...+

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2550

อารมณ์ที่พลุ่งพล่าน กับสิ่งที่สะท้อนกลับเมื่อถูกขับรถปาดหน้า

+สิ่งที่คุณสาดเสียเทเสียออกไปนั้น คนที่ขับรถปาดหน้าคุณ เขาได้ยินหรือเปล่า





การขับรถบนท้องถนนหลายแห่งในเมืองไทยนั้น เป็นไปในแบบที่ขับตามใจฉัน ถือเอาความสะดวกของตนเป็นที่ตั้ง อยากจะเลี้ยวก็เลี้ยว อยากแซงก็แซง

กฏจราจร ดูเหมือนจะไม่มีความหมายสำหรับใครหลายคน แต่จะเริ่มเห็นคุณค่าเมื่อเจอใบสั่งจากตำรวจ

รถทุกคันบนท้องถนน ต่างมุ่งหน้าไปยังจุดหมายด้วยกันทั้งนั้น หลายคนมีสมาธิในการขับรถที่ดี แต่เมื่อเจอรถอีกคันขับรถปาดหน้า สมาธิกระเจิง อารมณ์หงุดหงิดเกิดขึ้นทันที

ถ้อยคำรุนแรง ด่าสาดเสียเทเสีย พรั่งพรูออกมาจากปาก เพื่อส่งต่อไปยังคนที่ขับรถปาดหน้าคุณนับไม่ถ้วน

ขับรถไม่มีมารยาท ขับแบบนี้คงเจอดี เกิดอุบัติเหตุแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว
เมื่อด่าสาดเสียเทเสียคนที่ขับรถปาดหน้า เมื่อลองสังเกตคนที่นั่งรถมาด้วย สีหน้ากลับตื่นตระหนก

ความจริงแล้ว สิ่งที่คุณสาดเสียเทเสียออกไปนั้น คนที่ขับรถปาดหน้าคุณ เขาได้ยินหรือเปล่า
เขาขับรถปาดหน้า และขับไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไม่ได้หยุดมาฟังคุณด่าว่าเลยสักนิด
แต่คำด่า สาดเสียเทเสียนั้น คนที่ได้ยิน ได้ฟังแบบเต็มๆ คือคนที่นั่งมาในรถกับคุณต่างหาก

ดังนั้น ควรระงับอารมณ์ไว้บ้าง เพราะถ้อยคำด่าว่านั้น แม้จะอยากให้คนที่ขับรถปาดหน้าได้ยิน แต่คนที่ได้ยินกลับกลายเป็นคนที่นั่งรถมากับคุณ!!!!!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น