...+

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การเมืองใหม่ในระบอบประชาธิปไตรอันทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

VS การเมืองใหม่ในระบอบประชาธิปไตรอันทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
1.การเมืองใหม่
ได้แก่ผู้ยึดถือคุณธรรมความดีเป็นนักคิดนักทำที่เสียสละเพื่อส่วนรวมชาติศาสนา
พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ดำรงค์ระบอบประชาธิปไตรทีมีธรรมนำหน้า
2.การเมืองใหม่
เป็นที่รวบรวมนักเลือกตั้งที่เป็นตัวแทนประชาชนอย่างแทัจริงไม่อ้าง
ว่ามาจากประชาชนอย่างท่วมท้นแต่เป็นตัวแทนประชาชนตัวจริงเสียงจริง
ที่ปราศจากประวัติชั่วทุจริตทุกทางเพื่อทำงานได้อย่างปราศจากอุปสรรคใดๆทั้งปวง
3.การเมืองใหม่
เป็นที่รวบรวมผู้เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อคนไทยทั้งชาติ มีความกล้าหาญเยี่ยงนักรบ
ใช้ธรรมนำหน้าในการบริหารกิจการบ้านเมืองอย่างแท้จริง
4.การเมืองใหม่

นักเลือกตั้งที่เป็นตัวแทนประชาชนต้องปราศจากเอาผลประโยชน์ส่วนตนห้าม

มีส่วนร่วมหรือผลประโยชน์ทับซ้อนทุกรูปแบบในการใช้งบประมาณของรัฐอย่างเด็ดขาด

5.การเมืองใหม่

ต้องมีภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการออกกฏหมาย ในการตรวจสอบรัฐบาลได้ 100 %

ตรวจสอบรัฐสภา 100 % ตรวจสอบนักเลือกตั้งที่เป็นตัวแทนประชาชนได้ 100 %

6.การเมืองใหม่

ต้องมี องค์กรตุลาการที่เข้มแข็ง องค์กรอิสระทุกสาขาการเมืองที่เข้มแข็ง

องค์กรประชาชนภาคที่เข้มแข็งและประชาชนสามารถตรวจสอบได้ตามรัฐธรรมนูน

7.การเมืองใหม่

ต้องปรับถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหารทั้งข้าราชการข้าราชการอัยการข้าราชการทหาร

ตำรวจให้เป็นที่พึ่งของประชาชนต้องสามารถนำ นักการเมือง ข้าราชการ

ผู้มีอิทธิพลคนชั่ว นักธุรกิจการเมืองที่โกงชาติกินเมือง ที่จงใจแอบแฝงซ่อนเร้น

ทำผิดกฏหมายเข้าสู่กระบวนการศาลยุติธรรมเพื่อลงโทษตามกฏหมายขั้นสูงสุดอย่าง

จริงจัง เพื่อให้เข็ดหลาบเป็นเยี่ยงอย่างแก่คนชั่ว
ฝน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น