...+

วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อาจารย์วิศวะฯมก. คิดค้นระบบตรวจจับรถฝ่าไฟแดงติดตั้งกล้อง Red Light

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    


อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ์ คิดค้นระบบตรวจจับยานพาหนะโดยใช้ Red Light Camera กล้องตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำมาติดตั้งใช้งานจริงใน 30 ทางแยกที่สำคัญของกรุงเทพฯ และมีปริมาณการจราจรจำนวนมาก โดยได้จับผู้ฝ่าฝืนในช่วง 1 สัปดาห์ มากว่า 20,000 คันแล้ว
      
       “รศ. ร.อ.พิพัฒน์ สอนวงษ์” อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหน้าโครงการติดตั้งระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (Red Right Camera) ได้กล่าวถึง การติดตั้งระบบตรวจจับฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ว่าจ้างทีมคณะนักวิจัยในวงเงิน 4.5 ล้านบาทว่า
      
       “ หลักการทำงานของระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน คือ กล้องดิจิทัลสำหรับบันทึกภาพถ่าย ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับและคอมพิวเตอร์ประเมินผล เมื่อไฟสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดงตัวเซ็นเซอร์จะเริ่มทำงานหากมีการฝ่าสัญ ญาณไฟ ระบบจะส่งข้อมูลไปยังกล้องเพื่อทำการบันทึกภาพ จากนั้นคอมพิวเตอร์จะประมวลผลส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์พร้อมรายละเอียดผ่านระ บบสื่อสารโครงการ ADSL (Asynchronous Digital Subscriber Line) ไปยังศูนย์สั่งการและควบคุมจราจร (บก.02) มาขึ้นที่จอมอนิเตอร์ใน บก.02”
      
       ท ั้งนี้ โดยเครื่องจะอ่านอัตโนมัติว่าเป็นรถของใครซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจจราจร ได้เชื่อมต่อเครือข่ายกับกรมการขนส่งที่ศูนย์รัตนาธิเบศร์ เพื่อบอกสี ยี่ห้อ ชื่อเจ้าของรถ เมื่อได้รายละเอียดก็จะนำมาพิจารณาพิมพ์ใบสั่งและจัดส่งทางไปรษณีย์พร้อมแนบ ภาพก่อนกระทำผิด
      
       “ ภาพขณะกระทำผิดและภาพเฉพาะทะเบียนรถ โดยในภาพจะปรากฎชื่อ สถานที่ วันเวลากระทำผิดและความเร็วของรถ ซึ่งใช้เวลา 3-5 วัน หากผู้กระทำผิดไม่ไปจ่ายค่าปรับเปรียบเทียบปรับภายในกำหนด 7 วันหลังจากได้รับใบสั่ง ระบบจะส่งข้อมูลต่อไปยังกรมขนส่งทางบกเพื่อระงับการต่ออายุใบขับขี่”
      
       ทั้งนี้จัดว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการขับขี่โดยการนำเทคโ นโลยีมาใช้งาน และนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยสำหรับโครงการระบบตรวจจับสัญญาณไฟจราจร ซึ่งได้นำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2551 – 5 มกราคม 2552 เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และสามารถตรวจจับผู้ทำกระผิดใน 30 ทางแยกได้ทั้งหมดกว่า 20,000 คัน และเป็นการลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รวมทั้งเป็นการสร้างวินัยในการขับขี่รถยนต์ด้วย

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000009429

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น