...+

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552

พธม.ลังกาสุกะหนุนกระจายสินค้าทั่วปท.ประเดิมแลก “ข้าวมา-ปลาไป”สู่อีสานแล้ว

พธม.ลังกาสุกะหนุนกระจายสินค้าทั่วปท.ประเดิมแลก “ข้าวมา-ปลาไป”สู่อีสานแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลังกาสุกะ (จ.ปัตตานี) ผุดเครือข่ายแลกเปลี่ยนสินค้าข้าวมา-ปลาไป จากแดนใต้สู่ จ.อุดรธานี เป็นผลสำเร็จ หลังจากที่เดินทางไปร่วมเวทีคอนเสิร์ตการเมืองเมื่อวันแห่งความรักที่ผ่านมา โดยล็อตแรกมีการส่งสินค้าเกือบ 500 กิโลกรัม ทั้งข้าวกล้องหอมมะลิงอก และปลาทูเค็ม ขณะเดียวกันได้ชักชวนเพื่อนพันธมิตรฯช่วยกันสั่งสินค้าจากอีสานลงใต้มากขึ้น พร้อมขานรับแนวคิดกระจายสินค้าระหว่างภูมิภาคของนายสนชัย ลิ้มทองกุล ล่าสุดคัดของดีเมืองปัตตานีส่งตัวอย่างไปให้แล้ว หวังเห็นความร่วมมือเป็นรูปธรรมตั้งเป็นสหกรณ์กระจายทั่วประเทศ โวอนาคตมีสาขามากกว่าร้านสะดวกซื้อชื่อดังแน่

การขับเคลื่อนติดอาวุธทางปัญญาแก่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย ได้แตกหน่อเป็นการสร้างความช่วยเหลือระหว่างภูมิภาค ล่าสุดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลังกาสุกะ โดย นายดิสพูน จ่างเจริญ จับมือกับพันธมิตรฯ ภาคอีสานสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนสินค้า “ข้าวมา-ปลาไป” เป็นผลสำเร็จ

นายดิสพูน จ่างเจริญ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลังกาสุกะ (จ.ปัตตานี )เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นจากเครือข่ายแลกเปลี่ยนสินค้า “ข้าวมา-ปลาไป” มาจากการเดินทางไปร่วมเวทีคอนเสิร์ตการเมืองที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีความตั้งใจว่าในฐานะที่เป็นพี่น้องพันธมิตรด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่แห่งใดก็จะต้องช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีกลุ่มเสื้อแดงคอยกลั่นแกล้ง

หลังจากจบเวทีคอนเสิร์ตนั้นเอง ยังได้ใช้เวลาเดินทางไปดูวิถีชีวิตของพี่น้องชาวอีสาน และพบว่าเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งผลิตข้าวที่ใหญ่ของประเทศไทย ทำให้มีข้าวเจ้าเหลือใช้เลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ เพราะส่วนใหญ่บริโภคข้าวเหนียว จึงมีความคิดว่าหากข้าวเหล่านี้ถูกส่งไปยัง จ.ปัตตานี สามารถนำไปบริโภคได้

ขณะเดียวกัน จ.ปัตตานี ซึ่งประกอบอาชีพประมงเป็นจำนวนมาก จึงมีปลาที่เหลือจากการคัดไปจำหน่ายเป็นจำนวนมากแต่มีขนาดเล็ก ซึ่งบางส่วนนำไปทิ้งไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่หากถูกส่งไปยัง จ.อุดรธานี น่าจะมีประโยชน์กว่า เพราะมีความต้องการปลาเพื่อแปรรูปเป็นปลาร้าจำนวนมาก ตนจึงนำแนวคิดการแลกเปลี่ยนสินค้าพูดคุยกับผู้ผลิตข้าว

“การช่วยเหลือนี้เกิดขึ้นได้เพราะเรามีการแลกเปลี่ยนความคิด และเห็นช่องว่างของสินค้าที่มีจำนวนมากในแต่ละพื้นที่ทั้งปลาและข้าวซึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีพว่า หากผลิตได้มากก็จะไม่ค่อยเห็นประโยชน์จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในขณะที่พื้นที่ซึ่งผลิตไม่ได้ขาดแคลนและมีความต้องการ จึงควรจะมีการแลกเปลี่ยนกัน ระหว่างจ.ปัตตานี และอุดรธานีไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยมีพี่น้องพันธมิตรฯ จ.มหาสารคาม เป็นผู้ช่วยเหลือด้านการขนส่งระหว่างสองจังหวัด ซึ่งเราก็ได้ช่วยเหลือด้านค่าน้ำมันในการขนส่ง เงินก็หมุนเวียนในกลุ่มพันธมิตรฯ นั่นเอง สินค้าล็อตแรกที่มีการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เป็นข้าวกล้องหอมมะลิงอก พันธุ์ 105 จากทุ่งกุลาร้องไห้ และปลาทูเค็มน้ำหนักทั้งหมดราว 500 กิโลกรัม” นายดิสพูนกล่าวต่อและว่า

นอกจากนี้ พันธมิตรฯ จ.อุดรธานี ยังมีความต้องการให้ จ.ปัตตานี นำปลาตัวเล็กที่เหลือจากการคัดแยกมาดองเกลือส่งให้ในพื้นที่ เพื่อนำไปปรุงเป็นปลาร้าซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของที่นั่นอีกด้วย ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่น ปลาหมึกแห้ง ซึ่ง จ.ปัตตานี เป็นแหล่งผลิตรายใหญ่อีกด้วย

“ในขณะนี้เรากำลังขยายเครือข่ายความร่วมมือ และบอกต่อพี่น้องพันธมิตรฯ ในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงด้วยว่า ใครต้องการสินค้าตัวใดจากภาคอีสานก็สามารถติดต่อมาที่ผมโดยตรง ที่ภัตตาคารจงอา อ.เมืองปัตตานี เพื่อว่าหลังจากที่เราส่งสินค้าไปภาคอีสานแล้ว เขาจะได้มีสินค้าอื่นๆ ติดรถส่งมาให้เราเพิ่มขึ้นอีก และอยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ ขยายความร่วมมือนี้กันทั่วประเทศ” นายดิสพูน กล่าวต่อและว่า

ส่วนแนวคิดของนายสนชัย ลิ้มทองกุล ซึ่งดูแลการกระจายจาน ASTV ทั่วประเทศ ได้รับอาสาเป็นตัวกลางกระจายสินค้าของพี่น้องพันธมิตรฯ ทั่วประเทศกระจายสู่ภูมิภาคอื่นๆ โดยจะเริ่มจัดรถสินค้ากระจายสู่ภาคใต้เป็นที่แรกนั้น นายดิสพูน กล่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ล่าสุดได้มีเจ้าหน้าที่ลงมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ผลิตสินค้าใน จ.ปัตตานีแล้ว และได้นำสินค้าตัวอย่างไปพิจารณาด้วย เช่น ปลาหมึกแห้ง ลูกหยี น้ำบูดู ข้าวเกรียบปลา เป็นต้น และเชื่อว่าแนวคิดนี้เป็นการช่วยเหลือกันที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงโดย ไม่ซับซ้อน ซึ่งต่อไปมีการวางแผนที่จะรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ เมื่อทุกกลุ่มเข้มแข็งแล้วส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีสาขามากกว่าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น เสียอีก เพราะพี่น้องพันธมิตรฯ มีทั่วทุกหัวระแหงของประเทศ

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000035466

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น