วันนี้ (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวถึงการเมืองใหม่ ว่า ต้องไม่ใช่การเมืองแบบเก่าอย่างทุกวันนี้ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่า ในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ใช้การเมืองเก่าเพื่อสร้างอำนาจ เพราะถ้าต้องการการเมืองใหม่จริง คงไม่เชิญคนอย่าง นายเสนาะ เทียนทอง เข้ามาร่วมพรรคไทยรักไทย
นายสนธิ ยังเปิดโปงอีกว่า นายเสนาะ ได้เสนอในที่ประชุมร่วม 3 ฝ่าย เพื่อแก้วิกฤตการเมืองโดยเสนอให้ปราบปรามการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แม้ว่าจะเกิดการนองเลือดก็ยอม โดยอ้างว่าเพื่อรักษาระบบ
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า ในการก่อตั้งพรรคไทยรักไทยช่วงแรก มีคนดีๆ เข้าร่วมมากมาย แต่ตอนหลังมีการเชิญนักการเมืองน้ำเน่าเข้ามา อย่างเช่น นายเสนาะ ซึ่งคนๆ นี้ เป็นคนแรกที่ทำให้ระบอบทักษิณเกิดขึ้น และกลายเป็นโรคระบาด เป็นเนื้อร้ายที่ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเวลานี้ต้องยอมรับว่า เป็นการปะทะกันระหว่างระบอบทักษิณ กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ผ่านทางนอมินี อย่าง นายสมัคร สุนทรเวช
นายสนธิ ได้ชื่นชมจิตใจการต่อสู้ที่เข้มแข็งของพี่น้องประชาชนในที่นี้ เพราะ 107 วันที่ผ่านมามีแต่มนุษย์ ที่รัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ทนได้ แม้แต่นายพลที่ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยายังสู้ไม่ได้
“ถ้าการเมืองเก่ายังอยู่จะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมห ากษัตริย์เป็นประมุข โดยเฉพาะกับสถาบันพระมหากษัตริย์” นายสนธิ ระบุ และว่า การเมืองเก่าจะอ้างเสียงข้างมากแล้วทำอะไรก็ได้ การเมืองเก่า คือ การใช้เงินซื้อเสียง ซื้ออำนาจแล้วบอกว่าผมมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งนักการเมืองเก่าๆ เหล่านั้นกลัวการเมืองใหม่ เพราะกลัวว่าจะตกเวที ไม่ว่าจะเป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา นายเสนาะ ยกตัวอย่างเช่น สร้างศาลาที่สุพรรณ แต่กลับเขียนชื่อ บรรหาร-แจ่มใส เป็นการกระทำที่หน้าด้านที่สุด เพราะใช้เงินภาษีของประชาชนสร้าง แต่กลับเขียนชื่อของตัวเอง
“ดังนั้น การเมืองใหม่ ต้องถามประชาชนก่อน” นายสนธิ ระบุและว่า พวกเรามาไกลแล้ว ไม่ใช่แค่ นายสมัคร ลาออกแล้วพวกเราจะเก็บข้าวของกลับบ้าน เพราะยังไม่พอ เพราะเราต้องส่งสัญญาณให้ทุกส่วนได้รู้
“พวกเราตากแดดตากฝน เจอแม้กระทั่งลูกเห็บจะพอแค่นี้หรือ พรุ่งนี้ (9 ก.ย.) จะประชุมกันก่อนแล้วจะมาขอมติจากพี่น้อง” นายสนธิ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น