...+

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2552

ผีถูกรถชนตาย ๓๓ ปี

เล่าเรื่อง : คุณเชาวลิต - คุณอรวิภา สาครวิมล จ.สมุทรสาคร
รวบรวมโดย : เมตตาเจโตวิมุติ


เรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เมื่อประมาณ
เดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ที่จังหวัดสมุทรสาคร
เรื่องมีอยู่ว่า มีวันหนึ่ง น้องชายซึ่งเป็นลูกของน้าสาวของข้าพเจ้า
โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ บอกว่าภรรยาเขามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ไปหา
หมอรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หมอได้ตรวจอย่างละเอียดอ๊กซ์เรย์ แล้วก็หา
สาเหตุไม่พบ ได้แต่ฉีดยาบรรเทา ปวดเท่านั้น เป็นอย่างนี้มาร่วมเดือน เขาจึง
อยากจะย้ายโรงพยาบาลแต่ไม่มีเงิน จึงโทรมาขอความช่วยเหลือ ข้าพเจ้ารับ
ปากว่าจะช่วยเหลือ เรื่องเงินในการรักษา
แต่พอดีข้าพเจ้าได้รู้จ ักและติดตามอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง มา เป็นเวลา 5-6 ปี

แล้ว ท่านเป็นฆราวาส ที่รักษาศีลไหว้พระสวดมนต์อย่างเคร่งครัด สามารถ
รักษาคนเจ็บป่วยที่ไปรักษาหมอหลวงแล้วไม่หาย ถ้าผู้นั้นหมดกรรมได้รักษากับ
ท่าน ผู้นั้นก็จะหายจากอาการเจ็บปวด หรือ
ทุเลาลงได้แล้วแต่บุญ – กรรม จึงแนะนำให้ภรรยาของน้องชายมาลองรักษากับ
อาจารย์ดูก่อน ถ้าไม่หายจริง ๆ ค่อยย้ายโรงพยาบาล
เมื่อมาพบอาจารย์ ภรรยาของเขาก็ได้แต่ร้องไห้ ตัวสั่น เมื่อเห็นดังนั้น
ข้าพเจ้าก็คิดว่าในร่างกายของเขาคงไม่ได้เจ็บปวดธรรมดา ด้วยความสงสารและ
อยากช่วยเหลือ ข้าพเจ้าจึงถามเขาว่าอยากให้เราช่วยก็ขอให้สื่อสารออกมาให้รู้

ตอนหลังเขาก็ร้องไห้อย่างน่าเวทนา เหมือนคนกำลังทุกข์ทรมาน
ข้าพเจ้าก็เอามือลูบหลังเขาด้วยความสงสาร บอกว่าจะช่วยเหลือเขาทุกอย่างด้วย
ความบริสุทธิ์ใจ ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ยอมพูดกับใคร เพราะเขากลัวคนมีวิชาจะดึงจิตเขา

ไปเป็นบริวาร เหมือนเขารู้ว่าเราจริงใจเขาจึงยอมบอก
ตอนแรกคิดว่าเขาพูดไม่ได้จึงให้เขาเขียนใส่กระดาษทุวันนี้ยังเก็บไว้ เขา
เขียนชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่อย่างละเอียด ร้องไห้บอกว่าอยากกลับบ้านไปหา
พ่อ แม่ พี่ น้อง เขาค่อย ๆ เล่าหลายครั้งกว่าจะรวบรวมเรื่องราวให้ครบ
เพราะเวลาเขามามีอาการเหมือนคนทุกข์ทรมาน รวมทั้งจะทำให้ภรรยาของน้องชายปวด
ท้องมากทุกครั้งที่เขามา เราจึงถามเขา เก็บข้อมูลทีละเล็กละน้อย
สรุปได้ว่า เขาเป็นคนจังหวัดน่าน มาทำงานเป็นช่างไม้ สร้างวัดเกตุมวดี
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕ โดยที่ทางบ้านไม่ทราบ ตอนนั้นเค้าอายุ ๑๗ ปี พอมา
พ.ศ.๒๕๑๙ เขาโดนรถชนตายขณะยืนซื้อของอยู่ข้างทางหน้าวัดบางปิ้ง

เขาเช่าบ้านอยู่แถวนั้น
เขาเล่าว่า ตอนนั้นมืดแล้ว รถกะบะพุ่งชนเขาอย่างแรง โดนทับที่ท้องกลางลำตัว
แหลกละเอียดตายคาที่ จึงเป็นเหตุให้ภรรยาของน้องช ายปวดท้อง เวลาเดินต้อง
เอามือกุมท้องเหมือนคนไส้จะไหลออกมาอย่างนั้น ทางบ้านก็ไม่ทราบว่าเขาตาย
แล้ว เพราะเขามาทำงานกับเพื่อน ๒ คนแต่แยกกันอยู่คนละที่ นั้นหมายถึงเขา
ตายไปแล้ว ๓๓ ปีถ้ายังมีชีวิตอยู่ตอนนี้เขาก็อายุประมาณ ๕๐ ปี และเขายังไม่
หมดอายุขัย ที่สำคัญเขาบอกว่าตอนมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยได้ทำบุญทำทานเอาไว้ จึง
ยังไม่ไปไหน เขาจึงทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด จากการโดนรถทับ วนเวียนอยู่จน
มาอาศัยอยู่ที่สะพานท่าจีนใกล้กับวัดกลางอ่างแก้ว ซึ่งภรรยาของน้องชายต้อง
ผ่านไปมาทุกวัน
เขายังบอกอีกว่า เหตุที่อยากมาเจอข้าพเจ้ากับสามี เพราะเขาเคยได้รับ
อานิสงส์ผลบุญจากการ ' สวดมนต์เมตตาใหญ่ แบบพิสดาร ' แล้วแผ่เมตตา

ของข้าพเจ้ากับสามีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเล่าให้ฟังอย่างน่าสงสารว่า เวลามีคนแผ่
เมตตาส่งบุญมาให้ พวกเขาจะต้องแย่งกัน เขาบาดเจ็บแย่งไม่ไหว ก็ไม่ได้รับเขา
บอกว่าทุกคนอยากได้ แต่จะไม่ได้กันทุกคน ต้องนั่งกอดเข่ารอ

(เขาทำท่าประกอบด้วย) แล้วลุกขึ้นแย่งกันเวลาได้รับผลบุญจะเป็นแสงสีเหลืองทอง

ส่องลงมาที่ตัวเขา
ดังนั้น เขาจึงพยายามที่จะได้เจอข้าพเจ้ากับสามี โดยการเกาะมากับร่างของ
ภรรยาของน้องชาย แล้วดลใจให้น้องชายโทรศัพท์หาข้าพเจ้าทั้งที่ก่อนหน้านี้
ข้าพเจ้ากับน้องชายคนนี้ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน หลังจากนั้นข้าพเจ้ากับสามี
ก็รับปากว่าจะพาเขาไปส่งกลับบ้าน แต่ขอให้เขารับปากว่า ถ้าถึงบ้านแล้วต้อง
ทำให้ภรรยาของน้องชายหายจากอาการปวดท้องอย่างเด็ดขาด เขาก็รับปากระหว่าง
นั้น เขาได้มาเข้าฝันภรรยาของน้องชายว่าให้หาศาลพระภูมิไม้และรูปปั้นผู้ชาย
แล้วปิดทอง เพราะเมื่อกลับถึงบ้านเขาจะได้อาศัยอยู่ในนั้น แล้วนำไปลอยน้ำ
ที่ให้ปิดทองเพราะเขาบอกว่าไปอยู่ในน้ำจะได้สว่างไม่ต้องใช้เทียน เราก็ทำ
ตามทุกอย่าง นอกจากนั้น เขายังให้จัดซื้อเสื้อผ้าพร้อมเงิน 90 บาท อธิษฐาน
ให้จิตวิญญาณทั่วไปที่มีอีกมากมาย เพราะบางคนไม่มีเสื้อผ้าใส่หรือไม่ก็เก่า
มากแล้ว แล้วนำไปบริจาคให้คนยากไร้
ช่วงเวลาที่ได้พูดคุยกับเขาได้รู้อะไรมากมาย เช่น คนจีนชอบเผากระดาษส่งของ
ให้บรรพบุรุษเขาบอกว่าจริงๆ แล้ว เขาไม่ได้รับหรอกต้องไปซื้อหาสิ่งของที่จะ
ส่งให้ แล้วนำมาอธิษฐาน เอ่ยชื่อให้คนรับนำไปถวายเป็นสังฆทาน แล้วนำไป
บริจาคให้คนยากจนให้ได้ใช้ประโยชน์จริง บรรพบุรุษจึงจะได้รับ ใครทำความดี
ทำบุญมาก ๆ สวดมนต์ภาวนา ผู้นั้นจะมีเกราะเป็นแสงสีเหลืองทองสุกสว่าง
ป้องกันตัว ไม่มีใครทำอะไรได้
หลังจากนั้นประมาณ ๑ สัปดาห์ ข้าพเจ้ากับสามีและญาติ ๆ ก็ออกเดินทางไป
จังหวัดน่าน ก่อนหน้านั้นจากการช่วยเหลือของลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ข้าพเจ้า
นับถือ ได้เช็คข้อมูลของเขาก็ปรากฎว่ามีชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่นั้นอยู่จริง

แต่ไม่ได้ติดต่อกับทางราชการมานานแล้วจนกลายเป็นคนสาบสูญไปแล้ว จึงทำให้

พวกเรามั่นใจว่าเราคงไม่โดนเขาหลอกไปถึงจังหวัดน่าน ไปถึงประมาณ

บ่าย ๒โมงกว่า วนหาบ้านเขาอยู่นาน เขาก็พยายามนึก เขาบอกว่าผ่านไป ๓๐ กว่าปีแล้ว
ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก พวกเรานัดกับลูกศิษย์กับอาจารย์ที่หน้าวัดภูมินทร์
เมื่อเขาเห็นวัด เขาทำท่าดีใจอยากจะลงไปกราบพระ เราก็พาลงไปแต่เขาเข้าโบสถ์
ไม่ได้ ต้องให้อาจารย์อธิษฐานขอพระประธานในโบสถ์ให้ เขาจึงเข้าไปกราบได้

ข้าพเจ้า ส่งเงินให้เขา ๑๐๐ บาท บอกว่ายกเงินให้เขาเอาไปหยอดตู้ทำบุญ จะได้
มีผลบุญติดตัวกลับไป ลูกศิษย์อาจารย์ก็ช่วยขับรถนำพวกเราไปบ้านเขา พอใกล้จะ
เจอบ้านเขา เขาก็บอกว่าให้รีบพาเขาไปส่ง เพราะวันนั้นเป็นวันพระ เดี๋ยวท่าน
ไม่ให้กลับเขาบอก เราจึงนิมนต์พระสงฆ์จากวัดพระธาตุแช่แห้งมาสวดส่งวิญญาณ
ให้เขาตามที่เขาขอ พอทำพิธีเสร็จก็เอาศาลพระภูมิ พร้อมกับมอเตอร์ไซด์

(เด็กเล่น) ที่เขาอยากได้สมัยมีชีวิตอยู่ลอยลงไปในแม่น้ำน่าน ใกล้กับบ้านของเขา
ที่ตอนเล็กๆ เขาเคยว่ายน้ำเล่น
จากนั้นเขาก็มาผ่านร่างภรรยาน้องชายอีกครั้ง เขาร้องไห้น้ำตาไหล
บอกว่าดีใจมากที่ได้กลับบ้านและรู้สึกเสียใจที่จะไม่ได้เจอกับพวกเราอีกแล้ว

ข้าพเจ้าเองก็อดใจหายไม่ได้ ได้แต่บอกว่าจะทำบุญสวดมนต์อุทิศไปให้ คอย
รับนะเกิดชาติหน้าค่อยมาเจอกันใหม่ก็แล้วกัน และบอกเขาอีกว่าทุกคนในที่นี้
ดีใจที่ได้ช่วยเหลือเขา เขายกมือไหว้ขอบคุณทุกคน พร้อมกับร้องไห้ก้มลงกราบ
ข้าพเจ้าที่ตัก ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจมาก หันไปหาสามีของข้าพเจ้าแล้วบอก
ให้เขาขอบคุณเพราะเขาเป็นคนสำคัญที่สุด เป็นทั้งคนขับรถมาส่งจากมหาชัยจนถึง
จังหวัดน่าน ภายในวันเดียวกัน แล้วยังออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยไม่ได้หวัง
ผลตอบแทน เขาน้ำตาไหลก้มลงกราบที่เท้าของสามีของข้าพเจ้า ภาพนั้นทำให้ทุกคน
อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้จริง ๆ แล้วเขาก็ล้มลงที่ตักข้าพเจ้าแล้วจากไป นับจาก
วินาทีนั้นภรรยาของน้องชายก็มีความรู้สึกเบาเนื้อเบาตัว และที่สำคัญไม่ได้
มีอาการปวดท้องอีกเลย นั่นคือสิ่งที่เขารับปากไว้แล้วทำตามจริง ๆ จนถึงทุก
วันนี้เวลาข้าพเจ้านึกถึงเหตุการณ์นั้นเมื่อไหร่ก็อดที่จะมีความรู้สึก

อิ่มเอมใจเสียทุกครั้ง เพราะเชื่อว่าคงไม่เคยได้มีใครได้มีโอกาสช่วยเหลือจิต
วิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานมากกว่า ๓๐ ปีให้ได้กลับบ้านเกิด
เรื่องทั้งหมดที่ท่านได้อ่านมานี้ อาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินจริง แต่
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และสาเหตุที่ข้าพเจ้านำมา
เขียนบอกเล่ากับท่านให้หมั่นทำแต่ความดี ทำบุญทำทานสร้างกุศล

ไหว้พระสวดมนต์เสียตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่ แล้วแผ่เมตตาให้ตัวท่านเอง

ให้แก่เทพเทวาประจำตัวท่าน เทพเทวาจะได้มีบารมีสูงพอที่จะช่วยเหลือท่าน

ในยามคับขัน ให้แก่ผู้อื่นตามแต่ใจท่าน ยิ่งแผ่ยิ่งเพิ่มพูนมากมายทวีคูณ ข้าพเจ้าขอให้
อานิสงส์ผลบุญแห่งความดี ที่ท่านจะได้สร้างต่อไปนับจากนี้ ขอจงส่งถึงเจ้า
ของเรื่องโดยตรง คือนายสมบูรณ์ ภูมินทร์ จิตวิญญาณแห่งลุ่มน้ำน่าน ที่แม้
เป็นเพียงจิตวิญญาณก็ยังรักษาคำพูดร่วมทั้งผู้เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนาย
สมบูรณ์ ภูมินทร์ ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวผู้อ่านเอง เพราะแค่ท่านได้
อ่าน ไม่ได้ประสพกับตัวเองจริง ๆ ท่านยังเกิดแรงบันดาลใจในการทำความดี ดัง
นั้น ก็ขอให้สิ่งดี ๆ ที่ท่านจะได้ทำต่อไปส่งผลให้ท่านพร้อมทั้งคนที่ท่านรัก
ทุกคน มีแต่ความสุข ความเจริญ พบเจอแต่สิ่งดี คิดหวังสิ่งใดในทางที่ดี

ก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการทั้งภพนี้ และภพหน้าด้วยเทอญ
ขอให้ท่านที่อ่านส่งต่อไปเพื่อเป็นการบอกบุญด้วย ...

ขอขอบคุณจากใจคนชาวพุทธ





Thank you…       ^ _ ^                                                                                                                                      

Best regard,

Kanyanat Wetsrichana

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น