...+

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

พธม.บุรีรัมย์ จี้ รบ.เร่งล่าสัตว์นรกลอบยิง "สนธิ" มารับกรรม - เชื่อปมการเมือง/ฝีมือคนมีสี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ -พันธมิตรฯบุรีรัมย์ นำโดย ภรรยา "สารวัตรจ๊าบ" วีรชนกู้ชาติ
ร่วมเรียกร้องรัฐบาล-ตร.เร่งจับกุมคนร้าย และ "สัตว์นรก"
ผู้บงการลอบสังหาร "สนธิ" มาดำเนินคดีตาม กม.อย่างเด็ดขาดโดยเร็ว
มั่นใจปมเหตุลอบสังหารมาจากการเมือง และเป็นฝีมือคนมีสีแน่นอน

วันนี้ (19 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00
น.ที่บ้านเลขที่ 1-4/6 ถ.อิสาณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
กลุ่มแกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จ.บุรีรัมย์
นำโดย น.ส.เพ็ญพิมล ใสงาม ภรรยา พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือ "สารวัตรจ๊าบ"
หัวหน้าการ์ดและอดีตแกนนำพันธมิตรฯ บุรีรัมย์
ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์รถยนต์จิ๊ปเชโรกีระเบิดเมื่อครั้งรัฐบาลสั่งตำรวจ
สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ หน้าอาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ 7 ต.ค. 2551
ที่ผ่านมา, นายเสฎฐวุฒิ ชมภูพงษ์, นายศักดิ์ชาย แต่งงาม
กรรมการยามเฝ้าแผ่นดินบุรีรัมย์, นางลำยอง แสงดาว แกนนำพันธมิตรฯ
อ.ประโคนชัย และเครือข่ายพันธมิตรฯ อ.เมืองบุรีรัมย์ อีกประมาณ 10 คน
ได้ร่วมกันออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำพันธมิตรฯ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมคนขับรถและผู้ติดตาม
เมื่อเช้าวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา

น.ส.เพ็ญพิมล ใสงาม ภรรยา พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือ
"สารวัตรจ๊าบ" ได้อ่านแถลงการณ์ สรุปได้ว่า
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้พวกเราชาวพันธมิตรฯ บุรีรัมย์
หวาดกลัวเสียขวัญกำลังใจแต่อย่างใด
เพราะเราเข้าใจดีว่าวิถีการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง
และสถาบันสำคัญของประเทศ ย่อมมีอุปสรรคและอันตรายเป็นเรื่องธรรมดา
แต่พวกเรามั่นเชื่อในบุญบารมีแห่งความดีและความจริงที่ชาวพันธมิตรฯร่วมกัน
ต่อสู้เพื่อแผ่นดินย่อมเป็นเกราะป้องกันภัยให้แกนนำพันธมิตรฯทุกคน และ
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล อยู่รอดปลอดภัยไม่ถึงแก่ชีวิต
และมีสุขภาพแข็งแรงฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว

ความรู้สึกของชาวพันธมิตรฯบุรีรัมย์ ที่มีต่อ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล
และแกนนำทุกๆ คน ก็คือ ความเชื่อมั่น ศรัทธา
ที่เกิดจากการอุทิศตัวของเหล่าแกนนำพันธมิตรฯที่ทำหน้าที่เปิดโปงความชั่ว
ร้าย นักโทษชายทักษิณและลูกสมุน มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ท่ามกลางคมปาก
คมหอก คมดาบ และห่ากระสุนปืน อาวุธสงครามนานาชนิด

พวกเราชาวพันธมิตรฯทั่วประเทศ
ไม่ได้หลงใหลคลั่งไคล้แกนนำแบบไร้สมอง
แต่ศรัทธาในเนื้องหาสาระแห่งการนำต่อสู้เพื่อพิทักษ์ชาติ
แผ่นดินไทยและสถาบันเบื้องสูง ไม่ว่าแกนนำจะมีกี่คน หรือจะเหลือกี่คน
พวกเราชาวพันธมิตรฯ ก็พร้อมที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อชาติ ศาสน์
กษัตริย์ต่อไป อย่างไม่มีวันยุติอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ขอฝากถึงนักการเมืองและข้าราชการไทยทั่วประเทศ ว่า
หลายปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า
การต่อสู้เพื่อเปิดโปงความชั่วร้ายของนักโทษชายทักษิณและลูกสมุน
ยืนอยู่บนความถูกต้อง และเกิดขึ้นอย่างกล้าหาญไม่กลัวลำบาก ไม่กลัวตาย
ได้สร้างชัยชนะแก่ประเทศไทยตลอดมา
และนับวันพลังแห่งศีลธรรมนี้มีแต่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งต่างจากฝ่ายนักโทษชายทักษิณ และลูกสมุน
ที่มีแต่หดตัวลดน้อยถอยลงทุกวัน

ดังนั้น นับตั้งแต่กระสุนนัดแรกที่ลั่นไกใส่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล
ถือเป็นเสียงแห่งการปลุกมโนธรรมสำนึกของพวกท่านให้บังเกิดและตื่นตัวขึ้นมา
ร่วมกันกำจัด นักโทษชายทักษิณ และลูกสมุน
ให้สิ้นซากจากแผ่นดินไทยพร้อมกันนี้ขอเรียกร้องให้รัฐบาล
และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามจับกุมคนร้าย หรือผู้บงการลอบสังหาร
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ
มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยเร็ว
เพราะเป็นการกระทำอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
ในกลางกรุงเทพมหานครและเป็นพื้นที่ประกาศบังคับใช้
พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

รวมทั้งพวกเรามั่นใจว่า ปมเหตุการลอบสังหาร คุณสนธิ ลิ้มทองกุล
เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการเมืองอย่างแน่นอน เพราะ คุณสนธิ
ได้เปิดโปงปูมหลังความชั่วร้ายของนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง
ประกอบกับอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธสงครามมีอานุภาพร้ายแรง เชื่อว่า
ไม่น่าจะเป็นฝีมือของประชาชนคนธรรมดา น่าจะเป็นกลุ่มคนมีสี
จึงเรียกร้องขอความเป็นธรรมในการสืบสวนติดตามคดี
ให้กับคุณสนธิอย่างถึงที่สุด
ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ได้อุทิศตนต่อสู้เพื่อประชาชน
ประเทศชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด

"อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์
จะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่ยืนยันว่า หากมีมติจากแกนนำพันธมิตรฯ
หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน สังคม และประเทศชาติบ้านเมือง
ก็พร้อมร่วมกันลุกฮือขึ้นมาต่อสู้เคลื่อนไหวร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯทั่ว
ประเทศโดยทันที" น.ส.เพ็ญพิมล กล่าว

ทางด้าน นายศักดิ์ชาย แต่งงาม กรรมการยามเฝ้าแผ่นดินบุรีรัมย์
กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
(ผบ.ทบ.) และรัฐบาลผู้เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงของประเทศว่าการที่ท่าน
ผบ.ทบ. และ นายตำรวจใหญ่คนหนึ่ง
ได้ออกมาพูดให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับฟังในลักษณะว่า
"ประชาชนทั่วไปก็มีอาวุธสงครามเช่นนี้ได้ การลอบสังหารมีหรือไม่มี
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เกิดขึ้นได้และการใช้อาวุธสงครามก็เกิดขึ้นในประเทศหลายครั้ง"
นั้น อาวุธที่ท่านระบุเป็นอาวุธที่ใช้ในสงคราม
หากประชาชนมีอาวุธดังกล่าวอย่างที่พูดแล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร
ท่านควรพิจารณาตัวเองว่า การที่ออกมาพูดเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่
เพราะที่ผ่านมาไม่มี ผบ.ทบ.หรือนายตำรวจคนใด
ออกมาพูดว่าประชาชนมีอาวุธสงครามอยู่ในครอบครองได้เลย

อีกทั้งยังเป็นน่าสังเกตว่า
ประชาชนคนธรรมดาจะสามารถนำอาวุธสงครามเข้าไปก่อเหตุกลางกรุง
หรือกลางเมืองหลวงของประเทศในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ได้อย่างไร ซ้ำร้ายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดก็ยังใช้การไม่ได้ถึง 5
ตัวพร้อมกัน ในขณะเกิดเหตุนั้นหมายความว่าอย่างไร
ซึ่งสิ่งไม่ชอบมาพากลเหล่านี้ ประชาชนยังรอฟังคำตอบจากท่านอยู่
นายศักดิ์ชาย กล่าว

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000043775


เห็นภาพคุณน้อยแล้ว คิดถึงสารวัตรจ๊าบ
ภรรยาที่เข้มแข็ง พี่จ๊าบของพวกเราเลือกคู่ได้ไม่ผิดเลย

ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัว "ชาติมนตรี" เสมอไป
สาว PAD BKK

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น