วานนี้ (5 ต.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่วงดนตรีสุนทราภรณ์ ซึ่งไปขึ้นเวทีของกลุ่ม นปก.ที่สนามกีฬาราชมังคลาฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า มูลนิธิสุทราภรณ์ ได้ออกมาแถลงข่าวยืนยันว่า วงดนตรีสุนทราภรณ์ ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือเข้าร่วมการแสดงใดๆ ตามที่ นปก.กล่าวอ้าง
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการวุฒิสภา เนื่องจากเจ้าหน้าที่การบินไทยคนหนึ่ง ถูกผู้อำนวยการคนหนึ่ง ลวนลาม และล่วงละเมิดทางเพศ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2549 และยังไม่มีการสอบสวนแต่อย่างใด ส่วนบุคคลดังกล่าวมีชื่อย่อว่า นาย "ส." เป็นน้องชายของคุณหญิง "ท." เป็นภรรยาของ "พลเอก ม." ซึ่งเป็นคนที่พาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดย "พลเอก ม." คนดังกล่าวแสดงตนเป็นลูกป๋า แต่มอบชีวิตให้กับระบอบทักษิณ
"บริษัท การบินไทย ยังพยายามที่จะเอา นาย ส. คนที่คุกคามทางเพศ ไปนั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท การบินไทย นอกจากนี้ นาย ส.ยังมีเรื่องพัวพันการทุจริต ซึ่งขณะนี้มีบางเรื่องถูกส่งไปให้ ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว จึงมีคำถามไปถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ว่า จะให้นาย ส.ไปนั่งในตำแหน่งดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะจะมีการประชุมสรรหาในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ทั้งนี้มีข่าวของนายใหญ่ สั่งมาว่า ถ้าไม่ตั้งนาย ส.ให้ไปนั่งในตำแหน่งดังกล่าวภายในเดือน ธ.ค.นี้ ก็จะไม่ต่ออายุให้กับคณะกรรมการการบินไทย เป็นเหตุผลให้คณะกรรมาธิการวุฒิสภา จึงส่งหนังสือขอทราบผลการร้องเรียนคุกคามทางเพศไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2551 ก่อนที่พันธมิตรฯ จะบุกไป ฉะนั้น เราจึงต้องให้กำลังใจกับสตรีที่ถูกคุกคามทางเพศ" นายสมเกียรติ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ภาคอีสานซึ่งมีพืชเศรษฐกิจหลักๆ คือ มันสำปะหลัง และอ้อย ขณะนี้ราคาตกต่ำลงอย่างมาก แต่พี่น้องชาวอีสานบอกว่า ไม่มีปัญหา เพราะได้ใส่เสื้อแดงแล้ว ส่วนพี่น้องชาวเหนือที่มีปัญหาเรื่องราคาข้าวโพดตกต่ำก็บอกว่าไม่เป็นไร ขอให้ได้ใส่เสื้อแดงก็เพียงพอแล้ว ขณะที่พี่น้องชาวใต้ที่ทำสวนปาล์ม รวมตัวกันประท้วง และกดดันรัฐบาลเรื่องราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ จนขณะนี้ราคารับซื้อดีขึ้น ถือว่าพี่น้องชาวใต้ยอดเยี่ยมมาก และความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากพี่น้องชาวสวนปาล์ม และนักการเมืองท้องถิ่นที่ช่วยกันแก้ไขปัญหา ส่วนพี่น้องภาคอีสาน ที่ปลูกมันสำปะหลัง และข้าวโพด คงต้องรอไปจนกว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น จึงค่อยร้องเรียนเรื่องราคาพืชผลตกต่ำ
"โอบามา บอกว่า ปีนี้เราต้องการการเปลี่ยนแปลง และยังบอกว่าเรามีโอกาสที่จะให้ทิศทางใหม่กับประเทศของเรา โดยเราสามารถทดแทนการเมืองที่แบ่งแยกทำลายด้วยการเมืองใหม่ของการมีส่วนร่วม และการมีความหวัง นี่คือประโยคสำคัญซึ่งเหมือนกับการเมืองไทย ฉะนั้นเราขอใช้คำพูดของโอบามาชั่วคราว คือ การเมืองใหม่คนไทยต้องการ แต่ทรราชบอกว่า เราจะได้ชัยชนะเพราะประชาชนของผม" นายสมเกียรติ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญเราไปสืบค้นวันที่ 19 ก.พ.2548 จอร์ช บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บลูแคนยอน กอล์ฟ คลับ ที่ภาคใต้ คนพวกนี้เป็นสมาคมคาร์ไลน์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยี และอาวุธสงคราม โดยมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านล้านบาท และหนึ่งในจำนวนสมาชิกนั้นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งสืบทอดมาจนถึงยุค "นกกระยางขาว กินปลาเป็นๆ และยังเป็นปลาท้องกลมๆ"
"สหรัฐฯ เขาประกาศนโยบายฉะฉาน โดยคนทุกชนชั้นเข้าถึงข้อมูล ซึ่งเขาชอบนโยบายสวัสดิการนิยม คือเก็บภาษีจากคนรวยมากๆ อีกทั้งยังมีนโยบายที่จะพัฒนาประเทศไปสู่การยกเลิกสงครามในตะวันออกกลาง แล้วหันไปดูแลสวัสดิการในประเทศ พอหันมาถามคนบ้านเราว่า ป้า ทำไมถึงไม่ไปเลือกเลือกตั้ง ป้าตอบกลับมาว่า ป้ารออะไรบางอย่าง ถ้าไม่ได้สิ่งนั้น ป้าก้าวขาไม่ออก ฉะนั้นอีกไม่เกินสองสัปดาห์ จะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่เกี่ยวกับจานดาวเทียม" นายสมเกียรติ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่พี่น้องชาวอุดรธานี เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายขวัญชัย ไพรพนา และนายธีระชัย แสนแก้ว ที่ จ.อุดรฯ ว่า ขณะนี้ศาลประทับรับฟ้องแล้ว โดย 7 ผู้กล้าที่ จ.อุดรฯ ยื่นฟ้องนายขวัญชัย และนายธีรชัย ในข้อหามีมากถึง 16 มาตรา คือ 1.พยายามฆ่า 2.ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1.8 ล้านบาท กรณีดังกล่าว แกนนำพันธมิตรฯ ต้องไปเป็นกำลังใจให้พี่น้องผู้กล้าถึง จ.อุดรฯ
ส่วนคำฟ้องที่ทนายของเราร่างขึ้นมานั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า ร่างคำฟ้องดังกล่าวมีใจความว่า จำเลยปลุกระดมบุคคลทั่วไปในนามชมรมคนรักอุดรฯ ประมาณ 1,000 คน ได้ตระเตรียมอาวุธหลายชนิด ทั้งขวาน มีดปลายแหลม ไม้กระบอง ท่อนไม้หน้าสาม ท่อนไม้หน้ากลมขนาดเหมาะมือ และด้ามธง ซึ่งอาวุธทุกชิดดังกล่าว อาจทำอันตรายถึงชีวิตได้ แล้วจำเลยยังร่วมกันโฆษณา ให้ชมรมคนรักอุดรฯ ฆ่าพันธมิตรฯ เหมือนศัตรู แล้วเสนอรางวัลว่า หากพันธมิตรฯ ตาย จะให้รางวัล ซึ่งการการะทำดังกล่าวต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ฉะนั้นต้องขอสดุดีพี่น้องชาวอุดรฯ ที่ถูกทำร้ายอย่างหฤโหด ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดผู้บัญชาการตำรวจภูธร จ.อุดรฯ และคณะ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
...+
▼
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น