...+

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2548

ทำไงดีเมื่อ ถูกยืมตังค์

เห็นเศรษฐกิจดีวันดีคืน อย่านึกว่า ทุกคนรวยแล้ว ไม่งั้นรัฐคงไม่เปิดอ้า ซ่าให้ใครต่อใคร ไปลงทะเบียน คนจนกันร็อก ถ้ารัฐอยากช่วยคนจน ให้ลืมตา อ้าปากได้จริงก็ขอ อนุโมทนา สาธุด้วยละกัน แต่ขอให้ช่วยจริงๆ นะ ไม่ใช่แค่ให้ไปลงทะเบียน เพื่อเอารายชื่อไปดูเล่น ท่านควรหางานหาการ ให้ทำอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าเจอรายไหนยังงอมืองอเท้าขี้เกียจ สันหลังยาวอีก ก็ข้ามไปช่วยคนจนที่ขยันขันแข็งแทนดีกว่า จะช่วยใครทั้งที ถ้าช่วย “ขึ้น” คือ ช่วยให้เค้าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ก็น่าช่วย แต่ถ้าช่วย “ไม่ขึ้น” คือช่วยแล้ว ก็ยังทำตัวย่ำแย่อยู่นั่นแหละ ก็ต้องตัดใจ ตัดหาง ปล่อยวัดกันบ้างล่ะงานนี้

ว่าแล้ว สัปดาห์นี้อยากคุยเรื่องแซ่บๆ ถึง เวลาที่คุณถูกยืมตังค์กันดีกว่า (The worst money moves you can make) นัยว่า พูดเรื่องไหนก็ไม่กระอักกระอ่วนใจ เท่าถูกเพื่อนฝูง, ญาติพี่น้อง หรือแค่คนรู้จักเอ่ยปากขอยืมสตางค์ หรอกนะ เพราะพูดก็พูดเหอะ การถูกคนอื่น ยืมตังค์นี่ หลายครั้งเลยที่ผู้ถูกยืมมักจะรู้สึกเกรงใจ “คนยืม” อยู่เรื่อย หากถูกยืม เป็นเงินจำนวนไม่มากนัก สักบาท สองบาท (แต่ชีวิตจริงไม่มีใครเค้ายืมกันทีละบาทหรอก ประชดไปงั้นแหละ) ก็มักให้ยืมนะ หากคิดสะระตะแล้วว่า ไม่ทำให้เราเดือดร้อน เหตุนี้ผู้ใจบุญใจกุศลทั้งหลายก็มักจะให้แหละ ไม่งกหรอก

แต่ถ้าถูกขอยืมมากๆ ถูกขอยืมเงินก้อนโตๆ คงต้องคิดกันหลายตลบเหมือนกัน เพราะ 1. เรา (ในฐานะผู้ให้ยืม) ไม่ได้รวยล้นฟ้าซะหน่อย เพียงแต่บริหารเงินเป็น จึงพอกินพอใช้ แต่จะให้ใครยืมเป็นเงินก้อนโตๆนี่ก็เห็นทีจะไม่ไหวนะ

2. ควรชั่งตวงวัดใจคนที่มาขอยืมเงินเราบ้างเหมือนกันว่า มีนิสัยชอบหยิบยืม เป็นนิจหรือเปล่า? ถ้าเขาเป็นคนที่นาน น้านมายืมทีก็น่าเห็นใจ ตรงกันข้าม หากเป็นคน เอะอะอะไรก็ขอยืม ขอเงิน ขยันกินขนมถังแตกอยู่ได้ ทุกวี่ทุกวัน ก็ต้องใจแข็ง บอกกล่าว ให้เขาไปขอยืมคนอื่นบ้างดี้

ใจคอมันจะ “เกาะ” เรากินทุกวันเนี่ยนะ

3. ก่อนให้ใครยืมตังค์ ควรใช้หัวใจและสมองกลั่นกรอง ก่อนเด้อ

เพราะในขณะที่คุณเกิดความสงสารและเห็นใจกับทุกข์ร้อนของเพื่อนร่วมโลกที่บ่จี้ แต่ถ้าการขอยืมเงินของเขาไม่สมเหตุสมผล เช่น แทนที่ จะขอยืมเมื่อได้รับอุบัติเหตุ หรือพ่อแม่ไม่สบายจึงช็อตเงิน เลยต้องหยิบยืมเงินไปใช้ก่อน...แบบนี้ให้ยืมไปเถอะ แต่ควรทำสัญญากู้ยืมเป็นเรื่องเป็นราว

ตรงข้าม ถ้าขอยืมเพื่อไปตั้งก๊งกินเหล้าเข้าลักษณะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ก็อย่าใจอ่อน ให้ยืมเงินซะล่ะ ให้ไปก็ไม่แน่ว่าจะได้คืนหรือเปล่า พวกขี้เหล้านี่ไว้ใจได้รึ

4. ถ้าขอให้ช่วยเซ็นค้ำประกัน

ควรเป็นคนที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ถ้าไม่รู้กำพืดกันจริงอย่าเสี่ยงเลย เดี๋ยวจะเป็นต้นเหตุ ทำให้เกิด ปัญหาภายหลังล่ะยุ่งแน่ ไม่อยากบอกหรอกนะว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง เพราะดูจะมองโลกอย่างระแวงเกินไป--แต่ก็จำเป็นต้องเผื่อใจไว้บ้าง บ๋าย บาย.

คนสมถะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น