...+

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2550

ความซื่อสัตย์ ความเชื่อมั่นของคนเก็บเงินบนรถโดยสาร

สมัยนี้ หลายอย่างต้องรีบเร่ง เวลาเป็นเงินเป็นทอง
จะมาชักช้า เสียเวลา คงไม่ไหวแล้วล่ะ

ท่ามกลางความเร่งรีบ ย่อมทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้
คนจุดตะเกียงได้เดินทางโดยรถโดยสารสาย ขอนแก่น – คำม่วง โดยขึ้นรถโดยสารจาก ตัวเมืองกาฬสินธุ์ ไปลงที่ อำเภอสหัสขันธ์ ซึ่งชาวกาฬสินธุ์จะเรียกที่นี่ว่า อำเภอใหม่

ความจริง มีอำเภอที่ตั้งใหม่ในปัจจุบัน ต่อจาก อ.สหัสขันธ์อีกหลายอำเภอ
แต่หลายคนยังเรียกติดปาก เนื่องจากแต่ก่อน อำเภอสหัสขันธ์เก่า ตั้งอยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำใต้เขื่อนลำปาวในปัจจุบัน เมื่อมีการสร้างเขื่อน และเกิดอ่างเก็บน้ำ จึงมีการอพยพบ้านเรือนมาตั้งในพื้นที่แห่งใหม่ในปัจจุบัน
จึงเรียกว่า อำเภอใหม่

เมื่อคนเก็บเงินค่าโดยสารเดินมาเก็บเงิน จึงบอกว่า จะไปลงที่อำเภอ ใหม่
คนเก็บเงินจึงบอกว่า ค่ารถ 50 บาท
ก็หยิบเงินจ่ายค่ารถไป
ช่วงขากลับเข้าเมืองกาฬสินธุ์ ก็ได้นั่งรถโดยสารคันเดิมอีก

คนเก็บเงินค่าโดยสารก็คนเดิม เห็นหน้าอีกครั้ง เขาก็สอบถามว่า ตกลงเมื่อเช้าบอกว่า จะไปลงที่อำเภอใหม่หรือบ้านใหม่กันแน่ เมื่อรู้ว่า ลงที่อำเภอใหม่ จึงทอนเงินคืนให้ 20 บาท

เพราะค่ารถจากตัวเมืองกาฬสินธุ์ ถึง อ.สหัสขันธ์ ค่ารถเพียง 30 บาท กับระยะทาง 30 กิโลเมตร
บ้านใหม่ที่ว่านั้น คือ บ้านใหม่ชัยมงคล ในเขตอำเภอคำม่วง ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีก

เมื่อฟังผิด คนเก็บเงินค่าโดยสารก็คืนเงินที่เก็บเกินให้
.... เคยได้ยินข่าวรถโดยสารหลายสาย ที่เก็บค่าโดยสารเกินราคาอยู่หลายครั้ง จนหลายคนมองว่า คนเก็บเงินบนรถโดยสารเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์

เรามักจะได้ยินข่าวคราวทำนองนี้บ่อยๆ และหนังสือพิมพ์ก็มักจะนำข่าวเหล่านี้ ไปลงในข่าวย่อย ข่าวภูมิภาค ข่าวกรอบเล็กๆ หรือเขียนในคอลัมภ์ต่างๆ

ความจริง คนเรา มีทั้งคนดีและคนไม่ดี
คนเก็บเงินค่าโดยสารที่ซื่อสัตย์ ก็มีอยู่อีกมากมาย แต่ไม่ค่อยได้รับการเผยแพร่มากนัก

และหนึ่งในนั้น ก็มีคนเก็บเงินค่าโดยสารบนรถโดยสารสาย 817 ขอนแก่น-คำม่วง ที่วิ่งให้บริการเป็นประจำทุกๆวันครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ22 มีนาคม 2550 เวลา 14:33

    รู้สึกชื่นชมคนเก็บเงินคนนี้เหมือนกันค่ะ..ซึ่งในสังคมปัจจุบันนี้หาได้น้อยมาก ..แต่ยังดีใจนะค่ะ ..ที่ส่วนน้อยนั้นยังมีให้เห็นอยู่

    ตอบลบ
  2. น่ายกย่องคนเก็บเงินจริงๆ

    ตอบลบ