"สนธิ" ฝากบอก "สบายดีและปลอดภัยแล้ว" ด้านคนขับอาการยังน่าห่วง

"สนธิ" ฝากบอก "สบายดีและปลอดภัยแล้ว" ด้านคนขับอาการยังน่าห่วง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ทีมแพทย์จุฬาฯ แถลงอาการบาดเจ็บ "สนธิ" เป็นปกติแล้ว พูดคุย นั่ง
เดิน ได้ ปวดศีรษะเล็กน้อย คาดพักรักษาตัว 1 สัปดาห์ กลับบ้านได้
ฝากบอกพี่น้องทุกคน "สบายดีและปลอดภัยแล้ว"
แต่ยังไม่สามารถให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขณะที่อาการ "อดุลย์"
คนขับรถมีอาการซึม น่าห่วง เตรียมผ่าตัดอีกรอบ
ส่วนผู้ติดตามอาการปลอดภัยอีก 1 สัปดาห์ กลับบ้านได้ เช่นกัน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 เมษายน ที่ห้องประชุมมงคลนาวิน
ตึกสก. ชั้น 10 รพ.จุฬาลงกรณ์ รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์
รองผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหาร พร้อมทีมศัลยแพทย์รพ.จุฬาฯ
แถลงอาการล่าสุดของนาย สนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายอดุลย์ แดงประดับ
คนขับรถ และนายวายุภักษ์ มังคละสินธุ์ ผู้ติดตาม
หลังจากถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 17 เมษยนที่ผ่านมาว่า ในวันนี้
อาการของคุณสนธิเป็นปกติดี สามารถพูดคุยได้
ขณะนี้แพทย์ได้ถอดสายน้ำเกลือออกทั้งหมดแล้ว สามารถนั่ง เดิน
รับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ยังคงมีอาการปวดศีรษะบ้างเล็กน้อย

ศ.นพ.สุวิทย์ ศีอัศฏาพร ศัลยแพทย์ รพ.จุฬา กล่าวเสริมว่า
ในส่วนของแผลผ่าตัดสมองของคุณสนธิ อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ไม่มีปัญหาแทรกซ้อนแต่อย่างใด คงใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 วัน ก็จะเป็นปกติ
และคาดว่าจะใช้เวลาพักรักษาตัวอีกประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะสามารถกลับบ้านได้

รศ. นพ.ธีระพงศ์ กล่าวต่อว่า
ในตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยในเรื่องอื่นๆ
กับคุณสนธิเพียงแต่พูดคุยอาการโดยรวม อีกทั้งคุณสนธิยังฝากบอกทุกคนนว่า
ตนสบายดีและปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถให้ปากคำใดๆ
กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าวถึงอาการของนายอดุลย์
ซึ่งย้ายมาจากรพ.มิชชั่นว่า
ที่ผ่านมาหลังจากได้รับการผ่าตัดที่สมองด้านขวาที่รพ.มิชชั่นแล้วนั้น
เมื่อวานนี้( 17 เม.ย.) ทางรพ.จุฬาฯ
ได้มีการผ่าตัดสมองเพื่อนำเศษกระดูกบริเวณกระโหลกที่แตกจากกระสุน
และเศษผมออกเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่โดยรวมในช่วงเช้าวันนี้
ผู้ป่วยมีอาการซึมลง คณะแพทย์จึงส่งเอกเรย์สมองอีกครั้ง พบว่า
สมองน้อยด้านซ้ายบริเวณท้ายทอยมีอาการขาดเลือด ทำให้เนื้อสมองบวมขนาด 4x4
ซม.ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกตัวช้าและซึมลงไป
ขณะแพทย์จึงต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเพราะอาการน่าเป็นห่วง

"ในวันนี้จะนำตัวผู้ป่วยเข้าผ่าตัดสมองส่วนที่บวมอีกครั้งหนึ่ง
ในส่วนของร่างกายเทียบกับเมื่อวานแล้วอาการดีขึ้น
แขนขวาที่กระดูกหักอยู่ในเกณฑ์ดี เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวแล้ว
แพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูกจะเข้าผ่าตัดเพื่อป้องกันความพิการด้วย
ส่วนแผลจากสะเก็ดกระสุนบริเวณหน้าอกมีเนื้อตายอยู่บ้าง
แต่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารรถดูแลได้ ขณะที่อาการของนายวายุภักดิ์
อาการโดยรวมปกติดี แผลที่เกิดจากกระสุนบริเวณ แขนและขาด้านขวา
ลำตัวหน้าอก แพทย์ได้ดูแลเพื่อป้องกันการอักเสบตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ดี 95%
พักฟื้นอีก 1 สัปดาห์ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

สำหรับการลงชื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยทั้ง 3 ราย
ยังคงมีผู้เดินทางมาอย่างต่อนื่อง คึกคัก

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000043493

"ชวน" ฝากเหรียญสมเด็จพระนเรศวรฯ คุ้มครอง "สนธิ"
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000043542

เผยภาพกล้อง CCTV รถต้องสงสัยยิง "สนธิ"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2552 15:34 น.

พบรถต้องสงสัยที่ก่อเหตุยิงถล่มรถยนต์ "สนธิ ลิ้มทองกุล"
ขับไล่หลังห่างรถยนต์คันเกิดเหตุเพียง 18 วินาที เป็นโตโยต้ากระบะ 2
ประตู สีบรอนซ์ ขณะที่กล้อง CCTV แยกบางขุนพรหม 5 ตัว
ระบบบันทึกภาพขัดข้องตั้งแต่เมื่อวานนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากการศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า
จากการตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ของ
กทม.ที่ติดตั้งบริเวณสี่แยกบางขุนพรหม จำนวน 5 ตัว
โดยเป็นกล้องภาพนิ่งจำนวน 4 ตัว กล้องเคลื่อนไหวเมื่อมีการคอนโทรลจำนวน 1
ตัว ปรากฏว่าไม่ มีการบันทึกภาพในช่วงเกิดเหตุที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถูกยิง
เนื่องจากระบบบันทึกภาพของกล้อง CCTV ขัดข้องทั้ง 5 ตัวพร้อมกัน
โดยระบบบันทึกภาพไม่ทำงานตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น.เมื่อวานนี้
ซึ่งเมื่อเกิดเหตุยิงถล่มขึ้นจึงทราบว่าระบบบันทึกภาพขัดข้อง ทั้งนี้
แม้ว่าระบบบันทึกภาพจะไม่ขัดข้องแต่ทิศทางของมุมกล้องไม่ตรงกับจุดที่เกิด
เหตุ ดังนั้น แม้บันทึกภาพได้แต่ก็มองไม่เห็น

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกล้อง CCTV
ที่ติดตั้งบริเวณแยกเทเวศน์พบว่ารถยนต์ของคันที่เกิดเหตุวิ่งผ่านไปในเวลา
05.41.33 น. และ รถต้องสงสัยโตโยต้ากระบะ 2 ประตู สีบรอนซ์ทอง
ที่ก่อเหตุวิ่งผ่านไปในเวลา 05.41.51 น. โดยวิ่งตามกันระยะเวลาห่างแค่ 18
วินาที ก่อนที่จะเกิดยิงถล่มรถของนายสนธิในเวลาต่อมา
ซึ่งภาพดังกล่าวถือเป็นเพียงภาพเดียวที่กล้อง CCTV สามารถจับภาพได้
เพราะจากการตรวจสอบกล้องที่แยกสี่เสาเทเวศร์
ก็ไม่ปรากฏภาพรถของนายสนธิแต่อย่างใด

นอกจากนี้
จากการลงตรวจสอบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่บริเวณแยกบางขุนพรหม พบว่า
ตู้ควบคุมระบบบันทึกภาพมีรอยกระสุนนปืน 1 รอย
แต่ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับระบบบันทึกภาพขัดข้องก่อนหน้านี้แต่ประการใด
อีกทั้งไม่ทราบว่ารอยกระสุนปืนดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหรือหลังเหตุการณ์ยิง
ถล่มแกนนำพันธมิตรฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจชนะสงครามได้ประสานขอบันทึกภาพของกล้อง CCTV
ที่แยกเทเวศร์ และแยกสี่เสาเทเวศร์ไปตรวจสอบเพื่อขยายผลต่อไป

ผู้ สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ จากภาพที่บันทึกได้ของกล้อง
CCTV ที่ติดตั้งบริเวณแยกบางลำพู
ยังพบว่ารถที่คาดว่าจะเป็นรถต้องสงสัยเนื่องจากมีลักษณะเดียวกัน
กระบะหลังมีการบรรทุกของเช่นกันได้วิ่งมาตามถนนสามเสนและเลี้ยวซ้ายไปทางถนน
พระสุเมรุ ซึ่งบังคับให้วิ่งตรงผ่านหน้าวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000043193

กทม.สั่งตรวจสอบ CCTV จุดยิง "สนธิ" ชี้เตรียมติดตั้งกล้องทั่ว กทม.อีก
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.aspx?NewsID=9520000043177

"กษิต" - สมาคมนักข่าวฯ ส่งแจกันเยี่ยม "สนธิ" พันธมิตรหลั่งไหลเซ็น
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.aspx?NewsID=9520000043173

แพทย์เผยผ่าตัด "สนธิ" ราบรื่น อาการปลอดภัย รู้สึกตัวดี
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.aspx?NewsID=9520000043120

แพทย์วชิระเผยอาการ "สนธิ" พบกระสุนฝังขมับ ต้องผ่าตัดแต่ไม่น่าเป็นห่วง
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.aspx?NewsID=9520000043063

"พ่ออดุลย์"แค้นพวกลอบฆ่า "สนธิ" เตือนพธม.มีสติ -"มาร์ค"โทรให้กำลังใจ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

"จิตตนาถ"เผย พ่อคนขับรถแค้นพวกลอบฆ่า
ระบุเป็นความสูญเสียกับครอบครัว ไม่โดนเองไม่รู้สึก "สนธิ" ฝากพันธมิตรฯ
มีสติ อย่าหลงตามเกมปลุกปั่น ด้าน "มาร์ค" ห่วงโทรให้กำลังใจ ขณะที่
"อดุลย์" คนขับรถ อาการยังน่าห่วง พร้อมระดมน้ำใจเปิดบัญชีช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00
น.เจ้าหน้าที่พยาบาลได้นำนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถนายสนธิ ลิ้มทองกุล
เข้ารับการผ่าตัดสมองเป็นครั้งที่ 3โดยมีบิดา อา
และป้าของนายอดุลย์คอยเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้บิดานายอดุลย์
ยังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขอให้องค์อัลเลาะห์คุ้มครองลูกให้ปลอดภัย
ด้านอาและป้าต่างก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า
มาเห็นในสภาพแบบนี้อย่ามาเห็นยังจะดีเสียกว่า
ตอนนี้คงได้แต่ส่งกำลังใจให้ปลอดภัย

ด้านนายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายนายสนธิ ลิ้มทองกุล
ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า คุณพ่อของคุณอดุลย์แค้นคนที่ทำมาก
ไม่ว่าคนที่ทำจะรับงานจากใครมาก็ขอให้รู้ไว้ว่า
นี่เป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับครอบครัว
หากไม่ใช่ครอบครัวของคนที่ทำก็คงจะไม่รู้ โดยในวันนี้ นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์แสดงความห่วงใยคุณสนธิ ผ่านทางคุณแม่
(นางจันทน์ทิพย์
ลิ้มทองกุล)นอกจากนี้ยังมีประชาชนจำนวนมากโทรศัพท์มาให้กำลังใจอย่างไม่ขาด
สาย

"อยากฝากไปถึง แกนนำพันธมิตรทุกคน
ขออย่าให้หลงตามเกมของคนที่มาปลุกปั้นจากผู้ไม่หวังดี
อยากให้พันธมิตรทุกคนมีสติ
ทั้งนี้ในส่วนของนายอดุลย์ได้มีการเปิดบัญชีช่วยเหลือโดยใช้ชื่อบัญชี
อดุลย์ แดงประดับ เลขที่บัญชี 008 204 1062
ธนาคารกสิกรไทยสาขาบางลำพู"นายจิตตนาถ กล่าว

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000043536

คุณสนธิมักออกมาปราศรัยให้กำลังใจท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เสมอๆ
ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ ก็เป็นห่วงคุณสนธิในยามนี้ โทรให้กำลังใจกับภรรยาคุณสนธิ
เห็นแล้วก็ ปลื้มใจที่ คนดีๆ ของประเทศที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง
เป็นกำลังใจให้กันและกัน...

ใน ยามนี้คนไทยทุกคนที่รักชาติก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
และร่วมกันให้กำลังใจท่านายกฯอภิสิทธิ์ให้สามารถนำชาติพ้นภัยและครอบครัว
ท่านด้วยที่ต้องมาพบเหตุการณืเช่นนี้..
ให้กำลังใจคุณสนธิให้หายป่วยกลับมาต่อสู้ให้ความรู้และช่วยขจัดระบอบเลวร้าย
ทักษิณให้หมดไปจากแผ่นดินไทย
คนไทยรักชาติจับมือกันให้มั่น

ขอให้คุณสนธิ และแกนนำ พธม. และพนักงานขับรถ ทุกคนปลอดภัย
กรณีคุณสนธิถูกลอบยิงแสดงว่าสถานการณ์นี้ยังไม่สงบอาจต้องประกาศกฎอัยการศึก
โดยรีบด่วนเพื่อให้ทหารดำเนินการได้เมที่แทนตำรวจที่ใส่เกืยร์ว่าง
วางกำลังรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญโดยต่วน
ไม่ต้องห่วงเรื่องท่องเที่ยวแล้ว
ตอนนี้ต้องปฏิบัติการให้ประเทศสงบโดยเร็วที่สุด ท่านนายกฯทำถูกต้องแล้ว
ขอสนับสนุนเต็มที่ ขอขอบคุณท่านนายกฯและทหารด้วย
ลำดับต่อไปต้องปลดนายตำรวจฯ ที่บกพร่องต่อหน้าที่ ต้องระวังตัว
อย่างเต็มที่ ขั้นการต่อไป ปลดตำรวจที่ทำหน้าที่บกพร่อง
ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายในระดับโลกที่ประชุมแก้ไข
เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก เอานายตำรวจที่ดีรักษาการแทน
รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญอย่างเข้มงวด
ขจัดสถานีวิทยุท้องถิ่นที่ยังสนับสนุนนักโทษชายทักษิณ
กวาดล้างเสื้อแดงในต่างจังหวัด
ดำเนินคดีแกนนำเสื้อแดงตามกฎหมายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด อุดรฯ
เชียงใหม่ ขอนแก่น แพร่
นครราชสีมาฯลฯโดยประกาศกฎอัยการศึกในจังหวัดเหล่านี้
เพื่อให้ทหารมีอำนาจป้องกันการเผาโรงเรียน สถานที่ราขการ สนามบิน ไฟฟ้า
ประปา ทางแยกถนนสายหลัก วิทยุและ TV ทุกช่องจะต้องให้ความร่วมมือชี้แจง
อนึ่งกรณีผู้ต้องหาฯ ต้องตั้ง อนุกรรมการฯ รับผิดชอบ
อย่าให้อยู่ในมือตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรบางแห่งฯ
ให้อยู่ในมือของคณะกรรมการฯ
ไม่ควรไว้ใจตำรวจจนกว่าจะมีคำสั่งปลดและตั้งตำรวจดีรักษาการได้สำเร็จ
เดี๋ยวจะล้มเหลวเหมือนกรณีประชุมอาเชี่ยนที่พัทยา อนึ่งกรณีนี้เป็น พรก.
ฉุกเฉินฯเป็นโอกาสอันดีที่ท่านมีอำนาจเมที่ในการสั่งปลด
มิฉะนั้นจะไม่ทันการ
เร่งจับแกนนำเสื้อแดงให้ไดทั้งสิ้นโดยตำรวจดีร่วมมือกับทหารและให้รักษาการ
ก่อนแต่งตั้งแทนตำรวจเลว กรุณาดำเนินการโดยรวดเร็วและเข้มงวด
ขจัดสถานีวิทยุท้องถิ่นที่ยังสนับสนุนนักโทษชายทักษิณ
กวาดล้างเสื้อแดงในต่างจังหวัด
ดำเนินคดีแกนนำเสื้อแดงตามกฎหมายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด อุดรฯ
เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น แพร่
นครราชสีมาฯลฯโดยประกาศกฎอัยการศึกในจังหวัดเหล่านี้
เพื่อให้ทหารมีอำนาจป้องกันการเผาโรงเรียน สถานที่ราชการ สนามบิน
วิทยุและ TV ทุกช่องจะต้องให้ความร่วมมือชี้แจง อนึ่งกรณีผู้ต้องหาฯ
ต้องตั้ง อนุกรรมการฯ รับผิดชอบ อย่าให้อยู่ในมือตำรวจนครบาล
ตำรวจภูธรบางแห่งฯ ให้อยู่ในมือของคณะกรรมการฯ
ไม่ควรไว้ใจตำรวจจนกว่าจะมีคำสั่งปลดและตั้งตำรวจดีรักษาการได้สำเร็จ
เดี๋ยวจะล้มเหลวเหมือนกรณีประชุมอาเชี่ยนที่พัทยา การ
เร่งจับแกนนำเสื้อแดงให้ไดทั้งสิ้นโดยตำรวจดีร่วมมือกับทหารและให้รักษาการ
ก่อนแต่งตั้งแทนตำรวจเลวระงับการปฏิบัติการใต้ดินของเสื้อแดง ตั้งงบ
700ล้านบาทประมาณ20ล้านUS$
จ้างองค์กรกฏหมายสากลเอกชนต่างประเทศช่วยเหลือในการจับทักษิณด้วย
100ล้านบาทสำหรับสินบนนำจับแกนนำทื่เหลือ และ 1500
ล้านบาทlสำหรับการสนับสนุนปฏิบัติการรักษาความสงบในประเทศโดยท่านนายกฯ
สามารถเซ็นอนุมัติจากงบกลาง รายการกรณีฉุกเฉินและเร่งด่วนได้ทันที
ในการสนับสนุนการปฏิบัติการในประเทศ
การนี้สามารถดำเนินการถึงมือผู้เบิกจ่ายได้ในไม่เกิน 2 วัน
โดยการแฟ็กใบอนุมัติติงวดให้ส่วนราชการและทหารเบิกจ่ายได้ทันที
อนึ่งงบประมาณรายการนี้อยู่ในอำนาจท่านนายกโดยตรงหากไม่พอสามารถอนุมัติ
เพิ่มเติมได้ งบประมาณรายการนื้มีเพียงพอแน่นอน
วิเคราะห์ได้ว่า การต่อสู้ใต้ดินที่นักโทษชายทักษิณ และ สส. พท.
บางคนได้ประกาศนั้นเกิดขึ้นแล้ว
ดังนั้นการรักษาความมั่นคงและปลอดภัยของชาติต้องเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุด
แล้ว(DEACON4) ประกาศกฎอัยการศึก
ปลดข้าราชการฝ่ายทักษิณอย่างเด็ดขาดZ(บอกให้ปลดตั้งแต่เหตุการณ์ที่พัทยา
แล้วไม่ดำเนินการสักที่) มิฉะนั้นรัฐบาลเองก็จะอยู่ไม่ได้
ไม่ต้องห่วงเรื่องการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอีกต่อไป
เพราะหากรักษาความมั่นคงของประเทศไม่ได้ ก็ฟื้นฟูไม่ได้
ตั้งคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญและประชาชนโดยมีท่านแม่ทัพภาค
ที่ 1 เป็นประธาน ให้ใช้งบประมาณจาก งบกลาง
รายการกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน และอย่านึกว่าการปฎิวัติจะง่าย
สงครามการเมืองเกิดขึ้นแน่ จะเกิดการนองเลือดมั่วไปหมด
ตัวใครตัวมันละที่นี้ ขนาดนายกฯยังเอาตัวแทบไม่รอด
แล้วยังไม่ปลดข้าราชการฝ่ายทักษิณอีก
ความมั่นคงปลอดภัยในประเทศเป็นศูนย์แล้ว
หากไม่ปลดในวันพรุ่งนี้ก็หมดสภาพแล้ว
คือไม่สามารถรักษาความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชนได้
ควรดำเนินการก่อนที่บ้านเมืองจะเสียหาย
กว่านี้และไม่ต้องห่วงตำแหน่งนายกฯหากทำดีท่านก็ย่อมอยู่ได้อย่างมี
เกียรติยศ(update16)
ddd