ทักษิณ...ผมเชื่อว่าไม่มีใครทำลายคนดีๆ อย่างคุณได้

โดย วรภัทร วีรพัฒนคุปต์     21 ธันวาคม 2551 19:16 น.
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ผมไม่ค่อยรู้สึกยินดีกับการมีรัฐบาลชุดใหม่ในครั้งนี้สักเท่าไหร่ เพราะโดยตัวพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะมาก เพราะการเป็นรัฐบาลในครั้งอดีตเมื่อนานมาแล้วของ “นายหัว” ก็มีอีกหลายเรื่องที่สังคมยังไม่ได้รับคำตอบหรือได้คำตอบไม่ชัดเจน
      
        แม้ว่าจะมีคนในพรรคที่ผมค่อนข้างจะชื่นชมโดยส่วนตัวอยู่ไม่น้อย แต่โดยบทบาทของพรรคแล้ว ยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะมาก ว่าพรรคของคุณสามารถเป็นทางเลือกที่ดีกว่า “อำนาจเก่า (หมาดๆ)” ได้จริง
      
        โดยเฉพาะตัว “นายกฯ คนใหม่” แม้ท่านจะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ท่านยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะมากๆ ว่าท่านจะเป็นผู้นำที่สามารถฉีกจากความเป็น “นักการเมืองเก่าๆ” ได้จริง ที่สำคัญ ท่านต้องทำตัวเป็นเพื่อนกับ “คนจน” ให้มากกว่านี้ อย่าทำตัวเป็นศัตรูกับคนจนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ท่านจะครองใจประชาชนได้ไปอีกนาน
      
        แต่สิ่งที่ทำให้ผมยินดีไม่ออกจริงๆ คือ การที่ต้องไปจับมือกับบรรดา “นักการเมืองมือเปื้อนเลือด” ที่เข้าประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนทำให้เลือดนองแผ่นดิน ภาพความเลวร้ายวันนั้นยังติดตาผมอยู่
      
        ให้ผมอหิงสาได้ แต่ผมไม่อโหสิ!!!
      
        เอาเถอะ นี่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้ เพราะผมเองก็ไม่มีทางออกที่ดีกว่าจะเสนอ ผมเคยเสนอให้รัฐบาลชุดที่แล้วยุบสภาฯ เสีย แต่ก็ไม่มีใครสนใจเลยจนสุดท้ายเมื่ออดีตรัฐบาลต้องรับกรรมโดยคำพิพากษาของศา ลเอง กระบวนการในรัฐสภาก็ต้องเดินต่อไป คุณจะร้องหาอะไรกันอีก?
      
        ในขณะนี้บรรดาผู้เสียอำนาจทั้งหลาย ก็กำลังตีโพยตีพาย ร้องหาความเป็นธรรมกันใหญ่
      
        โดยเฉพาะคุณทักษิณ ที่พักหลังๆ มานี้คุณมักพยายามเรียกคะแนนสงสารด้วยการ "โฟนอิน" ให้บรรดาพี่น้องคนรากหญ้ายอมเสียเงินเสียทองจากการหาเช้ากินค่ำเดินทางมาฟัง คุณโทรศัพท์ข้ามประเทศฟังคุณพร่ำพรรณนาจนน้ำตาตก กับการ “ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ” ที่มันได้อารมณ์เศร้ายิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าวอย่าง “สงครามนางฟ้า” หรือ “สวรรค์เบี่ยง” เสียอีก
      
        จะว่าไปแล้ว เวลานี้ คนที่เขายังศรัทธาในตัวคุณอยู่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะ
      
        จริงๆ ถ้าคุณยังจำความได้ มีคนมากมายที่เขารักคุณมาก มีคนมากมายที่ชื่นชมกับความสำเร็จของคุณ มากมายกว่าที่คุณเห็นในวันนี้หลายเท่า
      
        เพราะคุณคือความหวังของพวกเขา และผมด้วย...
      
        คุณคงจำวันที่คุณโดนคดีซุกหุ้นครั้งที่ 1 ได้ มีคนมากมายที่แม้เขาพร้อมที่จะให้อภัยคุณ มีคนมากมายที่อยากจะให้โอกาสคุณได้พิสูจน์ตัวเอง รวมทั้งตัวผมด้วย
      
        บรรดาคนที่คุณแต่งตั้งมาดำรงตำแหน่งในรัฐบาลชุดแรกๆ ของคุณ แทบไม่มีเสียง “ยี้” ออกมาให้ได้ยินเลย มีคนดีๆ มีคุณภาพมากมายที่เขาพร้อมจะทุ่มเททำงานเพื่อคุณ
      
        แต่ “อำนาจ” เป็นสิ่งไม่เข้าใครออกใคร พอวันเวลาผ่านไป คนดีๆ มีคุณภาพที่เขารักและศรัทธาคุณ กลับค่อยๆ หายไปทีละคน เพราะเขาเริ่มรู้สึกว่าคุณไม่ใช่ “คุณทักษิณ” ที่พวกเขาเคยรู้จัก
      
        แต่แม้ทีมงานคุณภาพของคุณจะเริ่มเดินแยกทางกับคุณบ้าง แต่ก็มีคนหวังดีอีกมากมาย ที่แม้เขาไม่ได้มีโอกาสร่วมงานกับคุณอย่างเป็นทางการ เขาก็ยังมีใจคอยเสนอแนะสิ่งดีๆ ให้คุณ
      
        แต่คุณก็ทำลายน้ำใจของคนเหล่านั้นอย่างไม่มีเยื่อใย เพราะคุณเชื่อมั่นในแนวทาง C.E.O. และคุณก็เป็นคนเก่งมากเสียด้วย คุณจึงไม่เห็นความสำคัญของคำแนะนำดีๆ เหล่านั้น
      
        แต่ที่ร้ายคือ เมื่ออำนาจเป็นเหมือนสิ่งเสพติดที่ผู้เสพต้องการมากขึ้น คุณจึงเริ่มหน้ามืดตามัวไปคบ “คนพาล” คุณเริ่มไม่ฟัง “บัณฑิต” คุณไม่ฟังคนอื่นยังพอทน แต่คุณกลับฟังคนที่คุณไม่ควรจะฟัง คุณเริ่มไม่ฟังแม้แต่มวลชนที่เขารักคุณสุดหัวใจจนกากบาทเลือกคุณมาได้โดยไม่ ลังเล
      
        ทีมงานของคุณเริ่ม “ขี้เหร่” มากขึ้น พร้อมๆ กับการทำงานที่เริ่มขี้เหร่ขึ้นทุกวันๆ
      
        เหตุการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้น หลายคนเริ่มรับไม่ได้กับคุณทักษิณที่ไม่ใช่คุณทักษิณคนเดิมที่พวกเราเคยรู้จ ัก สุดท้ายคนจำนวนไม่น้อยจึงหวังดีอยากให้คุณได้ “พักตั้งสติ” จนต้องยอมสนับสนุนวิถีทางนอกจารีตประชาธิปไตย แล้วคุณก็ตีโพยตีพายว่า “คุณถูกรังแก”
      
        แต่ก็ยังมีคนอีกไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งรวมทั้งตัวผมด้วย แม้ตัวผมจะเริ่มรับไม่ได้กับสิ่งที่คุณและคนใกล้ชิดคุณเป็น แต่พวกเราก็เลือกที่จะต่อต้านวิถีทางนอกรีต เพื่อสนับสนุนให้คุณได้กลับมาพิสูจน์ตัวเอง โดยระหว่างนั้นก็ยอมให้ “นอมินี” ที่แม้จะ “อัปลักษณ์” ไปหน่อย ทำงานแทนคุณ
      
        แต่สุดท้ายคุณและนอมินีก็กลับทำให้ความหวังดีของเราหมดคุณค่าลงไป แม้หลายคนจะยังเชื่อมั่นในตัวพวกคุณ แต่อย่างน้อยก็มีตัวผมเองนี่แหละ ที่รู้สึกหมดความเชื่อมั่นในพวกคุณไปแล้ว ผมรู้สึกว่าน้ำใจที่ผมมีให้คุณ ความหวังดีที่ผมอยากให้พวกคุณได้พิสูจน์ตัวเอง แก้ไขสิ่งผิด ทำสิ่งใหม่ที่ดีกว่า กลับถูกทำลายจนไม่เหลือราคา ครั้งนี้ที่คุณทำลายคนที่รักคุณอย่างไม่มีชิ้นดี
      
        กระนั้นพวกคุณก็ไม่เคยมองความผิดของตัวเองเลย คุณยังเอาแต่พร่ำความผิดของคนที่ไปยึดสถานที่ทำงานของพวกคุณ ยึดช่องทีวีของคุณ (ที่คุณก็ใช้อำนาจยึดมา) ยึดสนามบินที่เป็นแหล่งรายได้ของคุณ ผมไม่เถียงว่าการกระทำเหล่านี้เป็นสิ่งผิด (ผิดมากๆ ด้วย) แต่คุณเองก็ไม่เคยพิจารณาตัวเองเลย ว่าคุณเองเป็นคนที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เหมือนกับที่พวกคุณไม่เคยโทษตัวเองว่าเป็นคนเรียกรถถังออกมาเอง
      
        และในที่สุด คุณ นอมินี น้องเขย และบรรดาคนใกล้ชิด ก็ถูกความชั่วร้ายบังตาจนมืดบอดสนิท หูของคุณก็มืดบอดจนไม่อาจรับสาสน์ดีๆ ได้อีกต่อไป คุณได้ยินแต่เสียงของคนที่มีแต่คำหลอกๆ ให้คุณและเสียงคนที่คุณหลอกให้พวกเขารักจนไม่ลืมหูลืมตาเท่านั้น
      
        ผมคิดว่าใครที่ได้อ่านสิ่งที่ผมเขียนนี้ คงจะได้นำกลับไปคิดทบทวนแล้วว่า C.E.O. ทำงานแบบกูเก่งคนเดียวไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะหาก C.E.O. เดินหลงทางเสียเองแล้ว ความเสียหายจะเกิดต่อส่วนรวมและตัว C.E.O. เองด้วย
      
        และสุภาษิต “คบพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล” ก็ยังอมตะเสมอ
      
        ต้องพูดกันตามตรงว่า วันนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ประสบความสำเร็จในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคุณเลย
      
        ทุกอย่างมันเป็นไปเพราะสิ่งที่คุณทำเองทั้งสิ้น...คุณทักษิณที่รักและเทิดทูนของผม

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000149881

    คนนี้เก่งตรงไหน ทำธุรกิจก็ผูกขาด ได้สัมปทานจากรัฐโดยไปเลียคณะปฎิวัติ รสช (ทีตัวเองโดน ก็ทำเป็นรังเกียจ) ที่ร้ายตั้งแต่ตอนซุกหุ้นก็อุบาดสุดๆ แล้ว ต้องโทษเสียงข้างมากตุลาการศาลร ธ น ชุดนั้น ถ้าไม่เช่นนั้นประเทศไทยทุกวันนี้คงไม่แย่ขนาดนี้ ไม่ทราบว่าผู้หลักผู้ใหญ่ ในบ้านเมืองบางท่าน รวมทั้งผู้เขียนบทความชิ้นนี้ ไม่เห็นความเลวร้ายของทักษิณตั้งแต่แรกได้ยังไง เป็นเพราะคนไทยยังไม่คิดพึ่งตนเอง มัวแต่จะโหยหาอัศวินม้าขาว อะไรผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ไม่ใช่หาข้อตัว เห็นชัดๆ ว่าไม่ซื่อตรงเที่ยวเอาทรัพย์สิน ที่ต้องรายงานไปซุกไว้กับคนใช้ คนรถ พอเขาจับได้ ก็มาแสดงละครน้ำเน่าในศาล แล้วเป็นยังไง คนที่เคยชื่นชม ต้องมาอกตรมภายหลัง อย่าไปโทษเขาเลยโทษตัวเองเถอะ คนที่เคยขื่นชมนะ
คนที่ไม่เคยเห็นความดีทักษิณ

    ท่านผู้อ่านพันธมิตรฯที่รักทุกท่านครับ
บทความที่พวกเราได้อ่านนี้ (ไตร่ตรอง)
เป็นบทความที่มีความนัยของการด่า-เตือนสติ-สั่งสอนทักษิณให้คนเสื้อแดงได้รับรู้ไว้อย่างน่ารื่นรมย์
ไม่ได้ต้องการเขียนบทความแรง ๆ แบบเอาสะใจ
แต่ได้ทบทวนถึงความจริงที่เกิดจากสันดานทักษัณอย่างเป็นจริง
ุทักษิณเลวขนาดใหนคนที่มีหัวใจพันธมิตรฯ ทุกคนย่อมรู้ดี
แต่จะให้ประเทศนี้สงบได้อย่างไรหากทักษิณไม่สงบ จบยาก
ทางหนึ่งของผู้เขียนบทความคือใจเย็น ๆ
เตือนสติผู้ที่หลงผิดให้คิดทบทวนว่ามันเป็นจริงอย่างนั้นจริง ๆ ?
หากใครหลงผิดจะได้คิด ก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่หรือ
cc

    ผมก็รู้สึกเช่นเดียวกับคุณ ผมเคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยเคยใส่เสื้อของพรรคด้วยความภูมิใจแต่พอมันขายก ิจการให้เทมาเส็กเอาสัมปทานไปขายต่างชาติปุ๊บผมเกลียดแมร่งเข้ากระดูกทันที ดาวเทียมไทยคมที่ในหลวงทรงพระราชทานชื่อให้ แมร่งเอาไปขายต่างชาติเฉยเลย นี่หรือคนที่รักชาติ และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ถ้าถูกโจมตีเรื่องหุ้นจริง ก็ขายให้กับบริษัทของคนในชาติสิ นี่แสดงว่าเห็นแก่เงินมากกว่าความเป็นคนไทย สมควรแล้วที่ไม่มีแผ่นดินให้อยู่
sixsense