...+

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สารจากกัปตันการบินไทย ที่ไล่ สส พปช


กัปตัน (นาวาอากาศตรี) จักรี จงศิริ ขอแถลง

แถลงการณ์นี้เขียนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศ
สาธารณรัฐประชาชนลาว ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสงบสุข ประชาชน ประเทศนี้เต็มไปด้วย
รอยยิ้ม ทั้งใบหน้าและจิตใจ เขาอยู่กันอย่างเรียบง่าย ผู้หญิงสวมผ้าถุง เสื้อ
แขนกระบอก ตอนเช้าผู้คนจะออกมาใส่บาตรทำบุญ สร้างบุญบารมีไว้ชาติภพหน้า เห็น
แล้วผมรู้สึกดีกับประชาชนของประเทศนี้มาก

เวลานี้เป็นเวลาตี 3 ผมนอนไม่หลับ คิดว่าทำไมจะให้ประเทศชาติของเราจะ
กลับไปมีความสุขแบบในเมื่ออดีต ตอนเป็นเด็กๆ ประเทศของเราดูคล้ายกับลาวมาก แล้ว
อะไรที่ทำให้สองประเทศนี้จึงแตกต่างกันมายมายขณะนี้ ความเจริญที่เข้ามามาก ที่
เข้ามาขับไล่ความสงบสุขออกไป คนขาดซึ่งศีลธรรมจรรยา เพราะมุ่งเพียงเพื่อความรอด
ของชีวิต สังคมมีแต่ผู้รับไม่มีผู้ให้ คิดแต่ว่าในวันนี้เราจะได้รับอะไรบ้าง จะ
รับจากใครที่ไหนและอย่างไร สังคมไทยจึงมีแต่ความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเพื่อที่จะ
เป็นผู้รับ ดังนั้นประเทศไทยจึงถูกซื้อได้จากผู้ที่มีอำนาจเงินมหาศาล ซึ่งจะ
ซื้อบุคล ทุกสถาบันในประเทศ เพราะคนไทยในทุกสถาบันล้วนเป็นผู้รับ

ขณะนี้ผมก็ใคร่ขอให้ผู้คนซึ่งอยู่ในองค์กร สถาบันต่างๆ ที่เงินไม่อาจ
ซื้อได้ และเป็นคนที่มีใจเป็นธรรมะ, เป็นผู้ให้ ได้ออกมาแสดงจุดยืนแสดงตัวตนของ
ตนเอง ซึ่งสามารถคิดแยกแยะได้ในสิ่งดีงามและสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ผมขอให้พวก
ท่านออกมาแทรกอยู่ตรงกลางของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในประเทศของเราทุกวันนี้
ประเทศของเรากำลังต้องการบุคคลอย่างท่าน

กระผมเองก็เป็นบุคคลเช่นท่าน ขณะนี้ผมได้ออกมาแล้วในฐานะที่เป็นประชาชน
ที่รักประเทศชาติ รักแผ่นดินเกิด รักศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่กระผมคนเดียว
นั้นยังไม่เพียงพอ ขอให้คนในทุกองค์กรโปรดแสดงตัวตนที่แท้จริงออกก่อนที่จะสาย
เกินไป ณ เวลานั้น ท่านจะเกิดเสียดาย เพราะผู้คนส่วนใหญ่จะต้องล้มตายไปอีกกี่
ร้อยกี่พันชีวิต ขณะนี้ผู้คนเหล่านี้เขาอ่อนแรงเต็มที่แล้ว พร้อมที่จะถูกใช้
กำลังสลายได้ทุกเมื่อ ผมไม่ต้องการเห็นคนไทย ประชาชนไทยร่างกายฉีกขาดได้อีกต่อ
ไปแล้ว และท่านเองก็คงไม่ต้องการเห็นเช่นกัน

เมื่อวันที่ 8 ตอนเช้านั้น ผมได้เห็นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงภาพผู้คนซึ่ง
เป็นคนไทย ถูกทำร้ายด้วยอาวุธ ร่างกายฉีกขาด เลือดนองพื้น เป็นภาพซึ่งผมเห็น
แล้วรู้สึกอนาจใจอย่างมากที่รัฐบาลโดยการนำของพรรคพลังประชาชน เข่นฆ่าประชาชน
โดยคนในพรรคนี้เห็นดีเห็นงามต่อการกระทำกับประชาชน จิตใจของพวกท่านทำด้วยอะไร
เพียงเพื่อต้องการที่จะไปอ่านนโยบายบริหารประเทศ ท่านก็ฆ่าฟันผู้คนเข้าไปอ่าน
นโยบายแล้ว ฉะนั้นภายในนโยบายบริหารเหล่านั้นท่านคงจะต้องฆ่าประชาชนคนไทยไปอีก
กี่ศพ ท่านจึงจะบรรลุนโยบายการบริหารประเทศของท่าน

ด้วยความคิดดังนั้นผมเองจึงตัดสินใจ ที่จะไม่รับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่
มาจากพรรคพลังประชาชน สาเหตุเพราะหนังสือพิมพ์ซึ่งมีภาพผู้คนที่ถูกเข่นฆ่าเหล่า
นั้น เมื่อผู้โดยสารท่านอื่นที่โดยสารไปในเที่ยวบินนั้นได้เห็นภาพและข่าว อาจ
เกิดบันดาลโทสะ ขาดการยับยั้ง ยกมารุมทำร้าย ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ขณะที่
เตรียมขึ้นบินอยู่ ได้รับบาดเจ็บและล้มตายให้ตกไปตามกันก็ได้ ส.ส.พรรคพลัง
ประชาชนเข้าเครื่องในวันดังกล่าว ซึ่งถ้าการสอบสวนว่าผมกระทำความผิด และให้ผมไป
กล่าวคำขอโทษ ส.ส.เหล่านั้น ก็ขอให้ลงโทษด้วยการฆ่าผมเสียดีกว่าที่จะให้ผมไป
กล่าวคำขอโทษกับคนที่ไม่มีศีลธรรมเหล่านั้นให้เสียศักดิ์ศรีของความเป็นชายชาติ
ทหารนักรบอย่างผม

สุดท้ายนี้ผมคิดว่า ถ้าประชาชนถูกเข่นฆ่าด้วยอาวุธอีก ร่างกายฉีกขาดเป็น
ชิ้นส่วน กระจายเลือดแดงนองพื้น สภาพศพแต่ละศพไม่ครบ 32 แล้วเราก็ไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงสังคมไทยได้ เป็นเวรกรรมกันต่อไปอีกไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ สู้ขอให้เรา
ยอมตายด้วยการอารยะขัดขืนสูงสุดคือ เรามาร่วมกันอดอาหารเพื่อขอให้มีผู้นำของ
ประชาชนคนใหม่ นำไทยไปสู่อนาคตที่สังคมมีแต่ผู้ให้ด้วยเทอญ และ ขออดอาหารจนตาย
ถ้าเรายังไม่ได้ผู้นำของประชาชนคนใหม่ ขอให้ท่านออกมาเถิด เราจะรอท่านไปจนตาย
ถ้าท่านไม่ออกมา

กัปตันจักรี จงศิริ
ผู้ที่จะยอมเสียชีวิตโดยไม่ยอมเสียเกียรติและศักดิ์ศรี
เวลา ตี 4
13 ต.ค. 51

----- End forwarded message -----


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น