...+

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2548

ชีวิตยังมีหวัง ท่ามกลางความเศร้าหมอง แต่มั่นคงอย่างเหลือเชื่อ

ยามชีวิตในสังคมไร้ความหวัง และเรารู้สึกหดหู่ที่จะสู้ภัยสังคม และ
เศรษฐกิจ ผมมักต้องอ่านบทกวีของคนที่มีความหวัง เพื่อเตือนสติให้ระลึกถึง
ชะตากรรมอันโหดร้ายทารุณ
บทกวีนี้เขียนขึ้นเพื่อไม่ให้ สิ้นหวัง ท่ามกลางความเศร้าหมอง แต่ผู้เขียน
มีความมั่นคงอย่างเหลือเชื่อ
แปลมาเป็นภาษา ไทยอีกทีหนึ่ง
แม้จะไม่ได้อรรถรสเท่าภาษาดั้งเดิม

"ปิดประตูใส่ฉัน...
กั้นโลกออกไปจากฉัน
ให้มี กรงเหล็กทุกบานหน้าต่าง
ปิดห้องปิดไฟให้มืดมิด
...ทำ อะไรกับฉันก็เชิญเถอะ
จะเยาะจะชังก็ทำกับฉัน
ต่อให้วัน สว่างมืดสนิท
ให้รัตติกาลทรมานอย่างเจ็บปวด

.........
......

ชีวิตนี้หากสำคัญ
อยากรู้นักว่าฉันตายวันตาย พรุ่ง
แต่ฉันมีคำตอบอยู่แล้ว...
ณ ที่ซึ่งไกลไปจากโลกนี้

...............

ปิดประตูใส่ฉัน
พรากรักจากทุกคนไปจากฉัน
ลูก ที่ดีแห่งอิสราเอล
ไม่มีแม้แต่วันอันโดดเดี่ยว
เพราะฉัน รู้วันฉันจะพานพบ
ศานติภาพตรึงอยู่ในใจ
ก็ฉัน มีพันธสัญญา
ที่ซึ่งประทานเป็นดินแดนส่วนตัว

...............

แค่เอาแต่หมายเลขฉัน
อย่านำชื่อฉันไป
ลืมทุก อย่างเกี่ยวกับฉัน
ปล่อยให้ย่อยสลายหายไปทั้งร่างกาย
ฉันไม่มีความสำคัญอะไร
เป็นแค่เพียงเศษเดียวของหนึ่ง เดียว
ทำลายให้สิ้นซาก

แล้วโยนกองรวมทิ้งไป
แต่ฉันได้รู้ว่าเราจะหา
ศานติในใจตรึงเป็นนิรันดร์
เพราะฉันได้รับประทาน
พันธสัญญา
สักวันจะมีที่ดินให้เป็นของเรา...

บทกวีนี้ ผมขออนุญาตนำมาใส่ไว้เป็นภาษาอังกฤษเพราะได้อารมณ์ ครบถ้วนดีกว่า

If my life were important I
Would ask will I Live or die
But I know the answers lie
Far from this world...
Close every door to me
Keen those I love from me
Children of Israel
Are never alone
For we know we shall find
Our own peace of mind
For we have been promised
A land of our own

จริงแล้วบทกวีนี้ มีคนเขียนให้กับค
นคน หนึ่ง เพราะต้องการสื่อสาร ว่า

ด้วยจิตวิญญาณ ใจของเขาไม่เคยสูญเสียสิ่งที่เป็นความเชื่อมันและศรัทธา

มีคนอีกหลายคน พยายามสื่อสารถึงความรู้สึกที่ศรัทธาในสังคมและ

เศรษฐกิจ รวมทั้งการเมืองพังทลายเขาเขียนเพื่อบอกว่าพวกคนที่รู้ว่าตัวจะต้องเข้ารม ก๊าซ ในค่ายนาซี
เยอรมัน ยังเขียนถึงความหวัง เรายังอยู่จะไม่สู้ต่อไปหรือ?

โดยคุณ :
พระบาท นามเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น