...+

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2548

โทรอย่างไรให้เขาหลงคารม

คงไม่ปฏิเสธนะจ๊ะว่า เครื่องมือสื่อสาร ประเภทไฮเทคโนโลยีนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง กับสัมพันธภาพระหว่าง มนุษย์ยุคปรู๊ด ปร๊าดสมัยนี้เสียเหลือเกิน เช่น ถ้าอยาก แสดงความยินดีปรีดาหรือ เสียใจกะใคร ก็ใช้โทรศัพท์ นี่แหละบอกเล่าความในใจ ให้เพื่อนซี้ก็ได้, เพื่อนสนิทก็ดี หรือถ้าเป็น เพื่อนต่างเพศก็ต้องนี่เลย โทร.ไปจีบเค้า ให้มาตกหลุมรักคุณหรือ ชวนมาเป็นแฟ้น มาเป็นแฟนซะเลยสิ้นเรื่อง

ใน 8 วิธีหลอกล่อให้เพื่อนต่างเพศอยากคุยโทรศัพท์ด้วย (8 ways to keep someone interested on the phone) ว่ากันว่า ผู้หญิงน่ะคลั่งไคล้การคุยโทรศัพท์ จะตายชัก แต่พูดงี้ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายชายจะไม่ชอบโทร.ไปโน่นมานี่ หรือแม้แต่โทร.ไป ตามตื๊อหรือจีบใครต่อใครหรอกนะ ด้วยเหตุนี้ ถ้าคิดจะตะล่อมใครให้ “ใจอ่อน” ทางโทรศัพท์ ล่ะก็ ลองทำตามนี้สิ

วิธีที่ 1. ปากน่ะมีไหม? ถ้ามี โทร.ไปหาเลย แล้วอ้างว่ามีอะไรจะคุยด้วย ถ้าคุณเป็นฝ่ายโทร.ไปหาใครสักคนนึงก่อน เรียกว่า อุตส่าห์เป็นฝ่ายเปิดฉากแล้วเนี่ยนะ ควร แน่ใจว่า มีเรื่องสำคัญที่จะคุยด้วยจริงๆ สิ่งที่จะทำให้อีกฝ่ายสนใจคุยด้วย เช่น โทร.ชวนเค้า (“เค้า” ในที่นี้ขอทำความตกลงกันล่วงหน้าก่อนละกันว่า สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง คือ ผู้หญิงจะโทร.ไปจีบชายก็ได้ หรือหนุ่มจะโทร.ไปจีบสาวก็บ่เป็นอันหยัง) ชวนเค้าออกไปเที่ยว ดีมะ ไม่งั้นก็ชวนไปทานข้าวสักมื้อก็ยังดี แต่ถ้าไม่ชวนไปทำกิจกรรมอะไรกันเลย ก็โทร.ไปชมเค้าสักนิดสักหน่อยทำปากหวานไว้ก่อน เพื่อเก็บคะแนนนิยมล่วงหน้าก็ได้นี่ โทร.ไปเลียกันบ่อยๆ ถ้าเค้าตกหลุมพรางก็โป๊ะเชะลงตัว น่ะซี้ถามได้

วิธีที่ 2. ทำให้การคุยโทรศัพท์กับคนที่คุณหมายปองมีความเป็นกันเอง ผู้ชายบางคนอาจคิดว่า การคุยโทรศัพท์นั้นไม่เห็นจะเป็นกันเองตรงไหนเลย สู้มาพูดกันซึ่งๆ หน้าไปเลยไม่ดีกว่ารึ เผื่อจะได้จับได้คลำ เอ๊ย...ได้เจรจาต้าอ้วยกันถึงกึ๋นมากกว่าแค่คุยผ่านโทร ศัพท์ก็ได้ ความคิดแบบนี้จะตรงข้ามกะผู้หญิงนะ เพราะสาวๆกลับคิดว่า การคุยโทรศัพท์คือ หนึ่งในหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่เป็นกันเองมากที่สุด ลองสังเกตดูสิ ผู้หญิงบางคนใช้เวลา เป็นชั่วโมงๆคุยและถกเถียงกันกับเพื่อนในเรื่องส่วนตัว, สิ่งที่เธอกลัวไปจนถึงสิ่งที่ทำให้หล่อน ดีใจมากที่สุดได้อย่างไม่เคอะเขิน

วิธีที่ 3. ทำอย่างอื่นไปด้วยขณะคุยโทรศัพท์... ถ้าสามารถ อย่าแม้แต่จะคิดเชียวว่า การโทรศัพท์สำหรับผู้หญิงน่ะถือเป็นเรื่องเสียเวลา เพราะแท้จริงแล้ว ผู้หญิงน่ะชอบคุยโทรศัพท์โดยถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หลังจาก เผชิญเรื่องบ้า บอคอแตกมาทั้งวัน หนำซ้ำการคุยโทรศัพท์ก็ไม่จำเป็นหรอกที่คุณจะต้องใจจดใจจ่อกับการพูดคุยแต่เพียงอย่าง เดียว เพราะคุณสามารถทำงานอื่นนอกเหนือไปจากสนทนาอย่างออกรสออกชาติกับหวานใจ ของคุณได้ในกรณี ที่มีงานอื่นติดพันต้องทำนะ ก็ทำไปซิ แต่อย่าเป็นจอมลามกโทร.ไปเกี้ยวสาว หวังทำรักกะตัวเองก็แล้วกัน

วิธีที่ 4. สนแต่เพียงโทรศัพท์อย่างเดียวยิ่งดี จะได้ไม่เสียสมาธิจีบกันให้มันยก ร่องไปเลย บางคนตอนใช้โทรศัพท์จะไม่สามารถทำอะไรอื่นควบคู่ไปด้วยได้ งั้นจงมีสมาธิแต่กับการเจื้อย แจ้วจำนรรจากับดาร์ลิ่งของคุณไปเหอะ อย่ากระแดะทำอะไรหลายอย่างให้มั่วจนเกินไปนักเลย เช่นคิดดูเดะว่า คุณคุยโทรศัพท์ไปด้วยพร้อมกับตัดเล็บไปด้วยได้ไหม? หรือคุณคุยโทรศัพท์ไป ด้วยพร้อมกะดูหนังด้วยได้ อะป่าว? ถ้าไม่ได้ ก็จงใช้โทรศัพท์แบบรู้จักกาลเทศะซะเถอะ ยิ่งถ้า โทรศัพท์ไปด้วยขณะขับรถไปด้วยก็หวาดเสียวว่าจะเกิดอุบัติเหตุนะจ๊ะ โอ้ยอะไรจะธุระปะปัง เยอะซะจนต้องคุยมันทั้งวันทั้งคืนเชียว อีกอย่างตอนเพิ่งจีบกันใหม่ๆ กรุณาอย่าสะเออะโทรศัพท์หาแฟนไปด้วยและทำอะไร อย่างอื่นไป ด้วยเลยขอร้อง ขืนอีกฝ่ายเกิดจับได้ไล่ทันขึ้นมาล่ะว่า คุณไม่ได้ตั้งใจฟังเค้าพูดสักหน่อย ได้แต่ อือๆ หือๆหาๆไปตามเรื่อง เดี๋ยวเหอะถ้าอีกฝ่ายรู้สึกลึกๆอยู่ในใจว่า เห็นกูไม่สำคัญแล้ว โทร.มา ทำไม? เป็นงี้ขืนเหยื่อไม่ หลงกลก็แย่น่ะเซ่

วิธีที่ 5. ถามคำถามที่พยายามให้อีกฝ่ายตอบมากกว่าแค่คำว่า ใช่ หรือไม่ใช่ ตั้งคำถามให้อีกฝ่ายอยาก ตอบมากกว่าเยส หรือโน ดีกว่าน่า ไม่งั้นจะเป็นบทสนทนาที่ง่ายเกินไป และแทบจะไม่มีความหมายอะไร ต่อไปนี้คือตัวอย่างของคำถามปลายเปิด เพื่อให้อีกฝ่ายได้เมาท์แตกอย่างเต็มที่ เช่น ถามถึงความ สัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวของเค้าดูก็ได้ มันคงไม่ถึงกะเป็นคำถามละลาบละล้วงเกิน ไปนักหรอก แต่ถ้าเผื่อเพิ่งคบกันก็อย่าไปคาดคั้นถามเรื่องส่วนตัวให้ลึกซึ้งจนเกินไปนะจ๊ะ ค่อยๆรู้จักและค่อยๆเพาะบ่มความรักกันไปเรื่อยๆก็ได้นี่ ถ้าไม่มีการตีท้ายครัว เอ๊ย...ตีตัวห่าง จากกันไปซะก่อน ค่อยเรียนรู้เรื่องส่วนตัวกันทีหลังก็ได้

วิธีที่ 6. ทำตัวเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าในการคุยโทรศัพท์ซี้ ถ้าอยากเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าในการคุยโทรศัพท์ละก็ สิ่งที่ควรทำก็คือ “ถาม”...ใช่แล้ว คุณควร เป็นผู้ถาม ถามโน่นถามนี่ ถามไปเรื่อย แต่ควรผลัดให้อีกฝ่ายถามบ้างก็ดีนะ และไม่ควรตกอยู่ใน ฐานะเป็นผู้ตอบ, ตอบมันยันป้ายก็ไม่ดีอีก เพราะขืนเป็นงี้อีกฝ่ายสามารถหลอกถามจนคุณตกเป็น เบี้ยล่างได้นะเออ

วิธีที่ 7. เพียรพยายามทำให้เค้าอยากคุยต่ออีกนิด คุณคิดว่า ใครเซ็กซี่กว่ากันล่ะระหว่างปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ (ไอ้แมงมุมในคราบมนุษย์) กับสไปเดอร์ แมน (ไอ้แมงมุมตอนปฏิบัติภารกิจปราบอธรรม?) แหงล่ะ ร้อยทั้งร้อยย่อมตอบว่าไอ้แมงมุมสิ เพราะซุปเปอร์ฮีโร่รายนี้น่ะ ดูลึกลับและน่าค้นหา ดังนั้นจงอย่าเพิ่งบอกดาร์ลิ่งผ่านสายโทรศัพท์ ไปซะทุกอย่าง เก็บให้เป็นปริศนาบ้างก็ได้ รับรองไม่ผิดกติกาแน่นอน

วิธีที่ 8. จบการคุยโทรศัพท์อย่างน่าประทับใจ ทำมั้ย ทำไมการพูดคุยทางโทรศัพท์ต้องมีการวางสายด้วยนะ (แหม...เสียดายจัง) เพราะฉะนั้น ก่อนวางสาย อย่าพูดเชียวว่า “ต้องไปล่ะนะ” แต่ควรบอกว่า“ดีใจจังที่ได้คุยด้วยและหวังว่าจะได้ คุยกันอีก” หลังจากนี้ถ้าอีกฝ่ายกลายเป็นโทร.มาหาคุณก่อนละก็ เชื่อได้เลยว่าเค้า เห็นคุณเป็นคนน่าคุยด้วยแล้วล่ะ อ๊ะงั้นไชโยล่วงหน้าดีกว่ามะ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น