...+

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2550

สีสันแห่งรัก รักแบบฮิสทีเรีย

แฟนสาวอายุมากกว่าแฟนหนุ่มถึง 5 ปี แม้ว่าแฟนหนุ่มจะชอบเอาแต่ใจ เอะอะโวยวาย ด่าทอ แต่แฟนสาวก็รัก

เมื่อรู้ว่าเขาเป็นฮิสทีเรีย ก็อยากให้เขาไปหาหมอ เพื่อรักษาให้บรรเทาเบาบางลง

เมื่อวาน หนุ่มน้อย หงุดหงิด โวยวาย พูดหยาบๆแรงๆใส่แฟนสาว ในแบบที่นึกไม่ถึงว่าจะกล้าพูดออกมา จนไม่อาจเรียกเขาว่า สุภาพบุรุษได้อีกต่อไป

บางทีการที่บอกว่า เขาเป็นฮิสทีเรีย ดูจะเป็นเกราะป้องกันความไม่เป็นสุภาพบุรุษของเขา

เวลาที่คู่รัก คู่สามี-ภรรยา ทะเลาะตบตีกัน ไม่เคยมีใครชี้บอกว่า คนนั้นเป็นฮิสทีเรีย
แต่มันคือพฤติกรรมของเค้านั้นเอง

เวลาที่อยู่ในห้วงแห่งรัก เมื่ออีกฝ่ายทำอะไรที่ไม่เข้าท่า เรามักจะได้ยิน คำแก้ตัวที่ฟังดูดีอยู่เสมอ แต่เมื่อยามหมดรัก สิ่งที่พูดออกมา คือ ความจริง ไม่มีคำพูดเสกสรรปั้นแต่งที่ฟังดูเพราะหูให้ได้ยินเช่นเคย

เมื่อรู้ตัวเอง ควรตั้งใจมั่น รักษาเยียวยาให้บรรเทาเบาบางลง ด้วยอายุและวัยขนาดแฟนหนุ่ม ถือว่าบรรลุนิติภาวะ เป็นหลักชัยของหลายคนได้แล้ว

การทำตัวไม่สมวัย เป็นหลักให้แฟนสาวไม่ได้เลย นึกแล้วก็อายเด้กที่มีอายุน้อยกว่าเขาถึง 5 ปี , 7 ปี ที่ดูแลให้ความอบอุ่นแก่คนรักได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

แฟนหนุ่มเอะอะโวยวาย ให้แฟนสาวกลุ้มใจ เสียใจบ่อยๆ แม้จะดูเป็นสีสันแห่งรัก
แต่สำหรับหลายคนแล้ว ดูๆไป ไม่เข้าท่าครับ



ข้อมูลเพิ่มเติม
[ คัดลอก จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2542]

ฮิสทีเรีย

อมรากุล อินโอชานนท์


เราคงเคยคุ้นหูกับคำว่า ฮิสทีเรียมาบ้างนะคะ แต่ยังมีหลายคนที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่มาก โดยเข้าใจกันว่า คนที่เป็นฮิสทีเรียคือ คนที่มีความต้องการทางเพศสูง

แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยค่ะ เรามาเข้าใจคนพวกนี้ให้ถูกต้องดีกว่า

พูดง่าย ๆ เลยนะคะ คำว่า ฮิสทีเรียมีอยู่สองแบบค่ะ แบบหนึ่งเป็น โรคประสาทฮิสทีเรีย อีกแบบหนึ่ง คือ บุคลิกภาพแบบฮิสทีเรีย ซึ่งอาจพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย

จะพูดถึงคนที่มีบุคลิกภาพแบบฮิสทีเรียก่อนนะคะ คนพวกนี้จะเป็นคนที่มีลีลา ท่าทางและมีการแสดงออกมากจนเหมือนเล่นละคร อาจมีทีท่าชายหูชายตา เชิญชวนรวยจริตและยั่วยวน เป็นลักษณะที่แสดงออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจ เหมือนจะเชิญชวนทอดสะพาน ให้เพศตรงข้าม ทำให้มักเข้าใจผิดว่า มีความปรารถนาทางเพศสูง ทั้ง ๆ ที่อาจมีความบกพร่องในด้าน ความรู้สึกทางเพศด้วยซ้ำ คนที่มีบุคลิกภาพแบบนี้จะมีความเป็นเด็กสูง ชอบเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อย ๆ จึงมีการแสดงออกทางอารมณ์ค่อนข้างมาก

ที่จริงคนเหล่านี้เป็นคนที่น่าเห็นอกเห็นใจค่ะ ที่เขาเป็นแบบนี้เพราะขาดความรักในช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงที่เขาต้องการอย่างมากจึงทำให้โหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีความรักก็จะไม่รู้จักพอเหมือนกับถมเท่าไรก็ไม่เต็มสักที แต่เป็นความต้องการในเรื่องความรักนะคะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของความใคร่อย่างที่ใคร ๆ คิดกัน

ดังนั้น ถ้าเจอใครสักคนที่มีท่าทางรวยจริต เสมือนจะเชิญชวนก็อย่าไปเอาเปรียบเขานะคะ ให้ความเมตตาและเห็นอกเห็นใจเขาดีกว่า และปฏิบัติกับเขาเหมือนกับที่ทำกับคนอื่นๆ ทั่ว ๆ ไปค่ะ

ส่วนโรคประสาทฮิสทีเรียมีอยู่สองแบบ

แบบแรก เรียกว่า คอนเวอร์ชัน รีแอคชั่น (conversion reaction) คนที่เป็นเวลามีความเครียด กังวลใจ หรือเกิดความขัดแย้งในจิตใจมาก ๆ จะเกิดอาการผิดปกติที่ระบบการเคลื่อนไหวหรือการรับรู้ เช่น เป็นอัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนกำลัง ชาที่แขนและขา พูดไม่มีเสียง พูดไม่ได้ ตามองไม่เห็น กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ซึ่งเป็นอาการที่ตรวจไม่พบความผิดปกติทางร่างกาย หรือทางระบบประสาทแต่อย่างใด

แบบที่สอง เรียกว่า ดีสโซซิเอทีฟ (dissociative type) เช่น สูญเสียความจำในบางเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจจนไม่ต้องการรับรู้ จำชื่อตัวเองไม่ได้ จำเวลา สถานที่ บุคคลไม่ได้ โดยไม่ได้เกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง หรือมีบุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม


ยกตัวอย่าง จากคนสุภาพเรียบร้อยก็กลายเป็นคนชอบ เฟลี้ด หรือดุดันเหี้ยมเกรียม พวกที่มีอาการผีเข้า ทรงเจ้าเข้าทรง ก็จัดเป็นโรคประสาทฮิสทีเรียประเภทนี้เช่นกัน แต่พวกที่แกล้งทำ ไม่ว่าจะแกล้งทำเพื่อจุดมุ่งหมายใดก็ตาม ไม่เกี่ยวกับโรคประสาทฮิสทีเรียนะคะ

ก็ทราบเกี่ยวกับเรื่องฮิสทีเรียกันพอสมควร ต่อจากนี้ไปเราคงไม่เข้าใจผิด และไม่เหมารวมว่าคนที่เป็นฮิสทีเรีย คือ คนที่มีความต้องการทางเพศสูง หรือหาว่าเป็นคนที่มักมากในกามอีกแล้วนะคะ และก็อย่าลืมให้ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจพวกเขาด้วยค่ะ

อมรากุล อินโอชานนท์
กรมสุขภาพจิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น