...+

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2548

ข้อคิดเรื่องการแพทย์ทางเลือก

เรื่องเริมนี้ว่าที่จริงเป็นเรื่องยาว มากนะครับ ยิ่งเราเห็นวิถีชีวิตหรือพฤติกรรม ของคนสมัยนี้มากๆเข้า ทำนายล่วงหน้าไว้ได้เลยว่า เรื่องของเริมจะเป็นเรื่อง ร้ายแรงเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บของคนเรา

ทั้งนี้ เพราะพฤติกรรมในชีวิตคนเรานั้น ห่างไกลออกจากความเป็นธรรมชาติ มากขึ้นทุกที ผสมกับพฤติกรรมทางเซ็กซ์ ซึ่งมั่วกันมากเหลือ เกินขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างคนไทยกันเอง หรือคนไทยกับต่างชาติ จะเป็นการช่วยให้การติดต่อกัน ระหว่างโรคต่างๆ ซึ่งเกิดจากเพศสัมพันธ์กลาย เป็นโรคร้ายแรงยิ่งขึ้นๆ

ที่กล้าพูดอย่างนี้ก็เพราะระยะหลังๆนี้ ได้พบเห็นคนไข้จำนวนมากทั้งไทยและต่างประเทศ เมื่อได้ตรวจดูสภาพของการเจ็บป่วย ลักษณะของอาการ สภาพของแผลซึ่งเกิดจากการเจ็บป่วยชนิดต่างๆ เช่น เริมที่อวัยวะเพศ มะเร็งอวัยวะเพศ เห็นแล้วน่าตกใจ เคยนึกว่า แผลขนาดนี้ ลึกขนาดนี้ คงจะเจ็บปวด เหลือแสน เขาคงจะเจ็บปวดมากมาย น่าสงสารอย่างเหลือเกิน

เมื่อสมัยก่อนๆขณะที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลต่างประเทศ เคยพบโรคซึ่งเกิดจากเพศสัมพันธ์ จะเป็นอาการหรือลักษณะของบาดแผลไม่ได้ ร้ายแรงและดูน่ากลัวเหมือนอย่างเดี๋ยวนี้

แต่ระยะหลังๆเพียงไม่ถึง 10 ปี การป่วยของชาวต่างประเทศ (ฝรั่ง) เปลี่ยนจากไม่น่ากลัว เป็นน่ากลัวสยดสยองรวดเร็วเหลือเกิน

และความน่ากลัวจากอาการและบาดแผลนั้น บัดนี้คนไทยเราก็น่ากลัวและสยดสยองอย่างนั้นเหมือนกับฝรั่งเหมือนกัน

อ่านข่าวหญิงไทยบางคนที่ติดโรคเอดส์ จากฝรั่ง แล้วฝรั่งยังแกล้งเอาโรคเอดส์ไปแพร่ หลายกับหญิงไทยอื่นๆอีกเป็นการแก้แค้นนั้น ฟังแล้วน่ากลัวเหลือเกิน

สิ่งที่อยากจะเตือนอย่างเหลือเกินขณะนี้ ไม่ใช่เตือนให้ระวังเรื่องโรค แต่ให้ระวังเรื่องพฤติกรรมโดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมทางเพศ และโดยเฉพาะอีกเหมือนกัน พฤติกรรมทางเพศกับพวกฝรั่งต่ำๆกุ๊ยๆเหล่านั้น

ขอย้ำอีกครั้งกับวิธีป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์เหล่านี้ วิธีแก้ได้เด็ดขาด คือ แก้ที่พฤติกรรม ไม่ใช่แก้ด้วยยา

ก่อนที่จะขอพักเรื่องงูกับเริม ก็ต้องขอขอบพระคุณคุณพี่และคุณน้ารวมทั้งคุณน้องหลายๆ คนด้วยที่ส่งตำรับยาแก้เรื่องงูสงัดและเรื่องเริมมาให้

ที่ต้องเรียกคุณพี่คุณน้าและคุณน้องนี้ก็ด้วยความเคารพและความรู้สึกใกล้ชิดเหมือนเป็นญาติ คุณพี่และคุณน้าเหล่านี้ หลายท่านอายุเท่าผม และ สูงกว่าผมเล็กน้อย ส่วนคุณน้องๆนั้นอายุก็คงไล่เลี่ยกัน เรียกกันอย่างนี้ เพราะรู้สึกใกล้ชิดและรู้สึกว่าเป็นญาติสนิทจริงๆครับ

ตำรายาที่ทุกท่านส่งมา ผมเชื่อว่ารักษาได้จริง โดยเฉพาะเรื่องงูสวัด ที่เชื่อก็เพราะสิ่งที่ท่านแนะนำมาเป็นยาโบราณ และท่านเหล่านี้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว

ทั้งนี้ เพราะงูสวัดนั้นไม่ใช่โรคสมัยใหม่ แต่เป็นโรคเก่าแก่มีมานานหลายร้อยปี เมื่อเป็นโรคเก่าแก่ก็ต้องเคยมีคนป่วยมามากมาย และสมัยก่อนไม่มียาประเภทปราบไวรัสแรงๆอย่างสมัยนี้ ฉะนั้นโบราณแม้แต่ยากลางบ้านก็ต้องช่วยผู้ป่วยได้ เพราะยาที่ใช้ได้นั้นได้ผ่านการพิสูจน์จากผู้ป่วย หลายชั้น ตั้งแต่ชั้นปู่ ย่า ตา ยาย ลงมาจนถึงชั้นลูกหลาน จึงน่าเชื่อถือว่าเป็นยาที่มีคุณภาพรักษาโรคได้จริง

แต่ผมไม่สามารถจะลงตำรับต่างๆในคอลัมน์ นี้ได้หมด เพราะหน้ากระดาษไม่พอ และขณะเดียวกันยาบางอย่าง ผมอยากจะทดลอง จนมีหลักฐานแน่ใจ และก็คิดว่าเมื่อได้ทดลองแน่ใจแล้ว ก็จะรวบรวมไว้เป็นตำราออกเผยแพร่ต่อไป ต้องขอเวลาหน่อยครับ

แต่ยาแผนโบราณบางอย่างซึ่งบังเอิญตรงกันทั้งของไทยและของฝรั่ง ผมก็ได้เอาลงไว้ให้ แล้ว อย่างเช่น ว่านหางจระเข้ เปลือกลูกทับทิม และเปลือกทับทิมเป็นต้น

ที่กล้าลงของฝรั่งนั้นเพราะของฝรั่งดีอยู่ อย่าง เขาต้องทดลองทั้งฝ่ายที่ใช้และฝ่ายที่ไม่ ต้องใช้ยา (EXPERIMENTAL GROUP และ CONTROL GROUP) แล้วจึงเอามาเปรียบ เทียบกัน ถ้าอย่างนี้พอเชื่อถือได้

ที่ดีอีกอย่างก็คือ เมื่อทดลองได้ผล ทราบว่าเป็นหลักฐานนำมาใช้รักษาได้แล้ว เขาก็รู้จักปรับปรุงให้เข้ากับวิธีการวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คือ สกัดเป็นเม็ด เป็นแคปซูล หรือเป็นน้ำ สามารถทำตัวยาให้ เข้มข้น ควบคุมความแรงของยา (DOSE) ได้สูงต่ำตามต้องการ และเก็บยาไว้ได้คงทนเป็นอายุของยาได้นานๆ จะเก็บไว้หรือพกพาไปไหนก็สะดวก

นี่คือความดีของวิทยาศาสตร์ซึ่งทำของเก่าให้เป็นวิทยาศาสตร์ และเป็นมาตรฐานสากลเชื่อถือได้แน่นอน

ตรงนี้แหละครับที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นถึงระบบการแพทย์แบบขององค์รวมหรือการแพทย์ แบบผสมผสาน ซึ่งขณะนี้แนวการแพทย์แบบชีวจิตเป็นตัวนำอยู่ในประเทศไทยขณะนี้

ของโบราณเราก็เชื่อถือ และไม่เคยลบหลู่ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยมองว่าหลักการของการแพทย์สมัยใหม่ เป็นการแยกตัวหรือยกตัวสูงจนเข้ากันไม่ได้

การแพทย์ปัจจุบันยังไม่มีจุดจบ โรคอีกหลายร้อยโรคยังไม่มีทางรักษาได้ ฉะนั้นถ้ามีการศึกษาแบบแผนการแพทย์ต่างๆอย่างละเอียดลึกซึ้ง แล้วนำมาผสมผสานกัน นั่นย่อมได้ประโยชน์สูงสุด

และนี่ก็คือหลักการของชีวจิต ซึ่งเป็นหลักการของการแพทย์ แบบผสมผสาน และขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ชีวจิตยึดเอาเรื่องการแพทย์ ปัจจุบันเป็นหลักและเป็นพื้นฐาน กลุ่มแพทย์ ชีวจิตมีทั้งแพทย์ปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกร่วมกันดูแลโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และการแพทย์ ทางเลือกไม่ว่าแผนใด ต้องพิสูจน์ว่ามีเหตุผล พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ จึงจะเอามาใช้ร่วมกันได้

ขอเตือนท่านผู้ที่เจ็บป่วยสักนิดครับ อยากจะเลือกการแพทย์แผนใด ระวังให้ดีหน่อย สอบสวนเบื้องหลังของแต่ละคนให้ดี เพราะเดี๋ยวนี้มีพวกจอมปลอมหลอกลวง อ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญมากเหลือเกิน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น