โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2551 12:45 น.
“พันธมิตร” ประกาศชักธงรบตอบโต้รัฐบาลใช้อำนาจมือเข่นฆ่าประชาชน จากเหตุการณ์บึ้มกลางเวทีพันธมิตร เชื่อตำรวจมีส่วนร่วมปล่อยให้อาวุธสงครามเพ่นพ่านกลางเมืองหลวง นัดระดมพลใหญ่ครั้งสุดท้าย 23 พ.ย.เวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล เผด็จศึกรัฐบาลฆาตกร
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ตอบโต้หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามชนิดเครื่อง ยิงลูกระเบิดชนิด เอ็ม 79 ยิงเข้าใส่ทำเนียบรัฐบาล และตกลงบนหลังคาเต็นท์ ส่งผลให้มีการเสียชีวิต 1 ราย สาหัส 2 ราย และบาดเจ็บอีก 18 คน ดังนั้น พันธมิตรฯ ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อยกย่องให้ผู้เสียชีวิตเป็นวีรชนของพันธมิตรฯ
ในแถลงการณ์ยังระบุว่า การใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรีและเยาวชนได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยฝีมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐและใช้อันธพาลเป็นเครื่องมือ และขอประณามคนในฝ่ายรัฐบาลต่อการกระทำในครั้งนี้ หลังเกิดเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ได้ส่งหนังสือถึง ผบ.ทบ. ผบ.ตร. ผบช.น.ให้ช่วยกันหยุดยั้งอาวุธสงคราม แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แสดงให้เห็นว่าไม่มีการป้องกันที่ดีพอ ฆาตกรเหล่านี้ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกราชการรู้เห็นเป็นใจ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถนำระเบิดเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมกลางเมืองหลวงเช่ นนี้ได้
ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ได้จัดชุมนุมอย่างสันติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อตรวจจสอบและขับไล่รัฐบาลรวมทั้งคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลกลับใช้อำนาจมืดทำร้ายประชาชน จากสถานการณ์ดังกล่าวพันธมิตรฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า 180 วันแล้วพันธมิตรฯ จะไม่สามารถชุมนุมในที่ตั้งได้อีกต่อไป พันธมิตรฯ ไม่อาจอดทนต่อพฤตกรรมที่จ้องเข่นฆ่าประชาชนและไม่อดทนต่อระบบสภาทาสได้อีกต่ อไป จึงขอประกาศให้มีการระดมมวลชนครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อเป็นประวัติศาสตร์ในวันอา ทิตย์ที่ 23 พ.ย.นี้เวลา 14.00 น. เพื่อกดดันและเคลื่อนไหวต่อสู้ทุกรูปแบบและทุกวิถีทางเพื่อเผด็จศึกรัฐบาลฆา ตกร จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนออกมาเพื่อมาใช้สิทธทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.วันที่ 20 พ.ย. ภายหลังจาก 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประชุมด่วนกรณีเหตุคนร้ายยิงระเบิด เอ็ม 79 เข้าใส่ที่ชุมนุมพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 23 ราย แล้ว ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 24/2551 ประกาศนัดรวมพลเผด็จศึกรัฐบาลหุ่นเชิดและหยุดสภาทาสระบอบทักษิณ ดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่ 24/2551
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง
ระดมมวลชนครั้งใหญ่
เพื่อเผด็จศึกหยุดยั้งอำนาจรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด
และหยุดสภาทาสระบอบทักษิณ
เ มื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 เวลา 03.25 น. ได้เกิดเหตุคนในฝ่ายรัฐบาลไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิด เอ็ม 79 ยิงเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยระเบิดตกลงบนหลังคาเต็นท์ผ้าใบของผู้ชุมนุม อยู่หน้าเวทีปราศรัย ผลจากแรงระเบิดทำให้สะเก็ดระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนายเจนกิจ กลัดสาคร บาดเจ็บสาหัส 2 ราย และบาดเจ็บอีก 21 ราย นับเป็นการเสียชีวิตเป็นรายที่ 3 จากการเข่นฆ่าประชาชนโดยฝ่ายรัฐบาล
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอแสดงความเสียใจ และไว้อาลัยให้แก่ครอบครัวและมิตรสหายของผู้วายชนม์ และขอประกาศอย่างเป็นทางการยกย่อง เชิดชู นายเจนกิจ กลัดสาคร ให้เป็นวีรชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและประชาชนตลอดไป ตลอดจนขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บทุกคนในความกล้าหาญครั้งนี้
ทั้งนี้ การใช้อาวุธสงครามประเภทระเบิดในการเข่นฆ่าประชาชนผู้มาชุมนุมร่วมกับพันธมิ ตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรี ผู้สูงวัย และเยาวชน นั้นมิได้เกิดครั้งแรก หากแต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ครั้งแล้วครั้งเล่าจาก เจ้าหน้าที่ของรัฐและอันธพาลของรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิดทั้งสิ้น
ครั้งสุดท้ายเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 คนในฝ่ายรัฐบาลได้ยิงระเบิดใส่เต็นท์ผู้ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล ทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่ง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ส่งหนังสือทันทีถึงผู้รับผิดชอบในการรักษาความมั่นคงในพื้นที่นั้น คือ ผู้บัญชาการทหารบกและรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน, แม่ทัพภาคที่ 1, ผู้บัญชาการกองพลที่ 1, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ให้ช่วยกันหยุดยั้งการใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชนใจกลางพระนคร แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดได้หยุดยั้งการใช้อาวุธสงครามต่อผู้ชุมนุมได้แต่ประการ ใด
การใช้อาวุธสงครามประเภทระเบิดที่ใช้กับผู้ชุมนุมที่ผ่านมานั้น สะท้อนให้เห็นว่าบุคคลดังกล่าวจะต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกราชการและในราชการที่มีส่วนและรู้เห็นเป็นใจในการย ิงระเบิดอาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชน
ทั้งนี้เพราะถ้าตำรวจไม่ร่วมมือหรือรู้เห็นเป็นใจก็จะไม่สามารถที่จะ นำอาวุธสงครามประเภทนี้เข้ามาในใจกลางเมืองหลวง เพื่อทำร้ายผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในทำเนียบรัฐบาลได้
ย่อมแสดงให้เห็นว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และนายตำรวจอีกหลายนาย ต่างรู้เห็นเป็นใจและสมรู้ร่วมคิดกับรัฐบาลในการเข่นฆ่าประชาชนที่มาใช้สิทธ ิตามรัฐธรรมนูญเพื่อทำหน้าที่ในการปกป้องราชบัลลังก์ ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
ที่ผ่านมา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาชุมนุมเพื่อตรวจสอบรัฐบาล และปกป้อง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่กลับถูกรัฐบาลใช้อำนาจรัฐและใช้อำนาจมืดมาเข่นฆ่าทำร้ายประชาชนมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมในการขับไล่รัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด และการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ยังไม่สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายและไว้วางใจได้ เพราะสภาทาสของระบอบทักษิณก็ยังยืนยันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดใ ห้กับตัวเองและพวกพ้อง และเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างสถาบันองคมนตรีอันเป็นการลดพระราชอำนา จของสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่สามารถที่จะยอมให้เกิดขึ ้นได้เช่นกัน
จากสถานการณ์ดังกล่าว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงไม่สามารถใช้สิทธิการชุมนุมในที่ตั้งโดย ปล่อยให้รัฐบาลเข่นฆ่าประชาชนรายวัน โดยไม่ได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยหรือรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่รัฐได้อีกต่ อไป
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่อาจอดทนต่อรัฐบาลฆาตกรที่เข่นฆ่าประชาชนทุกวันอย่างอำมหิตโหดเหี้ยม และไม่อาจยอมรับสภาทาสของระบอบทักษิณได้อีกต่อไป
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ระดมมวลชนครั้งใหญ่ ณ ทำเนียบรัฐบาล ในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไปเพื่อ “เผด็จศึก” เคลื่อนขบวนต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หน้ารัฐสภา หยุดอำนาจรัฐบาลทรราชฆาตรกรหุ่นเชิด และหยุดสภาทาสระบอบทักษิณทุกรูปแบบ และทุกวิถีทาง
จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์มาใช้สิ ทธิ โดยทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2551 มาตรา 70 ในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จนกว่าสังคมไทยจะได้รับชัยชนะ
ด้วยจิตคารวะ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
เกิดเหตุระเบิด เมื่อคืน 19 ให้ประชาชนออกมาวันอาทิตย์ ที่ 23 พ.ย.51
http://www.youtube.com/watch?v=v56R3kmwYno
--
อยากให้ทางเวปนำเสนอข้อมูลต่างๆอย่างละเอียดดังนี้
1.ที่อยู่ของ สส. พลังประชาชนทุกคน บ้านเมียมัน ลูกมัน อย่างละเอียด
2.ที่อยู่ของ ทหารทรราช ตำรวจเลว สุนัขรับใช้ทักษิน ทุกคน
3.ที่อยู๋ของไอ้ 3 เกลอ หัวขวด
เอาอย่างละเอียด ที่เหลือใครทำอะไรได้ก็ทำเลยค่ะ
ไม่ต้องนัดแนะ ใครมีปืน หรือของอะไรก็ได้ เล่นมันให้รู้สึกบ้าง ถ้าลูกเมียมันโดน จะเป็นยังไง
อหิงสา มันใช้กับไอ้พวกนี้ไม่ได้แล้ว ถึงแม้ถ้าพวกเราจะแพ้มัน แต่พวกหนูขอเอาคืนให้ถึงที่สุด จะไม่ให้มันอยู่อย่างสุขสบายอีกต่อไป
อย่าบล็อคความเห็นนี้นะคะ ขอร้อง
พวกหนูเป็นผู้หญิงทำงานกลางคืนอยู่พัทยา อาจเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจ แต่หนูก็เป็นคนไทยคนนึงค่ะ
อ้วนสุด
--
จากใจของคนไทยคนหนึ่ง......
1.พวกคุณออกมาเรียกร้อง เพื่อ ชาติ สาศนา พระมหา
กษัติย์
2.พวกคุณยอมเสียสละทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์
3.พวกคุณไม่เคยเรียกร้องสิ่งตอบแทนไม่ว่าจะในรูป
แบบใดๆ
4.พวกคุณยอมเหนื่อยยาก ยามหน้าร้อนต้องอดทน
ต่อแสงแดดที่แรงกล้า ยามหน้าฝนต้องเปียกปอน
ท่ามกลางสายฝน ยามหนาวต้องทนหนาวเหน็บ
5.พวกคุณมีจิตสำนึกสาธารณะที่อยากเห็นชาติ บ้าน
เมืองของเรา มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อลูกเพื่อหลาน
ของคนไทยทั้งมวลในอนาคต
6.พวกคณโดนใส่ร้ายป้ายสีต่างๆนาๆแต่พวกคุณก็ไม่
หวั่นไหว
7.พวกคุณมีจิตใจที่มุ่งมั่น สามัคคีเป็นอันหนึ่งเดียวกัน
8.พวกคุณใช้สติปัญญาในการต่อสู้ไม่เคยที่คิดจะใช้
ความรุนแรงเข้าต่อสู้ทำได้เพียงแต่การป้องกันตัว
ตามสัณชาติญาน ในการเอาตัวรอด
และการต่อสู้เมื่อมาถึงวันนี้มีคนบาดเจ็บเป็นจำนวน
มาก เสียชีวิตไป 3 คน ผมหวังว่าบุคคลเหล่านี้จะต้อง
ไม่บาดเจ็บล้มตายฟรี โดยน้ำมือของไอ้พวกชั่ว ช้า
สามานย์บ้า อำนาจ โดยที่ไม่คำนึงถึงความเป็นมนุษย์
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะขจัดไอ้พวกกากเดนขยะสังคม
ไม่ให้หลงเหลืออยู่ในประเทศไทยที่เคยร่มเย็นเป็นสุข
มาช้านาน มันไม่คุ้มเอาเสียเลยที่จะยกประเทศให้กับ
**ไอ้พวกกายเป็นคน แต่กมลสันดาลเป็นสัตว์**
nan
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น