ศูนย์ข่าวภูเก็ต -พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ นัดแกนนำหารือกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคป ระชาชน 16 จังหวัดเสนอ 5 แกนนำ ในการจัดเวทีสัญจรให้ความรู้เรื่องการเมืองใหม่ทั่วทั้งภาคใต้
นายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนในพื้นที่ 16 จังหวัดภาคใต้ ว่า ภายหลังจากที่การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ยุติลงพันธมิต รฯ 16 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งรวมเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ได้มีมติร่วมกันที่จะขับเคลื่อนการเมืองใหม่ประชาภิวัฒน์ภายใต้เครือข่ายการ เมืองภาคประชาชนภาคใต้ ซึ่งการขับเคลื่อนในรูปของเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนนั้น ถือว่าขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะแล้ว เพราะได้รัฐบาลที่ชัดเจนแล้ว และขณะนี้ในพื้นที่ภาคใต้ก็มีการจัดเวทีแต่ละจังหวัดไปกันบ้างแล้ว
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนในแต่ละจังห วัด ในวันที่ 23-24 ธันวาคม 2551 พันธมิตรฯภาคใต้ทั้ง 16 จังหวัดได้นัดหารือร่วมกัน ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การแปรรูปเป็นเครือข่ายการเมืองภาคประชาชน ว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งจะมีแกนนำพันธมิตรฯทั้งจาก 16 จังหวัดหารือร่วมกัน โดยยุทธศาสตร์ที่ได้จากการหารือจะนำเสนอแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไ ตยทั้ง 5 คน
ยุทธศาสตร์ที่จะหารือ น่าจะเป็นในเรื่องของการจัดตั้งเครือข่ายในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน การเปิดเวทีสัญจรให้ครอบคลุมทุกจังหวัดยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการจัดเวทีจะเชิญแกนนำทั้ง 5 คน ลงมาปราศรัยให้ความรู้การเมืองใหม่กับเครือข่ายทั้งหมด รวมทั้งเสนอที่จะให้มีการถ่ายทอดสดการเปิดเวทีสัญจรด้วย และเรื่องอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชน
นายสุนทร กล่าวอีกว่า ในช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการที่จะขับเคลื่อนเครือข่ายการเมื องภาคประชาชนให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมที่สมบูรณ์ เพราะเชื่อว่าการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลในขณะนี้ไม่น่าที่จะอยู่ได้เกิน 6 เดือน จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม ปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า เสถียรภาพของรัฐบาลที่ไม่ค่อยจะดีนักที่มาจากหลายพรรคการเมือง เมื่อบ้านเมืองตกอยู่ในภาวะสุญญากาศอีกครั้งหนึ่งที่การเมืองเก่าไม่สามารถใ ห้คำตอบได้ เครือข่ายการเมืองภาคประชาชนก็สามารถที่จะทำการเมืองใหม่ให้มวลชนได้รับรู้ท ั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ เพื่อกดดันให้มีการปฏิรูปการเมืองใหม่
ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000150880
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น