พธม.7 จว.อีสานใต้นับพันร่วมสร้างเครือข่ายการเมืองใหม่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
อุบลราชธานี -พี่น้องกลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 7 จังหวัดอีสานตอนล่างนับพันคน ร่วมเวทีเสวนาวิชาการระดมความคิดสร้างเครือข่ายสานต่อการเมืองใหม่ กระจายแนวคิดลงไปสู่รากหญ้าร่วมต้านการเมืองน้ำเน่าแบบเก่า ก่อนยกระดับเปิดเป็นเวทีคอนเสิร์ตการเมืองสัญจร ตลอดการจัดงานพันธมิตรฯอิ่มหมีพลีมันสนุกสนาน มีดนตรีสลับขึ้นสร้างความบันเทิง พร้อมอาหารคาวหวานจากพ่อยกแม่ยกให้กินฟรีตลอดงาน
เมื่อวัน ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่โรงละครคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 7 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จ.มุกดาหาร อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี ประมาณ 1,000 คน ได้จัดเวทีเสวนาวิชาการถักทอเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีสาน ใต้ โดยเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการเมืองน้ำเน่าไป สู่การเมืองใหม่ เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่คนทุกชนชั้นในสังคม พร้อมใช้การเสียสละของผู้เข้าสู่การเมืองใหม่ ขจัดคนยากจนให้หมดไปจากประเทศไทย และร่วมต่อต้านการยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
สำหรับเวทีเสวนาดำเนินรายการ โดย นางทัศนีย์ บุญประสิทธิ์ เจ้าของสถานีวิทยุชุมชน อ.พิบูลมังสาหาร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอุบลราชธานี ผู้ร่วมรายการมีนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต สว.ยโสธร นางขวัญดิน สิงห์คำ นักปฏิบัติธรรมจากราชธานีอโศก และ น.พ.สุทัศน์ เจริญรัตน์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สุรินทร์
นาย สมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร กล่าวถึงการโกงกินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และโฉมหน้าการเมืองใหม่ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องการให้ เกิด เพราะในยุคต้นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ คนไทยมีความหวังหลุดพ้นจากวงจรการเมืองน้ำเน่าที่มีแต่การโกงกิน เนื่องจากคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณรวยแล้วคงไม่โกง แต่ตรงกันข้ามกับมีการโกงชาติบ้านเมือง ภายใต้นโยบายต่างๆ หนักหนาสากรรจ์กว่าทุกรัฐบาล
ทั้งนี้ มีการแปรรูปขาย ปตท.ที่เป็นรัฐวิสาหกิจที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศอย่างมหาศาล เพื่อให้ผลประโยชน์ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท ไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนพรรคไทยรักไทยแทนคนไทยทั้งประเทศ และยังมีการออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองโกงกินได้ทุกรูปแบบ สิ่งที่ทำให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทนไม่ได้ คือ การจ้องล้มล้างสถาบันเบื้องสูง หวังฮุบเอาประเทศไทยเป็นของนักการเมือง การที่นักการเมืองใช้วิธีซื้อเสียงเข้ามาสู่สภา จึงทำให้นักการเมืองไร้จริยธรรม ที่ผ่านมาการเมืองของไทยตกต่ำถึงขีดสุด เพราะนักการเมืองซื้อเสียงเข้ามาหาประโยชน์ เพื่อหาเงินคืนจากการซื้อเสียง
“มีคนถามตนเสมอว่า สงครามครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้ายจริงเหรอ ตนขอตอบว่าสงครามยังไม่จบ เพราะการเมืองใหม่ยังเป็นแค่เบี้ยเล็กๆ โดยผู้ถืออำนาจรัฐและนักการเมืองไม่ยอมให้ประชาชนรู้ทัน เพราะกลัวซื้อเสียงยากขึ้น พันธมิตรฯต้องเดินหน้าสร้างการเมืองใหม่ให้ประโยชน์ตกอยู่กับคนส่วนใหญ่ของ ประเทศ ไม่ใช่กับนักการเมืองกลุ่มเล็กๆเพียงกลุ่มเดียว”
ด้านนาง ขวัญดิน สิงห์คำ นักปฏิบัติธรรมจากราชธานีอโศกกล่าวว่า อดีตเคยชื่นชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาก่อน แต่พอรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณโกงเก่ง ต้องตัดสินใจเลิกรัก และเข้าร่วมประท้วง พ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่ปี 2548 เพราะต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับตัวกลับใจทบทวนบทบาทการโกงกินชาติบ้านเมือง การเข้าร่วมประท้วง ทำให้เรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์ที่มีหลากหลาย เหมือนได้พบกับผู้หญิงวัยกลางคนๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่งกทรัพย์สมบัติมาก
เมื่อเข้าร่วมประท้วงกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปคนละคน ยอมสละทรัพย์สินมาสนับสนุน โดยมีจุดประสงค์ต้องการทำเพื่อชาติ ดังนั้น การจะเปลี่ยนแปลงใดๆ ขอให้พี่น้องพันธมิตรที่เข้ามาร่วมกัน ต้องเปลี่ยนแปลงจิตใจของตนเอง และเห็นประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ เพื่อเดินไปให้ถึงจุดมุ่งหมายที่พวกเราตั้งใจไว้
ด้าน น. พ.สุทัศน์ เจริญรัตน์ กล่าวว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องทำงานเพื่อสังคม มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง เพื่อเป็นการทำบุญให้แก่ประเทศ เมื่อมีการเลือกตั้งต้องไม่รับเงินจากหัวคะแนนของนักการเมือง เพราะถือเป็นการทำบาปให้แผ่นดิน เมื่อมีการชุมนุมของภาคประชาชนพันธมิตรฯทุกคนต้องพร้อมใจกันออกมาร่วมกัน รวมทั้งหลังจากนี้ไปประชาชนต้องมีสภาของตัวเอง การแต่งตั้งตัวเองเป็นสมาชิกสภาประชาชน และสร้างสมาชิกกว้างขวางครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองอย่างเข้มข้น
“ใครที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพมาก ก็เดินเข้าไปจ่ายภาษีให้แผ่นดินตามจำนวน เพราะการกระทำดังกล่าวเท่ากับการเผื่อแผ่ไปให้คนที่มีรายได้น้อยกว่าเรา ในอนาคตจะทำให้คนรากหญ้าหายจากความยากจน เมื่อไม่มีคนยากจน ก็จะไม่มีคนตกเป็นเครื่องมือให้นักการเมืองหลอก ประเทศชาติก็จะดีขึ้น เมื่อคนจนหมดไปจากประเทศนี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การจัดเวทีสัมมนาวิชาการของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีสานใต้ ไม่มีการหยุดพัก แต่ใช้วิธีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน เมื่อหิวก็สามารถออกไปรับประทานตามซุ้มอาหาร ซึ่งพ่อยกแม่ยกกลุ่มพันธมิตรฯนำอาหาร รวมทั้งน้ำดื่มนานาชนิดมาบริการให้รับประทานฟรีตลอดทั้งงาน การจัดเวทีเสวนายังมีการจัดแสดงดนตรีของเครือข่ายพันธมิตรฯในจังหวัด เพื่อสลับสร้างความสนุกสนานให้ผู้มาร่วมเวทีเสวนาเป็นระยะ
สำหรับภาคบ่ายเป็นเวทีของแกนนำระดับอำเภอและระดับจังหวัดแนะนำตัว และระดมความคิดที่จะร่วมมือกันสร้างการเมืองใหม่ พร้อมกำหนดรูปแบบการเคลื่อนไหวร่วมกันในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยอีสานใต้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การจัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองต่อไปในอนาคตด้วย
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000035525
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น