศ.วรนุช ศรีเจษฏารักข์
       แต่ล่าสุดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้คิดค้นวิธีการผลิตข้าวกล้องงอกที่ลดข้อจำกัดดังกล่าวได้แล้ว
      
       รศ.วรนุช ศรีเจษฏารักข์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้ศึกษาการผลิตข้าวกล้องงอกด้วยวิธีการนำข้าวเปลือกมางอกทั้งเปลือก ก่อนนำมาทำเป็นข้าวกล้อง โดยได้รับการสนับสนุนงานวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยผลการศึกษาว่า การ ผลิตข้าวกล้องงอกด้วยวิธีการดังกล่าวทำให้ได้สาร GABA มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ข้าวกล้องงอกยังมีสีสวย ไม่คล้ำ ข้าวมีลักษณะนุ่ม รสชาติปนหวานนิดๆ ถูกใจผู้บริโภคกลุ่มผู้รักสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย

ข้าวมะลิแดงคือ พันธุ์ข้าวที่สามารถให้สาร GABA สูงที่สุด
       “สำหรับขั้นตอนการศึกษานั้น เริ่มจากการนำข้าวเปลือกมาผ่านกระบวนการแรก คือ แช่น้ำที่อุณหภูมิประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 10- 12 ชั่วโมง จากนั้นนำขึ้นมาวางไว้ในถาดเพื่อทำการเพาะงอกโดยให้ออกซิเจนและอยู่ในห้อง ที่มีความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม ใช้เวลาประมาณ 20-30 ชั่วโมง ข้าวที่เตรียมไว้จะเริ่มมีรากออกมาจากข้าวเปลือก หลังจากนั้นนำไปอบแห้งที่อุณหภูมิ ประมาณ 50 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 ชั่วโมง เสร็จขั้นตอนนี้จึงนำข้าวเปลือกที่ผ่านการอบแห้งมาสีกะเทาะเปลือกเป็น ข้าวกล้องงอก”
      
       รศ.วรนุช ให้ข้อมูลด้วยว่า จากการศึกษาพบว่า พันธุ์ข้าวที่สามารถให้สาร GABA สูงที่สุด คือ ข้าวมะลิแดง โดยมีสาร GABA เพิ่มขึ้น เป็น 12 มิลลิกรัมต่อ100 กรัมน้ำหนักแห้งมากกว่าข้าวทุกสายพันธุ์ที่เคยนำมาทำข้าวกล้องงอก ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาวดอกหอมมะลิ 105 ข้าวชัยนาท ข้าวคลองหลวง กข.6 และข้าวเหนียวดำ
      
       “ข้อ ดีของการทำข้าวกล้องงอกแบบงอกทั้งเปลือก คือ สีข้าวจะสวยกว่าข้าวกล้องงอกทั่วไป รสชาติดี กรุบกรอบ หวานมัน นอกจากนี้ เวลากะเทาะเปลือกงอกได้เม็ดข้าวเต็มสูง และปริมาณข้าวหักน้อยกว่ากะเทาะเปลือกที่ไม่ผ่านการงอก ซึ่งผู้บริโภคยอมซื้อในราคามากกว่า 1.5-2 เท่าของราคาข้าวกล้องปกติอีกด้วย” รศ.วรนุช แจกแจง

ข้าวกล้องงอกที่ทั้งอร่อยและมีสาร GABA สูง
       นอกจากนั้น จากการศึกษายังพบด้วยว่า ภายหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ระยะเวลาในการพักข้าวเปลือกก่อนการนำไปงอก มีผลต่อปริมาณการงอกและปริมาณสารGABA โดยระยะเวลาพักข้าวเปลือกนาน ปริมาณการงอกจะสูง แต่ปริมาณสาร GABA ลดลง ดังนั้น จึงต้องศึกษาระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวก่อนนำไปเพาะให้เหมาะสม เพื่อให้ได้สาร GABA ในปริมาณที่สูงที่สุด
      
       ส่วนในนั้น รศ.วรนุช บอกว่า มีแผนจะพัฒนาต่อโดยการแปรรูปข้าวกล้องงอกไปเป็นน้ำข้าวกล้องงอกผสมน้ำผลไม้ ที่ให้ทั้งสารกาบาและสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงในเครื่องดื่มชนิดเดียว กัน โดยขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์
      
       รศ.วรนุช กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การค้นพบวิธีการผลิตข้าวกล้องงอกโดยวิธีเพาะทั้งเปลือกในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมถึงประโยชน์ที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าข้าวไทย การนำผลวิจัยไปพัฒนาต่อยอดในด้านการแพทย์เพื่อสุขภาพ และขยายผลในเชิงอุตสาหกรรม สร้างรายได้ให้เกษตรกร
      
       สำหรับ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ รศ.วรนุช ศรีเจษฏารักข์ ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร.081-0503311 หรือ 043-362132

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000040000

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น