...+

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2550

บันทึกรักจากชายคนหนึ่ง : ความจริงใจหรือความใจง่าย

ความรักของคนสมัยนี้ กับคนยุคก่อนแตกต่างกันจริงๆ ตรงที่ระยะเวลาในการดูใจกัน คนยุคก่อนกว่าจะได้ใกล้ชิดกันใช้เวลาดูใจกันนานพอสมควร แต่ยุคปัจจุบัน รักกันไวมาก



มีคนมองว่า รักนั้น คือ ความจริงใจ หรือ ความใจง่ายกันแน่



หนุ่มคนหนึ่งได้รู้จักกับผู้หญิงสาวอายุเท่ากัน ทั้งคู่อยู่ในวัยทำงาน รู้จักกันทางอินเทอร์เนต โดยฝ่ายหญิงรู้จักฝ่ายชายผ่านทางบล็อกของฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงอ่านบันทึกหนึ่งของฝ่ายชายแล้ว ประทับใจ จนโทรติดต่อฝ่ายชาย เพราะชื่นชอบในสิ่งที่ฝ่ายชายเขียนออกม



หลังจากพุดคุยกันไม่กี่ครั้ง ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน หลังจากติดต่อกันทางโทรศัพท์ 1 เดือน ฝ่ายชายชวนไปเที่ยวใน กทม. ฝ่ายหญิงตอบตกลง และเดินทางมาตามนัดหมาย ไปเที่ยวตามที่วางแผนไว้



ต่างคนต่างประทับใจในมิตรภาพของความเป็นเพื่อนของแต่ละฝ่าย








อีก 1 เดือนต่อมา ทั้งคู่มานัดพบกันอีกครั้ง พูดคุย ปรึกษาหารือในเรื่องงาน เพิ่มความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้น อีก 1 สัปดาห์ต่อมา ทั้งคู่นัดหมายเดินทางกันไปธุระใน กทม. ตามกำหนดการ และทั้งคู่พักด้วยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง .. ห้องเดียวกัน...เตียงคู่



หลังจากกลับจากธุระตามกำหนดการ ทั้งคู่ก็กลับมาที่ห้องพัก อาบน้ำ คุยกันไป จนดึก ฝ่ายหญิงนอนบนเตียง ฝ่ายชายนั่งอยู่ข้างเตียง แต่หนุนหัวนอนข้างๆเตียงนั่นเอง คุยกันไป หยอกกันไป จนดึก ฝ่ายชายก็กลับไปนอนที่เตียงอีกด้านหนึ่ง เผลอหลับไป



ตื่นมาตอนเช้า ทั้งคู่ก็มานั่งคุยกัน นอนหนุนตักกัน คลอเคลียกันพักหนึ่ง check out จากโรงแรม ก่อนที่จะออกไปทำภาระกิจที่ตั้งใจไว้ แต่ภารกิจนั้น ไม่เสร็จสิ้น ทำให้ต้องพักค้างคืนอีก 1 คืน จึงต้องขนกระเป๋ากลับไปที่โรงแรมเดิม คราวนี้ ฝ่ายหญิงบอกจองห้องพัก เตียงเดี่ยว







ช่วงดึก ทั้งคู่นอนเตียงเดียวกัน แอบอิงแนบชิดกัน แต่มิได้ล่วงเกินกัน

จนถึงเช้า ต่างประคอง เดินทางกลับสู่จุดหมายปลายทาง ไปยังจังหวัดของแต่ละฝ่าย



ไม่ได้ล่วงเกินกัน ไม่มีอะไรที่ลึกซึ้ง หรือมีเพศสัมพันธ์อะไรกันเลย



แทบไม่น่าเชื่อว่า 2 คืนที่มีโอกาสอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายไม่ยอมฉวยโอกาสอันมีค่านี้เอาไว้เลย



เมื่อแง้มหัวใจของฝ่ายชายผ่านบันทึกชิ้นหนึ่งที่ถ่ายทอดออกมา ทั้งคู่ผ่านความรักที่ผิดหวังมาแล้ว ด้วยช่วงอายุในวัยทำงาน อยากที่จะพบกับความจริงใจ และทั้งคู่ได้เปิดเผยตัวตน และความจริงใจของแต่ละฝ่ายออกมาแล้ว เมื่อต่างฝ่ายต่างคุยกันแล้ว ถูกคอกันอย่างมาก คุยกันได้เรื่อยๆ นานๆ


ความรักนั้น ใช่ว่า จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความใคร่ เสมอไป การรักษาความรักและความจริงใจไว้ให้ยั่งยืนและยาวนาน เป็นสิ่งสำคัญ







จากการแง้มหัวใจของฝ่ายชาย เขายอมรับว่า เธอเป็นคนที่น่าสนใจอีกคนหนึ่ง การที่เธอยอมไปไหนกับเขา แสดงว่า เธอไว้ใจในตัวเขา เขาจึงอยากแสดงให้เห็นว่า เขาเป็นคนที่เธอไว้ใจได้



เขาเคยทำให้เธอสมหวัง กับการพาเธอไปชมการแสดงของวงดนตรีที่เธอชื่นชอบ เมื่อเห็นสีหน้าที่เบิกบานตื่นเต้น และเปี่ยมสุขของเธอแล้ว เขาอยากจะทำให้เธอสมหวังในแบบนี้อีก







แรกเริ่มนั้น เขาอยากจะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอตลอดไป แต่หลังจากได้พบกับเธอ สัมผัสความจริงใจจากเธอ ทำให้เขาตกหลุมรักเธออย่างไม่รู้ตัว จนต้องเข้าไปอิงแอบแนบชิดเธอทั้ง 2 คืน



เมื่อสอบถามถึงกระแสรักง่าย หน่ายเร็วของคนในยุคปัจจุบัน ทำให้เขาหวั่นไหวเหมือนกัน เพราะเกรงว่า วันหนึ่งข้างหน้า เธออาจจะเบื่อเขาได้เช่นกัน เพราะในระยะเวลาอันสั้น เธอก็รักเขาอย่างสุดหัวใจแล้ว แน่นอนว่า เธอย่อมจะเบื่อเขาเร็วเช่นกัน. เพราะธรรมดา คนที่มีความรัก ย่อมต้องการการดูแล เอาใจใส่ ห่วงใยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ







ช่วงเวลานี้ เขาและเธอทำงานอยู่คนละจังหวัด สื่อสารกันผ่านโทรศัพท์เท่านั้น วันหยุดจึงมีโอกาสเดินทางมาพบกัน...



เมื่อกลับมานึกดูอีกครั้ง บางสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ในระยะเวลาไม่นาน ก็อาจจะถึงจุดสิ้นสุดได้เร็วเช่นกัน การประคับประคองและรักษาความรักไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายนั้น ต่างฝ่ายต้องมีความเข้าใจในอีกฝ่ายเป็นอย่างดี



เมื่อรัก เมื่อห่วงใย ย่อมมีเรื่องให้คิดได้สารพัด ยิ่งติดต่อกันมาก คุยกันบ่อยๆ ย่อมมีโอกาสที่จะกระทบกระทั่ง เข้าใจผิดได้เสมอ







ฝ่ายชายอยากจะให้ความสัมพันธ์ค่อยเป็นค่อยไป เพราะอยากให้ความรักดำเนินไปอย่างยาวนาน แต่ความเป็นจริง ต่างฝ่ายต่างแสดงออกว่า รัก อีกฝ่ายอย่างชัดเจนอยู่แล้ว



เมื่อความรักที่เกิดขึ้นภายในเวลาที่รวดเร็ว ต่างฝ่ายต่างมั่นใจในความรักระหว่างกัน แต่ในกรณีแบบนี้ ในสายตาของคนอื่นคงจะมองด้วยความคลางแคลงใจ ทำไมจึงมั่นใจในกันและกันรวดเร็วนัก แล้วแน่ใจหรือไม่ว่า อีกฝ่าย ไม่มีอะไรแอบแฝง หรือเข้ามาคบหา เพื่อหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่างหรือเปล่า




แล้วการตัดสินใจคบหากันในแบบคู่รัก ภายในเวลาอันสั้นนี้ อยากที่จะบอกเรื่องนี้ให้กับคนอื่นรู้หรือไม่..







จากบันทึกของฝ่ายชายบอกว่า ความรักของคนหลายคู่นั้น เป็นเรื่องของคน 2 คน แต่ที่ความรักเกิดปัญหา เพราะมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งด้วยความหวังดี และไม่หวังดี จากการให้คำแนะนำ คำพูดต่างๆ ที่ทำให้อีกฝ่ายคิดมาก ทั้งๆที่ความจริงไม่มีอะไรเลย แต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ จนความรักเกิดความไม่เข้าใจกัน จากเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย



มีคู่รักมากมายหลายคู่ ที่ครองรักกัน โดยไม่ต้องอาศัยคำแนะนำของคนอื่นเลย


ความรักนั้น อาจจะมีบางช่วงเวลาที่อาจจะเกิดความไม่เข้าใจกันได้ ซึ่งจุดเปราะบางเรื่องของความรัก สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยิ่งการคบหากันของคู่รักในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อเกิดปัญหาขึ้น จะทำให้คนอื่นวิพากษวิจารณ์ขยายความไม่เข้าใจให้กว้างออกไปอีก “เพราะว่า ไม่ดูให้ดีๆ ตัดสินใจคบกันเร็วเกินไปนี่แหละ....”



ความรักจึงมีช่วงเวลาในการเรียนรู้ ปรับตัวปรับใจตามระยะเวลาที่หมุนผ่านไป มีคู่รักหลายคู่ที่รักกันหวานชื่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน พบกับปัญหาอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต กลับไม่สามารถรักษาความรักที่มีต่อกันไว้ได้ จึงได้ยินข่าว คู่รักที่แต่งงานกันมาหลายปี ก็ยังขอหย่าร้างกันได้ ช่างไม่เสียดายวันเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเสียเลย







..แล้วจะบอกเรื่องราวของความรักครั้งนี้ ให้คนอื่นๆรับรู้หรือไม่....


.... ไม่ว่าช้าก็เร็ว ก็จะต้องมีคนรับรู้เรื่องความรักระหว่างเขาและเธอ แต่ในช่วงเวลาที่เริ่มต้นคบหากัน การให้ระยะเวลาที่ผ่านไป เป็นสิ่งที่ยืนยันความมั่นใจระหว่างกัน จะเป็นสิ่งที่ช่วยตอบข้อสงสัยของคนอื่นๆที่ว่า คบกันเร็ว ภายในเวลาอันสั้น ก็สามารถที่จะครองรักกันได้อย่างยาวนานได้ ซึ่งเรื่องนี้ พูดไปหลายคนคงไม่เชื่อนัก เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์....



เมื่อคนรักกัน ยังไงคนอื่นก็จะต้องดูออกอยู่ดี







.... การที่ยังไม่บอกเรื่องราวความรักระหว่างเขา และเธอ มองอีกมุมหนึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน หากวันหนึ่ง เมื่อเขา และเธอคบกันไปแล้ว รู้สึกว่า ไม่ใช่ อย่างที่คิดในวันแรก การที่จะปรับเปลี่ยนความรู้สึกต่อกันใหม่ จากคู่รัก กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จะทำให้แต่ละฝ่ายไม่รู้สึกเสียหน้ามากนัก สามารถที่จะคบหากันได้อย่างสนิทใจต่อไป ต่างจากคู่รักที่ป่าวประกาศตัวอย่างชัดเจน ด้วยความมั่นใจในความรักที่มีต่อกัน แต่ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน วันนี้รักกัน วันหน้าอาจจะเกลียดกันก็ได้ ฝ่ายที่เสียหายมากที่สุด ส่วนมากมักจะเป็นฝ่ายหญิง หลายเรื่องสามารถที่จะรอเวลาได้ไม่ใช่หรือ...







จากบันทึกของฝ่ายชาย การเปิดเผยความรักนั้น หากฝ่ายชายมีความมั่นคงทางอาชีพ ย่อมเป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ญาติพี่น้องของฝ่ายหญิง มั่นใจว่า สามารถที่จะดูแลฝ่ายหญิงให้มีความสุขต่อ/ไปได้ เมื่อฝ่ายชายยังไม่มีความมั่นคงทางอาชีพ ระยะเวลาที่จะร่วมกันก้าวเดินต่อไป จะเป็นบททดสอบความจริงใจ สร้างความมั่นใจให้ฝ่ายหญิง สมดังที่เธอมอบความรักให้ และระยะเวลาที่ผ่านไป เสมือนเป็นสิ่งที่ช่วยตรวจสอบด้วยความรอบคอบว่า ฝ่ายหญิงได้ใช้ระยะเวลาที่ผ่านมา คบหาดูใจฝ่ายชายอย่างมั่นใจและรอบคอบเป็นอย่างดีแล้ว และใช้เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักว่า สิ่งที่เธอมั่นใจนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทดสอบสิ่งเหล่านี้แล้ว







หลายคนมักจะตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่ได้พบได้เห็นภายในระยะเวลาอันสั้น แต่หากได้สัมผัสความรู้สึกนึกคิดที่มากขึ้น ย่อมจะสามารถหาคำตอบได้ว่า ความรักระหว่างเขาและเธอนั้น



จริงใจหรือใจง่าย...

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ22 มีนาคม 2550 เวลา 10:35

    ความสัมพันธ์ที่เริ่มแบบนี้ ต่างฝ่ายต่างอยากเก็บความเป็นเพื่อนที่ดีไว้ตลอดไป แต่สิ่งที่เป็นอยู่ จะเป็นปมคาใจของคนทั้งสอง ไม่ช้าก็เร็วจะเป็นปัญหากับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับว่า จะใช้เวลา แก้ปม นานแค่ไหน บางคู่อาจแค่ 1 ปี บางคู่ 2 ปี บางคู่ 5 ปี ถึงอย่างไรก็ตาม ชีวิตเป็นของตัวเราเอง เลือกทำในสิ่งที่เราเป็นสุขใจ คนเราสมัยนี้ แวดล้อมไปด้วยผู้คนรอบตัว แต่กลับเหงา อยู่ในใจ ความสัมพันธ์ที่ทำให้สุขใจ บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องสานต่อให้ลึกกว่าที่เป็นอยู่ :)

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ22 มีนาคม 2550 เวลา 10:36

    เป็นเรื่องราวที่ดีค่ะ รออ่านต่อนะคะ เชื่อในเรื่องของเวลาแห่งการเรียนรู้ ก่อนใจเร็วด่วนได้

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ22 มีนาคม 2550 เวลา 14:28

    คุณ jj

    ยังคิดไม่ออกเลยว่าปมที่คุณว่านี้คืออะไร แล้วปัญหาที่จะเกิดขึ้นจะเป็นยังไง รู้สึกเหมือนคุณจะมองได้ลึกช่วยอธิบายหน่อยนะ

    ตอบลบ