...+

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2551

น้ำค้างกับดอกไม้

ณ ราตรีหนึ่งซึ่งสงัด
สงบเงียบสรรพสัตว์ล้วนซ่อนหน้า
ระลอกคลื่นความหนาวกระหน่ำมา
ทั้งสิ้นดินฟ้าล้วนเงียบงัน

มวลพืชหรุบใบไหวตก
ส่ำสัตว์งันงกสะทกสั่น
ราตรียาวนานราวกัปกัลป์
แม้นวลแสงจันทร์ยังอ่อนล้า

ล่วงถึงเวลานาทีหนึ่ง
เวลาซึ่งดาวรุ่งบรรเจิดจ้า
จึงแว่วแผ่วคำสนทนา
ลอยมาในราตรีกาล

มาจากมุมหนึ่งซึ่งดอกไม้
ยืนต้นแตกใบโต้ลมผ่าน
กลีบดอกน้อยน้อยนั้นเบ่งบาน
อยู่บนเรียวก้านอันบอบบาง

"สวัสดีเพื่อนรัก
ขออาศัยผ่อนพักสักหน่อยบ้าง"
"เชิญเถิดสหายหยาดน้ำค้าง
พักเหนื่อยบนร่างข้านี้"

"เจ้าไม่เหน็บหนาวหรือไฉน
จึงเผยดอกออกใบมาบานคลี่"
"ถึงจะหนาวหนักหน่วงทับทวี
ข้ามีหน้าที่คลี่ดอกบาน"

"บานเพื่อสิ่งใดเล่าดอกไม้"
เพื่อสร้างพืชพันธุ์ใหม่ไว้สืบสาน
แตกหน่อต่อเผ่าไปยาวนาน
ด้วยเมล็ดที่หว่านไว้ในธรณิน"

"ดูเจ้าบอบบางนะดอกไม้
แต่หน้าที่ยิ่งใหญ่ไม่เคยสิ้น"
"ข้าเป็นเพียงดอกไม้ประดับดิน
บานอยู่ทั่วทุกถิ่นทุกเถื่อนทาง

เจ้าสิยิ่งใหญ่ในคุณค่า
หยาดมาจากฟากฟ้าสวรรค์สร้าง"
"ข้าเป็นเพียงหยดหนึ่งของน้ำค้าง
พอรุ่งสางแดดฉายก็วายวับ"

"เจ้ามาปลุกข้าให้ลุกตื่น
ข้าจึงได้แช่มชื่นตื่นจากหลับ
ความชุ่มชื้นจากเจ้าเราอาบซับ
เพื่อนเตรียมรับแดดฉายในทิวา

ขอบคุณนะเพื่อนน้ำค้าง
ความชุ่มชื้นที่วางไว้ให้ข้า"
"ขอบคุณเพื่อนดอกไม้ที่เมตตา
ให้ที่อาศัยในคืนนี้"

รุ่งสางแดดส่องมาฉายฉาน
ดอกไม้เบ่งบานอยู่หลากสี
ประกายแห่งน้ำค้างดั่งมณี
บนช่อมาลีอันหลากพันธุ์

  วรรณลักษณ์ ปิยกมล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น