โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ส สส.เรียกร้องครูกระตุ้นเด็กให้รู้จักคิดและสร้างโครงงานที่เป็นประโยชน์ต่อก ารสร้างเสริมสุขภาวะ เน้นเรื่องใกล้ตัวเป็นหลัก แนะให้โรงเรียนประสานกับชุมชน เชิญปราชญ์ชาวบ้านนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสอนให้เด็กได้เรียนรู้
นายประยูร อองกุลนะ หัวหน้ากลุ่มนิเทศติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาและกก.บริหารแผนเปิดรับทั่ว ไปและนวัตกรรม สสส.กล่าวว่า ในปี 2552 เป็นปีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแวดวงการศึกษาของไทย เพราะจะมีการเริ่มใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 แทนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ดังนั้น ครูต้องทำความเข้าใจหลักสูตรใหม่ให้ถ่องแท้ ซึ่งหลักการของหลักสูตรนี้คือ “สอนให้รู้และทำให้ได้” ดังนั้น โดยหลักการดังกล่าวครูจะต้องสนับสนุนให้เด็กทำโครงงานให้มาก ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นว่าจะต้องเป็นโครงงานด้านวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ควรเกี่ยวข้องกับด้านสังคม พลศึกษา หรืออนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นให้เด็กนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้
“เราต้องยอมรับว่ามีผู้รู้หลายสาขาอยู่ในแต่ละท้องถิ่น หากโรงเรียนและชุมชนเดินไปด้วยกัน เช่น อาจจะเชิญปราชญ์ชาวบ้านมาให้ความรู้ด้านภูมิปัญญาให้แก่เด็กๆ ถือว่าเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่จะช่วยเสริมให้หลักสูตรมีความเข้มแข็งมากขึ ้น เนื่องจากภูมิปัญญาไทยแฝงไว้ด้วยความรู้ ทั้งวิทยาศาสตร์และสังคมศึกษา การที่เด็กๆ ได้เรียนรู้ และมีโอกาสได้ปฏิบัติจริง จะทำให้เกิดความเข้าใจในบทเรียนได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนในเมืองอาจจะขาดโอกาส ในการนำปราชญ์ชาวบ้านมาสอน อาจจะแก้ปัญหาโดยทำแบบสอบถาม ถึงความต้องการของนักเรียน ว่าต้องการรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง โดยคัดสรรความรู้ผ่านผู้ปกครองของนักเรียนที่มีความสามารถ มาช่วยให้ความรู้แก่นักเรียน” นายประยูร กล่าว
ที่ผ่านมา สสส.ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ ในการสอนของบุคลากรด้านการศึกษา โดยตระหนักถึงการสร้างเสริมสุขภาพ 4 ด้าน ทั้งทางกาย ทางจิตใจ ทางสังคม และทางปัญญา โครงการที่เริ่มต้นจากเยาวชนที่สนับสนุน มีอาทิ โครงการแผนที่สุขภาพที่ให้นักเรียนได้สำรวจพื้นที่รอบโรงเรียนว่ามีพื้นที่ด ีและพื้นที่เสี่ยงเป็นอะไรบ้าง, โครงการเยาวชนไทยใจอาสาภาคใต้ ก็ส่งเสริมให้นักเรียนทำกิจกรรมจิตอาสา และโครงการวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า เป็นโครงการนำร่องเพื่อให้นักเรียนได้เกิดแนวคิดเชื่อมโยงเรื่องใกล้ตัวมองใ ห้เป็นโครงงานวิทยาศาสตร์ทำการทดลองปฏิบัติจริง
กรรมการบริหารแผนฯ สสส.กล่าวด้วยว่า บทบาทของครูจึงจำเป็นต้องกระตุ้นให้เด็กคิดเป็น ควรจะให้เด็กเริ่มโครงงานใกล้ตัวก่อน เพราะความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรือความรู้ทั่วไปรอบตัวเด็กมีอยู่มากมาย เช่น อาจเริ่มให้เด็กสำรวจร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆ โรงเรียน ว่าทำไมก๋วยเตี๋ยวร้านนี้จึงอร่อย เพียงแค่คำถามเดียวเด็กก็ใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้แล้ว ขณะเดียวกัน ครูทุกวันนี้มักคิดแต่จะสร้างโครงงานที่เป็นนวัตกรรม บางโรงเรียนคิดจะใช้สื่อนวัตกรรม แต่นิยามนวัตกรรมเป็นไอทีเท่านั้น ทั้งๆ ที่คำว่านวัตกรรมหมายถึงวิธีการหรือกระบวนการในการดำเนินการที่เหมาะสมกับกล ุ่มนั้นๆ
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000003603
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น