++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

คิดผิด คิดถูก

เราต้องพยายามพิจารณาให้รู้ว่า
คิดอย่างไรเรียกว่า “คิดผิด” คิดอย่างไรเรียกว่า “คิดถูก”

ถ้ามีเรา มีเขา มีสิ่งนี้ สิ่งนั้น เรียกว่าคิดผิด
คิดแล้วจิตไม่สงบก็เรียกว่า คิดผิด
คิดไปตามกิเลสตัณหา เรียกว่า คิดผิด

ปกติจิตก็คิดไปเรื่อยๆ
เมื่อระงับการปรุงแต่งของจิตไม่ได้ ก็ทุกข์
คิดผิด คือ จิตที่คิดมาก มี “เขา” มี “เรา”
เป็นความคิดต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ
คิดตามอำเภอใจ ตามกิเลสตัณหา เช่นนี้ เรียกว่า คิดผิด

ถ้าเรา ตั้งเจตนา คิดที่จะทวนกระแส
คือ ระงับตัณหา เรียกว่า คิดถูก
แม้จะทุกข์อยู่ก็ตาม ทุกข์มากก็ตาม ก็อย่าสนับสนุน
เพื่อจะระงับทุกข์ ระวังอุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่น
มีหิริ โอตตัปปะ ละอาย กลัว
ไม่คิดไปตามกิเลสตัณหา ทวนกระแสต่อสู้อยู่อย่างนี้
ระงับตัณหา อุปาทาน ระงับความยินร้าย

อันนี้เราก็หมั่นสังเกต
ให้เราปฏิบัติตรงนี้ ปฏิบัติให้ถูก
จิตก็สงบ ไม่ค่อยคิดอะไร ทำใจสงบอย่างเดียว
เห็นอะไร ได้ยินอะไร ที่ไม่ถูกใจ จิตก็ไม่ปรุง
เราสามารถทำใจสงบได้ เพราะไม่ต้องคิดอะไร
อดทน ขัดเกลาความรู้สึก เรียบง่าย

นักวิชาการ มข. เตือนสังคมไทยกำลังอ่อนแอจากการขาดคุณธรรม

นักวิชาการมข. มองการแข่งขันในสังคมทำให้คนละเลยคุณธรรม ชี้เยาวชนไทยยังขาดความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น วอนผนึกกำลังปลุกกระแสรณรงค์ “ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความพอเพียง”

ดร. อริยพร คุโรดะ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ผู้ประสานงานสมัชชาคุณธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผยว่า ปัจจุบันสังคมที่อ่อนแอลงได้ส่งผลให้เห็นถึงความขัดแย้ง และการขาดความรับผิดชอบ ซึ่งเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะกระแสของสังคมที่เน้นการแข่งขันทำให้ผู้คนละเลยคุณธรรม ขณะเดียวกันสิ่งแวดล้อมต่างๆเช่นการรับสื่อที่เข้าถึงได้ง่ายและมีมากมาย ทำให้เยาวชนขาดภูมิคุ้มกัน ระบบการศึกษาก็มีความสำคัญเราเน้นการศึกษาสิ่งที่อยู่รอบๆตัวจนอาจลืมการ พัฒนาตนเอง ดังนั้นต้องกลับมาทบทวนเพื่อเน้นองค์ความรู้ที่ช่วยสร้างคุณธรรมความรับผิด ชอบในตัวผู้เรียนให้มากขึ้นเพราะคุณธรรมเล็กๆในตัวจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ เป็นคนที่มีคุณภาพของสังคม

“เยาวชนไทยมีลักษณะการแสดงออก ทางคุณลักษณะที่แตกต่างออกไปจากในอดีต ไม่กล้าที่จะแสดงออกถึงการเสียสละและทำความดี ขณะเดียวกันแนวโน้มความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเองและสังคมลดลง เช่นการขาดระเบียบวินัย การไม่ตรงต่อเวลา สิ่งเหล่านี้หากมองผิวเผินอาจดูเล็กน้อยแต่สิ่งนี้คือการเริ่มต้นของความรับ ผิดชอบในสิ่งที่สำคัญมากขึ้นทั้งต่อตัวเองต่อคนรอบข้าง และต่อสังคมเมื่อเติบใหญ่ไป"

ทั้งนี้ ดร. อริยพร ยังชี้ให้เห็นถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาและการรณรงค์สร้างความมีคุณธรรมใน สังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ " สังคมกำลังต้องการ “ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความพอเพียง”ที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง นอกจากนี้การเป็นแบบอย่างที่ดีซึ่งเริ่มตั้งแต่ พ่อแม่ ครู และคนในสังคม จะทำให้เยาวชนได้ซึมซับความถูกต้องหล่อหลอมขึ้นเป็นบุคลิกภาพของตนเอง ถึงอย่างไรก็ตามทุกคนในสังคมต้องผนึกความร่วมมือ ปลุกกระแสคุณธรรมในสังคมไทยให้เกิดขึ้น เพื่อให้สังคมได้รับการพัฒนาไปพร้อมกับการเสริมสร้างจิตสำนึกที่ดี"

"เทศกาลเดือนสิบ" : 2 - 11 ต.ค. 53 จ.นครศรีธรรมราช

"เทศกาลเดือนสิบ" : 2 - 11 ต.ค. 53 ณ ศาลากลางจังหวัด และสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) จ.นครศรีธรรมราช ภายในงานมีขบวนแห่ พิธีบวงสรวงพระบรมรูปร.5 และพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช การประชันหนังตะลุง มโนราห์ภาคใต้ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนฯ การประกวดหุ่นเปรต การประกวดเพลงบอก โนรา ตลาดย้อนยุค การละเล่นพื้นบ้าน การประกวดนางสาวนครศรีธรรมราช ออกร้านนาวากาชาดและรางวัลสลากกาชาด และการแสดงแสงเสียงสื่อผสม สอบถามได้ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด โทร. 0-7532-0884, 0-7534-1202

บำรุงวัวนมให้มีสุขภาพที่ดี ลดกลิ่นเหม็นในคอก

บำรุงวัวนมให้มีสุขภาพที่ดี ลดกลิ่นเหม็นในคอก ใช้ EM 1 ลิตร กากน้ำตาล 2 ลิตร น้ำ 20 ลิตร คนให้เข้ากัน ให้วัวกินแทนน้ำปกติ หรือใช้อาบตัววัวก้ได้


จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 23 ก.ย.2553- 14.04 น.

เห็ด - รู้ไหมคะว่า การทานเห็ดนางรม

เห็ด - รู้ไหมคะว่า การทานเห็ดนางรม - เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ เป็นประจำสม่ำเสมอ จะกลายเป็นยารักษาอาการโรคกระเพาะและยังช่วยป้องกันหวัดได้ด้วยนะ

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 25 ก.ย.2553 - 12.07 น.

เคล็ดลับวิธีแก้กลิ่นคาวปลาไม่สด

เคล็ดลับวิธีแก้กลิ่นคาวปลาไม่สด
นำปลาที่สับแล้วไปล้างในน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้น แช่ในน้ำแกว่งสารส้มสัก 15 นาที นำขึ้นล้างเปล่าอีก 1 ครั้ง
หมดปัญหา

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 26 ก.ย.2553 - 14.08 น.

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กำหนดจัดงาน “ คนไทยห่างไกลข้อเสื่อม ”

วันที่: 2010-09-23 00:00:00 ถึง: 2010-10-14 00:00:00

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กำหนดจัดงาน “ คนไทยห่างไกลข้อเสื่อม ” ในวันที่ 14 ตุลาคม 2553 เวลา 08.30-12.00 น. ณ บริเวณหน้าหน่วยตรวจศัลยกรรมกระดูกและข้อ ชั้น 1 อาคาร ม.ร.ว.สุวพรรณ สนิทวงศ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยตลอดจนบุคลากรโรงพยาบาลธรรม ศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงานตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยตรวจศัลยกรรมกระดูกและข้อ โทร. 0-2926-9313

แหล่งที่มา: นางสาวนภาพร บุญฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
โทรศัพท์: 02-9269310-1
E-Mail: bo.vy@hotmail.com

เทคนิคทำให้อ้อยด้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

อ้อย - เมื่อใบที่ข้อเริ่มแห้ง ให้หมั่นลอกทิ้งอยู่เสมอ จะช่วยเพิ่มขนาด ความยาวของข้อ ทำให้ได้น้ำหนักของอ้อยที่เพิ่มขึ้น

จาก SMS FarmerINfo 1 ก.ย.2553 -13.47 น.

สร้างภูมิคุ้มกันให้ไก่ที่เลี้ยง

สร้างภูมิคุ้มกันให้ไก่ที่เลี้ยง มีสุขภาพแข็งแรง ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
ใช้ บอระเพ็ดความยาว 30 ซม. หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แช่น้ำ 5 ลิตร นาน 30 นาที

จาก SMS FarmerInfo - DTAC -17 ก.ย.2553 - 14.03น.

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว

วันที่: 2010-09-24 00:00:00 ถึง: 2010-10-22 00:00:00

โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประกาศรับสมัครลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่ง เจ้าพนักงานสาธารณสุข จำนวน 1 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.- 22 ต.ค. 53 ในวันและเวลาราชการ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ วันที่ 26 ต.ค. 53 สอบคัดเลือก วันที่ 28 ต.ค. 53 ประกาศผลสอบคัดเลือก วันที่ 29 ต.ค. 53 เริ่มปฏิบัติงาน วันที่ 1 พ.ย. 53 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายบริหารทั่วไป (งานธุรการ)

แหล่งที่มา: โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
โทรศัพท์: 0 5469 3548 ต่อ 103
E-Mail: wi_6537@hotmail.com

รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว

วันที่: 2010-09-16 00:00:00 ถึง: 2010-09-29 00:00:00

สำนักงานสาธารณสุขอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
รับสมัครลูกจ้างชั่ว คราวเพื่อปฏิบัติงานที่สถานีอนามัยในสังกัด จำนวน 8 ตำแหน่ง ดังนี้
1. พยายาลวิชาชีพ 1 อัตรา 2. นักวิชาการสาธารณสุข 1 อัตรา 3.นักการแพทย์แผนไทย/นักวิชาการแพทย์แผนไทย 1 อัตรา 4. เจ้าพนักงานสาธารณสุข 1 อัตรา 5. เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี 1 อัตรา 6.เจ้าพนักงานธุรกา 3 อัตรา 7. พนักงานทั่วไป 9 อัตรา 8. พนักงานขับรถยนต์ 1 อัตรา
คุณสมบัติ ตามคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือน พ.ศ. 2535
ผู้สนใจยื่นใบ สมัครด้วยตนเอง ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอลำลูกกา ตั้งแต่วันที่ 16-29 กันยายน 2553 ในวันและเวลาราชการ
โทร 0-2569-1240

แหล่งที่มา: สำนักงานสาธารณสุขอำเภอลำลูกกา
โทรศัพท์: 025691240
E-Mail: sso1306@hotmail.com

รับสมัครนักเทคนิคการแพทย์ 2 อัตรา

วันที่: 2010-09-23 00:00:00 ถึง: 2010-09-30 00:00:00

โรงพยาบาลบ้านนา จ.นครนายก รับสมัครนักเทคนิคการแพทย์
จำนวน 2 อัตรา ไม่จำกัดเพศ มีบ้านพัก ฟรี
ตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว โอที 8,000-10,000 บาท

สนใจ ติดต่อ คุณประสิทธิ์ 037-381832-3 , 0897484156

แหล่งที่มา: โรงพยาบาลบ้านนา จ.นครนายก รับสมัครนักเทคนิคการแพทย์

โรงพยาบาลห้วยเม็ก รับสมัครงานตำแหน่งคนงาน

วันที่: 2010-09-24 00:00:00 ถึง: 2010-10-05 00:00:00

โรงพยาบาลห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์
รับสมัครงานตำแหน่ง คนงาน อัตราค่าจ้าง วันละ 200 บาท ผู้ประสงค์สมัคร สามารถขอและยื่นใบสมัครได้ที่ ฝ่ายบริหารทั่วไป ชั้น 2 โรงพยาบาลห้วยเม็ก ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.53- 5 ต.ค.53
รายละเอียดเพิ่มเติม
http://huaimekhospital.org/phpBB3/viewtopic.php?f=11&t=36&sid=53e30e986c58343fe7edb450c57e84f5

แหล่งที่มา: คุณกาญจนา เทียบปัด
โทรศัพท์: 043889090-1
E-Mail: kan-tp91@hotmail.com
Url: http://www.huaimekhospital.org

เรียน โภชนาการบำบัด ฟรี

from กระทรวงสาธารณสุข by ธัชพล
โครงการขยายสาขาทั่วประเทศ และอบรมโภชนาการบำบัด Perfect Health Centre ศูนย์สุขภาพ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้เปิด หลักสูตรให้แก่ประชาชนทั่วไป ได้รับความรู้เรื่อง "โภชนาการพื้นฐาน" เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้และทำให้มีคุณภาพ ชีวิตดีขึ้น ทางศูนย์ฯ จึงทำการเปิดการอบรมหลักสูตร "โภชนาการบำบัดเพื่อการดูแลสุขภาพ" บุคคลที่สามารถเข้าอบรมได้ มี 3 กลุ่ม คือ 1. ผู้ต้องการนำความรู้ไปดูแลตัวเอง (ผู้ป่วยหรือญาติ) 2. ผู้ที่ต้องการทำงานแบบ Part time (ไม่จำกัดวุฒิ) 3. ผู้ที่ต้องการร่วมโครงการขยายสาขา ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ (ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ) คุณสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งก่อนที่นั่งจะเต็ม ติดต่อ คุณธัชพล 084-652-7771 ด่วนที่นั่งมีจำนวนจำกัด

"วันส้มโอมณฑลนครชัยศรี” : 24 ก.ย. – 2 ต.ค. 53 จ.นครปฐม

"วันส้มโอมณฑลนครชัยศรี” : 24 ก.ย. - 2 ต.ค. 53 ณ บริเวณวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม กิจกรรมในงานอาทิ การประกวดส้มโอผลใหญ่ที่สุด การประกวดส้มโอรสดีที่สุด และยังมีอาหารนานาชนิดที่สร้างสรรค์จากส้มโอ อาทิ ยำส้มโอ เค้กส้มโอ น้ำส้มโอ ไอศกรีมส้มโอ และสินค้าจากโรงงาน สินค้าพื้นเมือง ของฝากของที่ระลึก สอบถามได้ที่หอการค้าจ.นครปฐม โทร. 0-3425-4647, 0-3425-4231 หรือที่ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0-3475-2847-8

ยาง- หากพบน้ำยางมีอาการเริ่มจาง

ยาง- หากพบน้ำยางมีอาการเริ่มจาง หลังกรีดน้ำยางแห้งเป็นจุดตามรอยกรีด เปลือกเปลี่ยนสี เปลือก แตก แห้งสนิท แสดงว่า หน้ายางเริ่มตาย ให้หยุดกรีด

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 22 ก.ย.2553 - 13.39 น.

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำหนดจัดงาน “ สัปดาห์เทิดพระเกียรติสมเด็จย่า ประจำปี 2553 ” บริการทันตกรรม....ฟรี 21 ตุลาคม นี้

วันที่: 2010-09-23 00:00:00 ถึง: 2010-10-21 00:00:00

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำหนดจัดงาน “ สัปดาห์เทิดพระเกียรติสมเด็จย่า ประจำปี 2553 ” วันที่ 18 – 22 ตุลาคม 2553
ทั้งนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2553 ให้บริการทันตกรรม... โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (อุดฟัน , ถอนฟัน , ขูดหินปูน , เคลือบฟลูออไรด์ และเคลือบร่องฟัน) รับจำนวนจำกัด (ผู้ใหญ่ 350 คน และ เด็ก 250 คน) เริ่มแจกบัตรคิวในเวลา 07.00 น.จนกว่าคิวจะหมด ณ คลินิกบริการสุขภาพช่องปาก อาคารราชสุดา (ติดกับโรงอาหารโรงพยาบาล) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2926-9310-1 (วันเวลาราชการ)

แหล่งที่มา: นางสาวนภาพร บุญฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
โทรศัพท์: 02-9269310-1
E-Mail: bo.vy@hotmail.com

ลดต้นทุนค่าอาหารเพิ่มธาตุให้แพะที่เลี้ยง

ลดต้นทุนค่าอาหารเพิ่มธาตุให้แพะที่เลี้ยง มีใชิสิ่งเหลือใช้ในสวน
ใช้ทางปาล์มน้ำมัน เป็นอาหารเสริมให้แพะกินได้ทั้งวันโดยตัดทางโคนออก


จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 22 ก.ย.2553 - 14.03 น.

หน้ายางตาย - ให้หยุดกรีด

หน้ายางตาย - ให้หยุดกรีด และใส่ปุ๋ยบำรุงต้น , งดสารเร่ง, ใช้ร็อคฟอสเฟส 1 กก.ผสมน้ำหมักสูตรที่มี พด.2 จำนวน 1 ลิตร ทาหน้ายางทุก 7 วัน 15 วันจะเห็นผล
จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 23 ก.ย.2553 - 13.50 น.

ฝรั่ง - อักเสบ ปวดบวมจากเล็บขม/ช้ำ

ฝรั่ง - อักเสบ ปวดบวมจสกเล็บขม/ช้ำ บรรเทาด้วยใบฝรั่ง 2 ใบ + เกลือครึ่งช้อนชา และข้าวสุก 2 ช้อนโต๊ะ โขลกรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน พอกเล็บที่ขบ/ช้ำได้
จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 24 ก.ย.2553- 13.37 น.

ไล่ยุง - ใช้กาบมะพร้าว

ไล่ยุง - ใช้กาบมะพร้าวหรือเปลือกส้มตากแห้งสุมไฟ ควันที่เกิดขึ้นจะช่วยได้ ปลูกต้นแก้วไว้ในบ้านมีกลิ่นหอมแรง ช่วยไล่ยุง กลิ่นหอมชื่นใจอีกต่างหาก

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 25 ก.ย.2553- 14.09 น.

ร.พ.บางพลีรับสมัครพยาบาล ทั้งpart time และ full time

วันที่: 2010-09-23 00:00:00 ถึง: 2010-12-31 00:00:00

รับสมัคร พยาบาล part time / full time เวร 8 ชั่วโมง เช้า-บ่าย-ดึก ติดต่อได้ตลอดเวลา

แหล่งที่มา: พยาบาล
โทรศัพท์: 087-989-2631
E-Mail: n2etavat@hotmail.com

ด่วน!!!รับสมัครงานตำแหน่ง ผู้ประสานงานเจ้าหน้าที่การเงิน โครงการกองทุนโลก

วันที่: 2010-09-22 00:00:00 ถึง: 2010-10-08 00:00:00

แหล่งที่มา: สำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก
โทรศัพท์: 02-5903313
E-Mail: arunmahurt@hotmail.com
Url: http://www.thaiprddc.org/images/article/freetemp/article_20100922151607.pdf

รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งนักเทคนิคการแพทย์

วันที่: 2010-09-23 00:00:00 ถึง: 2010-10-12 00:00:00

โรงพยาบาลวังทองพิษณุโลก รับสมัครนักเทคนิคการแพทย์

แหล่งที่มา: โรงพยาบาลวังทองพิษณุโลก
โทรศัพท์: 055311017
E-Mail: wthosp@wthos.go.th
Url: http://www.plkhealth.go.th/community/index.php?topic=802.msg1164;topicseen#new

น้ำหมักจากเศษปลา บำรุงต้นไม้

น้ำหมักจากเศษปลา บำรุงต้นไม้ ใช้เศษปลา 30 ก.ก.ผลไม้ 10 กก. กากน้ำตาล 10 กก. น้ำ 10 ลิตร พด.2 จำนวน 1 ซอง หมัก 21 วัน ใช้ 2 ช้องแกง/ น้ำ 20 ลิตรฉีดไม้ผล เร่งดอกผลดก

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 21 ก.ย.2553 - 14.09 น.

สบู่ดำ - การจัดทรงพุ่มและการตัดแต่งกิ่ง

สบู่ดำ - การจัดทรงพุ่มและการตัดแต่งกิ่ง สามารถลดปัญหาศัตรูพืช สะดวกในการเก็บผลผลิตและยังส่งผลให้ผลผลิต เพิ่มขึ้นอีกด้วย

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 21ก.ย.2553 - 13.36 น.

ส้มโอ - ป้องกันกำจัดโรคกรินนิ่ง

ส้มโอ - ป้องกันกำจัดโรคกรินนิ่ง ตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรคเผาทำลาย เพื่อลดปริมาณเชื้อโรค กำจัด เพาะเลี้ยงไก่แจ้ แมลงพาหะนำโรค
จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 20 ก.ย.2553 - 13.36 น.

SMS ของน้องไอออน ระหว่างวันเวลาจนพบกับพี่ใบบอน




                เส้นทางชีวิตของแต่ละคน มีวิถีทางเดินที่ต่างกัน กว่าที่เส้นทางจะมาบรรจบพบกันได้ แม้เวลาที่เส้นทางชีวิตมาบรรจบพบกัน จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาไม่นาน ก่อนที่จะมาถึงทางแยก แล้วเดินทางไปตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคนต่อไป แต่ระหว่างทาง ในช่วงเวลานั้น เวลาที่ผ่านไป กลายเป็นความทรงจำทันที เมื่อลองย้อนกลับหันไปมองดูร่องรอยของเส้นทางที่พึ่งเดินทางผ่าน หลายครั้งเรามักจะมองเห็นอะไรหลายอย่างที่มีคุณค่า เกิดขึ้น การได้มองย้อน นึกถึงอารมณ์ความรู้สึกในช่วงเวลานั้น กลับมีคุณค่ามากมาย กว่าที่คาดคิด


            จากช่วงดึกวันที่ 22 ก.ย. มาจนถึงช่วงหัวค่ำของวันที่ 26 ก.ย. มีความรู้สึก ความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นหลายอย่าง หากมองย้อนความเคลื่อนไหวของน้องไอออนกับพี่ใบบอนแล้ว ข้อความ SMS ของน้องไอออน ก็สามารถบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นได้เช่นกัน

            22 ก.ย.2553 - 23.45 น.
            ----->> วันนี้ไม่มีเวลาออนไลน์เลย งานยุ่งทั้งวัน เหนื่อย ไม่สะบายด้วย T_T  นอนหลับฝันดี..นะพี่ใบบอน  ^ออน^

            22 ก.ย.2553 - 23.50 น.
            ----->> ลืมน้องได้ไง พี่ชายตัวดี...คิดถึงนะ พี่ใบบอนนน

            23 ก.ย.2553 - 0.02 น.
            ----->> ทำไรอยู่ไม่นอน นอนได้แล้วออนก็จะนอนเหมือนกัน ...'''หลับฝันดี

            24 ก.ย.2553 - 1.06 น.
            ----->> นอนหลับฝันดีนะพี่ใบบอน  ไอออนคงหลับไม่ลงแน่เลย

            24 ก.ย.2553 - 7.23 น.
            ----->> ปิดเครื่องนะ ทามไร ไปที่งานยังล่ะ

            24 ก.ย.2553 - 7.53 น.
            ----->> อ้อมกอดของคนตัวดำ แหมม เขียนได้ดีนี๊

            24 ก.ย.2553 - 8.30 น.
            ----->> อันนี้ซิเด็ดกว่า ปั้นข้าวเหนียวกับส้มตำ  55++

            24 ก.ย.2553 - 14.18 น.
            ----->> เดี๋ยวสี่โมงอรจะโทรเข้าไป จะตัดสินใจยังไงก็เอาให้แน่ ต้องการคำตอบที่แน่นอน เพราะอรก็ไม่ใช่จะมีเวลาว่าง ตลอดหรอก เตรียมคำตอบไว้แล้วกันนะพี่ใบบอน

            24 ก.ย.2553- 14.53 น.
            ----->> ขอโทษนะ อรคงว่างแค่ 25-26 เท่านั้นละ ไม่เป็นไร คิดซะว่า เราไม่มีวาสนาจะได้เจอกัน ขอให้สนุกกับงานนะ พี่ชาย

            24 ก.ย.2553 - 15.21 น.
            ----->> จะให้ทำไงก็ในเมื่อคุณไม่ว่างนิ

            24 ก.ย.2553 - 17.38 น.
            ----->> เย้ ^ อรไม่ใช่ผีนะ

            24 ก.ย.2553 - 23.23 น.
            ----->>กลับที่พักยังพี่ใบบอน

            25 ก.ย.2553 - 5.34 น.
            ----->> พี่ใบบอนตื่นยัง

            25 ก.น.2553- 5.58 น.
            ----->> ตอนเช้ายุ่งไม๊ ออกมาหาอรที่หมอชิตได้ไหม ยังอยากกินข้าวเช้ากับอรอยู่รึเปล่า คงถึง 7 โมงหน่อยๆ

            25 ก.ย.2553 - 6.22 น.
            ----->>ไม่เป็นไรในเมื่อพี่ต้องการเลือกที่จะทำแบบนี้แล้วก้ไม่ เป็นไร อรจะได้รู้ไว้ว่า คำพูดของคนบางทีมันก็เชื่อไม่ได้เลยซักนิด แค่เวลาน้อยนิด คนที่คิดว่าจะทำไม่ได้กับคนที่จะทำแต่ในขนาดที่อีกคนที่ย้ำตลอดกับเป็นคนทำ ไม่ได้

            25 ก.ย.2553- 13.26 น.
            ----->> นอนพึ่งตื่นกำลังจะไปหาเพื่อน อาจจะกลับเลย

            25 ก.ย.2553 - 20.26 น.
            ----->> ออกไปซื้อกับข้าวกับพี่สาว เพียบเลยวันนี้จะกินให้จุใจ ไปเลย เดี๋ยวตอนกินจะเรียกนะ 55++ คอยฟังดีๆล่ะ

            26 ก.ย.2553 - 8.07 น.
            ----->> แน่ใจนะว่าว่างแล้ว

            26 ก.ย.2553 - 8.13 น.
            ----->> แล้วจะให้ไปเจอที่ไหน แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน

            26 ก.ย.2553 - 8.44 น.
            ----->> ยังไม่ได้ออกไป ถ้าจะออกจะบอกอีกที คงจะกลับบ้านเลย

            26 ก.ย.2553 - 11.29 น.
            ----->> ออกมาแล้วนะ จะให้ไปหาที่ไหน

            26 ก.ย.2553 - 19.23 น.
            ----->> อรถึงบ้านหกโมงครึ่ง เหนื่อยมากเลย ลืมเอาบันทึกที่ทำไว้ให้พี่ใบบอน แย่จริง เพราะเวลาน้อยมากจนลืมเสียสนิท อุตส่าห์ตั้งใจเขียน                                 

รับสมัครแพทย์ประจำบ้านกุมารเวชศาสตร์ ร.พ.ชลบุรี

รับสมัครแพทย์ประจำบ้านกุมารเวชศาสตร์ ร.พ.ชลบุรี
วันที่: 2010-09-20 00:00:00 ถึง: 2010-10-20 00:00:00

กลุ่มงานกุมารเวชกรรม ร.พ.ชลบุรี รับสมัครแพทย์ประจำบ้านกุมารเวชศาสตร์แบบ free training 2 ตำแหน่ง และ โครงการร่วมชลบุรี-ชลบุรี แบบมีต้นสังกัด 1 ตำแหน่ง ค่าตอบแทนอยู่เวรเหมาจ่าย 10,000 บาท/เดือน ถ้ามีต้นสังกัดได้เงินไม่ทำเวชฯ ขณะปฏิบัติงานที่ ร.พ.ชลบุรี สนใจติดต่อ 038-932-277 คุณสุภัสสร หรือ 080-287-7178 อ.กฤษดา ในเวลาราชการ

แหล่งที่มา: พญ.วรนาฏ รัตนากร
โทรศัพท์: 0818192379
E-Mail: woranartr@hotmail.com

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

ลมหายใจออก-ลมหายใจเข้า

ครูบาอาจารย์ก็ปฏิบัติอยู่กับลมหายใจทั้งวัน
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ก็อยู่กับลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
ออก-เข้า ออก-เข้า อยู่อย่างนั้น

ถึงแม้เราจะเห็นหลายอย่าง ได้ยินเสียงหลายอย่าง
เรา ก็สามารถอยู่กับลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ในอิริยาบถทั้ง 4 ได้
ช่วงที่ไปบิณฑบาต หรือทำงาน ทำครัวหรือทำอะไรก็ตาม
ถ้าจิตอยู่กับลมหายใจได้ แสดงว่าความรู้สึกก็ไม่รุนแรง

เห็นอะไร ได้ยินอะไร บริกรรมภาวนาได้ อยู่กับลมหายใจได้
เราอยู่กับลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ก็ดูลมออก ลมเข้า อยู่อย่างนั้น
หรือว่าอารมณ์กรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่งที่เราเลือกมา
ถ้าจิตสามารถอยู่กับอารมณ์นั้นได้อย่างต่อเนื่องกัน แสดงว่า

เราก็เห็นอยู่ ได้ยินอยู่ มีประสบการณ์อะไรๆ อยู่
แต่ จิตก็สงบเป็นปกติได้ เรียกว่าอยู่ในศีลได้
จิตเป็นปกติ ความรู้สึกไม่รุนแรง
แม้แต่เราเห็นอะไรสวย หรือน่าเกลียด
หรือได้ยินเสียงไพเราะ หรือไม่ไพเราะก็ตาม
เกิดความรู้สึกนิดหน่อย ก็ไม่ต้องใส่ใจ
เราก็อยู่กับอารมณ์กรรมฐาน

คือลมหายใจออก ลมหายใจเข้าของตนได้
เรียกว่า จิตอยู่ จิตก็ใช้ได้
ถ้าเราทำได้อย่างนี้ จิตก็เชื่องแล้ว จิตเป็นศีล
พร้อมที่จะเจริญสมาธิ ปัญญาได้ จิตเริ่มเข้ามรรค
เริ่มปฏิบัติถูกแล้ว จิตก็ใช้งานได้
อันนี้ เราก็ต้องตั้งเป้าหมายไว้ เป้าหมายแรกก็จุดนี้
ตั้งแต่นี้ไปก็ค่อยๆ เจริญสมาธิ วิปัสสนา
ก็ทำงานละเอียดขึ้นประณีตขึ้น

เหมือนกับไปโรงเรียน เข้าเรียนประถม 1 แล้วขึ้นประถม 2, 3
และมัธยมต้น ปลาย ต่อไป
อันนี้เราก็ต้องพิจารณา..... โยนิโสมนสิการ
ปฏิบัติให้มันถูก

วิธีบำรุงร่างกายวัวควาย

วิธีบำรุงร่างกายวัวควาย ใบขี้เหล็ก 3-5 กำมือ เกลือแกง 3 ช้อนโต๊ะ น้ำ 1 ลิตร
นำทุกอย่างตำให้ละเอียดผสมกัน คั้นเอาแต่น้ำ นำมาให้วัวควายกิน


้จาก SMS FarmerINfo 31 สค.2553 - 14.45 น.

Win-Win = ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลวังหมัน อ.สามเงา จ.ตาก

เรียบเรียงโดย ณัฐฏ์ รัตนกานต์

            พื้นที่ชุมชนที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดถึง 45 กิโลเมตร ผู้คนยังใช้ภาษาถิ่นและยึดหลักในการดำรงชีวิตตามแนวทางที่ อบต.วางไว้ "สุขภาพแข็งแรง ชุมชนเข้มแข็ง ตำบลแข็งแกร่ง สังคมมีสุข"
            เรากำลังพูดถึงตำบลหนึ่งที่มีประชากรเพียง 4,713 คน ทั้งหมด 1,346 ครัวเรือน อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอสามเงา จังหวัดตาก นั่นคือตำบลวังหมัน ซึ่งชาวชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวน ส่วนสถานีอนามัยที่อยู่ในพื้นที่วังหมันมีถึง 2 สถานี คือ สถานีอนามัยบ้านปากทางเขื่อนภูมิพล และสถานีอนามัยบ้างวังหวาย

            ระบบความคิดที่ทำให้ตัดสินใจเริ่มงานกับกองทุนฯ เพราะผู้บริหารเห็นว่า อบต. ทำงานด้านการดูแลสุขภาพของชุมชนอยู่แล้ว หากมีกองทุนฯ เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม ก็น่าจะดียิ่งขึ้น ยิ่งกองทุนฯ มีงบประมาณในการสนับสนุนด้วยแล้ว จึงไม่น่าปฏิเสธดังคำพูดของนายก องค์การบริหารส่วนตำบลวังหมัน กล่าวว่า
            "ถือว่าเอาเงินมาให้ คือ เป็นเรื่องการดูแลสุขภาพ บางคนอาจจะคิดว่าเพิ่มงาน บางคนอาจจะคิดว่าไม่ใช่ แต่ อบต.ทำอยู่แล้ว ก่อนมีกองทุนฯ ก็ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว พอมีเงินให้ ยิ่งดีใหญ่"

            เมื่อทาง อบต. ก่อตั้งกองทุนฯ แล้ว จึงดำเนินงานตามโครงการที่เห็นว่าเหมาะสม โดยใช้กลยุทธ์ในการทำงานแบบมีส่วนร่วม โดยมีชาวบ้านเป็นเป้าหมาย ให้บริการชาวบ้านผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยไม่คิดถึงจุดคุ้มทุน เพราะความคุ้มที่ได้หมายถึงสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน ดังคำพูดของทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันในการทำงานดังนี้

            " ก็ต้องทำโดยยึดชาวบ้านเป็นศูนย์กลาง เราเข้ามาทำงานตรงนี้ เห็นเขาสุขภาพดี  เราก็ดีใจ พอใจ" ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลวังหวัน กล่าว

            " คือ มีส่วนในการทำงาน โดยการให้ความเห็นก็ประสานงานกับ อบต. ปลัดได้ดี ทั้งสองคนทำงานที่นี่มานาน เห็นปัญหา และช่วยกันทำอยู่แล้ว " บุคลากรสถานีอนามัยกล่าว
            "จุดคุ้มทุน ไม่คิด เพราะขาดทุนอยู่แล้ว แต่มองที่สุขภาพว่า ต้องการให้ผู้ป่วยถึงมือหมอเร็วที่สุด ถือว่าเป็นหน่วยบริการของประชาชน เราได้ประโยชน์ตรงที่ว่า เขาเจ็บป่วยน้อยลง " ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลวังหมันกล่าวไว้ชัดเจนอย่างนั้น

            กว่าจะมีการพัฒนาทีมงาน ให้มีความเป็นหนึ่งเดียว มีความเข้าใจในการดำเนินงาน และที่สำคัญ ทำงานอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้นั้น เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก อบต. วังหมัน ใช้วิธีการทำงานแบบสม่ำเสมอ มีการประชุมทุกระยะ หาหลักในการทำงาน และมีเหตุผล อธิบายชัดเจนในการทำงานทุกเรื่อง ตอบคำถามได้ทุกคำถามสร้างความเข้าใจในงานให้คนทำงานทุกคน

            นายก อบต.วังหมัน ถือว่าเป็นส่วนสำคัญหนึ่งที่ทำให้งานในโครงการเดินไปข้างหน้าด้วยความร่วมมือ เพราะทำงานอิงตามกรอบนโยบายที่สามารถทำได้ แล้วได้คิดกลยุทธ์ที่ทำให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการทำงานและสร้างทีมงานให้เข้มแข็ง รวมถึงสร้างความเข้าใจร่วมกัน

            จึงสามารถสรุปได้ว่า การมองถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ นำมาซึ่งต่อสุขภาพที่ดีของประชาชนในชุมชน อย่างถ้วนหน้า สมกับคำที่ว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรือ  WIN-WIN  นั่นเอง

ข้อมูลพื้นฐานประกอบการเขียน โดย
ดร.ชมนาด วรรณพรศิริ
วราภรณ์ สัตยวงศ์
นุโรม จุ้ยพวง
วิภา ประสิทธิโชค
ดร.สุชาดา อินทรคำแหง ณ ราชสีมา
วพบ.พุทธชินราช




ที่มา ถอดบทเรียน การดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
(กองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต. และเทศบาล) ในพื้นที่ต้นแบบทั่วประเทศ กรณีศึกษา ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง
เลข  ISBN : 978-974-379-047-8
ธันวาคม 2551

สมุนไพร - แก้ลมพิษ

สมุนไพร - แก้ลมพิษ นำหัวข่าแก่ หรือใบพลู มาตำให้ละเอียด ผสมเหล้าขาว ทาบริเวณที่เป็น หรือ ใช้สีเสียด+ปูนแดง ใส่น้ำเล็กน้อย ทาได้เช่นกัน

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 12 ก.ย.2553- 12.13 น.

ฟ้าทะลายโจร แก้ ผด ผื่นคัน

ฟ้าทะลายโจร แก้ ผด ผื่นคัน
นำใบสดมาตำ คั้นเอาน้ำมาทาบริเวณที่มีอาการ
หรือ ใช้ลำต้นต้มกับน้ำมันมะพร้าวจนเปื่อย กรองเอาน้ำยามาทา

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 18 ก.ย.2553- 12.06 น.

บทกวี "อ้อมกอดของความว้าเหว่" ..........โดย ป่าค้างตะวัน




    น้ำตาที่รินไหล           จากตาใคร ตาใคร
ความระทมที่ถมทับ          ใครก่อ  ใครให้
ความอ่อนล้าที่ล้าอ่อน        ใครบั่นทอน ใครเหนื่อย
เหน็บหนาวอยู่เรื่อยเรื่อย      ใครเหนื่อย เหนื่อยอย่างใคร

  กาลเวลายังโอบกอด       ใจดับมอดกับเวลา
น้ำตาอาบเต็มหน้า           กาลเวลาจะช่วยซับ
ถึงแม้เหงาไม่มีใคร           ใครไม่มี มีใครดับ
กาลเวลาที่ล่วงลับ            เธอจงจับมาเป็นเพื่อน

อบอุ่นในอ้อมกอด          ใจดับมอดกับเวลา
อบอุ่นทั้งน้ำตา              ความเหว่ว้า คือเพื่อนกัน

      
27 กรกฎาคม 2538
"ป่าค้างตะวัน"
ฑิฆัมพร ชาลีกุล

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

บุญจากการอนุโมทนา

ผลของบุญนั้นมีความมหัศจรรย์มาก ทำบุญเองก็ได้บุญ ชวนผู้อื่นทำบุญก็ได้บุญ บางคนไม่ได้สละทรัพย์เป็นเจ้าของวัตถุทาน ไม่ได้เป็นผู้ถวายทานด้วยมือ อีกทั้งไม่ได้อยู่ร่วมในการให้ทานกับเขาด้วย แต่มารู้ทีหลังว่าคนอื่นเขาให้ทาน รู้แล้วก็รู้สึกยินดีเลื่อมใสไปกับเขา อนุโมทนาบุญกับเขา บุคคลนั้นก็จะพลอยได้รับผลของบุญด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ ดังเช่นผลบุญที่เกิดกับเพื่อนของนางวิสาขามหาอุบาสิกา

ครั้งหนึ่ง พระอนุรุทธะเถระจาริกไปในดาวดึงส์เทวโลก เห็นทิพย์วิมานหลังใหญ่ กว้างยาวและสูง ๑๖ โยชน์ แวดล้อมด้วยอุทยานและสระโบกขรณี ล่องลอยอยู่ในอากาศ แผ่รัศมีไปไกลถึงร้อยโยชน์ เจ้าของวิมานนั้นเป็นเทพธิดาวรรณะงาม มีรัศมีสว่างไปทั่วทุกทิศ มีกลิ่นทิพย์หอมยวนใจฟุ้งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ เมื่อยามเยื้องกรายหรือร่ายรำก็มีเสียงทิพย์อันไพเราะ น่าฟัง น่ารื่นรมย์ใจ เปล่งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่
พระอนุรุทธะเถระถามเทพธิดาเจ้าของวิมานนั้นว่าเธอทำบุญด้วยอะไร ทิพย์สมบัตินี้จึงเกิดขึ้นแก่เธอ
นาง เทพธิดาตอบพระเถระว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ดิฉันเป็นเพื่อนของนางวิสาขามหาอุบาสิกา เมื่อเพื่อนของดิฉันสละทรัพย์ถึง ๒๗ โกฏิ สร้างบุพพารามมหาวิหาร เธอชวนดิฉันและสหายอีก ๕๐๐ คน ไปเที่ยวชมปราสาท ดิฉันได้เห็นมิคารมาตาปราสาทที่เธอสร้างถวายพระภิกษุสงฆ์ที่ดิฉันเคารพ ดิฉันเลื่อมใสในบุญของเธอ จึงอนุโมทนาบุญกับเธอว่า สาธุ สาธุ

"ด้วยอานิสงส์ของการอนุโมทนาบุญนี้ ทิพย์สมบัติทั้งหลายเหล่านี้จึงบังเกิดแก่ดิฉันเจ้าค่ะ"

ขับรถแล้วคันเร่งค้าง จะแก้ปัญหาอย่างไร

น่าจะมีประโยชน์สำหรับทุกคน

วันที่ 14 สิงหาคม เวลาประมาณ 11.00 น. เป็นวันที่ผมมิอาจลืมได้ ในชีวิตนี้
ผมได้ขับรถขึ้นทางด่วนพิเศษจาก ถนนจันทน์ มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อที่จะไปทำบุญบริจาคสิ่งของ ที่บ้านเด็กอ่อนพญาไท ติด ถ.แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด
ขณะขับรถไปได้ประมาณ 20 นาที และมองไปที่คันเร่ง เห็นหน้าจอ ที่ 140 กม.ผมก็ได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้งเพื่อลดความเร็ว
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมได้ลองใหม่อีก 3 ครั้ง คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง เบรกเท้าอีกก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม. ผมได้พยายามกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทที่นัดแนะไปทำบุญด้วยกัน เพื่อนแนะให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2 และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม. เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้

ความพยายามในการชะลอรถมากกว่า 10 นาที และลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ไม่มีผลเลย
ผมคิดว่าคงอาจจบชีวิตบนการทางพิเศษแล้ว และคิดว่าถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดใดเลยจะขอทำบุญบวชอีกครั้งในชีวิต และจะเริ่มลดละบาปกรรม

เพื่อนได้แนะอีกครั้ง และสมาธิเริ่มรวบรวม ความพยายามประมาณครั้งที่ 7 โดยการดับเครื่อง
คราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้ ซึ่งผมก็สามารถหยุดชิดขอบทางได้
เหมือนรอดตายพ้นนรก ผมรีบโทรบอกที่บ้านเพราะตอนแรกนึกว่าคงไม่ได้โทรสั่งเสียหรือสั่งลา
ผมได้เดินอีกประมาณ 100 เมตรไปบอกเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ ด่านเก็บเงินใกล้แจ้งวัฒนะเพื่อขอความช่วยเหลือ
รอประมาณ 10 นาที ก็มาช่วย ผลปรากฏว่าสาเหตุที่คันเร่งค้าง เพราะ




กล่องสัญญาณกันขโมยซึ่งหนักประมาณเกือบครึ่งกิโลไปทับอยู่ที่ ก้านของคันเร่งและเกิดการล็อคขึ้น

พี่สุทธิครับ
ได้สอบถามกับอู่รถแล้ว อู่แจ้งว่า มีโอกาสเป็นไปได้ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมย จะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่งติดตัวถังรถ
สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจงดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน
รถก็ยังวิ่งอยู่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆ ความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้
การปิดสวิทช์กูญแจงรถยนต์ดับเครื่องเลยในขณะที่เกียร์รถไม่อยู่ที่ N รถก็ยังวิ่งอยู่เครื่องยนต์และระบบเกียร์จะ
เสียหายมากกว่าที่อยู่ช่อง N ครับ

ที่มา KFC เรื่องราวของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้

มีชายคนหนึ่ง พ่อของเขาเสียชีวิตตอนที่เขาอายุได้เพียงห้าขวบเขาต้องออกจาก โรงเรียนกลางคัน ขณะอายุ 16 ปี

ตอนอายุ 17 ปี เขาแสดงความสามารถพิเศษด้วยการตกงานติดต่อกันถึง 4 ครั้ง

เขาแต่งงานตอนอายุ 18 ปี ปีถัดมาเขาได้เป็นพ่อคนแต่ชีวิตคู่ ของเขาก็มีความสุขอยู่ได้ไม่นานนัก อายุ 20 ปี ภรรยาของเขาพาลูกสาวหนีไป เพราะทนใช้ชีวิตกับเขาไม่ได้

ช่วงอายุ 18-22 ปี เขาประกอบอาชีพเป็นคนขายตั๋วรถไฟแล้วก็ล้มเหลวแต่เขาก็ยังต่อสู้ กับชีวิตด้วยการหาโอกาสให้ชีวิต แต่ทุกอย่างที่เขาทำก็ไม่วาย ล้มเหลวเหมือนเดิม

เขาสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพแต่ ก็ถูกขับออกมาหันเหมาสมัครเข้าโรงเรียนกฎหมาย แต่ด้วยความสามารถอันเอกอุเขาถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

แล้วเขาก็ ไปทำงานเป็นพนักงานขายประกัน แน่นอนที่สุดเขาล้มเหลวอีกครั้ง (แล้ว)

แค่เกริ่นมาข้างต้นก็คงไม่ต้องบอกว่า ชายคนนี้ทำอะไรไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง !

แต่ก็อย่างว่าแหละ คนเราอะไรมันจะไม่ได้เรื่องไปเสีย หมดสิ่งเดียวที่ เขาพบว่า เขาทำได้ดีก็คือ การทำอาหาร

ดังนั้นเขาจึงไปทำงานเป็นพ่อครัวและคนล้างจาน ในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่ทรงคุณค่าอะไรเลยใน ความคิดของเขาชีวิตที่ร้านกาแฟ เขามีเวลามากมายที่จะนั่งคิดและทำ อะไรได้มากพอสมควรแต่เขากลับเลือกใช้เวลานั่งคิดถึงภรรยาและลูก สาวของเขาเขาเพียรพยายามติดต่อภรรยาและอ้อนวอนให้เธอกลับมาใช้ชี วิตร่วมกันอีกครั้ง แต่ได้รับคำปฏิเสธ




เขาเปลี่ยนความคิดใหม่ เขา ไม่ต้องการภรรยาอีกต่อไป ขอเพียงแต่ได้ลูกสาวกลับคืนมาก็พอเพราะ เขารักและคิดถึงเธอเหลือเกินเขาใช้เวลาว่างในร้านกาแฟวางแผนในการ นำลูกสาวกลับคืนมาสู่อ้อมอกของตนเขาวางแผนทุกขั้นตอนละเอียด ยิบ คำนวณทุกฝีก้าวในที่สุดแผนการอันแสนยาวนานก็เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คุณพ่อวัยรุ่นผู้น่าสงสารซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้นอก บ้านหลังเล็กๆ ของภรรยาของเขาเฝ้ามองลูกสาวของเขาเล่นอยู่หน้าบ้านและ เตรียม พร้อมที่จะ "ลักพาตัวเธอ!"แล้ววันที่ตั้งใจไว้ก็มาถึง เขาซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้อย่างระมัดระวัง แม้จะรู้สึกกังวล ตื่นเต้น และตระหนกอยู่บ้างแต่นั่นมิอาจเทียบได้กับความรักที่เขามีต่อลูก เขาตัดสินใจที่จะต้องลงมือทำให้สำเร็จ แต่แล้วอนิจจา

วันนั้นลูก สาวของเขาไม่ออกมาเล่นหน้าบ้านเลยแม้กระทั่งความ พยายามในการก่ออาชญากรรม เขา ก็ยังล้มเหลวเขารู้สึกเหมือนคนที่พ่ายแพ้ต่อโชคชะตา รู้สึกเหมือนคนไม่มีค่าและเหมือนพระเจ้ากำหนดมาแล้วว่าเขาจะต้องอ ยู่เพียงลำพังไปตลอดชีวิต แต่เหมือนปาฏิหาริย์ ในที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวภรรยาให้กลับมาอยู่ด้วยกันได้พวกเขา ทำงานด้วยกันในร้านกาแฟแห่งนั้น ทำอาหารและล้างจานอยู่จนกระทั่งเขา เกษียณ ตอนอายุ 65 ปี

วันแรกของการเกษียณอายุ เขาได้รับเช็คเงินประกันสังคมฉบับแรก ของเขา เป็นเงิน 105 ดอลลาร์(ราวสี่พันบาท) เช็คดังกล่าวเหมือน เป็นตัวแทนของรัฐที่ฝากมาบอกเขาว่า เขาไม่อาจจะดูแลตัวเองได้อีกต่อไป แล้ว ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือใช้ชีวิต อยู่จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิ ตด้วยเงินสนับสนุนจากรัฐบาลมัน ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกถูกปฏิเสธ ล้มเหลว เสียกำลังใจ และท้อแท้ชีวิตของเขาได้รับความผิดหวังอีกครั้งหนึ่งหลังจาก 65 ปีอันยาวนาน เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าเขาดูแลตัวเองไม่ ได้ ต้องมีชีวิตอยู่โดยให้รัฐบาลดูแลเขาก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอีกต่อไป เขาตัดสินใจ (อีกแล้ว) ว่า "จะฆ่าตัวตาย"

เขาหยิบกระดาษหนึ่งแผ่นกับดินสอหนึ่งแท่งนั่งลงใต้ต้นไม้ใน สวนหลังบ้านอย่างสงบ ตั้งใจที่จะเขียนคำสั่งเสียและพินัยกรรมแต่แทนที่ จะทำเช่นนั้น กลับเหมือนมีอะไรมาดลใจ เหมือนเป็นครั้งแรกที่ชีวิตเกิดปัญญา เขาเริ่มต้นเขียนสิ่งที่เขาควรจะเป็น ชีวิตที่เขาควรจะมี และสิ่งที่เขาปรารถนาในช่วงชีวิตสุดท้ายที่เหลืออยู่เขาตกใจมาก เมื่อค้นพบความจริงในชีวิตว่า เขายังไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาสักอย่างเลย ! (เพิ่งนึกได้)




เขานั่งครุ่นคิดกับตัวเองอย่างจริงจัง มีบางอย่างที่เขาสามารถทำได้บางอย่างที่คนที่รอบตัวทำสู้เขาไม่ ได้ ใช่ ! เขารู้วิธีปรุงอาหารชีวิตเกือบทั้งหมดของเขา อยู่ที่หน้าเตาร้อนๆ มาตลอด เขาตัดสินใจกับตัวเองอีกครั้งในที่สุดเขา เลือกที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อทำอะไรสักอย่างในชีวิตให้ประสบความ สำเร็จเขาตั้งใจว่าถ้าเขาจะตาย เขาก็อยากจะตายในแบบที่ได้ลอง พยายามเป็นใครสักคนและทำบางสิ่งบางอย่างที่มีค่าด้วยชีวิตที่ เหลืออยู่น้อยนิดของเขาเขาลุกจากเงาไม้ มุ่งหน้าไปยังธนาคารในเมือง เพื่อขอยืมเงินจำนวน 87 ดอลลาร์จากเช็คประกันสังคมฉบับต่อไปของเขาด้วย เงิน 87 ดอลลาร์นั้น เขาซื้อกล่องเปล่าและไก่จำนวนหนึ่ง

จากนั้นเขาก็กลับไปที่บ้านและลงมือทอด ไก่ที่ซื้อมาด้วยสูตรพิเศษที่เขาได้คิดค้นขึ้นมาในช่วง หลายปีที่ทำงานที่ร้านกาแฟนั้นเขาเริ่มขายไก่ทอดของเขาตามบ้าน ต่างๆ ในเมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้ของเขา

แล้วคนขายไก่ทอดอายุ 65 ปีคนนั้นก็กลายมาเป็นผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์สราชาผู้เป็นที่รักของ อาณาจักร Kentucky Fried Chicken หรือที่เรารู้จักกันในนาม KFC นั่น เองตอนอายุ 65 ปี เขาเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวที่ยังมีชีวิต แต่ในวัย 85 ปีเขาก็กลายเป็นเศรษฐีพันล้านและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีผู้คนให้เกียรติเขาทั่วประเทศ

เรื่องราวชีวิตของผู้พันแซ นเดอร์ส เป็นอีกบทหนึ่งของเรื่องราวความสำเร็จที่ได้รับคำยกย่องจาก ผู้คนทั่วโลก แต่ใครจะรู้บ้างว่าหากใต้ต้นไม้วันนั้นผู้พันแซนเดอร์ส ได้ทำตามที่เขาตั้งใจไว้แต่แรกตำนานไก่ทอดสะท้านโลกก็คงจะ ไม่มีให้เราได้เห็นกัน จริงอย่างที่เขาว่า ความสำเร็จกับความล้มเหลวห่างกันเพียง แค่พลิกฝ่ามือมันอยู่ที่ว่าคุณเลือกที่จะ "สู้ต่อ" หรือ "ยอม แพ้"

สำหรับผู้พันแซนเดอร์ส 65 ปี ของชีวิตที่ล้มเหลว เทียบคุณค่าอะไรไม่ได้เลยกับ 20 ปีแห่งความสำเร็จ

แล้วชีวิตของคุณหละ ล้มเหลวมากพอหรือยัง ?



ขอขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสาร Financial Freedom

กำจัดไวรัส เชื้อราในพืชผัก

กำจัดไวรัส เชื้อรา เปลือกมังคุดบด 1 ขีดบวกแอลกอฮอล์เช็ดแผล 450 ซีซี หมัก 7 วัน กรองเอาน้ำหมัก 2-3 ซีซีบวกน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 3 วัน

้จาก SMS FarmerINfo - 31 สค.2553 - 13.36 น.

ไม้ตัดดอก

ไม้ตัดดอก ควรตัดช่วงเช้าหรือเย็น ซึ่งก้านยังอวบน้ำอยู่ ทำให้อยู่ได้นาน

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 14 ก.ย.2553 - 13.45 น.

ไล่ยุงให้ห่างไกล

ไล่ยุงให้ห่างไกล
ใช้ตะไคร้หอมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วคั้นเอาแต่น้ำ นำเอาน้ำที่ได้ไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมัน ใช้ทาผิวหนังกันยุงมาตอม ดีนักแล

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 19 ก.ย.2553- 14.31 น

ชีวิตกับความรู้สึกที่มีแต่ เรื่องแย่ๆ ไม่มีสาระของน้องไอออน กับสายตาของ พ่อ แม่ ญาติพี่น้องและพี่ใบบอน xn--22cjba3gb5cahie7f8ahcbaa2cybzdwbzp2a0fn3gec4b

           วันคืนที่ผ่านไป ชีวิตที่ผ่านมา แม้จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว แต่มันยังอยู่ในความทรงจำ หลายเรื่องเป็นดั่งรอยแผล ดั่งตราบาป ดั่งเวรกรรม ดั่งคำสาป ดั่งกรงขังที่ติดอยู่กับชีวิต และคงจะติดอยู่ตลอดไป

            ไม่ว่าจะนึกถึงทีไร มันรู้สึกแย่ไปซะทุกอย่าง ชีวิตมันช่างดูเลวร้าย มีแต่เรื่องแย่ๆ เหลือเกิน เมื่อมองคนอื่นๆ ดูมีความสุขกว่า ไม่ต้องมารับเวรรับกรรมแบบนี้

            น้องไอออน ก็คงรู้สึกไม่ต่างไปจากนี้

            จากปีนี้ ปีก่อน ปีโน้น หรือหลายปีก่อน มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
            มีแต่เรื่อง แย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

            ยิ่งคิด คงมีคำว่า "แย่" เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเต็มไปหมด
            นี่แค่เวลาไม่นาน ยังพิมพ์คำว่า แย่ เติม ๆ เข้าไป เยอะแยะ ....แล้วเวลาที่ผ่านไป 5-6-7-8 หรือ 9 ปี จะมี "ๆ" มากขนาดไหนหนอ

            ชีวิตส่วนตัว ชีวิตที่ต้องข้องเกี่ยวกับคนบางคน คนที่ข้องเกี่ยวทำให้ชีวิตน้องไอออน รู้สึกแย่..ยิ่งนานวัน ยิ่งแย่ มากขึ้น  คนบางคนก็ยังทำให้ชีวิตของน้องไอออน แย่ลงไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่น้องไอออน พยายามทำชีวิตที่ต้องข้องเกี่ยวกับคนบางคน..คนนั้น ให้ดีขึ้น สุขมากขึ้น แต่คนบางคนที่ว่า ไม่ร่วมมือด้วยเลย ชีวิตเลยต้องแย่ลงไปอีก

            จากที่ไอออน พยายามทำชีวิตให้ดี เมื่อรู้สึกแย่ เลยเผลอตัว ทำตัวให้แย่ตามไปด้วย

            มีแต่คำว่า แย่ท่วมตัว ท่วมหัว ท่วมชีวิต จนบางทีก็ไม่อยากไปเจอใคร ไม่อยากให้ใครมองเห็นความแย่ของตัวเอง

            ดูไอออน จะเป็นคนไร้ค่า ไม่มีสาระ เพราะความแย่ครอบงำตัวเอง


            ...ย้อนเวลากลับไปในอดีต ย้อนกลับไปไกล ก่อนที่จะมาข้องเกี่ยวกับใครบางคน ที่ทำให้ชีวิตของน้องไอออน ต้องแย่ๆๆๆๆ และแย่ ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ทำอะไรผิดพลาดมา พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง อาจจะดุ ว่าให้  ไอออนอาจจะรู้สึกผิด รู้สึกว่า ตัวเองแย่อยู่บ้าง แต่ก็ยังยิ้มได้ สุขได้ สนุกได้ เพราะไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่...พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง จะยังไงก็รัก ห่วงใย น้องไอออนมาตลอด เมื่อหมุนเวลากลับมาในปัจจุบัน ไม่ว่าน้องไอออน จะเป็นยังไง ย่ำแย่ ผิดพลาด เจ็บช้ำเพียงใด แต่พ่อ แม่ ญาติพี่น้องก็ยังรักและห่วงใย น้องไอออนอยู่เสมอ

            ไม่ว่าจะยังไง ไอออน ยังมีความสำคัญสำหรับ พ่อ แม่ ญาติพี่น้องอยู่เสมอ
            ..แต่ คนบางคน ที่ชีวิตต้องไปข้องเกี่ยว แรกๆก็ ดีมากๆ  แต่ทำไม กลับเป็นคนทำลายความรู้สึกที่ดีๆด้วยน้ำมือของตัวเอง หยิบเอาความรู้สึกย่ำแย่ใส่มือน้องไอออนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนน้องไอออนเหมือนถูกประทับตราความแย่ไว้ที่กลางหน้าผาก

            แล้วไอ้คนที่ชีวิตต้องไปข้องเกี่ยว ก็ใช้ชีวิต ทำตัวของมันไปตามเส้นทางของมัน
            คนที่เฝ้ามอง เฝ้าห่วงใย ก็ได้แต่ปลอบใจ บอกให้อดทน เพราะเงื่อนไขของชีวิตไอออน ทำให้คนที่เฝ้ามอง เฝ้าห่วงใย ทำได้แค่บอก เท่านั้น  เพราะเหตุผลที่ชีวิตต้องไปข้องเกี่ยวกับคนบางคนนี่แหละ

            มีคนที่รู้สึกย่ำแย่ จนตัดสินใจ เดินออกจากทางชีวิตสายเดิม กลับมาหาพ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง แม้ชีวิตจะผิดพลาด บอบช้ำมากแค่ไหน แต่น่าแปลก ที่คนที่กลับมาหา ต่างอ้าแขวนรับ ดูแลห่วงใย เอาใจใส่เป็นอย่างดี ไม่ได้สนใจ ใส่ใจกับตราประทับความย่ำแย่ที่ได้รับมา แต่ดูแล เอาใจใส่ กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กับปัจจุบัน ที่ทำได้ เป็นไปได้มากกว่า

            เมื่อน้องไอออน แบกความเจ็บช้ำมา แบกความย่ำแย่ ความผิดพลาดต่างๆ รู้สึกว่า ตัวเอง เป็นคนที่ไม่มีคุณค่า พี่ใบบอนที่ยืนมองน้องไอออนเดินมาหา กลับยิ้มรับด้วยความดีใจ
            .... ไม่ใช่ยิ้มให้กับความเจ็บช้ำ ความผิดพลาดที่ติดตัวของน้องไอออน แต่ยิ้มรับเพราะน้องสาวมาหาให้หายคิดถึงซะที ถึงแม้ชีวิตของไอออน จะเดินบนเส้นทางที่แย่ๆ มาตลอดเส้นทางที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนพี่ใบบอน และอีกหลายคนที่ห่วงใย ไม่ได้สนใจเส้นทางที่เดินผ่านมานั้น แต่สนใจที่ตัวน้องไอออนมากกว่า
      
            สนใจที่สีหน้า แววตา ท่าทาง ที่น้องไอออน ค่อยๆเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อย่างน้อย ในช่วงเวลานั้น ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของน้องไอออนแล้วล่ะ
อย่างน้อย คนที่น้องไอออน เดินเข้ามาหา ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้น้องไอออน รู้สึกแย่ๆ เหมือนกับคนบางคนที่ชีวิตของน้องไอออนต้องไปข้องเกี่ยวอยู่ด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

            อย่างน้อย คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าน้องไอออน ก็รู้สึกดีๆ ไม่ได้มองน้องไอออนด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับคนบางคนที่ชีวิตน้องไอออนต้อง ไปข้องเกี่ยว แล้วทำอะไรให้น้องไอออนรู้สึกแย่ๆตลอดหลายปีที่ผ่านมา

            จะแบกความเจ็บปวด บาดแผล ความเจ็บช้ำมามากแค่ไหนก็ตาม แต่พี่ใบบอน สนใจที่จะจับมือน้องไอออน พามานั่งกินข้าว พาไปพักผ่อน ทำบุญร่วมกันแบบพี่น้อง ในเวลาน้อยนิด ก่อนที่จะปล่อยมือของน้องไอออน ให้เดินกลับไปบนเส้นทางแย่ๆเหมือนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา....


            แล้วก็เฝ้ามองดูว่า เมื่อไหร่ น้องไอออน จะเดินออกมาจากเส้นทางแย่ๆนั้นเสียที จะเดินออกมาหาพี่ใบบอน หรือจะเดินไปทางไหนก็ได้ แต่ขอให้น้องไอออน เลือกเดินไปบนเส้นทางที่ดีกว่าที่ผ่านมาละกัน....

            .....!!              




       

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

ศีลข้อที่ 4 คือให้เว้นจากการพูดเท็จ พูดไม่เป็นความจริง พูดโกหกหรือพูดมุสา

ถ้าไม่เว้นจากมุสาวาท หรือพูดเท็จอะไรจะเกิดขึ้น...พระพุทธเจ้าตรัสว่า มุสาวาทอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มาก แล้วย่อมยังสัตว์ไปในนรก ในกำเนิดดิรัจฉานในเปรตวิสัย ผลจากการกล่าวมุสาวาทอย่างเบาที่สุดย่อมยังกางแตกจากมิตรให้ไปเกิดแก่ผู้เป็นมนุษย์

การกล่าวมุสาวาทแล้วจะได้อะไร

การกล่าวมุสาวาท หรือการพูดเท็จปราศจากความจริง เมื่อกล่าวออกไปแล้ว จะได้รับผล 2 ขั้น คือ

1. ได้รับผลในปฏิสนธิกาล คือเกิดในนรก ดิรัจฉาน, เปรตวิสัย
2. ได้รับผลในปวัตติกาล คือ หลังจากเกิดแล้วและผลที่จะได้รับในปวัตติกาลนี้ จะครบองค์มุสาวาท หรือไม่ก็ตาม ถ้าได้เกิดมาเป็นมนุษย์จะได้รับผล อีก 8 ประการ คือ

1. พูดไม่ชัด
2. ฟันไม่เป็นระเบียบ
3. ปากเหม็นมาก
4. ไอตัวร้อนจัด
5. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ
6. กล่าววาจาด้วยปลายลิ้นและปลายปาก
7. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย
8. จิตไม่เที่ยงคล้ายคนวิกลจริต

อานิสงส์แห่งการรักษาศีลข้อที่ 4 มี 14 ประการ

1. มีอินทรีย์ทั้ง 5 ผ่องใส
2. มีวาจาไพเราะอ่อนหวาน
3. มีฟันเสมอชิด สะอาด
4. ไม่อ้วนจนเกินไป
5. ไม่ผอมจนเกินไป
6. ไม่สูงจนเกินไป
7. ไม่เตี้ยจนเกินไป
8. กลิ่นปากหอมเหมือนดอกบัว
9. ได้สัมผัสแต่ที่เป็นสุข
10. มีบริวารล้วนขยันขันแข็ง
11. มีถ้อยคำที่บุคคลเชื่อถือได้
12. ลิ้นบางแดง อ่อนเหมือนกลีบบัว
13. ใจไม่ฟุ้งซ่าน
14. ไม่เป็นคนติดอ่าง ไม่เป็นใบ้

บะหมี่น้ำหนึ่งชาม

.........อ่านแล้วอยากอ่านอีกหลาย ๆรอบ และอยากส่งต่อ ๆ ไปให้ทุกคนทั่วโลกได้อ่านจริง ๆ ขอบอก..นะครับ (ขนาดเป็นคนขี้เกียจอ่านอีเมล์ข้อความยาว ๆ นะเนี๊ยะ) อ่านจบหิวบะหมี่ชามโต ๆ "ขอบะหมี่หนึ่งชามด้วยสิครับ เถ้าแก่เนี๊ยะ"....

_/\_ขออภัยหากเป็นการรบกวน_/\_







เนื้อหาอาจยาวไปหน่อย แต่อ่านแล้ว รู้สึกดีจริงๆค่ะ

บะหมี่น้ำหนึ่งชาม...
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
เราให้ชื่อเรื่องนี้ว่า"บะหมี่น้ำหนึ่งชาม"
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว วันที่ 31 ธันวาคม 2528
ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ที่ร้านบะหมี่ " ฮอกไก " บนถนนซัปโปโร
การกินบะหมี่โซบะในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นเป็นประเพณีของชาวญี่ปุ่น
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ร้านบะหมี่ขายดีในวันสิ้นปี

" ร้านฮอกไก" นี้ก็เช่นกัน
ในวันนี้คนแน่นร้านแทบทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลา 22.00 น. คนก็เริ่มน้อยลง
โดยปกติแล้วบน ถนนสายนี้คนจะแน่นขนัดไปจนถึงเช้าตรู่
แ ต่วันนี้ทุกคนจะต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปต้อนรับปีใหม่กัน
ดังนั้นถนนสายนี้จึงปิดร้าน เร็วกว่าปกติ
เถ้าแก่ของร้าน " ฮอกไก" เป็นคนซื่อ และเถ้าแก่เนี้ยก็เป็นคนอัธยาศัยใจคอดี

ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า พอลูกค้าคนสุดท้ายกลับไปในขณะเถ้าแก่เนี้ยก็จะปิดร้าน
ประตูร้านก็ถูกเปิดออกอย่างเบาๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กชายสองคน
คนหนึ่งประมาณ 6 ขวบกับอีกคนหนึ่งประมาณ 10 ขวบเข้ามาในร้าน
เด็กชายทั้งสองคนสวมชุดกีฬาใหม่เอี่ยมเหมือนกันทั้งสองคน
ส่วนหญิงคนนั้นสวมโอเวอร์โค้ท ลายสก๊อตเก่าๆ เชยๆ
" เชิญนั่งครับ" เถ้าแก่ร้องทักทายออกมา
หญิงคนนั้นเอ่ยปากอย่างขลาดกลัวว่า
" ขอบะหมี่น้ำสักชามได้ไหมคะ"
เด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลังสบตากันอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
" ได้ค่ะ ได้ค่ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ" เถ้าแก่เนี้ยพาพวกเขาไปนั่งที่โต๊ะเบอร์สองชิดกำแพง
แล้วตะโกนบอกไปทางห้องครัวว่า
" บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" บะหมี่หนึ่งชามมีบะหมี่แค่หนึ่งก้อน&n bsp;
เถ้าแก่คิดแล้วก็ใส่บะหมี่ เพิ่มไปอีกครึ่งก้อน
ต้มบะหมี่ได้ชามเบ้อเริ่ม
ทั้งเถ้าแก่เนี้ยและสามแม่ลูกต่างก็ไม่รู้เรื่อง
สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่กินกันอย่างเอร็ดอร่อย
กินพลางพูดพลาง " ทานเถอะครับ"
ลูกคนพี่พูด " แม่ทานหน่อยสิครับ"
ลูกคนน้องพูดไปก็คีบบะหมี่ให้แม่กิน
ไม่นานก็กินบะหมี่หมดชาม จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน
แล้วทั้งสามคนก็ชมว่า
" ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) บะหมี่อร่อยมากค่ะ(ครับ)"
พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อยแล้วลาจากไป
" ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"
ทั้งเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยต่างก็กล่าวขอบคุณ

*********





ทำงานไปวันแล้ววันเล่ายุ่งตั้งแต่เช้าจรดเย็น
และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี วันที่ 31 ธันวาคม
ก็เวียนมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ในวันส่งท้ายปีเก่า
ร้านบะหมี่ "ฮอกไก" ก็ยังคงขายดีและดูเหมือนจะขายดีกว่าปีที่ผ่านมา
สองตายายยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการค้าขาย
และแล้ววันที่วุ่นวายก็จบสิ้นลง
22.00 น.กว่า ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะปิดร้านอยู่นั้น
ประตูร้านก็ถูกผลักออกเบา ๆ
ผู้ที่เข้ามาก็คือหญิงวัยกลางคนกับเด็กชายสองคน
พอเห็นเสื้อโอเวอร์โค้ทที่เก่า และเชย
เถ้าแก่เนี้ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเป็นลูกค้าคนสุดท้ายในวันส่งท้ายปีเก่าของปีที่แล้วนั่นเอง
" ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั๊ยคะ"
" ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งตามสบายนะคะ"
เถ้าแก่เนี้ยนำพวกเขาไปนั่งที่เดิมที่เคยนั่งเมื่อปีที่แล้ว
โต๊ะเบอร์สอง ตะโกนไป พลางว่า
" บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" เถ้าแก่รับคำพลาง
จุดเตาที่เพิ่งจะดับไปพลาง
" ได้ครับ บะหมี่น้ำหนึ่งชาม"
เถ้าแก่เนี้ยแอบไปพูดที่ข้างหูของเถ้าแก่ว่า
" นี่ตาแก่ ต้มบะหมี่ให้พวกเขาสามชามไม่ได้หรือ"
" ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาอายและไม่สบายใจได้รู้มั๊ย"
สามีตอบพลางแล้วโยนบะหมี่อีกครึ่งก้อนลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน
เดินไปยืนข้างภรรยาแล้วก็ยิ้ม
ภรรยาก็พูดขึ้นว่า " เห็นเธอซื่อ ๆ ทึ่ม ๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกันนะ"
ฝ่ายสามีเดินไปตักบะหมี่ชามใหญ่ที่กลิ่นหอมชวนกินชามนั้นแล้วให้ภรรยายกไปให้สามแม่ลูก
สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่ กินไปพลางคุยไปพลาง
เสียงคุยของสามแม่ลูกดังถึงหูของตายาย
" หอมจังเลย … ยอดไปเลย … อร่อยจริงๆ "
" ปีนี้สามารถกินบะหมี่ของร้านฮอกไกได้ นับว่าไม่เลวทีเดียว"
" ถ้าปีหน้าสามารถมากินได้อีกก็ดีนะสิ"
กินเสร็จก็จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน
แล้วสามแม่ลูกก็เดินออกจากร้านฮอกไกไป
" ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปี ใหม่ค่ะ(ครับ)"
มองตามหลังสามแม่ลูกจนลับหายไป





********

สองตายายก็ยกเรื่องสามแม่ลูกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกไปได้ระยะหนึ่ง
ในวันสิ้นปีของสามปีมานี้ กิจการของร้านฮอกไกดีมาก
สองตายายต่างก็ยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกัน แต่พอเลย 21.00 น.ไปแล้ว
สองตายายก็เริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา พอถึง 22.00 น.
พนักงานในร้านต่างก็รับอั้งเปาแล้วก็แยกย้ายกันกลับไป
พอคนกลับไปหมดแล้วเจ้าของร้านทั้งสองก็ช่วยกันเอาป้ายราคาบะหมี่ในร้านที่เขียน
ไว้ว่า " บะหมี่ชามละสองร้อยเยน" ที่แขวนไว้ตามผนังทั้งหมดพลิกกลับหลัง
แล้วช่วยกันเขียนใหม่ว่า " บะหมี่ชามละร้อยห้าสิบเยน"
30 นาทีก่อน เถ้าแก่เนี้ยก็เอาป้าย " จองแล้ว"
ไปวางไว้บนโต๊ะเบอร์สอง
เหมือนกับว่าจะมีเจตนารอแขกที่ลูกค้า ออกจากร้านไปหมดแล้วถึงจะมาอย่างนั้นแหละ

22.30 น. ในที่สุดสามแม่ลูกก็ปรากฏตัวขึ้น
พี่ชายสวมเครื่องแบบมัธยมของรัฐแห่งหนึ่ง
น้องชายสวมเสื้อแจ๊คเก็ทที่พี่ชายสวมเมื่อปีก่อนดูหลวมและไม่พอดีตัว
เด็กทั้งสองคนโตขึ้นมาก
ส่วนผู้เป็นแม่ก็ยังคงสวมเสื้อโค้ทลายสก๊อตที่ทั้งเก่าและเชยแถมสีซีดตัวเดิม
" เชิญค่ะ เชิญค่ะ" เถ้าแก่เนี้ยกล่าวทักทายอย่างมีน้ำใจ
มองใบหน้าอันยิ้มแย้มและท่าทางต้อนรับอย่างเต็มที่ของเถ้าแก่เนี้ย
ทำให้ผู้เป็นแม่นั้นเปล่งคำพูดออกมาอย่างงกงก เงิ่นเงิ่นว่า
" รบกวนช่วยทำบะหมี่น้ำให้สักสองชามได้ไหมค่ะ"
" ได้ค่ะ เชิญนั่งทางนี้ค่ะ"
เถ้าแก่เนี้ยนำแม่ลูกไปนั่งยังโต๊ะเบอร์สอง
แล้วรีบเอาป้าย"จองแล้ว"ออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วตะโกนบอกไปทางครัวว่า
" บะหมี่น้ำสองชาม" " ได้ครับ บะหมี่น้ำสองชามได้เดี๋ยวนี้แหละครับ"
เถ้าแก่พลางตอบ พลางโยนบะหมี่ลงไปในหม้อน้ำสามก้อน
สามแม่ลูกกินไปพูดไป ดูแล้วเหมือนมีความสุขกันมาก
สองสามีภรรยาที่ยืน อยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่
ได้รับรู้ถึงความสุขที่พวกเขาได้รับกัน
ในใจก็พลอยเบิกบานไปด้วย
" ลูกรัก วันนี้แม่ต้องขอบคุณลูก ๆ เป็นอย่างมาก"
" ขอบคุณ ?" " ทำไมครับ"
" เรื่องเป็นอย่างนี้ คือคุณพ่อของลูกที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปได้ทำให้คนอีกแปดคนได้รับบาดเจ็บ
และทางบริษัทประกันก็ไม่รับผิดชอบในส่วนนั้น ในช่วงหลายปีมานี่ทำให้เราต้องจ่ายเงินเดือนละห้าหมื่นเยนทุกเดือน"
" เอ๊ะ เรื่องนี้เราก็ทราบกันอยู่แล้วนี่ครับ" ผู้เป็นพี่ตอบ
ส่วนเถ้าแก่เนี้ยได้แต่ตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ อยู่หลังโต๊ะทำอาหาร
" แต่เดิมนั้นเราต้องชำระหนี้ไปจนถึงปีหน้าเดือนมีนาคม
แต่ตอนนี้เราได้ชำระหนี้ไปหมดแล้ว"
" จริงๆ หรือครับ แม่"
" จริงสิจ๊ะ นี่เป็นเพราะว่าพี่ชายของลูกขยันไปส่งหนังสือพิมพ์
ส่วนตัวลูกเองก็ช่วยแม่ซื้อกับข้าวทำอาหาร
ทำให้แม่ไปทำงานได้อย่างเต็มที่
ทางบริษัทจึงได้ให้เงินเบี้ยขยันพร้อมทั้งเงินโบนัสพิเศษอื่นๆ อีก
จึงทำให้วันนี้สามารถชำระในส่วนที่เหลือได้หมด"
" ว้าว แม่ครับ พี่ครับ อย่างนี้ก็วิเศษสิครับ
แต่ว่าต่อไปขอให้ผมได้ช่วยทำอาหารต่อไปเถอะนะครับ"
" ผมก็จะส่งหนังสือพิมพ์ต่อนะครับ ไอ้น้องชายเราต้องร่วมแรงร่วมใจกันสู้หน่อยแล้วนะ"
" ขอบใจลูกทั้งสองมาก ขอบใจจริงๆ "
" แม่ครับผมกับน้องก็มีความลับจะบอกกับแม่เหมือนกันครับ
คือในวันอาทิตย์วันหนึ่งของเดือนพฤศจิกายนโรงเรียนของน้อง
ได้แจ้งให้ผู้ปกครองไปเยี่ยมชมนักเรียนในห้องเรียนในวันพบผู้ปกครอง
คุณครูของน้องยังได้แนบจดหมายมาอีกหนึ่งฉบับว่า
เรียงความของน้องได้ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของฮอกไกโด
เพื่อไปแข่งขันเรียงความทั่วประเทศ
น ี่ผมได้ยินมาจากเพื่อนๆ ของน้องนะครับผมถึงทราบ
ดังนั้นในวันนั้นผมจึงไปเป็นตัวแทนแม่
ไปร่วมในงานวันพบผู้ปกครองของน้อง"
" จริงหรือลูก แล้วต่อมาล่ะ"
" หัวข้อที่คุณครูให้เรียงความคือ ความปรารถนาของข้าพเจ้า"
น้องได้เอาเรื่องของบะหมี่น้ำหนึ่งชามมาเขียนเป็นเรียงความ
แล้วยังได้อ่านต่อหน้าทุกคนด้วย"
" เรียงความเขี ยนว่า … หลังจากที่คุณพ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว
ได้ทิ้งหนี้สินให้เรามากมาย เพื่อที่จะชำระหนี้
คุณแม่ต้องทำงานดึกดื่นหาม รุ่งหามค่ำทุกวัน
แม้แต่เรื่องของผมที่ต้องไปส่งหนังสือพิมพ์
น้องก็ยังเอาไปเขียนเลย …"
" ยังมีอีก น้องยังเขียนถึงในคืนวันที่ 31 ธันวาคม
พวกเราสามคนแม่ลูกได้มาล้อมวงกันกินบะหมี่น้ำ อร่อยมาก …
สามคนกินบะหมี่น้ำแค่ชามเดียว
คุณตาคุณยายเจ้าของร้านยังกล่าวขอบคุณพวกเราอีก
แล้วยังอวยพรวันปีใหม่ให้พวกเราอีก
เสียงเหล่านั้นเหมือนกับว่าให้กำลังใจให้เข้มแข็งที่จะยืนหยัดมีชีวิตอยู่ต่อไป
พยายามปลดเปลื้องหนี้สินทั้งหลายของคุณพ่อ ให้หมดให้เร็วที่สุด …"
" ด้วยเหตุนี้น้องจึงได้ตัดสินใจว่าโตขึ้นน้องจะเปิดกิจการร้านบะหมี่
แล้วจะต้องเป็นเจ้าของร้านบะหมี่ยอดเยี่ยม อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย
แล้วยังจะให้กำลังใจแก่ลูกค้าทุกคน … ขอให้มีความสุขครับ … ขอบคุณครับ …"

สองตายายเจ้าของร้านบะหมี่ที่ยืนฟังอยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่จู่ ๆ ก็หายตัวไป
พวกเขาไม่ได้หายไปไหนเลยเพียงแต่คุกเข่ากันอยู่ใต้โต๊ะ
ในมือถือปลายผ้าขนหนูกันคนละข้าง
พยายามซับน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุดเหมือนทำนบพังนั้นอย่างไม่ลดละ
" พอน้องอ่านเรียงความจบ คุณครูก็พูดว่า
" วันนี้พี่ชายได้มาเป็นตัวแทนของคุณแม่
ดังนั้นขอเชิญพี่ชายขึ้นมากล่าวอะไรสักหน่อยค่ะ"
" จริงหรือลูก แล้วลูกทำอย่างไรล่ะ"
" ก็มันกะทันหันเกินไป ตอนแรกๆ
ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ผมจึงพูดว่า … ขอบคุณทุกคนที่เอาใจใส่น้องผมเป็นอย่างดี
น้องผมต้องไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวกลับมาหุงหาอาหารทุกวัน
ดังนั้นในเวลาที่เพื่อนๆ ทุกคนมีกิจกรรมกันในตอนเย็นก็มักจะ
อยู่ร่วมกิจกรรมต่างๆ ไม่ได้เพราะต้องรีบกลับบ้าน
เมื่อเป็นอย่างนี้คงจะทำให้ทุกคนวุ่นวายกันพอสมควร"
" เมื่อครู่นี้ตอนที่ได้ยินน้องอ่านเรียงความเรื่องบะหมี่น้ำหนึ่งชาม
ผมรู้สึกอายมาก แต่พอได้เห็นน้องยืดอกอ่านเรียงความเรื่องบะหมี่
น้ำหนึ่งชามด้วยเสียงอันดังนั้นจนจบ ถึงได้รู้สึกว่าความรู้สึกอายเมื่อ
สักครู่นี้ถึงจะ เรียกว่าเป็นความอายจริงๆ "
" หลายปีมานี้ ความกล้าของคุณแม่ที่จะสั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชามนั้นเพื่อกิน
กันสามคนนั้นผมกับน้องจะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด
ผมและน้องจะต้องขยัน และดูแลแม่เป็นอย่างดี
และผมขอฝากน้องของผมให้ทุกคนช่วยดูแลด้วยครับ"
สามแม่ลูกกุมมือกันเงียบ ๆ ตบไหล่
กินบะหมี่หมดอย่างมีความสุขกว่าทุกๆ ปี
จ่ายเงินไปสามร้อยเยนกล่าวขอบคุณ
ค้อมตัวลงเคารพและเดินออกจากร้านไป

มองตามหลังสามแม่ลูกไป
เจ้าของร้านจึงได้รู้สึกว่าปีนี้ได้ผ่านไปแล้วจริงๆ
พร้อมกับกล่าวว่า " ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"
และแล้วก็ผ่านไปอีกปีหนึ่ง





********

พอถึงเวลา 21.00 น.ทางร้านฮอกไกก็วางป้าย
" โต๊ะจอง" ไว้บนโต๊ะเบอร์สองและเฝ้ารอคอย
การมาเยือนของสามแม่ลูกเช่นเคย
แต่ในปีนั้นสามคนแม่ลูกไม่ได้มาปรากฏตัวที่ร้านเลย
ปีที่สอง ปีที่สาม โต๊ะเบอร์สองก็ยังคงว่างอยู่เช่นเดิม
สามแม่ลูกไม่ได้มาที่ร้านฮอกไกอีกเลย
กิจการของร้านฮอกไกดีมาก เรียกว่าดีวันดีคืนเลยทีเดียว
ภายในร้านมีการตกแต่งใหม่ โต๊ะเก้าอี้ก็มีการเปลี่ยนใหม่
จะมีก็แต่โต๊ะเบอร์สองที่เก็บรักษาไว้เหมือนเดิม
" นี่มันเรื่องอะไรกัน" ลูกค้าหลายคนต่างก็ถามด้วยความกังขา
เถ้าแก่เนี้ยก็เลยเล่าเรื่องบะหมี่หนึ่งชามให้แก่ลูกค้าฟัง
โต๊ะเก่าตัวนั้นวางอยู่กลางร้านเหมือนกับว่าเป็นการให้กำลังใจตัวเองอย่างหนึ่ง
และก้อไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งลูกค้าทั้งสามอาจจะกลับมาอีก
พวกเขาห วังว่าจะใช้โต๊ะเก่าตัวนั้นในการต้อนรับลูกค้าทั้งสามของเขา
โต๊ะเบอร์สองตัวนั้นเป ลี่ยนเป็นชื่อว่า " โต๊ะแห่งความสุข"
ลูกค้าต่างก็พูดต่อๆ กันไป
มีนักเรียนหลายคนอยากเห็นโต๊ะตัวนี้ถึงขนาดที่ว่านั่งรถมาจากที่ไกลแสนไกลมากิน บะหมี่
และเจาะจงที่จะนั่งโต๊ะตัวนี้
ผ่านวันที่ 31 ธันวาคม ไปอีกหลายๆ ปี
พอถึงวันสิ้นปีหลังจากปิดร้านแล้ว
เจ้าของร้านค้าในละแวกใกล้เคียงร้านฮอกไก
ก็มักจะมารวมตัวฉลอง โดยการกินบะหมี่ที่ร้านฮอกไก
กินไปพลาง ก็รอเสียงระฆังส่งท้ายวันสิ้นปีเก่าไปพลาง
แล้วทุกคนก็ไปวัดเพื่อไหว้พระด้วยกัน
เป็นธรรมเนียมมา 5-6 ปีแล้ว

ในวันนี้พอเลย 21.30 น.ไปแล้ว
เจ้าของร้านขายปลามาถึงก่อนพร้อมทั้งนำซาซิมิมาด้วย
ต่อจากนั้นก็มีคนมาเรื่อยๆ เป็นระยะ
บ้างก็เอาเหล้ามา บ้างก็เอาอาหารกับแกล้มมา
ปกติแล้วก็จะรวมตัวกันได้ประมาณ 30-40 คน
ต่างก็คึกคักกันมาก
ทุกคนที่มานั้นต่างก็รู้ตำนานเกี่ยวกับโต๊ะเบอร์สอง
ทุกคนก็พยายามไม่เอ่ยถึงม ันแต่ในใจต่างก็คิดกันว่า
วันนี้ "โต๊ะจอง" ตัวนั้นไม่มีคนที่พวกเขาเฝ้ารอมานั่ง
มันคงจะว่างเปล่าเพื่อส่งท้ายปีเก่าอีกเช่นเดิม พวกเขาบ้างก็กินเหล้า
บ้างก็กินบะหมี่ บ้างก็เข้าๆ ออกๆ
พอเตรียมกับข้าวกับแกล้ม ต่างก็กินกันไปคุยกันไป
พูดเรื่องการค้าบ้าง คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้
แม้แต่น้ำทะเลขึ้นลง ในระยะนี้บ้านไหนมีเด็กเกิดใหม่
ก็นำมาพูดคุยในวงสนทนา คุยมันทุกๆ เรื่อง
จนเหมือนกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

เวลาผ่านไปจนถึง 22.30 น.
ทันใดนั้นเองประตูร้านก็ถูกผลักออกเบาๆ
ทุกคนในร้านหยุดพูดคุยกัน สายตาทุกคู่มองตรงไปยังประตูร้าน
ชายหนุ่มสองคนยืนสง่าในชุดสูทสากล พาดโอเวอร์โค้ทไว้บนแขน
พอเห็นว่าผู้ที่มาเป็นใครทุกคนก็รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง
และเริ่มสนทนากันต่อไปอย่างคึกคัก
ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะพูดว่า " ขอโทษค่ะ ที่นั่งเต็มหมดแล้วค่ะ"
เพื่อปฏิเสธลูกค้าที่ไม่ได้รับเชิญอยู่นั้น
ก็มีหญิงคนหนึ่งสวมชุดกิโมโน เดินเข้ามายืนระหว่างกลางของ ชายหนุ่มทั้งสองคน
ทุกคนในร้านแทบจะหยุดหายใจเมื่อได้ยินคุณนายผู้นั้นพูดว่า
" เอ้อ … รบกวน … รบกวนช่วยทำบะหมี่ให้สามชามได้ไหมคะ"
ทันทีที่เถ้าแก่เนี้ยได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
เวลาผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว ภาพของสามแม่ลูกในความทรงจำ
กับภาพของสามแม่ลูกตรงหน้า เธอพยายามจะนำทั้งสองภาพมาวางซ้อนกัน
เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ที่โต๊ะทำบะหมี่ ชี้นิ้วไปยังทั้งสามแม่ลูก
" พวกคุณ .. พวกคุณ" เขาพูดได้เพียงแค่นั้น
คำพูดทุกคำจุกอยู่ที่คอ ชายหนุ่มหนึ่งในสองคนเห็นท่าทีของเถ้าแก่เนี้ยที่ทำอะไรไม่ถูกก็เลยพูดกับ
เถ้าแก่เนี้ยว่า " พวกเราสามคนแม่ลูกที่เมื่อสิบสี่ปีก่อนในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มา
สั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชามทานกันสามคนไงครับ
และพวกเราก็ได้รับกำลังใจจากบะหมี่น้ำชามนั้น
พวกเราจึงได้สามารถยืนหยัดมาถึงวันนี้ได้"
" หลังจากนั้นก็อพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่กับยายที่อำเภอชิกะ
ปีนี้ผมสอบผ่านได้เป็นนายแพทย์แล้ว
ตอนนี้ผมเป็นแพทย์ฝึกหัดแผนกกุมารเวชที่โรงพยาบาลเกียวโต < BR>ปีหน้าเดือนเมษายนก็จะย้ายมาประจำโรงพยาบาลกลางของซัปโปโรแล้ว"
" วันนี้พวกเราก็เลยแวะมาที่โรงพยาบาลเพื่อทำความรู้จักและฝากเนื้อฝากตัว
แล้วเลยไปไหว้สุสานของคุณพ่อ
และน้องชายที่ครั้งหนึ่งเคยใฝ่ฝันว่าจะเป็นเจ้าของกิจการร้านบะหมี่นั้น
ขณะนี้ได้ทำงานในธนาคารเกียวโต
ได้เสนอความคิดที่เลิศเลออย่างหนึ่งก็คือ
ปีนี้ในวันส่งท้ายปีเก่า
พวกเราสามคนแม่ลูกจะมาเยี่ยมคารวะเจ้าของร้านบะหมี ่ฮอกไกที่ซัปโปโร
และทานบะหมี่น้ำสามชามของร้านฮอกไกด้วย"

สองตายายฟังไปพลาง พยักหน้าไปพลางด้วยน้ำตาคลอเบ้า
เถ้าแก่ร้านขายผักที่นั่งอยู่ตรงหน้าประตู
พยายามใช้แรงอย่างเต็มที่ที่จะกลืนบะหมี่คำที่คาอยู่ในปากลงไปในคอ
แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า " อ้าว … เถ้าแก่ … เป็นอะไรไปล่ะ
อุตสาห์เตรียมการมาตลอดสิบปีเพื่อเฝ้าคอยวันนี้ " โต๊ะจอง"
ตัวนั้นไงที่พวกเถ้าแก่จองให้ลูกค้าที่จะมาตอนหลังสิบโมงของคืนวันสิ้นปีไง
รีบๆ ต้อนรับพวกเขาสิ เร็วเข้า"
ในที่สุดเถ้าแก่เนี้ยก็ได้สติ ตบไหล่ของเถ้า แก่ร้านขายผัก
แล้วพูดว่า " ยินดีต้อนรับค่ะ … เชิญนั่งข้างในค่ะ … นี่ตาเฒ่า … บะหมี่น้ำสามชามโต๊ะสอง"
เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ก็รีบปาดน้ำตาแล้วรับคำว่า
" ครับ..บะหมี่น้ำสามชาม"

หากดูกันตามจริงแล้ว
สิ่งที่เถ้าแก่ร้านบะหมี่ทั้งสองได้ให้ไปมันไม่ได้มีค่ามากมายอะไรเลย
มันเป็นแค่เพียงบะหมี่ไม่กี่ก้อน คำพูดที่จริงใจและให้กำลังใจเพียงไม่กี่คำ
รวมทั้งคำอวยพรว่า " ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"ก็เท่านั้นเอง
แต่มันกลับให้ผู้ที่ถูกความจริงอันโหดร้ายบีบให้จมอยู่ในสถานการณ์
คับขันได้สามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

********

เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า
อย่าพยายามมองข้ามตัวเอง
ตัวเราเองสามารถมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ได้
บางทีมันอาจจะเป็นแค่เพียงความใส่ใจความห่วงใยอันจริงใจ
ของคุณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ก็สามารถนำพาเอาแสงสว่างอันเจิดจรัสอย่างไม่มีขีดจำกัดมาสู่โลกได้

ด้วยเหตุนี้ความหวังความใฝ่ฝันที่แรงกล้าของพวกเรา …
เพื่อนพ้องทั้งหลาย …
อย่ามัวเห็นแก่ตัวกันหรือเสียดายมันอยู่เลย
หวังว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป
พวกเราจะสามารถมอบหัวใจแห่งความรักและความเมตตาที่เราอัดเก็บ
ไว้ในใจมาเป็นเวลานานแสนนานนั้นมอบให้กับคนอื่นด้วยความเต็มใจ
จุดประกายแห่งความสว่างแก่โลก ….
ถึงแม้จะเป็นแสงเพียงริบหรี่เท่านั้น

แต่สำหรับคืนอันหนาวเหน็บอันเย็นย ะเยือกของฤดูหนาว
มันเป็นประกายแห่งความอบอุ่นและแสงสว่างอันสุกสกาวจริงๆ

ไงจ๊ะ … อ่านบทความนี้จบแล้วรู้สึกเมื่อยตาบ้างหรือเปล่า
บริหารสายตาหน่อย
กรอกตาซ้ายไปมา
เสร็จแล้วก็หันมากรอกตาขวา
หลังจากนั้นก็กรอกตาทั้งสองข้างพร้อมๆ กัน
หากทำแล้วลูกตากระเด็นออกมานอกเบ้าแล้วล่ะก้อไม่ต้องมาหาฉันนะจ๊ะ
ไปหาหมอเถอะ …

คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน

Once upon a time
มีพระราชาองค์หนึ่งเดิน ทางเพื่อไปเยี่ยมเยียนราษฎร
โดยมีทหารรับใช้หลายนายเดินทาง ร่วมด้วย และมีทหารที่เดินติตามนายหนึ่ง
ตะโกนออกมาตลอดทางว่า

"คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน"
"คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน"
"คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน"

ซึ่ง เป็นเพราะว่า มีทหารระดับเดียวกันไม่ต้องเดินเท้า
แต่ขึ้นไปนั่งบน เกี้ยวร่วมกับพระราชาคอยพัดวีให้
จึงทำให้พลทหารเดินเท้าเกิดความ ไม่พอใจ ทั้งๆ
ที่ระดับเดียวกันแต่ทำไมจึงมีความแตกต่างกัน ….

"คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน"
"คน เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน"

….จนมาถึงที่พักแห่งหนึ่ง

พระราชาจึงให้ทหารผู้นั้นเข้าเฝ้า และสอบถาม
พระราชา : "ตลอดทางที่เดินทาง ข้าได้ยินเจ้าตะโกนว่า "คนเหมือนกัน
แต่ไม่เหมือน กัน" "คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน"……
ตลอดทาง เจ้าหมายความว่าอย่างไร"



ทหาร 1 : ได้แต่ก้มหน้านิ่งไม่ยอมพูดจา
พระราชา : "งั้นเจ้าลงไปดูทีซิว่า ข้างล่างเนี่ยมันมีอะไร"

ทหาร ผู้นั้นจึงรีบรุดไปดูอย่างรวดเร็ว พร้อมกลับเข้ามาในเวลาไม่นาน
แล้วรายงานต่อพระราชาว่า
ทหาร 1 : มีไก่อยู่พะยะ ค่ะ
พระราชา : อ๋อ ไก่เหรอ, แล้วมีกี่ตัวล่ะ

ทหารผู้นั้นจึงรีบรุดไปดูอย่างรวดเร็ว อีกครั้ง
พร้อมกลับเข้ามารายงานต่อว่า
ทหาร 1 : มีไก่อยู่ 5 ตัวพะยะค่ะ
พระราชา : ฮึมมม แล้วมีตัวเมียกี่ตัว ตัวผู้กี่ตัวล่ะ

ทหาร ผู้นั้นจึงรีบรุดไปดูอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
พร้อมกลับเข้ามารายงาน ต่ออีกว่า
ทหาร 1 : เป็นตัวเมีย 3 ตัว ตัวผู้ 2 ตัวพะยะค่ะ
พระ ราชา : ฮึมมมม แล้วตัวเมียเนี่ย มีสีอะไรบ้าง

มิ ชักช้า ทหารผู้นั้นจึงรีบรุดไปดูอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
พร้อมกลับเข้ามาโดยมีอาการเหนื่อยหอบ และรายงานต่ออีกว่า
ทหาร 1 : ตัวเมีย 3 ตัว ทุกตัวมีขนสีดำเป็นหลัก
แต่มีตัวเมียอยู่ตัวหนึ่งมีขนสีเขียวและ ส้มขึ้นแซมพะยะค่ะ
พระราชา : ฮึมมมม แล้วไก่เหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ

โดยมิชักช้า ทหารผู้นั้นจึงรีบรุดไปดูอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
พร้อม กลับเข้ามาโดยมีอาการเหนื่อยหอบ และรายงานต่ออีกว่า
ทหาร 1 : ไก่กำลังคุ้ยเขี่ยอาหารอยู่พะยะค่ะ
พระ ราชา : ฮึมมมม………..

ทันใดนั้นพระราชาจึงเรียกทหารผู้ที่ได้นั่งอยู่บนเกี้ยว
ระหว่าง เดินทางนั้นเข้า มาบ้าง

ทหาร (2) : มีธุระ อันใดให้ข้าฯ ได้รับใช้ พะยะค่ะ
พระราชา : "เจ้าลองลงไปดูทีซิว่า ข้างล่างเนี่ยมันมีอะไร"

ทหาร (2) จึงรีบรุดไปดูอย่างรวดเร็ว พร้อมกลับเข้ามา
และรายงานต่อ พระราชาว่า
ทหาร (2) : "มี ไก่อยู่ 5 ตัวพะยะค่ะ เป็นตัวเมีย 3 ตัว
ตัวผู้ 2 ตัว กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารอยู่พะยะค่ะ และนอกจากนั้น
ทุกตัวมีขนสีดำเป็นหลัก แต่มีตัวเมียอยู่ตัวหนึ่งมีขนสีเขียวและส้ม ขึ้นแซม
สวยงามมากพะยะค่ะ และเท่าที่สังเกตดู จะมีตัวเมียอยู่ตัวหนึ่งที่คาดว่า
รุ่งเข้าพรุ่งนี้น่าจะออกไข่พะ ยะค่ะ"

จากนั้น พระราชาจึงหันไปทางทหาร (1) ผู้นั้น แล้วกล่าวว่า
"คราวนี้เจ้ารู้แล้วหรือยังล่ะว่า ทำไมคนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน"
ฝ่ายทหารผู้นั้นจึงได้แต่ก้ม หน้านิ่ง……...

เรื่องนี้สอนให้รู้ ว่า หลายๆ ครั้งและหลายๆ คน
ชอบนำตนไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น โดยมองเพียงมุมเดียว คือ
มุมที่มองแล้ว ตนเองได้เปรียบ หากคนเรานั้นมองอะไรก็ตามทั้งสองด้าน

ก็จะพบ ว่า
คนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกันนั้น เป็นความแตกต่างที่เราควรจะ ยอมรับ
และนอกจากนั้นแล้ว ยังไม่ได้พิจารณาให้ถ่องแท้ว่าจริงๆ แล้ว
ผู้อื่นนั้นมีอะไรดีกว่าตัวเราเองหลายอย่าง

ดังนั้น หากเราลองทำใจเป็นกลาง จะพบว่า นิ้วมือของเราเองนั้นทั้ง 5 นิ้ว
ก็ยัง สั้นยาวไม่เท่ากัน ประโยชน์ใช้สอยก็ต่างกัน
แต่เราก็พยายามดูแลนิ้วทั้ง ห้านี้ อย่างเท่าเทียมกัน
แต่เมื่อเรานำไปเปรียบเทียบกับนิ้วเท้า เราก็จะพบอีกว่ามี 5 นิ้ว
เหมือน กัน ประโยชน์ก็มีแตกต่างกัน

รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว

วันที่: 2010-09-17 00:00:00 ถึง: 2010-09-28 00:00:00

โรงพยาบาลสามโคก จังหวัดปทุมธานี
รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว
ตำแหน่ง ผู้ช่วยเหลือคนไข้
คุณสมบัติ
1. เพศหญิง อายุ 18 - 32 ปี
2. ได้ัีรับประกาศนียบัตรหลักสูตรผู้ช่วยเหลือคนไข้
ผู้สนใจยื่นใบสมัคร ด้วยตนเอง ที่ฝ่ายบริหารทั่วไป โรงพยาบาลสามโคก ตั้งแต่วันที่ 17-28 กันยายน 2553 ในวันและเวลาราชการ
โทร 0-2979-8962-3 ต่อ 112

แหล่งที่มา: โรงพยาบาลสามโคก
โทรศัพท์: 0-2979-8962-3 ต่อ 112
E-Mail: ัyamnuka@hotmail.com

การรักษาโรคท้องเสียของแพะ

การรักษาโรคท้องเสียของแพะ ใช้เกลือแกง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 3 ลิตร ผสมกัน คนให้ละลาย ให้แพะกินติดต่อกันนาน 3 วัน อาการจะดีขึ้น

้จาก SMS FarmerINfo - 30 ส.ค.2553 - 14.04 น

วิธีป้องกันนกกาน้ำ หรือ นกน้ำต่างๆ ลงมากินปลาในบ่อปลาที่เลี้ยงไว้

วิธีป้องกันนกกาน้ำ หรือ นกน้ำต่างๆ ลงมากินปลาในบ่อปลาที่เลี้ยงไว้
ให้ นำเส้นเอ็นขึงไขว้ ให้เป็นตารางระยะห่างประมาณ 1 เมตรให้ทั่วบ่อ

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 14 ก.ย.2553- 14.07 น.

เพลงของไอออน เพลงที่ 4



            ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ความบัดซบของชีวืตที่ได้พานพบตลอดหลายปีทั้งที่ไม่ได้ต้องการให้เป็นอย่าง นั้น หลายสิ่งมันยากที่จะลืมเลือน ยากที่จะหนี ยากที่จะถอนตัวออกมา เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง มันผูกมัดรัดเกี่ยว ผูกพันทั้งกายและใจจนยากที่จะปล่อยวาง

            ชีวิตของไอออน น่าจะมีความสุขมากกว่านี้ ก่อนที่ไอออนจะตัดสินใจ เลือกที่จะมาอยู่ในจุดที่เป็นอยู่ ไอออนก็คงคิด และหวังว่า สิ่งที่ตัดสินใจในวันนั้น น่าจะทำให้ชีวิตของไอออน สุข สมหวังดังความฝันที่คิดไว้  แต่ความจริงมันไม่เป็นอย่างที่คิดเลย สิ่งที่อยู่กับไอออนมาตลอด คือ ความเจ็บช้ำและน้ำตา

โหระพา - ช่วยป้องกันไขข้อในคนที่ขาดแคลเซี่ยมได้

โหระพา - ช่วยป้องกันไขข้อในคนที่ขาดแคลเซี่ยมได้
เพราะมีสารยูจีนอล ซึ่งเป็นตัวยารักษาอาการอักเสบ และลดอาการปวดตามไขข้อต่างๆได้ดีมาก

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 19 ก.ย.2553- 12.08 น.

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

“งานประเพณีไหลเรือไฟ ตำบลเต่างอย” : 22-23 ก.ย. 53 ณ จ.สกลนคร

“งานประเพณีไหลเรือไฟ ตำบลเต่างอย” : 22-23 ก.ย. 53 ณ สวนสุขภาพเทศบาล ต.เต่างอย จ.สกลนคร ภายในงานมีขบวนเรือไฟจากชาวคุ้มต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยวัสดุธรรมชาติ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน วิถีชีวิตของคนในชุมชนต่างๆ สอบถามที่ ททท.สำนักงานนครพนม โทร.0-4251-3490-1

เป็นนายของตัวเอง อย่าเป็นทาสของความคิด

อย่าไปหลงในความคิดต่างๆ
ความคิดที่เต็มไปด้วยตัณหา อุปาทาน
อย่าเป็นทาสของความคิดของตัวเอง
ถ้าใจไม่สงบ คิดไปตามอำเภอใจตลอด
เราก็เป็นทาสของความคิด

เมื่อทำใจสงบ เมื่อคิดถูกได้ เราก็เป็นนายของตัวเองได้
ถ้าเป็นทาส..... ทาสก็ต้องทุกข์..... เป็นธรรมดา
ถ้าเราเป็นนายของตัวเอง มีศีล และมีจิตสงบเป็นปกติแล้ว
เราก็สามารถใช้ความคิดมาสร้างประโยชน์ได้ต่อไป

จิตของเราสามารถสร้างประโยชน์ได้
การปฏิบัติ เจริญสมถะ วิปัสสนา ของเราก็ก้าวหน้า
ถ้าเราต้องการความสุข ต้องการให้เกิดประโยชน์ในชีวิต
ก็ต้องปฏิบัติเช่นนั้นจน จิตสงบ
สงบเป็นธรรมดานี่แหละ

รักษาศีล ข้อ 1 แล้วได้อะไร?

เรียบเรียงโดย : พระอธิการถวิล จนฺทสโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย


เรื่องของศีลข้อที่ 1 คือเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้น จากการเบียดเบียนชีวิตซึ่งกันและกัน เนื่องจากชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคนรัก ทุกคนหวงแหน แม้สัตว์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน รักชีวิต หวงชีวิต กลัวชีวิต จะต้องตายทุก ๆ ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลาย ต่างดิ้นรน ต่อสู้ทุกวิถีทาง เพื่อให้ชีวิตของตนอยู่รอด แคล้วคลาด ปลอดภัย อยู่ดีมีความสุข พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติศีลข้อที่ 1 ด้วยเห็นว่าสัตว์ทั้งหลายรักชีวิตของตนเป็นอันดับ 1

ศีลข้อที่ 1 ปาณาติปาตาเวรมณี

เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ...ถ้าไม่เว้นย่อมยังสัตว์ให้ไปเกิดในนรก ในสัตว์เดรัจฉานในเปรตวิสัย... และเมื่อเกิดเป็นมนุษย์อีกจะได้รับผล 9 ประการ คือ

1. เป็นคนทุพพลภาพ
2. เป็นคนรูปไม่งาม
3. มีกำลังกายอ่อนแอ
4. เป็นคนเฉื่อยชา
5. เป็นคนขี้ขลาด
6. เป็นคนผู้อื่นฆ่า, และฆ่าตัวเอง
7. โรคภัยเบียดเบียน
8. ความพินาศของบริวาร
9. อายุสั้น และให้ผลติดต่อกันหลายชาติ

รักษาศีลข้อที่ 1 แล้วได้อะไร?

1. ได้รับผลปฏิสนธิกาล คือ ได้เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา เรียกว่า กามสุคติภูมิ
2. ได้รับผลในปวัตติกาล คือ หลังจากเกิดแล้ว เช่น หลังจากเกิดเป็นมนุษย์แล้วได้รับผลอีก 23 ประการ

อานิสงส์แห่งการรักษาศีลข้อที่ 1 มี 23 ประการ

1. สมบูรณ์ด้วยอวัยวะน้อยใหญ่
2. มีร่างกายสมทรง
3. สมบูรณ์ด้วยกำลังกาย
4. มีเท้างามประดิษฐานลงด้วยดี
5. เป็นผู้มีผิวพรรณสดใส
6. มีรูปโฉมงามสะอาด
7. เป็นผู้อ่อนโยน
8. เป็นผู้มีความสุข
9. เป็นผู้แกล้วกล้า
10. เป็นผู้มีกำลังมาก
11. มีถ้อยคำสละสลวยเพราะพริ้ง
12. มีบริษัทรักใคร่ไม่แตกแยกจากตน
13. เป็นคนไม่สะดุ้งตกใจกลัวต่อภัยเวร
14. ข้าศึกศัตรูทำร้ายไม่ได้
15. ไม่ตายด้วยความเพียรฆ่าของผู้อื่น
16. มีบริวารที่หาที่สุดมิได้
17. มีรูปร่างสวยงาม
18. มีทรวดทรงสมส่วน
19. มีความเจ็บไข้น้อย
20. ไม่มีเรื่องเสียใจเศร้าโศก
21. เป็นที่รักของชาวโลก
22. ไม่พลัดพรากจากสิ่งที่รักและชอบใจ
23. มีอายุยืน

การสำรวจข้อมูลบุคลากร และการใช้งานอินเทอร์เน็ตของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

วันที่: 2010-09-16 00:00:00 ถึง: 2011-09-23 00:00:00

ตามที่ กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการตอบสนองนโยบายยกระดับสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั้งหมด 9,770 แห่งทั่วประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2553 ได้จัดส่งแนวนโยบายและแนวทางปฏิบัติการพัฒนาสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลส่ง เสริมสุขภาพตำบล ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทราบและดำเนินการ พร้อมทั้งสนับสนุนจังหวัดในการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล
เพื่อให้การพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สัมฤทธิ์ผลตามคุณลักษณะทั้งด้านกายภาพและรูปแบบบริการ ตามแนวนโยบายและแนวทางปฏิบัติ ได้แก่ ภาพลักษณ์ บุคลากรพร้อม ระบบสื่อสาร และมีการตั้งคณะกรรมการพัฒนา รพ.สต. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักประสานการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จึงขอส่งแบบสำรวจบุคลากร และการใช้งานอินเทอร์เน็ตของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนสนับสนุนในปีงบประมาณ 2554 ต่อไป
ราย ละเอียดดังนี้
1) หนังสือนำส่ง ที่ สธ 0219 / ว 102
2) คำชี้แจง
3) แบบฟอร์มการกรอกข้อมูล

แหล่งที่มา: สำนักประสานการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

สธ. นราธิวาส รณรงค์สร้างกระแสให้ประชาชนหันมาดูแลหัวใจ เนื่องในวันหัวใจโลก

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by สำนัก สารนิเทศ
สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนราธิวาส จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสให้ประชาชนหันมาดูแลหัวใจ เนื่องในวันหัวใจโลก ภายใต้คำขวัญ “รักษ์หัวใจในที่ทำงาน” นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณนภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดได้คร่าชีวิตประชากรโลกจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งการเกิดโรคดังกล่าวมีปัจจัย 1 หรือร่วมกันมากกว่า 1 ปัจจัย ได้แก่ พันธุกรรม เพศ อายุ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วนหรือไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการรับประทานอาหารรสหวาน มัน เค็ม รับประทานผักผลไม้น้อย ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ซึ่งองค์การอนามัยโลกร่วมกับสหพันธ์หัวใจโลกกำหนดให้วันอาทิตย์สัปดาห์สุด ท้ายของเดือนกันยายนของทุกปีเป็นวันหัวใจโลก ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 26 กันยายน 2553 โดยการรณรงค์ในปีนี้เน้นประเด็น “รักษ์หัวใจในที่ทำงาน” เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพระยะยาวเพื่อ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในสถานที่ทำงาน โดยเน้นการมีสุขภาพที่ดีในการทำงานและดูแลสุขภาพหัวใจด้วยตนเอง ซึ่งประชาชนสามารถทำได้โดยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม และได้สัดส่วน, ดำเนินชีวิตที่กระฉับกระเฉงและออกกำลังกาย, ไม่สูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่, ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม, รู้ค่าความเสี่ยงของสุขภาพตนเอง, ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, สนับสนุนให้สถานที่ทำงานปลอดบุหรี่, เลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ, จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม เป็นต้น

น้ำมะพร้าวหอม เทคนิคการคัดเลือก

น้ำมะพร้าวหอม เทคนิคการคัดเลือก ลูกที่จะนำไปเพาะแล้วโตดี และให้ผลดก สังเกตที่ลูกมะพร้าวจะต้องมีตูดแหลม ลูกเล็กหัวหนีบกัน

้จาก SMS FarmerINfo - 30 ส.ค.2553 - 13.36 น.

อาหารเป็ดสุขภาพดี โตเร็วและอุจจาระไม่เหม็น

อาหารเป็ดสุขภาพดี โตเร็วและอุจจาระไม่เหม็น
หยวกกล้วยปลายข้าวต้มสุก รำละเอียด, เศษอาหาร, EM, น้ำ อย่างละ 1 ส่วนผสมให้เข้ากัน ใช้เลี้ยงเป็ด

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 15 ก.ย.2553 - 14.04 น.

อ้อมกอดของคนตัวดำ ความผูกพันของน้องไอออนกับพี่ใบบอน




            "กล้าให้กอดเหรอ เค้าดำนะ"
            ผิวดำคล้ำ สำหรับผู้หญิงในปีนี้ ดูเป็นสิ่งที่ไม่น่าพิศมัยมากนัก มองดูไม่ดี ไม่เหมือนกับผู้หญิงผิวขาว ใส่ชุดไหนก็ดูดีไปหมด แต่งตัวได้หลายแบบหลายแนว เห็นในทีวี ผู้หญิงที่ดูน่ารัก ดูสวย ต่างคนต่างขาว สะดุดตาสะดุดใจกันทั้งนั้น

วิธีไล่แมลงสาบ

วิธีไล่แมลงสาบ
ใช้ผงฟูผสมกับน้ำตาลทราบอย่างละเท่าๆกัน
โรยบริเวณ ที่แมลงสาบมารบกวน จะช่วยไล่เจ้าตัวเหม็นไปได้ครับ

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 18 ก.ย.2553 - 14.15น.

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

เชิญผู้ที่สนใจเข้าอบรมโภชนาการบำบัด ฟรี

วันที่: 2010-09-09 00:00:00 ถึง: 2010-09-25 00:00:00

Perfect Health Centre
ศูนย์สุขภาพ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้เปิด หลักสูตรให้แก่ประชาชนทั่วไป
ได้รับความรู้เรื่อง "โภชนาการพื้นฐาน" เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้และทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ทางศูนย์ฯ จึงทำการเปิดการอบรมหลักสูตร "โภชนาการบำบัดเพื่อการดูแลสุขภาพ"
บุคคลที่สามารถเข้าอบรมได้ มี 3 กลุ่ม คือ
1. ผู้ต้องการนำความรู้ไปดูแลตัวเอง (ผู้ป่วยหรือญาติ)
2. ผู้ที่ต้องการทำงานแบบ Part time (ไม่จำกัดวุฒิ)
3. ผู้ที่ต้องการร่วมโครงการขยายสาขา ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ (ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ)
คุณสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งก่อนที่นั่งจะเต็ม

ติดต่อ คุณธัชพล 084-652-7771
ด่วนที่นั่งมีจำนวนจำกัด

แหล่งที่มา: ธัชพล
โทรศัพท์: 0846527771
E-Mail: iperfecthealth@gmail.com
Url: https://spreadsheets.google.com/viewform?formkey=dDNXUVl0Q0ZoWFFmUER3LXVFMTREY0E6MQ

มาบอกบุญค่ะ...ขอเชิญร่วมสนับสนุนการเผยแพร่พระธรรมกับ โครงการขยายกำลังส่งคลื่นวิทยุ สถานีวิทยุวัดเทียบศิลาราม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

ก่อนหน้านี้ ทางคณะฯได้ร่วมบุญกันสร้างพระไตรปิฎกพร้อมตู้ไปถวายยังวัดที่ขาดแคลนในภาคอีสานช่วงปลายปี2552 - ต้นปี 2553 และวัดเทียบศิลารามก็เป็นหนึ่งในวัดที่เราได้เดินทางไปค่ะ ได้รับการบอกบุญจากพระอาจารย์สุพิน(เจ้าอาวาสวัดเทียบศิลาราม)จึงขออนุญาตมาบอกบุญต่ออีกทีหนึ่งค่ะ หรือท่านใดสะดวกที่จะโอนเงินผ่านเข้าบัญชีของวัดโดยตรงก็ได้ค่ะ แต่เพื่อให้ง่ายในการรวบรวมจำนวนเงินจึงได้จัดทำโครงการขึ้นมาโดยมีทางคณะฯ เราเป็นผู้ประสานงานให้ค่ะ หากสหายธรรมมีข้อสงสัยประการใดหรืออยากแจ้งความจำนงค์เพื่อเข้าร่วมโครงการก็แจ้งได้ตามผู้ประสานงานในรายละเอียดด้านเลยล่างค่ะ

โครงการขยายกำลังส่งคลื่นวิทยุ สถานีวิทยุวัดเทียบศิลาราม

เจ้าของโครงการ: นายพงศ์เทพ เวศย์วรุตม์

ชื่อโครงการ: โครงการขยายกำลังส่งคลื่นวิทยุ สถานีวิทยุวัดเทียบศิลาราม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

วัตถุประสงค์: เพื่อขยายกำลังส่งคลื่นวิทยุ สถานีวิทยุวัดเทียบศิลาราม จาก 500 วัตต์ มาเป็น 1,000 วัตต์

ชื่อ-นามสกุลของผู้ดูแลและรับผิดชอบโครงการ: พงศ์เทพ เวศย์วรุตม์

รายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโครงการ: นายชวัฒน์ ถิรนุทธิ

ระบุชื่อและตำแหน่งในโครงการฯ:
1. นายพงศ์เทพ เวศย์วรุตม์ หัวหน้าโครงการและฝ่ายจัดหาเงินบริจาค
2. นายชวัฒน์ ถิรนุทธิ รับผิดชอบประสานงานกับทางวัดฯ

รายละเอียดสถานีวิทยุวัดเทียบศิลาราม
ที่ตั้งสถานีวิทยุ: วัดเทียบศิลาราม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
ประธานสงฆ์: ท่านพระอาจารย์สุพิน อตฺตสนฺโต
ความถี่คลื่นวิทยุ: FM 103.75 MHz
วันและเวลาออกอากาศ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:00 - 23:00 น.
จำนวนผู้ฟังวิทยุของทางวัดฯ: ชมรมวิทยุชุมชน จ.ศรีสะเกษ ได้ทำการสำรวจมาพบว่า 70% ของประชากรทั้งจังหวัดศรีสะเกษ ฟังวิทยุธรรมะของวัดเทียบศิลาราม

รายละเอียดโครงการฯ: เป็นการขยายกำลังส่งคลื่นวิทยุจาก 500 วัตต์ เป็น 1,000 วัตต์ ทำให้ประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงสามารถรับคลื่นได้ ได้แก่ ศรีสะเกษ อุบลฯ สุรินทร์ (ของเดิม 500 วัตต์ ส่งได้ไกลภายจังหวัดศรีสะเกษเท่านั้น)

ค่าใช้จ่ายโครงการ: ทั้งหมด 140,000 บาท แต่เนื่องจากได้มีญาติโยมนำปัจจัยไปถวายพระอาจารย์สุพินแล้วเป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท ยังคงขาดปัจจัยจำนวน 100,000 บาท (ที่ยังค้างชำระร้านค้าที่ทางวัดได้จัดซื้ออุปกรณ์ขยายกำลังส่งคลื่นวิทยุ) หากรวบรวมปัจจัยได้ไม่ถึง 100,000 บาท ก็จะนำปัจจัยไปถวายวัดเท่าที่สามารถรวบรวมได้ แต่หากรวบรวมปัจจัยได้เกิน 100,000 บาท ปัจจัยส่วนที่เกินจะนำถวายวัดเพื่อเป็นค่าไฟฟ้า (ปัจจุบัน ทางวัดจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละ 3,000 บาท) โดยปิดยอดรับบริจาคในวันที่ 31 ตุลาคม 2553
เมื่อนำปัจจัยที่รวบรวมได้ถวายให้ทางวัดเรียบร้อยแล้ว จะนำใบอนุโมทนาบัตรมาแสกน และส่งเมลล์ไปให้ผู้ร่วมโครงการฯ ทุกคน เพื่อรับทราบต่อไป

ผลประโยชน์ที่ได้รับจากสถานีวิทยุวัดฯ:
1. เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้ฟังธรรมได้สะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางมาวัดฯ
2. มีประชาชนมาปฏิบัติธรรมที่วัดฯ มากขึ้น โดยได้รับข้อมูลทางวัดผ่านทางวิทยุ
3. และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายในการเผยแพร่หลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: พงศ์เทพ เวศย์วรุตม์ 081-7055466 หรือที่ pongthep_v@hotmail.com

รายละเอียดโครงการฯ จากเวปของวัดฯ: http://www.wattiabsilaram.net/upload/showthread.php?p=3975&posted=1#post3975

หมายเหตุ: โครงการข้างต้น ทางวัดฯ ได้ดำเนินการติดตั้งระบบส่งคลื่นวิทยุมาเป็น 1,000 วัตต์ เรียบร้อยแล้ว จากการประมาณไว้ก่อนเริ่มทำอยู่ที่ 70,000 บาท แต่เมื่อติดตั้งจริง จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ใหม่ทั้งหมด จึงทำให้มีรายจ่ายเพิ่มจากการประมาณการข้างต้นอีก 70,000 บาท รวมเป็น 140,000 บาท

วิธีทำความสะอาดอ่างล้างหน้า

อ่างล้างหน้าที่ทำจากเซรามิคเมื่อใช้ไปนานๆ จะเกิดคราบสกปรกดูไม่น่าใช้ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีการทำความสะอาดอ่างล้างหน้ามาบอก

เริ่มจาก นำผ้าสะอาดชุบน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ถูให้ทั่วบริเวณพื้นผิวของอ่าง แล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ จากนั้นค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด แต่ถ้าอ่างมีคราบหินปูนหรือคราบสนิมเกาะ ให้ใช้แอมโมเนียผสมกับน้ำมะนาว ถูบริเวณคราบดังกล่าว ไม่นานคราบหินปูนและสนิมก็จะหลุดออก

เพียงเท่านี้ อ่างล่างหน้าก็จะสะอาดน่าใช้ดังเดิม.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

กาลามสูตร

คราวหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงเดินผ่านมาทางหมู่บ้านที่เรียกว่า กาลามชน หรือหมู่บ้านกาลามะ หมู่บ้านนี้มักจะมีคนเดินผ่านมา ศาสดาต่าง ๆ มาสอนกันจนบ้านมึนหัวไม่รู้จะเชื่อใครถูก จนกระทั่งพระพุทธองค์ได้มาพูดถึงหลักของความเชื่อ 10 ประการ ที่เรียกกันว่า กาลามสูตร คือ พระองค์ตรัสว่า..อย่าได้เชื่อถือถ้อยคำที่ได้ยิน ได้ฟัง โดยฟังตาม ๆ กันมา

ข้อที่สอง ข้อที่สาม อย่าได้เชื่อถือโดยตื่นข่าว ได้ยินขึ้นว่าอย่างนั้นอย่างนี้

ข้อที่สี่ อย่าได้เชื่อถือโดยอ้างเอาตำรา เขาอ้างว่ามีอยู่ในตำรา ก็เชื่อไป

ข้อที่ห้า อย่าเชื่อถือโดยเดาเอาเอง คาดคะเนเดาเอา

ข้อที่หก คือคาดคะเนและเดาเอา

ข้อที่เจ็ด อย่าได้เชื่อถือโดยความตรึกตามอาการ ว่าอาการมันอย่างนี้ มันน่าจะเป็นอย่างนี้

ข้อที่แปด อย่าได้เชื่อถือโดยชอบใจว่ามันตรงกับทิฏฐิของเรา

ข้อที่เก้า อย่าได้เชื่อถือโดยผู้พูดนั้นเป็นผู้ควรที่จะเชื่อได้

ข้อที่สิบ อย่าได้เชื่อถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา

แล้วจะเชื่อถืออย่างไร ก็เรียกว่ามีหลักอยู่ว่า เชื่อถือไปแล้วกุศลธรรมเกิด ทำไปแล้ว เชื่อไปแล้วนี้ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เรียกว่าไม่ต้องเชื่อทั้งตามตำรา หรือใครที่มาพูด แต่ไม่ใช่ไม่ฟังนะ ไม่เชื่อกับไม่ฟังนี่คนละอย่าง บางคนนี่ แหม มันทั้งไม่เชื่อ ไม่ฟัง นี่ก็ไม่ได้เรื่องเหมือนกัน ท่านบอกให้ฟังแต่ว่าอย่าเพิ่งเชื่อโดยอาการอย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว คือ เชื่อเพราะเขาพูด ๆ กันมา ได้ยินเขาว่า เดาเอา คาดคะเนเอา ว่าสมณะผู้นี้เป็นครู เป็นอะไรของเรา อย่างนี้เป็นต้น ก็อย่าเพิ่งเชื่อ หมายความว่าฟังไว้ก่อน แล้วถ้าใคร่ครวญดูแล้วกุศลธรรมเกิด ทำดูแล้วกุศลธรรมเกิด ค่อยเชื่อทีหลัง

เพชรบุรี เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการมหกรรมสุขภาพชุมชนเขต4-5

from MOPH-ข่าวภูมิภาค by เกษม จันทศร

นางณัฏฐญา พัฒนะวานิชนันท์ ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการสาธาณณสุขเขต 5 เป็น ประธานพิธีการประชุมวิชาการมหกรรมสุขภาพชุมชน เขต 4-5และเปิดนิทรรศการ นวัตกรรมบริการสุขภาพชุมชน โดยมีนายแพทย์วัฒนา โรจนวิจิตรกุล และ คณะผู้บริหารของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีให้การต้อนรับ ณ โรงแรมลองบีชชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี (14-15 กันยา ยาน 2553) ผลการประกวดนำเสนอนวัตกรรม มหกรรมสุขภาพชุมชน เขต 4-5 ดังนี้
รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “วันของอินซูลิน” โรงพยาบาลบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 4,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “ศูนย์การเรียนรู้สุขภาพแม่และเด็ก” สอ.ดอน นาลุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี
รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “ห่วงข้าวกล้องเพิ่มน้ำนมมารดาหลังคลอด” รพ.สมเด็จ พระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรสงคราม
รางวัลชมเชย เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “บิณฑบาต สุขภาพ” สอ.บ้านหนองชะโด อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
รางวัลชมเชย เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “จักรยานสร้าง สุขภาพ” สอ.บ้านสามยอด อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
รางวัลชมเชย เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “เรื่องเล่า ข่าวสุขภาพ” สอ.ตำบลไร่ขิง อ.สามพราณ จ.นครปฐม
รางวัลชมเชย เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “Donjuang Modal รูปแบบการดูแลสุขภาพชุมชน” สอ.บ้านดอนจวง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์
รางวัลชมเชย เงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ชื่อผลงาน “ศูนย์สาธารณ สุขมูลฐานชุมชนยุคใหม่ไร้พรมแดน” รพ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

.............................................................................................................................................................

ผลการ ประกวดนิทรรศการ นวัตกรรมมหกรรมสุขภาพชุมชน เขต 4-5 ได้แก่
รางวัลที่ 1 สอ.ดอนนาลุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี
รางวัลที่ 2 โรงพยาบาลบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
รางวัลที่ 3 สอ.บ้านหนองชะโด อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
พร้อมรางวัลชมเชยอีก 5 รางวัล

.............................................................................................................................................................

สำหรับการนำเสนอเรื่องเล่าดี ดี จากคนทำงานปฐมภูมิ มีดังนี้

-เมื่อฟ้าที่มืดมิด กลับมาสว่างอีกครั้ง โดยคุณไฉน ศรีเจริญ รพ.สต.บ้านป่าถล่ม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

-ศูนย์สามวัย สานสายใยรักในครอบครัว โดยคุณสมศรี นวรัตน์ รพ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

-ภาพชีวิต โดยคุณสมหมาย ธรรมลังกา รพ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

-สวมหมวกขาวเพื่อมวลชน โดยคุณสายใจ มลคลสมัย สถานีอนามัยท่าทุ่งนา อ.เมือง กาญจนบุรี

-การสร้างความเข้มแข็งใน ชุมชน ตามโครงการหมู่บ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด

ธรรมดากับสามัญนอกจอ facebook ของไอออนกับใบบอน - รสชาติกับข้าวหนึ่งมื้อ



            ช่องทางสื่อสารออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็วอย่าง facebook ไม่มีใครปฏิเสธว่า สิ่งนี้มันเชื่อมโยงคนทั่วโลกได้อย่างไร แม้จะอยู่ไกลแสนไกลเพียงใด แต่ทำให้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น หลายคนมักจะแสดงความรู้สึก และทำหลายสิ่งหลายอย่างผ่าน facebook และบอกว่าแค่สื่อสารกันทาง facebook ก็เพียงพอแล้ว

            แต่ในความธรรมดากับสามัญ มีหลายสิ่งที่ facebook ทำไม่ได้ และไม่สามารถสัมผัส ไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกได้เหมือนในโลกของความเป็นจริง แม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างเช่น การกินข้าว ของ น้องไอออนกับพี่ใบบอน ที่เครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย ไม่สามารถเข้าถึงความธรรมดา สามัญที่เข้าถึงส่วนลึกของหัวใจกันได้

กำจัดแมลงวัน

กำจัดแมลงวัน ใช้พริกแห้งสัก 5-6 เม็ด เสียบไว้ในภาชนะที่แมลงวันชุกชุม ไอร้อนของพริกจะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้าใกล้เลย



้จาก SMS FarmerINfo 29 ส.ค.2553- 15.39 น.

ความสุขของชาวบ้านเป็นงานในหน้าที่ของรัฐ กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยทับทัน อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ

เรียบเรียงโดย นพรัตน์ จิตรครบุรี


            มีการคมนาคมที่สะดวกสบาย และความเจริญของประเทศ แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยชาวบ้านห้วยทับทันยังต้องเดินทาง ไปใช้บริการที่โรงพยาบาลห้วยทับทัน เพราะในตำบลไม่มีกระทั่งสถานีอนามัย

            นายเรืองเดช หาญสุทธิชัย นายก อบต. ห้วยทับทัน บุคคลที่ชาวห้วยทับทันให้ความเคารพ ศรัทธาและนับถือ ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับกองทุนฯ ว่า ความสุขของชาวบ้านเป็นงานในหน้าที่ของรัฐ ซึ่งต้องประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพและองค์การ บริหารส่วนท้องถิ่นที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่ อบต.ไม่มีกรอบตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข
            ฉะนั้น กองทุนหลักประกันสุขภาพที่ได้รับการสนับสนุนจาก สปสช. จึงเป็นการกระตุ้นให้มีการดำเนินการด้านสุขภาพเร็วขึ้นมากขึ้น สามารถดึงชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบการสร้างเสริมสุขภาพ ของตนเอง ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านมีสุขภาพดียิ่งๆขึ้นไป

            กองทุนฯ ของ อบต.ห้วยทับทัน เริ่มด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ โดยเน้นการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วน ประกอบด้วย นายก อบต. ปลัด อบต. นักวิชาการสาธารณสุข สมาชิก อบต. อสม. และตัวแทนหมู่บ้านทุกหมู่บ้านในตำบล
            ภาระหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนฯ คือ การเตรียมตัวของตัวเองให้พร้อม โดยการทำความเข้าใจกันก่อนในทีม และได้ร่วมกันวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบขั้นตอนดังนี้
           
            ก่อนเริ่มโครงการหรือทำกิจกรรมใดๆ ทีมงานจะต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รู้ได้ทราบเพื่อทำความเข้าใจกับคนในชุมชน ผ่านการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ การบอกข่าวผ่านหอกระจายข่าวผ่านทางผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และกรรมการกองทุนฯ ทำหนังสือเชิญ (จดหมายข่าว) ทำป้ายประชาสัมพันธ์
            และการทำประชาคม โดยคณะกรรมการทุกคนต้องเข้าร่วม ร่วมตอบคำถามและให้ข้อมูล เปิดโอกาสให้ชาวบ้านซักถามประเด็นต่างๆ เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพ คืออะไร ทำไมต้องมีกองทุน กลุ่มเป้าหมายคือใคร ใช้อย่างไร เป็นต้น
           
            หลังจากนั้น ตัวแทนคณะกรรมการกองทุนประจำหมู่บ้าน ได้แก่ อสม. สอบต. ผู้แทนหมู่บ้าน จะประสานงานผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน เพื่อจัดทำแผนสุขภาพชุมชนด้วยการทำประชาคมในแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม สะท้อนภาพปัญหาสุขภาพที่พบในชุมชนแล้วเสนอความต้องการมายังคณะกรรมการกองทุนสุขภาพระดับตำบล เพื่อเขียนและจัดทำโครงการสร้างเสริมสุขภาพ ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มอายุ

            ด้านงบประมาณดำเนินการสนับสนุน กองทุนสุขภาพตำบลห้วยทับทัน ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักโดย สปสช. โอนเงินสมทบ 37.50 บาท/คน/ปี ประมาณเดือนธันวาคม 2549 ได้รับการจัดสรรจำนวน98,625 บาท ร่วมกับท้องถิ่นโอนเงินสมทบ 10 เปอร์เซ็นต์ของเงิน สปสช. จำนวน 10,000 บาท
            ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา (ปีงบประมาณ 2550) พบว่า โครงการดีเด่นและเห็นเป็นรูปธรรมของ อบต. ห้วยทับทันที่ดำเนินการด้วยเงินกองทุนฯ คือ โครงการดูแลผู้สูงอายุ ได้แก่ โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัยห่างไกลโรค โดยได้ตัดแว่นสายตาให้กับผู้สูงอายุและกระตุ้นให้มาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเกี่ยวกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งผู้ที่ได้รับการบริการมีความพึงพอใจมากประมาณร้อยละ 80 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการ ที่ได้รับการดูแลสุขภาพและได้รับเงินเบี้ยยังชีพ

            ในเรื่องของเกณฑฺ์การวัดว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้น คณะกรรมการจะพิจารณาจากความพอใจของผู้ที่ได้รับการบริการ ชาวบ้านมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และการมีสุขภาพที่ดีและการรับบริการที่เหมาะสมในทุกกลุ่มอายุ

            การขับเคลื่อนที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินโครงการกองทุนฯของ อบต.ห้วยทับทัน จากการเรียนรู้ของทีมงาน การบริหารกองทุนฯ จะประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับ
            ความเข้มแข็งของผู้นำในการตัดสินใจดำเนินการกองทุนฯ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นอันดับต้นๆ ในการพัฒนาชุมชน ทีมงานเข้มแข็ง และทำงานด้วยความเข้าใจ
            คณะกรรมการกองทุนฯ ต้องเป็นผู้เสียสละในการทำงานและมีจิตอาสา เพื่อที่จะพัฒนาชุมชนของตนเองและเพื่อต้องการให้คนในชุมชน มีสุขภาพแข็งแรง
            และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยประชาชน มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นร่วมตัดสินใจ  ร่วมเป็นเจ้าของและได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง
            การสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของประชาชน โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ผู้นำชุมชน โรงพยาบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ทำให้เกิดการบูรณาการงานเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะการสร้างหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นเป็นเรื่องของทุกคน ที่ต้องใส่ใจและดูแล
   
        ข้อมูลพื้นฐานประกอบการเขียนโดย
    ดร.กฤษณา วุฒิสินธ์
    รุ่งอรุณ กระมุทกาญจน์
    นัจรินทร์ เนืองเฉลิม
    กิ่งแก้ว สุระแสน
    นิธิ ปรัสรา
    วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร อุบลราชธานี       


ที่มา ถอดบทเรียน การดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
(กองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต. และเทศบาล) ในพื้นที่ต้นแบบทั่วประเทศ กรณีศึกษา ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง
เลข  ISBN : 978-974-379-047-8
ธันวาคม 2551

ลำไย -ป้องกันค้างคาวกินผล

ลำไย -ป้องกันค้างคาวกินผล
นำลูกเหม็นใส่ถุงพลาสติก ถุงละ 3-4 ลูก ผูกไว้กับกิ่งลำไย ต้นละ 3-4 จุด กลิ่นของลูกเหม็น ทำให้ค้างคาวไม่มารบกวน

จาก SMS FarmerInfo - DTAC - 16 ก.ย.2553 - 13.37 น.

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

การบรรยายธรรมะโดยท่าน ว.วชิรเมธี ท่านได้ให้พร 4 ข้อ ดังนี้

> 1. อย่าเป็นนักจับผิด
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง 'กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก' คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส 'จิตประภัสสร' ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี ' แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข '

> 2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
'แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน'
คน เราต้องมี พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอนความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา' หรือ ซื้อโคมลอยมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล ่อยให้ลอยไป


> 3. อย่่าเสียเวลากับความหลัง
90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น' มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องภาระต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน

' อยู่กับปัจจุบันให้เป็น ' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา


> 4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
'ตัณหา'ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม' ทุกอย่างต้องดู ' คุณค่าที่แท้จริง ' ไม่ใช่ คุณค่าเทียม < /FONT>เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร ? คือไว้ดูเวลาไม่ใช่ใส่เพื่อความโก้หรู คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือคืออะไร ? คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า 'เิกิดมาทำไม' คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน ตามหา ' แก่น ' ของชีวิตให้เจอ คำว่า 'พอดี' คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ 'ดี' รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข'

รับสมัครสอบคัดเลือกบุคลากร ตำแหน่ง นักกายภาพบำบัด (ลูกจ้างชั่วคราว) จำนวน 1 ตำแหน่ง โรงพยาบาลห้วยยอด จ.ตรัง

วันที่: 2010-09-03 00:00:00 ถึง: 2010-09-30 00:00:00

รับสมัครสอบคัดเลือกบุคลากร ตำแหน่ง นักกายภาพบำบัด (ลูกจ้างชั่วคราว) จำนวน 1 ตำแหน่ง

ปฏิบัติงานสังกัด :งานกายภาพบำบัดและเวชกรรมฟื้นฟู โรงพยาบาลห้วยยอด จ.ตรัง

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.huaiyothospital.com/PT

แหล่งที่มา: งานกายภาพบำบัดและเวชกรรมฟื้นฟู โรงพยาบาลห้วยยอด
โทรศัพท์:
E-Mail:
Url: http://www.huaiyothospital.com/PT

เราลืมด้านศาสนาหรือว่าทุกอย่างดีครบถ้วนแล้ว?

โดย ไสว บุญมา
ไสว บุญมา

งานปูฐานการปฏิรูปประเทศดำเนินมาเป็นเวลากว่าสองเดือน นับจากวันที่คณะกรรมการสองคณะได้รับการแต่งตั้งและประธานแถลงร่วมกันว่าการ ปฏิรูปจะครอบคลุม 15 ประเด็น ในกรรมการสองคณะ มีพระภิกษุรวมอยู่หนึ่งรูป ท่านคงเป็นกรรมการในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านใดด้านหนึ่งซึ่งมิใช่ในฐานะ ปราชญ์ทางศาสนาเนื่องจากศาสนาไม่รวมอยู่ใน 15 ประเด็น การ ไม่รวมศาสนาเพื่อพิจารณาหาทางปรับเปลี่ยนคงตีความหมายได้ว่า ในสายตาของกรรมการ ความเป็นไปในด้านนี้ดีครบถ้วนอยู่แล้ว ผมเห็นว่านั่นเป็นการมองที่ผิดถนัด แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะนำศาสนาเข้ามารวมโดยเฉพาะพุทธศาสนาเนื่องจากคนไทยราว 95% เป็นชาวพุทธ

ด้านศาสนามีหลายประเด็น เช่น ความไม่กระจ่างของความหมายในพระไตรปิฎกซึ่งดูจะถกเถียงกันจนทำให้งงระหว่าง คณะสงฆ์กระแสหลักและจากสำนักใหม่ในย่านบึงกุ่มและย่านปทุมธานี และความไม่แตกฉานในหลักศาสนาประกอบกับการมีพฤติกรรมจำพวกคบสีกา ปิดประตูดูหนังโป๊กับเสพสุราและยาเสพติดของพระ เนื่องจากหน้ากระดาษมีจำกัด ผมจะพูดถึงเพียงประเด็นทางเศรษฐศาสตร์ซึ่งเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร

ทรัพยากรมีจำกัดเป็นสัจพจน์ การใช้จึงต้องมิให้เกิดความสูญเปล่าโดยเฉพาะในบ้านเมืองเราซึ่งมีทุนรอนค่อน ข้างต่ำ ในปัจจุบัน การสร้างสิ่งต่างๆ นำไปสู่ความสูญเปล่าสูงมากเนื่องจากส่วนใหญ่มิได้ใช้เพื่อการศึกษาและ ปฏิบัติธรรมที่จะนำไปสู่ความเจริญสติอันเป็นแก่นของศาสนา โบสถ์และศาลาขนาดมหึมามีอยู่ทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้สอยเพียงครั้งคราว อาคารเหล่านั้นกลายเป็นบ้านของนกซึ่งมักเป็นพาหะนำโรคร้ายและถ่ายไว้เลอะ เทอะเป็นภาระให้พระต้องเก็บกวาด

นอกจากนั้นยังมีการสร้างซุ้มประตูวัดขนาดใหญ่และพระพุทธรูปมากมาย จากจำพวกที่เก็บไว้ในอาคารซึ่งบางแห่งมีมากจนไม่มีที่เก็บถึงจำพวกขนาดใหญ่ ให้ตากแดดตากฝน บางแห่งสร้างพระโพธิสัตว์และเทวรูปขนาดยักษ์พร้อมกับแสดงอาการไร้สติออกมา โดยคุยโอ้อวดว่าใหญ่ที่สุดในโลก หรือถ้ากราบไหว้จะได้สิ่งที่ปรารถนา

แทนที่จะพยายามแนะนำว่าแก่นของศาสนามิได้อยู่ที่สิ่งเหล่านั้น หากอยู่ที่การศึกษาให้เข้าใจในหลักธรรมแล้วนำไปปฏิบัติเพื่อเจริญสติ พระกลับส่งเสริมให้ทำ หรือเป็นผู้นำในการทำเสียเองเพราะความไม่แตกฉานในหลักของศาสนา หากติดกับดักอยู่แค่พิธีกรรมซึ่งทำสืบต่อกันมาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน เนื่องจากในสมัยนี้โลกไม่มีพรมแดนเหลืออยู่ คนรุ่นใหม่รับรู้ความเป็นไปในโลกอย่างฉับพลันพร้อมกับต้องเผชิญกับภาวะที่ แตกต่างกับครั้งก่อนๆ เมื่อพระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่แตกฉานทั้งในด้านหลักศาสนาและด้านวิวัฒนาการของโลก ยังผลให้ไม่สามารถอธิบายหลักธรรมในบริบทของโลกยุคใหม่ได้ คนรุ่นหลังย่อมไม่ศรัทธาที่จะเข้าวัดเพื่อปฏิบัติธรรม

อย่างไรก็ตาม มีพระจำนวนหนึ่งซึ่งแตกฉานทั้งสองด้านเปิดสอนวิธีที่จะนำไปสู่ความเจริญสติ ในวัดที่มีความเป็นธรรมชาติสูง พระและวัดแนวนี้มักเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ จึงเป็นตัวอย่างที่พระและวัดอื่นอีกนับหมื่นควรทำตาม นั่นอาจหมายความว่าต่อไปเราต้องห้ามใช้บริเวณวัดเพื่อการค้าพร้อมกับนำความ เป็นธรรมชาติให้กลับคืนมาสู่บริเวณวัด

อนึ่ง การจะมีพระที่แตกฉานทั้งในด้านหลักศาสนาและด้านวิวัฒนาการของโลก พระที่มีความประสงค์จะบวชตลอดชีวิตต้องเรียนทั้งสองด้านอย่างจริงจัง และการแต่งตั้งสมภารจะต้องทดสอบความแตกฉานทั้งสองด้านด้วย เป้าหมายคือแต่ละวัดต้องมีปราชญ์ทางวิชาการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนประจำอยู่

การที่วัดต่างๆ สามารถสร้างสิ่งที่กล่าวถึงได้หมายความว่าประชาชนมีทรัพย์สำหรับบริจาคจำนวน มากพอ แต่ส่วนใหญ่ไม่บริจาคให้แก่กิจการสำคัญๆ เช่น การศึกษาเนื่องจากเชื่อว่าการทำบุญต้องทำกับวัดและพระจึงจะได้ไปสวรรค์อัน เป็นการกระทำที่วางอยู่บนฐานของการค้ามากกว่าความเสียสละเพื่อประโยชน์ของ ผู้อื่นหรือของสังคมโดยความบริสุทธิ์ใจ นอกจากนั้นพระส่วนใหญ่ยังไม่สนใจที่จะมีบทบาทตามแนวการร่วมมือกันระหว่าง บ้าน วัดและโรงเรียน (บวร) เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาสังคมอีกด้วย ความเหลื่อมล้ำตามวัดที่มีโรงเรียนอยู่ใกล้ๆ จึงมักปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด นั่นคือ วัดมีสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตโอ่โถง แต่อาคารโรงเรียนกลับอยู่ในสภาพซอมซ่อ

อีกประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะพระที่มีสมณศักดิ์ซึ่งมักมีราย ได้จำนวนมากจากงานพิธีกรรม พระส่วนใหญ่สะสมเงินไว้เนื่องจากมีปัจจัยเบื้องต้นครบถ้วนแล้ว ส่วนหนึ่งจึงเป็นเศรษฐี เนื่องจากทรัพย์สินไม่มีความจำเป็นสำหรับพระ จึงควรจะนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมดังที่บางรูปทำเป็นตัวอย่าง เช่น การสร้างอาคารโรงพยาบาล และอาคารโรงเรียน

สิ่ง ที่พูดถึงนี้จะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้พระและวัดมีบทบาทในการพัฒนาและ แก้ปัญหาสังคมจนเกิดความเหมาะสมกับสภาพของโลกปัจจุบัน ส่วนจะทำอย่างไรนั้นขอฝากให้เป็นภาระของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ

"งานประเพณีวันประจำปีวันรำลึก 100 ปีชาวเกาะสีชัง" : 19-20 ก.ย. 53 ณ จ.ชลบุรี

"งานประเพณีวันประจำปีวันรำลึก 100 ปีชาวเกาะสีชัง" : 19-20 ก.ย. 53 ณ บริเวณพระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ภายในงานชมการแสดงแสง เสียงและสื่อผสมชุด "เกาะสีชังมหัศจรรย์ แผ่นดินแห่งรัก" ร่วมกันถวายสักการะพระปิยมหาราช สอบถามที่เทศบาลตำบลเกาะสีชัง โทร. 0-3821-6201 หรือที่ ททท.สำนักงานพัทยา โทร.0-3842-3990, 0-3842-7667, 0-3842-8750

กุศโลบายสอนธรรม

พระองค์ทรงแสดงธรรมสั่งสอนภิกษุด้วยการใช้อุปกรณ์ภายนอกที่เห็นได้ด้วยตา เช่น ไปเห็นหนูสี่ตัว ตัวหนึ่งขุดรูแต่ไม่อยู่ ตัวหนึ่งอยู่แต่ไม่ขุด ตัวหนึ่งขุดด้วยอยู่ด้วย ตัวหนึ่งไม่ขุดด้วยไม่อยู่ด้วย นี่แสดงอุปมาว่า ภิกษุบางรูปนั้นศึกษาสำนักนั้นสำนักนี้ แต่ว่าไม่ได้ปฏิบัติ เรียกว่าขุดแต่ไม่อยู่ ส่วนผู้ที่ปฏิบัติเอาจริงเอาจัง แต่ไม่ค่อยศึกษาธรรมวินัยให้ทั่วถึงเรียกว่าอยู่โดยไม่ค่อยได้ขุด ส่วนที่ศึกษาด้วยปฏิบัติด้วยอย่างจริงจังตามที่ศึกษานั้นและเผยแพร่ได้ด้วย เป็นประโยชน์ส่วนตน ส่วนรวม ก็เรียกว่าทั้งขุดด้วยทั้งอยู่ด้วย ส่วนที่ไม่ขดไม่อยู่นั้นก็ง่ายที่สุด คือพวกไม่เอาไหนเลย ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมศึกษา ไม่ยอมทดลองปฏิบัติอะไรทั้งสิ้น นี่คือกุศโลบายของพระองค์ที่ทรงสั่งสอนภิกษุให้เข้าใจ

วันเวลาของไอออน กับใบบอน วันเวลาของพี่ชายที่จะได้ดูแลน้องสาว ในห้วงเวลาอันน้อยนิด



            ความรัก ความห่วงใย เป็นสิ่งที่แสดงออกได้หลายรูปแบบ
            หลายคนกลัวว่า ความรัก ความผูกพัน ความใกล้ชิด จะทำให้เกิดความทุกข์ในอนาคต เมื่อผู้เป็นที่รัก จากไป ทั้งการเสียชีวิต จากไปอย่างไม่มีวันกลับ หรือ เหตุการณ์ความขัดแย้ง ความเข้าใจผิด ที่ทำให้ความรู้สึกที่ดีๆ ต้องจบลง กับเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

           
            ความเป็นจริงของชีวิต มีพบ ก็มีพราก มีสุข ก็มีทุกข์ มี เกิด แก่ เจ็บตาย เป็นวัฏจักรของชีวิต ไม่มีใครหนีกฎความจริงนี้พ้นไปได้ ทุกคนก็รู้หลักสัจธรรมนี้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญที่สุด คือ เราใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุดแล้วหรือยัง ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านั้น ก่อนที่จะจากพรากกันไปด้วยเหตุผลต่างๆตามวันเวลาที่ล่วงเลยไปแล้วหรือยัง

ดอกจำปี -การดองให้คงสีเดิมไว้

ดอกจำปี -การดองให้คงสีเดิมไว้ นำน้ำฝน 1 แก้ว ต้มกับสารส้ม ชิมให้มีรสฝาด ทิ้งให้เย็น เทใส่ขวดแก้วสะอาด ที่เรียงดอกจำปีไว้ ปิดฝาให้สนิท

้จาก SMS FarmerINfo - 29 สค.2553 - 13.19 น.

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

อุปมาหม้อสี่ชนิด

ครั้งหนึ่งพระองค์แสดงธรรมกับภิกษุสาวก โดยอุปมาด้วยหม้อ 4 อย่าง คือ หม้อเปล่าปิดฝา หม้อเปล่าไม่ปิดฝา หม้อน้ำเต็มปิดฝา และหม้อน้ำเต็มไม่ปิดฝา ซึ่งอุปมาได้กับภิกษุที่ไม่รู้อริยสัจแล้วก็มีความประพฤติไม่งาม (หม้อเปล่าเปิดฝา) ภิกษุที่รู้อริยสัจจ์แต่ว่ากิริยามารยาทไม่งามเลยนี้เปรียบเสมือนกับหม้อที่ มีน้ำแต่ว่าเปิดฝา ส่วนหม้อที่เปล่าด้วยแล้วก็ไม่ปิดฝาด้วย ก็คือรูปร่างกิริยามารยาทก็ไม่ดี อริยสัจสี่ก็ไม่รู้ สุดท้ายหม้อที่เต็มน้ำด้วยปิดฝาด้วย นี่ก็คือภิกษุที่น่าเคารพเลื่อมใส ภายในจิตใจก็รู้อริยสัจสี่ ทรงอุปมาไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่า ภิกษุที่แม้จะรู้อริยสัจสี่แล้วแต่กิริยาไม่น่าเคารพเลื่อมใสนั้นก็ยังมี อยู่ในส่วนตัวนั้นหมดทุกข์ไป แต่กิริยาภายนอกไม่สร้างศรัทธาให้เกิดแก่ปวงชน

"งานแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานฯ" : 19 - 20 ก.ย. 53 ณ จ.พิษณุโลก

"งานแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานฯ" : 19 - 20 ก.ย. 53 ณ ลำน้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก ภายในงานชมการแข่งขันเรือยาวประเพณีประเภทต่างๆ การตกแต่งเรืออย่างงดงาม ขบวนแห่เรือประเภทต่างๆ การแข่งขันเรือยาวประเพณีประเภทต่างๆ สอบถามที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร.0-5525-2743

ข้าศึกของกุศล

ครั้งหนึ่งมีพวกนักแสดงร่ายรำฟ้อนรำมาทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ข้าพเจ้าทำโลกนี้ให้รื่นเริงตลอดเวลา เมื่อข้าพเจ้าตายไปแล้วนี่จะมีอานิสงส์เป็นอะไรบ้าง? พระพุทธองค์บอกว่าผู้ที่ทำความรื่นเริงให้กับโลกหลงใหล ด้วยการเอาความสนุกชนิดที่เป็นข้าศึกต่อกุศลมามอมเมาปวงชนให้สิ้นสติปัญญา ตายแล้วจะตกเป็นเปรต อสุรกาย เพราะทำให้คนส่วนใหญ่ลุ่มหลง เขาทำมาหากินเหน็ดเหนื่อย ก็ไปหลอกให้เขามาลุ่มหลงเอาเงินทองของเขาไปกินไปใช้อย่างมัวเมา ไม่เคยคิดจะเอามาสร้างสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล พวกนี้ตายแล้วก็เป็นเปรต นี่ขณะยังไม่ตายก็เป็นเปรต เพราะจะไปจัดวงดนตรีฉายหนังที่ไหนก็เก็งกำไร นี่เป็นเปรตตั้งแต่จัดเวที เรียกร้องให้คนมาดูหรือประชาสัมพันธ์แล้ว

ทุกชีวิตมุ่งสู่ความตาย

พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดพระเจ้าปเสนทิโกศล ให้เห็นภัยในการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความว่า…

ความแก่ ความเจ็บ ความตายนั้น เป็นเสมือนภูเขาก้อนใหญ่ หรือหินก้อนใหญ่ที่กลิ้งลงมาจากยอดภูเขา แล้วก็บดทับสัตว์ให้แหลกลาญไปวัน ๆ หนึ่ง ฉะนั้นชีวิตของเรานั้นแหลกไปกับเกิด ไปกับแก่ ไปกับเจ็บ ไปกับตาย ซึ่งก้อนหินนั้นกำลังกลิ้งเข้ามา

ท่านทั้งหลายอย่าได้ประมาท ที่ยังอยู่ตรงนี้เพราะว่าหินก้อนใหญ่มันยังไม่กลิ้งมาข้างหลังเรา ความแก่มันกลิ้งจะทับเราอยู่ทุกวัน ความเจ็บกำลังกลิ้งจะทับเราอยู่ทุกวันและมันก็กลิ้งทับเพื่อน ญาติพี่น้อง สัตว์ต่าง ๆ ตายไปวันละศพสองศพ เรายังไม่ตกใจ จะคิดที่จะวิ่งหนีหรือ คือวิ่งไปหาพระธรรมคำสอนที่สอนให้พ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย พระองค์บอกว่า ใครได้เราเป็นกัลยาณมิตรแล้วจะพ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย
เพราะฉะนั้นจงวิ่งหาพระธรรมคำสอนของพระองค์ เพื่อให้พ้นหินก้อนใหญ่ที่มันจะทับเราให้แหลกลาญ

ททท. ชวนเด็กๆท่องเที่ยวทางรถไฟ

ททท. เปิดตัวทริปเที่ยวทั่วไทยด้วยขบวนรถไฟแห่งความสนุกในโครงการ “น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์” ใน 5 เส้นทางทั่วไทย ระหว่างเดือน ก.ย. - ธ.ค. นี้ ในราคาเริ่มต้นแพ็คเกจทัวร์ที่ 1,599 บาท

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทั่วไทยช่วงวันหยุดไปกับตู้โบกี้รถไฟที่ครบครันด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกใน 5 เส้นทางทั่วไทย สู่ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา กาญจนบุรี ชุมพร และสุโขทัย ด้วยราคาแพ็คเกจทัวร์ 1,599 - 2,999 บาท

โครงการท่องเที่ยวด้วยรถไฟที่ ททท. จัดทำขึ้นในครั้งนี้มีชื่อว่า “น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์” อันเป็นโครงการที่มีปรับปรุงโบกี้รถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐานการให้บริการระดับสากลเพื่อรองรับการจัด แพ็คเกจทัวร์สู่ 5 ภาคของไทย โดยหวังที่จะส่งเสริมให้คนไทยได้ท่องเที่ยวทั่วไทยด้วยรถไฟมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการเดินทางที่ประหยัด ปลอดภัยและได้ชื่นชมกับทัศนียภาพอันงดงามของประเทศไทยตลอดเส้นทาง โดยโครงการนี้จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้

สำหรับการเดินทางด้วยขบวนรถไฟแห่งความสนุกทั้ง 5 เส้นทาง มีเส้นทางดังต่อไปนี้

ภาคตะวันออก: 25 - 26 กันยายน 2553 (2 วัน 1 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - นครนายก -- ปราจีนบุรี - ฉะเชิงเทรา ราคา 1,999 บาท นำเที่ยวเขื่อนขุนด่านปราการชล - ล่องแก่ง- ส่องสัตว์ยามค่ำคืนที่เขาใหญ่ - ชมตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร - และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย

ภาคใต้: 23-25 ตุลาคม 2553 (3 วัน 2 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - ประจวบฯ - ชุมพร ราคา 2,999 บาท พักผ่อนท่ามกลางหาดทรายขาวสะอาดและทะเลใสที่บ้านกรูดพร้อมดื่มด่ำกับ บรรยากาศงดงามของมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศยามค่ำคืน - นมัสการพระพุทธกิติสิริชัยบนยอดเขาธงชัยและสักการะศาลกรมหลวงชุมพร พร้อมชมเวิ้งอ่าวบ้านกรูดสุดปลายแหลมแม่รำพึง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมาก

ภาคอีสาน: 6 - 7 พฤศจิกายน 2553 (2 วัน 1 คืน เส้นทางกรุงเทพฯ - นครราชสีมา (ปากช่อง) ราคา 1,999 บาท เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย - ดื่มด่ำกับอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย - ลิ้มรสผัดหมี่โคราช - และกิจกรรมอื่นๆ

ภาพเหนือ: 20-22 พฤศจิกายน 2553 (3 วัน 2 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - นครสวรรค์ - พิษณุโลก - สุโขทัย ราคา 2,999 บาท ชมสถาปัตยกรรมในยุคสมัยทวารวดี ณ พิพิธภัณฑ์จันเสน - ไหว้พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุและศาลพระนเรศวรที่พระราชวังจันทน์ - และร่วมกิจกรรมลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ

ภาคกลาง: 4 - 5 ธันวาคม 2553 (2 วัน 1 คืน) เส้นทางกรุงเทพฯ - นครปฐม -- กาญจนบุรี
ราคา 1,599 บาท ชิมข้าวหมูแดงรสเลิศพร้อมนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ - ถ่ายภาพแห่งความทรงจำ ณ สะพานข้ามแม่น้ำแควและเส้นทางสายมรณะ - ตั้งแคมป์เชิงหน้าผาริมลำแควน้อย - และร่วมกิจกรรมต่างๆอีกมาก

ทั้งนี้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ “น้องครึกครื้นชวนเที่ยว...ฉึกฉักทัวร์” หรือติดต่อซื้อแพ็คเกจทัวร์ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร.1672 หรือ 0 2250 5500 ต่อ 2105 และ 2115-9 หรือติดต่อที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690 รับจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำกัดเพียง 80 คนต่อทริปเท่านั้น