...+

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ข่าวจากอีสาน 29 สค 51

พันธมิตรฯ กาฬสินธุ์นัดยกพลไล่ “รัฐบาลสัตว์นรก” ก่อน 18.00 น.วันนี้ฟรี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2551 15:38 น.
       กาฬสินธุ์ -พ ันธมิตรฯ กาฬสินธุ์ ขอเชิญร่วมขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ขึ้นรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกัน 18.00 น.ฟรี ประกาศยืนเคียงข้างพันธมิตรฯ สู้ตาย เอาประเทศไทยคืนมา
      
       วันนี้ (29 ส.ค.) เวลา 15.30 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ได้รับแจ้งจากเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กาฬสินธุ์) ถึงพี่น้องผู้รักชาติทุกท่าน ที่ต้องการเดินทางไปสมทบกับพี่น้องพันธมิตรที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ได้มีรถบัสจำนวน 2 คัน จอดรอเพื่อรับพี่น้องกลุ่มพันธมิตรที่ต้องการจะเดินทางไปขับไล่ รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ให้ออกไปจากแผ่นดินไทย
      
       รถบัสจะจอดรออยู่ที่หน้าโรงเรียนทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และรถพร้อมที่จะออกเดินทางในเวลา 18.00 น.ฟรีตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ เนื่องจากมีผู้มีจิตศรัทธาที่ไม่ประสงค์ออกนามสนับสนุนรถบัส จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกับเดินทางไปขับไล่รัฐบาลขายชาติด้วย
      
       ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่รัฐบาลขายชาติหุ่นเชิด ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีความต้องการที่จะร่วมขับไล่กันอย่างเต็มที่ และมีความเชื่อว่าการเคลื่อนไหวเป็นไปด้วยความชอบธรรมภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงกลัวอะไร ถึงแม้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จะพยายามต่อต้านอยู่ตลอดเวลา


แพทย์พยาบาล “รพ.มหาราช” โคราชลุกฮือ! - จี้ รบ.หยุดทำร้าย ปชช./ลาออกทั้งคณะ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2551 17:34 น.
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลุ่มแพทย์-พยาบาล และบุคลากรของ รพ.มหาราช นครราชสีมา กว่า 200 คน ลุกฮือรวมตัวประท้วงเรียกร้องรัฐบาล หยุดทำร้ายประชาชนมือเปล่าปราศจากอาวุธ และให้รับผิดชอบโดยการลาออกทั้งคณะโดยเร็ว อย่างไม่มีเงื่อนไข ชี้ ปชช.ไม่ใช่กบฏ หากกบฏเป็นเช่นนี้ ปชต.ทั่วโลกมีปัญหาหมดแน่ ลั่นแพทย์พยาบารพ.มหาราชโคราชกว่า 3,000 คน จะดำเนินการทุกวิถีทาง ในการต่อต้านขับไล่รัฐบาลชุดนี้อย่างถึงที่สุด
       

       วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษา สถาบันผลิตแพทย์ฯ ภายในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มแพทย์พยาบาล และบุคลากร โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กว่า 200 คน นำโดย นพ.ทศพร ศิริโสภิตกุล และ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ ได้รวมตัวกันชูป้ายประท้วง พร้อมร้องตะโกน “รัฐบาล ! หยุดทำร้ายประชาชน” เรียกร้องให้รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หยุดทำร้ายประชาชนและให้รับผิดชอบการใช้ความรุนแรงกับการชุมนุมของประชาชนกล ุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ กรุงเทพฯ ด้วยการลาออกทั้งคณะอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเร็ว
      
       นพ.ทศพร ศิริโสภิตกุล แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลใช้กำลังตำรวจเข้าทำร้ายประชาชนมือเปล่า ที่ไม่มีอาวุธ รวมถึงปิดกั้นทำร้ายเจ้าหน้าที่พยาบาล ไม่ให้เข้าไปรับผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง พวกเราแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากจึงรวมตัวกันออกมาแสดงจุดยื่น ว่า แพทย์พยาบาลและบุคลากรของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รักความถูกต้องไม่อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นในสังคมไทย
      
       ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังไม่หยุดที่จะใช้ความรุนแรงกับประชาชน ทางแกนนำจะมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อกำหนดมาตรกร แต่ยืนยันว่า ภาระหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยก็ยังจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เราจะไม่ก้าวล่วงเข้าไปยุ่งทางการเมือง แต่ภาพการทำร้ายประชาชนผู้ที่ไม่มีทางสู้ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ และถ้าการชุมนุมยืดเยื้อ และขาดแพทย์พยาบาล ทางเราก็พร้อมที่จะส่งแพทย์พยาบาลเข้าไปช่วยรักษาประชาชน ที่กรุงเทพฯ
      
       “เราหารือกันและมีมติร่วมกันเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา ว่า ต้องออกมาแสดงพลังเพื่อให้รัฐบาลเห็นว่าเราไม่เห็นด้วยที่จะทำให้เกิดความรุ นแรงขึ้นในบ้านเมือง ส่วนใครจะเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคลที่สามารถกระทำได้” นพ.ทศพร กล่าว
      
       อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าอย่าใช้ความรุนแรงกับประชาชนอย่างเด็ดขาด และหากมีคนเจ็บป่วยก็ขอให้เกียรติแพทย์พยาบาล อย่าทำร้ายหรือกีดขวางในการเข้าไปช่วยเหลือทางการแพทย์
      
       ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และแพทย์ประจำตัว หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา แกนนำอีกหนึ่งคน กล่าวว่า เป็นที่แน่ชัดว่า บ้านเมืองตอนนี้จะต้องเลือกข้างอย่างชัดเจนแล้วในด้านความคิด สำหรับพวกเรา ก็ชัดเจนเช่นกัน คือ ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลเข้าไปใช้ความรุนแรงกับประชาชนมือเปล่าปราศจากอา วุธ ประชาชนไม่มีความผิด และเราเชื่อว่า คนเหล่านี้ไม่ใช่กบฏ หากกบฏเป็นเช่นนี้คิดว่าประชาธิปไตยทั่วโลกคงจะมีปัญหากันไปหมดแล้ว เพราะประเทศที่เจริญแล้วการกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นเรื่องปกต ิของระบอบประชาธิปไตย
      
       สำหรับการเรียกร้องของพวกเรากลุ่มแพทย์พยาบาลและบุคลากรของ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา คือ ให้รัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรีทั้งคณะลาออกโดยเร็วอย่างไม่มีเงื่อนไข
      
       “ไม่เช่นนั้นกลุ่มแพทย์พยาบาลและบุคลากรของ รพ.จำนวนกว่า 3,000 คน จะดำเนินการทุกวิธีทางเพื่อต่อต้านรัฐบาลชุดนี้ เพราะเราไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้จึงขอให้ลาออกไป” นพ.พินิศจัย กล่าว

เครือข่ายประชาสังคม 3 ภาคร่วมประณามรัฐบาลสัตว์นรกสั่งตำรวจพันธุ์ชั่วสลายพันธมิตรฯ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2551 17:31 น.
       ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เครือข่ายประชาสังคมภาคกลาง-ภาคอีสาน และภาคตะวันออก และนักวิชาการกว่า 40 คน ออกแถลงการประณามรัฐบาลสัตว์นรกสั่งตำรวจสลายผู้ชุมนุมพันธมิตรฯพร้อมจี้ “สมัคร” แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งนายกฯ
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันนี้ (29 ส.ค.) ที่สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น เครือขายประชาสังคมภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก รวมถึงนักวิชาการหลากหลายสาขาวิชา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของพี่น้ องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
      
       ศ.นพ.ชวลิต ไพโรจน์กุล นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ว่า จากสถานการณ์การล้อมปราบปรามและจับกมประชาชนที่อยู่บริเวณสะพานมัฆวานและทำเ นียบรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้คำสั่งของผู้บัญชาการนครบาลที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งและมีที่มาใกล้ชิดก ับศูนย์กลางอำนาจที่ไม่ชอบธรรม
      
       การปราบปรามทำให้ผู้หญิงและคนชราได้รับบาดเจ็บ และต้องการได้รับการรักษาพยาบาล แต่รถพยาบาลที่มีหมอและพยาบาลพร้อมจะช่วยเหลือดูแลประชาชนถูกตำรวจกันไว้ไม่ ให้เข้าไปดูแลผู้บาดเจ็บ
      
       การดำเนินการใดๆ ก็ตาม ต้องเป็นไปด้วยมนุษยธรรม ไม่จับกุม ไม่ทำร้ายร่างกาย จิตใจของประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิง คนชรา ที่มีเพียงสองมือเปล่า และปราศจากอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น
       อนึ่ง สาเหตุการชุมนุมในทำเนียบ มาจากความไม่ชอบธรรมของระบอบทักษิณและรัฐบาลนอมินีที่มี นายสมัคร สนุทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้กระทำการ รวมทั้งความพยายาม ดังต่อไปนี้
      
       1) แก้ไขรัฐธรรมนูญและกฏหมายต่างๆ เพื่อให้พ้นจากความผิดทั้งปวง
       2) ออกนโยบายและโครงการต่างๆ ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและมีลักษณะส่ออาการคอร์รัปชัน
       3) ย้ายรัฐสภา ที่ก่อความเดือดร้อนแก่นักเรียน ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ครอบครัวทหาร
       4) การเช่ารถเมล์ 6,000 คัน ใช้เงินกว่าแสนล้านบาท
       5) การอนุมัติโครงการชลประทานระบบท่อ เป็นเงินกว่า 2 แสนล้านบาท
       6) การเซ็นสัญญาความร่วมมือกับประเทศลาวในการดำเนินงานจัดทำโครงการเขื่อนบ้านกุ่มในแม่น้ำโขง
       ฯลฯ
       

       โดยที่ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริง ฯลฯ รวมทั้งการมีคดีติดตัวของ นายสมัคร สุนทรเวช ที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมและกระทำการโดยใช้อำนาจที่ผิดกฎหมาย
      
       ดังนั้น รัฐบาลที่มี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม และสมควรลาออก เพื่อความสงบและสันติสุขจะได้บังเกิดแก่บ้านเมืองและนำการเมืองไปสู่ระบอบปร ะชาธิปไตยที่แท้จริง
      
       เครือข่ายประชาสังคมภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอเรียกร้องให้ตำรวจดูแลประชาชน โดยไม่จับกุม ไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจ และให้ นายสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที
      
       สำหรับรายชื่อผู้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ครั้งนี้ มีทั้งหมด 41 คน ประกอบด้วย
       1.นายชัยวัฒน์ ถิระพันธ์ สถาบันการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม
       2.เพื่อการพัฒนา จ.นครราชสีมา
       3.อ.สมพันธ์ เตชะอธิก กลไกสมัชชาสุขภาพภาคอีสาน
       4.นายสุรศักดิ์ รอนใหม่ ทนายความ จ.อุบลราชธานี
       5.นายชูชัย ฤดีสุขสกุล สมัชชา จ.นครปฐม
       6.นายวินัย วงศ์อาสา สมัชชาสุขภาพ จ.ขอนแก่น
       7.คุณอำพล สีหา เครือข่ายประชาสังคม จ.เลย
       8.คุณวีระพล เจริญธรรม เครือข่ายสิ่งแวดล้อม จ.เลย
       9.คุณอภิญญา กรรณลา สำนักข่าวเด็กและเยาวชน จ.เลย
       10.อ.ธีระพล อันมัย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
       11.นางบุษบงก์ ชาวกัณหา เครือข่ายลุ่มน้ำปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
       12.นายพรทิพย์ สมนาม ประชาชน จ.ปราจีนบุรี
       13.นางสาวเบ็ญจวรรณ สมนาม ประชาชน จ.ปราจีนบุรี
       14.นางสาวพักตร์วิไล สหุนาฬุ แนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สุรินทร์
       15. นายสุพัฒน์ กุมพิทักษ์ ชมรม อปท.เพื่อประชาชนภาคอีสาน
       16.นายชาติวัฒน์ ร่วมสุข เครือข่ายเกษตรทำนา จ.อำนาจเจริญ
       17.นายตระการ ทองเกลี้ยง เครือข่ายลุ่มน้ำโขง จ.อุบลราชธานี
       18.อ.วศิน โกมุท สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น
       จ.อุบลราชธานี
       19.นางมัสยา คำแหง มูลนิธิพิทักษ์ธรรมชาติเพื่อชีวิต จ.อุบลราชธานี
       20.นางสาวกาญจนา ทองทั่ว สมัชชาสุขภาพ จ.อุบลราชธานี
       21.นางสาวจงกลนี ศิริรัตน์ มูลนิธิประชาสังคม จ.อุบลราชธานี
       22.นางสาววิลาวัณย์ เอื้อวงศ์กูล เครือข่ายสื่อภาคประชาชน ภาคอีสาน
       23.ผศ.นพ.เฉลิมชัย อภิญญานุรักษ์ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย
       จ.ขอนแก่น
       24.นางนวลพักตร์ อภิญญานุรักษ์ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย
       จ.ขอนแก่น
       25.นายสันติ ถีระวงษ์ ภาคีมวลชนคนโคราช
       26. นายกฤตย์ ขวัญโภคา ชมรมรัฐศาสตร์รามคำแหง จ.นครราชสีมา
       27.นายวรชัย ยงพิทยาพงศ์ ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา จ.นครราชสีมา
       28.น.ส.ไพเราะ พานิชยการ ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา จ.นครราชสีมา
       29.น.ส.นลินี กังศิริกุล ประชาสังคม จ.นครราชสีมา
       30.น.ส.สำเภาว์ งามเชย เครือข่ายเยาวชนอีสานใต้
       31.นางภารดี เกียรติภิญโญชัย เครือข่ายนักธุรกิจเพื่อสังคม จ.นครราชสีมา
       32.น.ส.ปิยนาถ ประยูร ประชาชน จ.นครศรีธรรมราช
       33.น.ส.หนูเพียร แสรอินทร์ ประชาชน จ.ปทุมธานี
       34.น.ส.กรรณจริยา สุขรุ่ง พลเมืองกรุงเทพ
       35.น.ส.กานต์พัชชา อาจนรา สถาบันการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม
       36.น.ส.บวรลักษณ์ ธรรมภารา สถาบันการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม
       37.นางรัตนา สมบูรณ์วิทย์ สถาบันพัฒนาประชาสังคมภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี
       38.นายนิมิต สมบูรณ์วิทย์ สถาบันพัฒนาประชาสังคมภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี
       39.นางโสภิดา เอกจิตร สถาบันพัฒนาประชาสังคมภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี
       40.นายไพศาล เจียนศิริจินดา สมัชชาสุขภาพ จ.นครสวรรค์
       41.นายประเชิญ คนเทศ สมัชชาสุขภาพ จ.นครปฐม


NGOs อีสานจี้รัฐอย่าทำรุนแรงกับพันธมิตรฯ - ลั่นหากทำร้ายประชาชนมีมาตรการโต้แน่
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2551 15:08 น.


ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กป.อพช.อีสาน แถลงประณามรัฐบาลทรราช “สมัคร สุนทรเวช” ตั้งข้อสังเกตผู้บุกรุก NBT เป็นคนพันธมิตรฯหรือไม่ ชี้ หากรัฐทำรุนแรง มีมาตรการตอบโต้แน่ เบื้องต้นเตรียมนัดมวลชนหยุดงาน เข้าร่วมชุมนุมสมทบพันธมิตรฯที่หน้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมเตรียมรถบัส 3 คัน ส่งประชาชนร่วมชุมนุมฟรี ด้านกลุ่มเกษตรกรติดต่อขอเข้าร่วมแล้ว 500 คน
      
       วันนี้ (29 ส.ค.) นายสมภพ บุนนาค ที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน (กป.อพช.อีสาน) และ นายขจรศักดิ์ ลีฬหานาจ ตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น ออกแถลงการณ์ กรณีรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรง เมื่อรัฐบาลฉ้อฉล ประชาชนมีสิทธิ ไล่ และใคร คือ กบฏ ที่ ศูนย์ข่าวผู้จัดการ และ ASTV NEWS 1 ภาคอีสาน ถนนเทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
      
       นายสมภพ กล่าวว่า ตามที่ตำรวจได้ใช้กำลังรื้อเวทีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และสลายกำลังผู้ชุมนุม รวมถึงการใช้กำลังบุกประชิดทำเนียบรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้สุมเสี่ยงต่อเหตุการณ์รุนแรง ที่ใกล้จะถึงจุด โดยรัฐบาลเองได้มีการใช้สื่อของรัฐบาลทางสถานีโทรทัศน์ NBT จนเป็นเหตุให้เกิดการเผชิญหน้ากันมากขึ้นระหว่าง ตำรวจ และประชาชน อีกทั้งมีการใช้อำนาจจนเกินไป จึงขอให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง เพราะอาจจะเป็นภาพลบไปทั่วโลก
      
       สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า ปฏิบัติการ “ไทยคู่ฟ้า” ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการบุกเข้ายึดสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และศูนย์กลางอำนาจรัฐหลายแห่ง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ และทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา
      
       เครือข่ายพันธมิตปักหลักชุมนุม ยืดเยื้อ กดดันรัฐบาล ต่อไป นับเป็นเหตุการณ์ที่เกินความคาดหมายที่สาธารณชน และสังคมจะเข้าใจได้ถึงเหตุผลและความจำเป็นของเครือข่ายพันธมิตรที่ได้ประกา ศว่าจะชุมนุมคัดค้าน รัฐบาล ที่ขาดความชอบธรรมแล้ว ด้วยความสงบ สันติ วิธี และอหิงสา ปราศจากอาวุธ โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ทั้งคณะต้องลาออกไป
      
       นายสมภพ กล่าวต่อว่า ก ารปฏิบัติการดังกล่าวของเครือข่ายพันธมิตรฯ ได้ถูกตั้งคำถามอย่างกว้างขวางจากสังคมถึงความเหมาะสมชอบธรรมหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นที่มีท่าทีอันข่มขู่คุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ไม่น่าจะเกิดขึ้น ภายใต้สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนในระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านมาแม้เป็นที่ประจั กษ์ชัดมาตลอดว่า พันธมิตรฯ ได้ใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบและอหิงสา ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
      
       
ด ังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จึงมีข้อน่าสังเกตและน่าสงสัยต่อบุคคลที่บุกรุกเข้าไปในสถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT หลายประการ อาทิเช่น.กลุ่มคนเหล่านี้ใช่คนของพันธมิตรฯ จริงหรือไม่, หรือมีบุคคลซึ่งไม่หวังดีแฝงตัวเข้าไปเพื่อสร้างสถานการณ์เพื่อลดความชอบธรร มการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ หรือไม่และ.การพกพาอาวุธเป็นนโยบายหรือคำสั่งจาก 5 แกนนำพันธมิตรฯ หรือไม่
      
       อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการดังกล่าวแม้จะเป็นความผิดพลาด และหมิ่นเหม่ต่อการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่คง มิอาจนำมาซึ่งการกลบเกลื่อนพฤติกรรมความฉ้อฉลของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ให้มลายหายไปได้ และควรต้องตรึกตรองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงอันทำให้ เครือข่ายพันธมิตรฯต้อง ปฏิบัติการ ด้วยเหตุผลและความจำเป็นอย่างไร
      
       ขณะเดียวกัน เรายืนยันเช่นเดียวกันว่า รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช แม้จะอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่พฤติกรรมการบริหารประเทศของรัฐบาลและผู้นำประเทศอย่างนายสมัครได้หมดความ ชอบธรรมที่จะบริหารประเทศไปนานแล้ว นับตั้งแต่ศาลได้พิพากษาว่าผู้บริหารพรรคพลังประชาชนได้กระทำผิดต่อกฎหมายเล ือกตั้ง (โกงเลือกตั้ง) และถูกถอดถอนสิทธิทางการเมืองไปแล้วนั้น รอแต่คำพิพากษาว่าจะมีผลต่อการ ยุบพรรคหรือไม่ เมื่อใด
      
       ด ังนั้น ในนาม กป.อพช.อีสาน องค์กรภาคประชาสังคม และองค์กรเครือข่ายประชาชนภาคอีสานจึงขอแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังต่อไปนี้ ประการแรกการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มประชาชนกลุ่มต่างๆ ถือเป็นการชุมนุมสิทธิทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามกรณีการดำเนินการของพันธมิตรในช่วงวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการบุกยึด และคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชน กรณีสถานีโทรทัศน์ NBT ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใ ส
       

       ประการต่อมา กรณีที่รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรง และใช้สื่อของรัฐ เพื่อป้ายสีบิดเบือนการใช้สิทธิในการชุมนุมแก่กลุ่มพันธมิตรฯ จนเกินจริง และมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาผู้ชุมนุมจำนวน 85 คนและแกนนำทั้ง 9 คน ในข้อหา “กบฏ” นั้น ถือเป็นข้อหาที่แรงเกินไปสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิ์ทางการเมืองตามรั ฐธรรมนูญ
      
       ประการสุดท้าย รัฐและตำรวจ จะต้องไม่มีการใช้กำลัง ไม่ว่ารูปแบบใด ในการเข้าทำการสลายการชุมนุมของประชาชน ที่ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลโดยเด็ดขาดหากรัฐไม่ยอมรับความจริง ทางเครือข่ายภาคประชาชน โดยเฉพาะ กป.อพช.อีสาน จะต้องมีมาตรการตอบโต้อย่างแน่นอน อาทิ การนัดหยุดงาน
      
       ต อนนี้เรามีการจัดคนลง กทม.ทุกวัน วันนี้มีคนแจ้งมาแล้ว 3 คัน กลุ่มเกษตรกรแจ้งมาแล้วกว่า 500 คน แม้ว่ารถไฟจะหยุดวิ่ง จะมีการนำรถยนต์โดยสารประจำทาง ดำเนินการนำประชาชนเข้าไปร่วมสมทบกับพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างต่อเนื่ อง

นักวิชาการเมืองอุบลฯชี้ “เสียงปืนแตก” รัฐบาลพังแน่
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2551 14:42 น.


อุบลราชธานี- 2 นักวิชาการ ชี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมีทางออก โดยเชิญผู้มีบารมีเปิดเวทีถกหาทางลง และทุกฝ่ายต้องยึดพระราชดำรัส ที่ในหลวงพระราชทานให้เมื่อเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เป็นแนวปฏิบัติเพื่อเลี่ยงการนองเลือด ชี้จุดเริ่มของเหตุการณ์ครั้งนี้คล้าย 14 ตุลา 2516 ที่รัฐยัดเหยียดข้อหากบฏให้แกนนำ หากเสียงปืนดังรัฐบาลพังแน่นอน
      
       น ายสุเชาว์ มีหนองหว้า อาจารย์ภาควิชาการปกครองท้องถิ่น คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวถึงสถานการณ์ขณะนี้ ว่า ต้องหาคนที่มีบารมีและทุกฝ่ายให้ความเชื่อถือเป็นตัวกลางเปิดเวทีเจรจา ระหว่างรัฐบาลและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่าย มีจุดยืนต่างกันอย่างสิ้นเชิง
      
       แต่ต้องมีการพูดคุยไม่ให้เกิดความรุนแรง ถ้าหากมีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม จะเป็นโอกาสให้ทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งถึงจุดนั้นรัฐบาลจะถูกบังคับให้ลาออก แต่สังคมไทยก็จะไม่ยอมรับ
      
       “ ขณะนี้รัฐบาลไม่ควรใช้มาตรการแข็งกร้าว เพราะการเข้าสลายการชุมนุมไม่ใช่ทำให้การชุมนุมเลิกไป แต่จะถูกกลุ่มผู้ชุมนุมกดดันด้วยวิธีอื่น ซึ่งขณะนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้วคือ การรถไฟแห่งประเทศไทยประกาศหยุดเดินรถทั่วประเทศ” ทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้คือ ทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยเจรจาหาทางยุติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
      
       ด้าน พ. อ.ดร.วรสิทธิ์ เจริญพุฒ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวถึงทางออกในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ทุกฝ่ายต้องยึดสันติวิธี ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา เพราะปัญหาทุกอย่างมีทางออก และทุกคนควรยึดมั่นในพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงพระราชทานให้ไว้ในวันที่ 17 พ.ค.2535 ซึ่งสื่อมวลชนได้นำมาเสนอในวันนี้อีก
      
       สำหรับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจเริ่มใช้อารยะขัดขืน โดยพนักงานการรถไฟแห่งประเทศประกาศหยุดงานทั่วประเทศ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องเข้าไปสร้างความเข้าใจกับพนักงาน เพราะรัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาล ก็น่าจะคุยกันได้ว่าอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน
      
       ส่วนปัจจัยหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล คือ การให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟรี ไม่ใช่จะไม่เห็นใจคนจน แต่รัฐบาลน่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ เพราะการนั่งรถไฟฟรีไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระอะไร แต่รัฐบาลก็ได้ทำไปแล้ว
      
       สำหรับกรณีการตั้งข้อหากบฏกับ 9 แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นักวิชาการรายนี้ให้ความเห็นว่า หากไม่พบอาวุธปืนที่อ้างว่าตรวจยึดได้จากกลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปในสถานี โทรศัพท์เอ็นบีทีก็ไม่น่ามีปัญหา แต่อย่างไรการตั้งข้อหากบฏก็รุนแรงไป ส่วนรัฐบาลจะถอนข้อหากบฏออกหรือไม่นั้น ตอบไม่ได้ แต่ถ้าจำเหตุการณ์ 14 ตุลาปี 2516 ก่อนนองเลือดก็มีจุดเริ่มคล้ายกับเหตุการณ์ครั้งนี้
      
       “เมื่อใดที่มีเสียงปืนดังขึ้นมา เมื่อนั้นรัฐบาลก็แพ้แน่นอน และเชื่อว่า เหตุการณ์ในเอ็นบีทีเป็นการจัดฉาก” นักวิชาการรายนี้ กล่าว

โคราชระดม ปชช.เข้ากรุงเสริมทัพ “พธม.” แล้ว - เกษตรกรอีสานนัดรวมพลหน้า “ย่าโม”
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2551 14:18 น.

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - องค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯ โคราช ประชุมแกนนำด่วนระดมพลเดินทางเข้าสมทบพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลอีก 10 คันรถบัส ด้านองค์กรเกษตรกรและภาคประชาชนอีสาน 19 จังหวัดประกาศระดมมวลชนหน้าย่าโม งัดมาตรการเด็ดขาดต่อสู้ตอบโต้รัฐบาลสัตว์นรก ที่ใช้ความรุนแรงโหดร้ายป่าเถื่อนทำร้ายประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ
      
       วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ว่า ล่าสุด เมื่อวเลา 13.30 น.ที่ผ่านมา แกนนำองค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ใน จ.นครราชสีมา เช่น สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด, กลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาชนธิปไตย, สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟ สาขา นครราชสีมา และ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ภาคอีสาน เป็นต้น ได้ประชุมด่วนเพื่อหารือในการระดมมวลชน และกำหนดมาตรการตอบโต้รัฐบาลสัตว์นรก หลังใช้กำลังตำรวจเข้าสลายการชุมนุม และทำร้ายประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างโหดร้ายป่าเถื่อน อยู่ในขณะนี้
      
       นายสันติ ถีระวงศ์ รองประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และแกนนำกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ได้ประชุมหารือกับแกนนำเครือข่ายต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด เพื่อระดมประชาชนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เดินทางเข้าไปสมทบกับผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ เป็นการด่วนภายในวันนี้ (29 ส.ค.) เพื่อร่วมต่อสู้ขับไล่รัฐบาลกับพี่น้องพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศอย่างถึงที่สุด
      
       โดยได้นัดหมายเพื่อขึ้นรถเดินทางไปพร้อมกัน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยจุดรวมพล และรถที่จะใช้เดินทางได้ แต่คาดว่าจะสามารถระดมมวลชนเครือข่ายสมาชิกได้ไม่ต่ำกว่า 10 คันบัส มากกว่า 600 คน ซึ่งยังไม่รวมประชาชนบางส่วน ที่ได้เดินทางล่วงหน้าเข้าไปสมทบก่อนนี้แล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา
      
       ด้าน นายประภาส โงกสูงเนิน ประธานสภาเครือข่ายประชาชน 4 ภาค กล่าวว่า ล่าสุด ได้ประสานแกนนำองค์กรเครือข่ายเกษตรกร องค์กรภาคประชาชนในภาคอีสานและภาคต่างๆ รวมกว่า 13 องค์กรแล้ว โดยมีมติร่วมกันว่าให้ทุกองค์กรนำสมาชิกและประชาชนออกมาแสดงพลังขับไล่รัฐบา ลที่ชั่วร้าย ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างเต็มที่
      
       ทั้งในในส่วนพื้นที่ภาคอีสาน ทั้ง 19 จังหวัด ให้ทุกคนเดินทางมารวมตัวกันเป็นการด่วนที่ จ.นครราชสีมา โดยจะมีการเปิดเวทีปราศรัยระดมพลรอการเดินทางมาสมทบของประชาชนทั้งหมดในบ่าย วันนี้ (29 ส.ค.) ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนหารือกันเพื่อปฏิบัติการมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อสู้ตอบโต้รัฐบาลที่ใช้ควา มรุนแรงโหดร้ายป่าเถื่อนทำร้ายและสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ พร้อมเคลื่อนพลเข้าสมทบกับพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ ภายในคืนนี้ (29 ส.ค.)


ค่ายเสนีย์รณยุทธอุดรฯ ระดม ตชด.สลายพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2551 16:57 น.
อุดรธานี- ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรฯ ชุดปราบจลาจลพร้อมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน 300 นาย เดินทางเข้าสมทบกับกำลังพลหน่วยต่างๆ ที่กรุงเทพฯ แล้ว
      
       วันนี้ (29 ส.ค.) เวลา 15.00 น.ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ ได้มีการระดมกำลังตำรวจตระเวนชายแดน ตามคำสั่งของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อเดินทางเข้าสนับสนุนตำรวจชุดปราบจลาจล
      
       พ.ต.อ.บุญชิต อักษร ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ได้ทำการจัดส่งกำลังพล ตชด.จำนวน 300 นาย พร้อมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนและปราบจลาจล ได้ขึ้นรถบัสปรับอากาศ จำนวน 3 คัน เพื่อสมทบกับกำลังพลชุดปราบจลาจล จากหน่วยต่างๆ
      
       ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ได้กล่าวให้กำลังพลตั้งใจปฏิบัติงานตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งขอให้ทุกคนตั้งใจในการปฎิบัติหน้าที่ที่สำเร็จลุล่วง และให้ประสบโชคดีทุกนาย
      
       การระดมกำลังชุดปราบจลาจล ของ ตชด.เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อควบคุมฝูงชนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธ ิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น